ขออภัยที่เอ่ยนาม  แต่มู้ดีมาดีมิใช่มาร้าย  จะมาชื่นชมคุณจิ้งจกที่รู้จักแยกแยะ
ระหว่างอุดมการณ์ และเรื่องส่วนตัว (เอ. ... หรือว่าระหว่างเรื่องงาน กับเรื่องส่วนตัวกันแน่นะ ?)

สมัยก่อนตอนผมเข้ามาเล่นห้องราชดำเนินใหม่ ๆ  เห็นการแสดงความเข้มข้นในเรื่องสีเสื้อ
กันอย่างจริงจังมาก  ที่เห็นโดดเด่นอยู่ก้หลายท่าน  แต่ขอยกตัวอย่างมาสักท่านก้คือ
แม่หญิงบ่อสร้าง กางจ้อง ... ที่ประกาศว่าตัวเองเป็นคนเสื้อแดงอยู่ได้ทุกวี่ ทุกวัน  

ทะเลาะกับเสื้อเหลือง/สลิ่ม เมื่อไหร่ เป็นต้องได้บอกว่า ช้านน นนน เป็นเสื้อแดงร้อยปูเซ็ง ไม่มีวันเปลี่ยน
ขอเสียงเพื่อน ๆ เสื้อแดงโหน่ยเจ๊าาาาา ....


แต่อนิจจา กาเล เหมือนเทน้ำ  กาลเวลาผ่านไป  บังเกิดความขัดแย้งในระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยกัน
ด้วยเรื่องราว ส่วนตั๊ว ส่วนตัว  ถึงกับทำให้แม่หญิงและผองเพื่อน  ต้องประกาศตัดขาดจากความเป็นเสื้อแดง

ผมเองเป็นคนที่ยึดถือคติ Look Closer เหมือนอย่างตอนที่ พระเอกนักมายากลในหนังเรื่อง The Prestige
แสดงกลให้เด็กน้อยดู  แล้วบอกให้เด็กน้อยดูให้ใกล้ ๆ ดูให้ดี ๆ

มายากลชุดนี้ของคนเสื้อแดง  จึงเผยให้เห็นความนัยหลายข้อ, ข้อที่จะก่อประโยชน์ให้แก่เพื่อนสมาชิกในการคิดวิเคราะห์
ทำได้โดยการเปรียบเทียบกับสภาพความเป็นไป  ของการเมืองไทยในหลายปีที่ผ่านมา .....

ท่านคิดว่าการเมืองไทยในรอบหลายปีที่ผ่านมา  ผู้จุดชนวนเหตุวิกฤติในครั้งต่าง ๆ กระทำไปโดยแรงขับดัน
แห่งอุดมการณ์  หรือเรื่องราว, ผลประโยชน์ส่วนตัว ?

หากบุคคลเหล่านั้น  แก้ปัญหาของตัวเองโดยมองที่ ต้นสาย-ปลายเหตุ  ให้ตรงจุด  เจรจากันให้ตรงประเด็น
จะเป็นผลดีต่อส่วนรวม มากกว่าการไปอ้างอุดมการณ์ แล้วลากเอาองคาพยพเกือบทุกภาคส่วน เข้ามาสู่วังวนแห่งความขัดแย้งไหม ?

วันนี้ -จากมหภาคสู่จุลภาค  การเมืองใหญ่ลงสู่การเมืองท้องถิ่น  ห้องราชดำเนินก้คงมีสภาพไม่ต่างกัน
ในเมื่อคนกลุ่มหนึ่งที่เคยตราหน้าผู้เห็นต่างว่าเป็นสลิ่ม  ยกเลิกตัวเองจากการเป็นเสื้อแดง ...

เขาจะเป็นได้อีกอะไร ? ... เป็นสลิ่มเหมือนที่เขาเคยยัดเยียดให้คนอื่นเป็น ? .... ไม่ เขาไม่จำเป็น
ต้องเป็นอะไรที่คนอื่นยัดเยียดให้

เขาเพียงเป็นในแบบที่เขาอยากเป็น   จะไม่มีใครไปยัดเยียดให้เขาเป็นสลิ่ม เพียงเพราะ
เขาไม่เป็นเสื้อแดง แน่นอน

ส่วนผม และอาจจะรวมถึงคนอื่น ๆ  ที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกับพวกเขา  ก้ไม่ได้สนใจเช่นกัน
ว่าจะมีใครให้เราเป็นอะไร  เราก้เพียงแต่พูดคุย/ถกเถียงกัน ในประเด็นต่าง ๆ อย่างสามัญชนทั่วไป
ที่ไม่รู้จักกันจะพึงคุยกัน ....

ส่วนใครจะแสดงความ กักขฬะ, หยาบคาบ ถึงขั้นล่วงเกินบรรพบุรุษผู้อื่น  ก้สุดแท้แต่มโนสำนึกของเขา
จะพาไป  คงไม่มีใครไปห้ามเขาได้    แม้นเพียงแค่ว่าคำขอโทษ เขาจะไม่กล่าว
ก้เป็นสิทธิตามจิตของเขา

เพียงแต่ว่า  เมื่อใช้สิทธิของตัวเองแล้ว ก็จำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบต่อผลจากการใช้สิทธิของตัวเอง .....

..

เอวัง โหนตุ ดีละ อัชชะ ในวันนี้ก็เป็นวันดี  

ขอกล่าวสวัสดีปีใหม่ และขอให้เพื่อนๆ ทุกท่านมีความสุขตลอดปี 2561 นี้ครับ .