เนื่องจากผมเป็นคนวัยทำงานยังไม่มีครอบครัว และไม่ค่อยมีภาระทางบ้านเพราะว่าคุณพ่อและแม่มีรายได้ดีกว่าผม
(ท่านแจ้งความจำนงค์ว่า ไม่ให้เงินแม่ไม่เป็นไร แต่อย่ามาขอเงินเป็นใช้ได้)
โดยบ้านที่ตจว.ผมเป็นคนทำเรื่องรีไฟแนนซ์จากที่แม่กู้มาผ่อนต่อ(ที่ทำงานมีดอกเบี้ยสวัสดิการ)ค่าผ่อนแบ่งเป็นผมผ่อน 75% ของแม่ 25% ต่องวด
อยู่กทมเช่าหออยู่ ค่าผ่อนรถยนต์และมอไซต์หมดแล้ว ค่าบัตรเครดิตมีบ้างแล้วแต่เดือน ค่าเดินทางไปทำงานเติมน้ำมันอาทิตย์ละ100 (มอไซค์)
รถยนต์ใช้เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ โดยคชจ.ส่วนตัวเดือนนึงพยายามให้อยู่ที่ 1-1.5 หมื่นต่อเดือน
แต่ใช้จริงเกินประจำ เพราะศุกร์เสาร์ ก็จะมีสังสรรเที่ยวกลางคืนหรือก็ไปนั่งดื่มบ้านพื่อน เที่ยวตจวบ้าง
เป็นคนเที่ยวดูบอลตามร้านแต่ไม่เล่นพนันบอลแอบมีเล่นไพ่บ้างสนุกสนานเวลาไปเที่ยวตจว.
การเก็บเงินในช่วงแรกเริ่มทำงานบอกได้เลยครับ ใช้แบบเดือนชนเดือน บางเดือนก็ไม่ชนด้วย(วิธีแก้ตอนนั้นคือกดบัตรกดเงินครับซึ่งเป็นวิธีที่ผิดมากๆๆ ปัจจุบันเลิกวิธีนี้โดยเด็ดขาด กว่าจะผ่อนหมดและหักบัตรได้เลือตาแทบกระเด็น)
ต่อมาเริ่มโตขึ้นก็มีการวางแผนการเงินบ้างแต่ก็ทำไม่เป็นไปตามแผน(ในความคิดผมถือว่าดีขึ้นกว่าตอนเริ่มงานใหม่)
ครั้งล่าสุดเปลี่ยนงานก็มีกองทุน Provident Fund และคุณแม่ก็บอกให้ซื้อประกัน ซื้อหุ้น(เล็กน้อยหลักหมื่น) และสลากออมสินบ้าง(ปีที่แล้วได้รางวัลรวม5 พันนิดๆ)
และล่าสุดที่ลองเริ่มเมื่อต้นปี 2560 คือการหยอดกระปุก
โดยวิธีการไม่มีอะไรมาก เช้าออกไปทำงานหรือไปไหนก็แล้วแต่ กลับมาตอนเย็นต้องเอาเงินที่เหลือในกระเป๋ากางเกงใส่กระปุกให้หมดเลย
ยกเว้นเหรียญบาทจะแยกไว้อีกกล่อง ส่วนมากก็จะแบงค์ 20 และเหรียญ 5,10 ในวันทำงาน แต่บางคืนที่ไปเที่ยวกลับมาหยอดก็จะมีแบงค์ร้อยมาด้วย
หยอดเกือบทุกวันครับ โดยตอนเช้าจะดึงเงินออกมาจากกระเป๋าเงิน 3-4 ร้อยสำหรับใช้ในแต่ละวันโดยในกระเป๋าเงินจะมีเงินสำรอง500-1000 เผื่อฉุกเฉินครับ แบ่งเป็นค่าข้าว และค่าขนม และอื่นๆโดยวันปกติจะเหลือประมาณ 60-100 บาท แต่ถ้าตอนเย็นจะใช้เพิ่มก็กด ATM ครับ
ที่นี้มาดูกันว่าครั้งนี้ผมจะเก็บเงินได้เท่าไร
อันนี้เป็นกระปุกของผมเอง เน้นใช้วัสดุ reuse ลดโลกร้อนครับ
เทออกมาแล้วครับ กล่องแน่นมาก
เหรียญผมแยกเก็บอีกกล่องนะครับ
กล่องดำก็จะมีแบงค์เป็นส่วนมาก
เสร็จแล้วนั่งนับเป็นชั่วโมงเลยครับ
สรุปยอดออกมาค่อนข้างตกใจครับไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้
เงินที่ได้มาครั้งนี้จะนำไปซื้อสลากออมสินและกองทุนครับ โดยจะหักไว้10% สำหรับสังสรรของเดือนนี้
ส่วนแผนออมสำหรับปีนี้ คือ
1.หยอดกระปุกแบบเดิมต่อไป
2.เงินO.T. (มีไม่บ่อย แต่ก็มีบ้าง) นำไปซื้องกองทุน
3.รายได้พิเศษอื่น ซื้อฉลากออมสินบ้าง ซื้อสลากกินแบ่งบ้าง
4.เพิ่มหักเงิน Provident Fund จาก5% เป็น 10% ถ้าไหวก็อาจไปถึง 15%
5.ถ้าได้โบนัสเยอะ หักจากชำระหนี้แล้ว จะเอาที่เหลือไปฝากประจำครับ
สุดท้ายผมเข้าใจว่าวิธีของผมอาจจะไม่ใช่วิธีการออมที่เป็นระเบียบแบบแผนตามหลักการมากนะครับ
นำเสนอเผื่อเป็นแนวทางหรือแบ่งปันประสบการณ์
และเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆพี่ๆน้องในการออมเงินกันนะครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ
การเก็บเงินหยอดกระปุกแบบคนทำงาน/คนโสด แบบของตัวเอง
(ท่านแจ้งความจำนงค์ว่า ไม่ให้เงินแม่ไม่เป็นไร แต่อย่ามาขอเงินเป็นใช้ได้)
โดยบ้านที่ตจว.ผมเป็นคนทำเรื่องรีไฟแนนซ์จากที่แม่กู้มาผ่อนต่อ(ที่ทำงานมีดอกเบี้ยสวัสดิการ)ค่าผ่อนแบ่งเป็นผมผ่อน 75% ของแม่ 25% ต่องวด
อยู่กทมเช่าหออยู่ ค่าผ่อนรถยนต์และมอไซต์หมดแล้ว ค่าบัตรเครดิตมีบ้างแล้วแต่เดือน ค่าเดินทางไปทำงานเติมน้ำมันอาทิตย์ละ100 (มอไซค์)
รถยนต์ใช้เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ โดยคชจ.ส่วนตัวเดือนนึงพยายามให้อยู่ที่ 1-1.5 หมื่นต่อเดือน
แต่ใช้จริงเกินประจำ เพราะศุกร์เสาร์ ก็จะมีสังสรรเที่ยวกลางคืนหรือก็ไปนั่งดื่มบ้านพื่อน เที่ยวตจวบ้าง
เป็นคนเที่ยวดูบอลตามร้านแต่ไม่เล่นพนันบอลแอบมีเล่นไพ่บ้างสนุกสนานเวลาไปเที่ยวตจว.
การเก็บเงินในช่วงแรกเริ่มทำงานบอกได้เลยครับ ใช้แบบเดือนชนเดือน บางเดือนก็ไม่ชนด้วย(วิธีแก้ตอนนั้นคือกดบัตรกดเงินครับซึ่งเป็นวิธีที่ผิดมากๆๆ ปัจจุบันเลิกวิธีนี้โดยเด็ดขาด กว่าจะผ่อนหมดและหักบัตรได้เลือตาแทบกระเด็น)
ต่อมาเริ่มโตขึ้นก็มีการวางแผนการเงินบ้างแต่ก็ทำไม่เป็นไปตามแผน(ในความคิดผมถือว่าดีขึ้นกว่าตอนเริ่มงานใหม่)
ครั้งล่าสุดเปลี่ยนงานก็มีกองทุน Provident Fund และคุณแม่ก็บอกให้ซื้อประกัน ซื้อหุ้น(เล็กน้อยหลักหมื่น) และสลากออมสินบ้าง(ปีที่แล้วได้รางวัลรวม5 พันนิดๆ)
และล่าสุดที่ลองเริ่มเมื่อต้นปี 2560 คือการหยอดกระปุก
โดยวิธีการไม่มีอะไรมาก เช้าออกไปทำงานหรือไปไหนก็แล้วแต่ กลับมาตอนเย็นต้องเอาเงินที่เหลือในกระเป๋ากางเกงใส่กระปุกให้หมดเลย
ยกเว้นเหรียญบาทจะแยกไว้อีกกล่อง ส่วนมากก็จะแบงค์ 20 และเหรียญ 5,10 ในวันทำงาน แต่บางคืนที่ไปเที่ยวกลับมาหยอดก็จะมีแบงค์ร้อยมาด้วย
หยอดเกือบทุกวันครับ โดยตอนเช้าจะดึงเงินออกมาจากกระเป๋าเงิน 3-4 ร้อยสำหรับใช้ในแต่ละวันโดยในกระเป๋าเงินจะมีเงินสำรอง500-1000 เผื่อฉุกเฉินครับ แบ่งเป็นค่าข้าว และค่าขนม และอื่นๆโดยวันปกติจะเหลือประมาณ 60-100 บาท แต่ถ้าตอนเย็นจะใช้เพิ่มก็กด ATM ครับ
ที่นี้มาดูกันว่าครั้งนี้ผมจะเก็บเงินได้เท่าไร
อันนี้เป็นกระปุกของผมเอง เน้นใช้วัสดุ reuse ลดโลกร้อนครับ
เทออกมาแล้วครับ กล่องแน่นมาก
เหรียญผมแยกเก็บอีกกล่องนะครับ
กล่องดำก็จะมีแบงค์เป็นส่วนมาก
เสร็จแล้วนั่งนับเป็นชั่วโมงเลยครับ
สรุปยอดออกมาค่อนข้างตกใจครับไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้
เงินที่ได้มาครั้งนี้จะนำไปซื้อสลากออมสินและกองทุนครับ โดยจะหักไว้10% สำหรับสังสรรของเดือนนี้
ส่วนแผนออมสำหรับปีนี้ คือ
1.หยอดกระปุกแบบเดิมต่อไป
2.เงินO.T. (มีไม่บ่อย แต่ก็มีบ้าง) นำไปซื้องกองทุน
3.รายได้พิเศษอื่น ซื้อฉลากออมสินบ้าง ซื้อสลากกินแบ่งบ้าง
4.เพิ่มหักเงิน Provident Fund จาก5% เป็น 10% ถ้าไหวก็อาจไปถึง 15%
5.ถ้าได้โบนัสเยอะ หักจากชำระหนี้แล้ว จะเอาที่เหลือไปฝากประจำครับ
สุดท้ายผมเข้าใจว่าวิธีของผมอาจจะไม่ใช่วิธีการออมที่เป็นระเบียบแบบแผนตามหลักการมากนะครับ
นำเสนอเผื่อเป็นแนวทางหรือแบ่งปันประสบการณ์
และเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆพี่ๆน้องในการออมเงินกันนะครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ