รูปที่ 1 ค่าไต B.U.N
ที่มา :
https://www.facebook.com/krebslabs/
รูปที่ 2 ค่าไต Creatinine
ที่มา :
https://www.facebook.com/krebslabs/
หลังจากกินยากลุ่มกรดวิตามินเอ(
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แอคโนติน,โรแอค) แล้วทำให้ตับมีค่าเอนไซม์สูงขึ้นจึงขอหมอเลี่ยงกินยากลุ่มนี้ (ถ้ายังไม่ได้อ่านคลิก
https://ppantip.com/topic/37235426) พอไปรักษาที่คลินิกหมอเลยจัด doxycycline มา ซึ่งหมอบอกว่าไม่มีผลต่อตับเราก็รักษากับหมอท่านนี้โดยการกินยาฆ่าเชื้อสิวและใช้ยาทาซึ่งตัวยาเหมือนคลีนิคอื่นๆ ที่เคยใช้คือ ก่อนล้างหน้า(benzoyl peroxide 5%) clindamycin กันแดด ร่วมกับการกดสิว ทำทรีตเมนต์ กินยาฆ่าเชื้อรักษาอยู่คอร์สนึงประมาณ 12 ครั้งเริ่มรู้สึกว่าไม่ดีขึ้น จึงไปตรวจเลือดปรากฏว่าค่าไตสูงขึ้นกว่าที่เคย
ดังนี้
ตอนอายุ 21 ค่า Creatinine ก่อนกินยาฆ่าเชื้อคือ 0.8 หลังกินยาได้ 1.2 และ
ค่า B.U.N ก่อนกินยาฆ่าเชื้อคือ 7 หลังกินยาได้ 12 (ซึ่งสูงกว่าของแม่ที่อายุ 50)
คงเป็นเพราะกินยาฆ่าเชื้อเป็นเวลานานจึงมีผลต่อไตเพราะยา doxycycline ถูกขับออกทางไต 40% ค่าตรวจไตยิ่งสูงแปลว่า ความสามารถในการกรองของเสียของไตที่ลดลง เมื่อเจาะเลือดตรวจจะเจอของเสียที่ค้างอยู่ค่าที่ได้จึงสูง สาเหตุที่ทำให้ค่า Creatinine เพิ่มขึ้นคือ เป็นโรคเบาหวาน ความดันสูง สาเหตุอื่น คือ ยา การทานเนื้อสัตว์มาก(เพิ่มชั่วคราว) ไตติดเชื้อ การมีนิ่วที่ไต เท่าที่ดูจากสาเหตุแล้วจึงคิดว่าน่าจะเป็นที่ยาฆ่าเชื้อจากการักษาสิวที่กินต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะไตต้องอยู่กับเราไปอีกนานเพื่อควบคุมสมดุลต่างๆในร่างกาย และกำจัดของเสียออก
จะดีกว่าไหมถ้าให้ไตไปทำงานในสิ่งที่จำเป็นกว่าที่จะมาขับยาฆ่าเชื้อสิวที่กินแล้วสิวก็ดูเหมือนไม่ดีขึ้นเลย ประสบการณ์การรักษาสิวจากการกินยากลุ่มกรดวิตามินเอ และยาฆ่าเชื้อนี้
แม้เลือกใช้ยาตามหมอสั่งแต่สิวก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย (เจ็บมาเยอะ!!) จึงอยากแนะนำผู้สนใจให้เลือกวิธีการรักษาสิวจากาการกินยาเป็นตัวเลือกสุดท้าย จะได้ไม่ต้องมากังวลเรื่องสุขภาพแบบที่เราเป็น และศึกษาข้อมูลอย่างมีสติ เดี๋ยวจะมาอัพเดท เรื่องสิวอีกเรื่อยๆ
เสียงจากค่าไตของคนรักษาสิวแบบกินยาฆ่าเชื้อ(Doxycycline)
ที่มา : https://www.facebook.com/krebslabs/
รูปที่ 2 ค่าไต Creatinine
ที่มา : https://www.facebook.com/krebslabs/
หลังจากกินยากลุ่มกรดวิตามินเอ([Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ) แล้วทำให้ตับมีค่าเอนไซม์สูงขึ้นจึงขอหมอเลี่ยงกินยากลุ่มนี้ (ถ้ายังไม่ได้อ่านคลิก https://ppantip.com/topic/37235426) พอไปรักษาที่คลินิกหมอเลยจัด doxycycline มา ซึ่งหมอบอกว่าไม่มีผลต่อตับเราก็รักษากับหมอท่านนี้โดยการกินยาฆ่าเชื้อสิวและใช้ยาทาซึ่งตัวยาเหมือนคลีนิคอื่นๆ ที่เคยใช้คือ ก่อนล้างหน้า(benzoyl peroxide 5%) clindamycin กันแดด ร่วมกับการกดสิว ทำทรีตเมนต์ กินยาฆ่าเชื้อรักษาอยู่คอร์สนึงประมาณ 12 ครั้งเริ่มรู้สึกว่าไม่ดีขึ้น จึงไปตรวจเลือดปรากฏว่าค่าไตสูงขึ้นกว่าที่เคย
ดังนี้
ตอนอายุ 21 ค่า Creatinine ก่อนกินยาฆ่าเชื้อคือ 0.8 หลังกินยาได้ 1.2 และ
ค่า B.U.N ก่อนกินยาฆ่าเชื้อคือ 7 หลังกินยาได้ 12 (ซึ่งสูงกว่าของแม่ที่อายุ 50)
คงเป็นเพราะกินยาฆ่าเชื้อเป็นเวลานานจึงมีผลต่อไตเพราะยา doxycycline ถูกขับออกทางไต 40% ค่าตรวจไตยิ่งสูงแปลว่า ความสามารถในการกรองของเสียของไตที่ลดลง เมื่อเจาะเลือดตรวจจะเจอของเสียที่ค้างอยู่ค่าที่ได้จึงสูง สาเหตุที่ทำให้ค่า Creatinine เพิ่มขึ้นคือ เป็นโรคเบาหวาน ความดันสูง สาเหตุอื่น คือ ยา การทานเนื้อสัตว์มาก(เพิ่มชั่วคราว) ไตติดเชื้อ การมีนิ่วที่ไต เท่าที่ดูจากสาเหตุแล้วจึงคิดว่าน่าจะเป็นที่ยาฆ่าเชื้อจากการักษาสิวที่กินต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะไตต้องอยู่กับเราไปอีกนานเพื่อควบคุมสมดุลต่างๆในร่างกาย และกำจัดของเสียออก จะดีกว่าไหมถ้าให้ไตไปทำงานในสิ่งที่จำเป็นกว่าที่จะมาขับยาฆ่าเชื้อสิวที่กินแล้วสิวก็ดูเหมือนไม่ดีขึ้นเลย ประสบการณ์การรักษาสิวจากการกินยากลุ่มกรดวิตามินเอ และยาฆ่าเชื้อนี้ แม้เลือกใช้ยาตามหมอสั่งแต่สิวก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย (เจ็บมาเยอะ!!) จึงอยากแนะนำผู้สนใจให้เลือกวิธีการรักษาสิวจากาการกินยาเป็นตัวเลือกสุดท้าย จะได้ไม่ต้องมากังวลเรื่องสุขภาพแบบที่เราเป็น และศึกษาข้อมูลอย่างมีสติ เดี๋ยวจะมาอัพเดท เรื่องสิวอีกเรื่อยๆ