วันนี้มีงานเลี้ยงปีใหม่ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งแน่หล่ะ มีโต๊ะจีน มีวงดนตรี และมีการแสดงของเด็กๆนักเรียน
และทางโรงเรียนได้นำเด็กๆของเนิสเซอรี่ที่อยู่ใกล้เคียงมาร่วมแสดงด้วย(ลูกชายผมวัย 3 ขวบ อยู่เนิสเซอรี่ และร่วมแสดงด้วย เป็นการเต้นประกอบเพลง)
ภายในงาน มีเวที 3 เวที ประกอบด้วยเวทีใหญ่ของวงดนตรีที่จ้างมา, เวทีเล็กกิจกรรมมุฑิตาจิตของคุณครู และเวทีกลางสำหรับการแสดงของเด็กนักเรียน(เนิสเซอรี่-มัธยมต้น) รวมถึงศิษย์เก่าของโรงเรียน
งานเริ่มขึ้นประมาณ 18.30 น. เริ่มจากการแสดงของเด็กอนุบาล ไล่มาจนถึง ป.1 ซึ่งกำหนดการณ์ลูกชายผมจะแสดงในเวลา 19.30 น. แต่พอประมาณ 19.10 น. ลมและฝนเริ่มโปรยมาเบาๆ จึงได้มีการนำการแสดงของศิษย์เก่ามาคั่นกลาง และฝนได้ตกหนักมาในระหว่างนั้น การแสดงของศิษย์เก่าชุดนี้ยังดำเนินต่อไปแบบเงียบๆจนจบแม้ไฟต่างๆถูกดับไปแล้วเพื่อกันลัดวงจร (ดับไฟดนตรีและไฟตกแต่งรอบงาน แต่โดยรอบยังสว่างตามปกติจากสปอร์ตไลท์ที่ติดตั้งถาวร)
เมื่อฝนตกมาอย่างนี้ ทุกคนรีบเข้าหลบฝนตามจุดต่างๆ รวมถึงหอประชุม และโรงอาหาร รวมถึงอาคารต่างๆ บางส่วนก็กลับบ้านทันที(ส่วนน้อย) ซึ่งโต๊ะจีนยังถูกยกเข้าไปในหอประชุมเพื่อรองรับบรรดาแขกวีไอพี(ผู้บริหารโรงเรียน, ผู้นำชุมชน, แกนนำศิษย์เก่า, นายก อบจ., อบต., อดีต สส. ฯลฯ)ต่อไป รวมถึงแขกคนอื่นๆที่ตกโต๊ะมาหลบฝนเพื่อดื่มกินกันต่อ(โต๊ะจีนในงานไม่มีเหล้าเบียร์ให้เพราะเป็นสถานศึกษา แต่ส่วนใหญ่พกมากันเอง)
ก่อนฝนตกนั้นมีเพียงเวทีกลางเท่านั้นที่มีการใช้งาน ส่วนเวทีใหญ่ดนตรีที่จ้างมานั้นยังไม่ได้เริ่มการแสดงใดๆเนื่องจากต้องรอเวทีกลางของเด็กๆแสดงจบก่อน เมื่อฝนหยุดซึ่งเป็นเวลาประมาณ 3 ทุ่มก็เป็นอันว่ายกเลิกการแสดงของเด็กๆที่เหลือทั้งหมด เหลือไว้เพียงการแสดงดนตรีวงใหญ่ที่จ้างมาที่แสดงตามปกติ เป็นอันว่าลูกชายผมรวมถึงเด็กๆคนอื่นๆซ้อมและแต่งตัวเก้อ(การแสดงบางชุดต้องเช่าชุดซึ่งผู้ปกครองต้องออกค่าชุดเอง แต่ลูกชายผมไม่ต้องเสียค่าชุด และทางเนิสเซอรี่แต่งหน้าให้ จึงโชคดีกว่าเด็กๆหลายๆคน)
เป็นที่น่าเสียดายว่าคณะจัดงานไม่ได้เตรียมรับมือเรื่องฝนไว้ แม้ช่วงนี้จะมีฝนตกมาหลายวัน ซึ่งอันที่จริงนั้นสามารถยกการแสดงของเด็กๆเข้าไปโชว์ภายในหอประชุมก็ได้(คิดว่าน่าจะสามารถนำเครื่องเสียงส่วนตัวของโรงเรียนมาใช้ได้)เนื่องจากมีผู้หลบฝนอยู่พอสมควรนับร้อยคน เมื่อฝนหยุดก็ยังมีคนออเพื่อรอฟังคำตอบว่าจะเอาอย่างไรกันต่อ และอยู่พูดคุยตามประสาคนนานๆพบกันทีมากมาย
ไม่ได้ต้องการจะกล่าวโทษใคร เพราะฟ้าฝนเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ครอบครัวผมเองซื้อโต๊ะจีนแต่ก็ยังไม่ทันได้กิน(หลังฝนหยุดทางงานประกาศให้นำบัตรมาแลกอาหารได้ แต่คนที่นำไปแลกก็มีเพียงคนที่ดื่มกินกันต่ออยู่ที่นั่น เพราะจะนำอาหารกลับบ้านก็คงไม่มีใครมีภาชนะใส่) แต่นั่นก็ไม่เสียดายเท่าการแสดงของเด็กๆที่หายไป ในวัยนี้เขารู้สึกอย่างไรที่เตรียมตัวซักซ้อมมาเป็นเดือน เข้าคิวแต่งหน้าแต่งตัวกันเป็นเวลานานเพื่อวันนี้
ในวันนี้แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว มันเป็นสิ่งที่ผ่านพ้นไป และคงไม่มีผู้หรับผู้ใหญ่ของงานนี้มาอ่านกระทู้นี้ แต่หวังว่าจะสะท้อนให้ใครที่จะจัดงานหรือเจอประสบการณ์ประมาณนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง มองได้กว้างขึ้น ไม่จำเป็นต้องมีเวที ไม่จำเป็นต้องอลังการ แต่ขอเพียงให้เขาได้แสดงออกในสิ่งที่เขาเตรียมตัวเตรียมใจมา
งานเลี้ยงปีใหม่ น่าเสียดายที่ผู้ใหญ่ละเลยความรู้สึกของเด็ก
และทางโรงเรียนได้นำเด็กๆของเนิสเซอรี่ที่อยู่ใกล้เคียงมาร่วมแสดงด้วย(ลูกชายผมวัย 3 ขวบ อยู่เนิสเซอรี่ และร่วมแสดงด้วย เป็นการเต้นประกอบเพลง)
ภายในงาน มีเวที 3 เวที ประกอบด้วยเวทีใหญ่ของวงดนตรีที่จ้างมา, เวทีเล็กกิจกรรมมุฑิตาจิตของคุณครู และเวทีกลางสำหรับการแสดงของเด็กนักเรียน(เนิสเซอรี่-มัธยมต้น) รวมถึงศิษย์เก่าของโรงเรียน
งานเริ่มขึ้นประมาณ 18.30 น. เริ่มจากการแสดงของเด็กอนุบาล ไล่มาจนถึง ป.1 ซึ่งกำหนดการณ์ลูกชายผมจะแสดงในเวลา 19.30 น. แต่พอประมาณ 19.10 น. ลมและฝนเริ่มโปรยมาเบาๆ จึงได้มีการนำการแสดงของศิษย์เก่ามาคั่นกลาง และฝนได้ตกหนักมาในระหว่างนั้น การแสดงของศิษย์เก่าชุดนี้ยังดำเนินต่อไปแบบเงียบๆจนจบแม้ไฟต่างๆถูกดับไปแล้วเพื่อกันลัดวงจร (ดับไฟดนตรีและไฟตกแต่งรอบงาน แต่โดยรอบยังสว่างตามปกติจากสปอร์ตไลท์ที่ติดตั้งถาวร)
เมื่อฝนตกมาอย่างนี้ ทุกคนรีบเข้าหลบฝนตามจุดต่างๆ รวมถึงหอประชุม และโรงอาหาร รวมถึงอาคารต่างๆ บางส่วนก็กลับบ้านทันที(ส่วนน้อย) ซึ่งโต๊ะจีนยังถูกยกเข้าไปในหอประชุมเพื่อรองรับบรรดาแขกวีไอพี(ผู้บริหารโรงเรียน, ผู้นำชุมชน, แกนนำศิษย์เก่า, นายก อบจ., อบต., อดีต สส. ฯลฯ)ต่อไป รวมถึงแขกคนอื่นๆที่ตกโต๊ะมาหลบฝนเพื่อดื่มกินกันต่อ(โต๊ะจีนในงานไม่มีเหล้าเบียร์ให้เพราะเป็นสถานศึกษา แต่ส่วนใหญ่พกมากันเอง)
ก่อนฝนตกนั้นมีเพียงเวทีกลางเท่านั้นที่มีการใช้งาน ส่วนเวทีใหญ่ดนตรีที่จ้างมานั้นยังไม่ได้เริ่มการแสดงใดๆเนื่องจากต้องรอเวทีกลางของเด็กๆแสดงจบก่อน เมื่อฝนหยุดซึ่งเป็นเวลาประมาณ 3 ทุ่มก็เป็นอันว่ายกเลิกการแสดงของเด็กๆที่เหลือทั้งหมด เหลือไว้เพียงการแสดงดนตรีวงใหญ่ที่จ้างมาที่แสดงตามปกติ เป็นอันว่าลูกชายผมรวมถึงเด็กๆคนอื่นๆซ้อมและแต่งตัวเก้อ(การแสดงบางชุดต้องเช่าชุดซึ่งผู้ปกครองต้องออกค่าชุดเอง แต่ลูกชายผมไม่ต้องเสียค่าชุด และทางเนิสเซอรี่แต่งหน้าให้ จึงโชคดีกว่าเด็กๆหลายๆคน)
เป็นที่น่าเสียดายว่าคณะจัดงานไม่ได้เตรียมรับมือเรื่องฝนไว้ แม้ช่วงนี้จะมีฝนตกมาหลายวัน ซึ่งอันที่จริงนั้นสามารถยกการแสดงของเด็กๆเข้าไปโชว์ภายในหอประชุมก็ได้(คิดว่าน่าจะสามารถนำเครื่องเสียงส่วนตัวของโรงเรียนมาใช้ได้)เนื่องจากมีผู้หลบฝนอยู่พอสมควรนับร้อยคน เมื่อฝนหยุดก็ยังมีคนออเพื่อรอฟังคำตอบว่าจะเอาอย่างไรกันต่อ และอยู่พูดคุยตามประสาคนนานๆพบกันทีมากมาย
ไม่ได้ต้องการจะกล่าวโทษใคร เพราะฟ้าฝนเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ครอบครัวผมเองซื้อโต๊ะจีนแต่ก็ยังไม่ทันได้กิน(หลังฝนหยุดทางงานประกาศให้นำบัตรมาแลกอาหารได้ แต่คนที่นำไปแลกก็มีเพียงคนที่ดื่มกินกันต่ออยู่ที่นั่น เพราะจะนำอาหารกลับบ้านก็คงไม่มีใครมีภาชนะใส่) แต่นั่นก็ไม่เสียดายเท่าการแสดงของเด็กๆที่หายไป ในวัยนี้เขารู้สึกอย่างไรที่เตรียมตัวซักซ้อมมาเป็นเดือน เข้าคิวแต่งหน้าแต่งตัวกันเป็นเวลานานเพื่อวันนี้
ในวันนี้แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว มันเป็นสิ่งที่ผ่านพ้นไป และคงไม่มีผู้หรับผู้ใหญ่ของงานนี้มาอ่านกระทู้นี้ แต่หวังว่าจะสะท้อนให้ใครที่จะจัดงานหรือเจอประสบการณ์ประมาณนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง มองได้กว้างขึ้น ไม่จำเป็นต้องมีเวที ไม่จำเป็นต้องอลังการ แต่ขอเพียงให้เขาได้แสดงออกในสิ่งที่เขาเตรียมตัวเตรียมใจมา