[พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง] เพราะรักไง....ถึงทำได้ทุกอย่าง Love makes my Family’s wish come true...

เพราะรัก...ทำให้คนเราทำได้ทุกอย่าง ตั้งแต่ดีสุด จนร้ายแบบใครก็คาดไม่ถึง เพราะรักทำให้คนเสียสละหรือเห็นแก่ตัวได้เสมอ เพราะรักทำให้เราสามารถทำอะไรโง่ๆหรือมีสติขึ้นมาได้....พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง...เกิดจากความรัก ที่ไม่สมบูรณ์แบบรอบๆตัวเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนนึง


เพราะรัก...ทำให้พิชิตศึก หนุ่มโสดยอมรับหลานในไส้มาเลี้ยง ทั้งๆที่แม้แต่แฟนให้ดูแลก็ยังไม่มี เพราะยิ่งกว่ารัก ถึงยอมรับการติดสินใจของชิดดาวอย่างอดทน ไม่พลิกแผ่นดินหา เพราะสิ่งที่ข้อร้องไว้สำคัญมากกว่า

เพราะรัก...ทำให้ชิดดาว เสียสละความสุขของตัวเองในการเฝ้าดูกาโม่เติบโตและพัฒนาความสัมพันธ์กับเต็ง ยอมเดินหันหลังออกไปจากชีวิตทั้งคู่ เพียงเพราะมั่นใจว่า คนอย่างคุณละออง มีอำนาจมากพอที่จะทำให้หน้าที่การงานของพิชิตศึกพังอย่างทันใจนึก

เพราะรัก...แต่ตัวเอง ทำให้โต้เห็นแก่ตัว นึกถึงแต่โอกาสและความก้าวหน้าในอาชีพการงานของตัวเอง อย่างที่เพิ่งเคยจะได้รับ จนทิ้งความรู้สึกของคนที่เคยเคียงข้าง ตะเกียกตะกายจนไม่เห็นหัวใคร

เพราะรัก...แต่ตัวเอง ทำให้ทอย ใช้เด็กเป็นเครื่องมือ เพื่อทำทุกอย่างให้เต็งเห็นเค้าอยู่ในสายตา ทอยไม่เคยรักเต็งอย่างที่ปากพูด ทอยรักแต่ความต้องการของตัวเอง แต่ไม่เคยเสียสละเพื่อคนที่รัก

เพราะรัก...เวนิสถึงค้นพบว่า การยอมรับและเข้าใจความรู้สึก ความต้องการของตัวเอง จนกล้าตัดสินใจถอย และให้โอกาสตัวเองได้เรียนรู้ รักในอีกแบบ มันเปลี่ยนโลกไปทั้งใบ

เพราะรัก...ลูกกวาด จึงกล้ายอมรับและแสดงออกความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา และมันคุ้มค่าที่สุดท้ายก็ได้ความรักดีๆและคู่ชีวิตที่ดี

เพราะรัก....ถึงทำให้ปั๊ม ยอมทำทุกอย่าง แม้ว่าตัวเองจะเจ็บปวดก็ตาม เพื่อให้ชิดดาวรู้ใจตัวเอง

เพราะรัก...ทำให้โต๊ดและพาย กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว เพราะวุฒิภาวะยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตใคร 5 ปีที่เฝ้าดูลูกในไส้เติบโตแบบห่างๆ ความไม่ผูกพัน แลกอนาคตที่อาจจะดีกว่าของเรา 3 คน พ่อแม่ลูก

เพราะรัก...ถึงทำให้พ่อและแม่ของโต๊ดกับพายให้อภัยในความผิดพลาดของลูก

เพราะรัก...ที่บริสุทธิ์ ใสสะอาดของเด็ก กาโม่ถึงถูกรักและรักลุงเต็ง อย่างที่เด็กคนนึงหวงคนที่เลี้ยงดูมาเพราะลุงเต็งคือทุกอย่างของกาโม่ จนทำให้ถูกเอาความไร้เดียงสามาเป็นเครื่องมือได้

ซื้อนิยายมาอ่านตั้งแต่วันแรกที่ให้สั่งออนไลน์ เพราะอยากรู้ว่า บทละครและนิยายที่คุณเอกลิขิตเขียนขึ้นเอง จะออกมาเป็นแบบไหน จะทำให้ละครที่โป๊บมิวกว่าจะวนมาเจอกันออกมาในโทนอะไร

แล้วก็พบว่ามันคือ ละครครอบครัวนั่นแหละ และเสนอในโทนโรแมนติก-ดราม่านำซึ่งก็เหมาะสมที่จะจับคนที่เล่นดราม่าดีๆ และ มีเคมีเข้ากันอย่าง 2 คนนี้มาเล่น

เราดูละครเรื่องนี้อย่างตั้งใจดู ดูอย่างที่สามารถเข้าใจแบบที่ตัวละครรู้สึกได้ คุณเอกลิขิตคงตั้งใจสื่อสาร ความเป็นจริงในสังคม พื้นฐานจิตใจ ความรู้สึกนึกคิด ของคนใดคนหนึ่ง เกิดจากการเลี้ยงดู และสภาพแวดล้อม ซึ่งมีตัวละครหลายตัวที่สื่อสารความ เป็น ขาว เทา ดำให้ละครเรื่องนี้ได้อย่างชัดเจน ไดอาล็อคในเรื่อง คือ ความจริงที่คนเราพบเจอได้ในสังคม ไม่สวยหรู จนบางครั้งก็ตีแสกหน้า

เราอาจจะเป็นคนส่วนน้อยมากๆที่กลับชอบคาแรคเตอร์ของพระเอก นางเอก ที่ถูกวางให้มีพื้นฐานชีวิตเป็นคนธรรมดามากๆ มากแบบที่เหมือนเรากำลังนั่งดูเพื่อนข้างบ้าน คนเราไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ลุงเต็งและอาดาวก็เป็นแบบนั้น ต่างฝ่ายต่างมีข้อบกพร่อง เต็งเป็นคนดึงสติเรื่องการหนีปัญหาของชิดดาว เพราะความรักของเค้าผลักดันให้ชิดดาวกล้าเผชิญหน้า ชิดดาวก็เป็นคนดึงสติในการเลี้ยงหลานของเต็ง เต็งกล้าที่จะขอคำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา ในวันที่วัยของกาโม่เริ่มรับมือยากขึ้น หรือในวันที่ต้องแก้ปัญหาเรื่องงาน ชิดดาวเป็นฝ่ายเข้มแข็งกว่าในวันที่พิชิตศึกพ่ายแพ้ต่อความคิดถึงหลานชาย ช่วยกันประคับประคองในวันที่อีกฝ่ายเปราะบาง ต่างฝ่ายต่างเปลี่ยนแปลงความคิด ทัศนคติ และการรับมือกับปัญหา ไปตามความรับผิดชอบ เวลาที่ผ่านไปยาวนานหลายปีทำให้ตัวละคร 2 ตัวนี้ค่อยๆเติบโตขึ้นจนเป็นสามีภรรยาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุข และพ่อแม่ที่ดีได้

พื้นฐานชีวิต จิตใจของตัวละครแต่ละตัว ย่อมส่งผลถึงการกระทำ การตัดสินใจ ชีวิตที่เรียบง่ายมาตลอดของชิดดาว วันนึงจู่ๆก็ต้องมาเลือกว่าการตัดสินใจของตัวเอง จะส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานของใครหลายคน ถึงทำให้เค้าตัดสินใจหันหลังให้ทุกคน แม้ว่าตัวเองจะไม่มีความสุขเลยก็ตาม

กาโม่ คือ ตัวละครที่เติบโตในสภาพแววล้อมหลายอย่าง 2-3 ขวบปีแรก การมีลุงเต็งและอาดาว เลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด แปะมือกันในเวลากลางวันและกลางคืน ทำให้พัฒนาการทางร่างกายและอารมณ์ของกาโม่เป็นไปอย่างปกติ น่ารัก..แบบที่เด็กขาดพ่อขาดแม่แท้ๆ ไม่เคยรู้สึกขาด เพราะความไร้เดียงสา ใครดีกับเค้า เค้าก็รัก อย่างที่กาโม่รักลุงและอา

จนกระทั่งจุดเปลี่ยนของชีวิต กาโม่ในวัย 3 ขวบ อาดาวตัดสินใจเดินหันหลังให้ 3 ปี ของ Golden time Golden Ageในการเติบโตของกาโม่ กลับขาดคนเลี้ยงดูที่เข้าใจ และ ใส่ใจ ทั้งร่างกายและอารมณ์ ผู้ชายอย่างพิชิตศึกที่หัวปั่นในเรื่องงาน จึงต้องเปิดพื้นที่ให้ทอย ลูกน้องที่แอบรักตัวเอง เข้ามาช่วยเลี้ยงหลาน ความต้องการแอบแฝงที่อยากใกล้ชิดเต็งทำให้ทอยคอยสอน และ เสี้ยมเรื่องการแย่งความรักของอาดาวไปจากลุงเต็งจากเด็กในวัยช่างจำและเรียนรู้ความรู้สึกของคนอย่างกาโม่ ไม่แปลกที่กาโม่จะโตมาเป็นเด็กช่างคิด ครุ่นคิดและยึดความต้องการตัวเองอย่างไม่ไว้หน้าใคร เพราะความรู้สึกที่ขาดพ่อและแม่ ลุงเต็งคือสมบัติที่แบ่งใครไม่ได้

จุดเปลี่ยนนี้ทำให้เห็นว่า ระยะเวลา 3 ปี สิ่งแวดล้อมที่โรงเรียนและการสอนของลุงเต็ง ยังทำให้กาโม่เป็นเด็กดีอยู่ แต่ความใกล้ชิดของอาทอยที่แทรกซึมเข้าใกล้กาโม่ และสั่งสอนแบบผิดๆ ทำให้เด็กผู้ชายที่เคยน่ารัก และไม่ก้าวร้าว กลับกล้าทำในสิ่งที่ลุงไม่เคยสั่งสอน ในวันที่กลับมาพบอาดาวอีกครั้ง อาทอย ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตของกาโม่ในช่วงเวลาทอง กาโม่จึงรักอาทอย และ ลืมอาดาวไปจนหมด


ทอยเป็น ตัวละครที่คนดูเกลียดและรำคาญจนพาลไม่อยากดู เป็นตัวละครที่เหมือนผู้เขียนต้องใช้ความกล้าอยู่มาก ที่จะใส่ความดำ แบบไม่ขาว ไม่เทาให้ตัวละครนี้ เพราะ ทอย คือ ตัวละครเห็นแก่ตัว มองแต่ความต้องการของตัวเอง ทอย ไม่ได้รักเต็งอย่างที่ปากพูด สิ่งที่ทำไปทุกอย่างมันคือความเห็นแก่ได้ ไม่ใช่ความเสียสละเพื่อคนที่รัก และ ทอยไม่ได้รักกาโม่ แบบที่ชิดดาวรักแม้แต่น้อย ทอย คือ ตัวละครที่เสนอความจริงอีกด้าน ความจริงที่ครอบครัวที่มีลูกมีหลาน อาจจะไม่ทันนึก ว่าคนที่เข้ามามีพื้นที่ชีวิตร่วมกับคนในครอบครัว จะสามารถเสี้ยมเด็ก ใช้เด็กเป็นเครื่องมือเพื่อความต้องการของตัวเองได้ แต่มันพบเจอบ่อยมากในสังคมปัจจุบันนี้  ความไว้ใจ เชื่อใจที่เด็กมอบให้คนแบบทอยไม่ใช่เรื่องแปลก  เมื่อความใกล้ชิดนำพามาซึ่งความรัก เด็กไม่ได้มีความคิดซับซ้อน รัก หรือ ไม่รัก ชอบ หรือ ไม่ชอบ ตอบได้ไม่ยาก ใครดีด้วย เด็กก็รัก

ทอยและโต้จึงเป็นตัวละครสีดำที่ไม่มีบทสรุป ก็เหมือนชีวิตคนเรานี่แหละ ที่เวลาจะช่วยคัดกรองคนไม่ดีให้ค่อยๆหายไปจากเราเอง โดยที่เราไม่ต้องรู้ความเป็นไปของเค้าก็ได้

การดูละครเรื่องนี้ เราจึงเห็นความไม่สมบูรณ์พร้อมในความเป็นมนุษย์ปุถุชนของทุกตัวละคร เพราะเรื่องมันก็เกิดจากความไม่พร้อมของพ่อแม่มาตั้งแต่แรก แต่บทสรุปที่ทำให้ทุกปัญหาก้าวผ่านมันไปได้ ผู้เขียนคงอยากจะบอกว่า “การสื่อสารในครอบครัว เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด” เพียงเพราะความกลัวของโต๊ดและพาย ทำให้ไม่กล้าเผชิญหน้ากับพ่อและแม่ของตัวเอง สุดท้ายเพราะความรักของพ่อและแม่ และทุกคนๆที่เป็นครอบครัวของกาโม่ ถึงทำให้เด็กชายตัวเล็กๆ มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อย่างที่เด็กคนนึงใฝ่ฝันในที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่