เรื่องมีอยู่ว่าผมได้เปิดร้านขายสินค้าเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตอนแรกที่เปิดร้านผมไม่มีเงินก้อนที่จะมาทำธุรกิจแม้แต่อสังหาริมทรัพย์ก็ไม่มี และได้ติดต่อซื้อขายสินค้ากับร้านใหญ่ในจังหวัดซึ่งก็โชคดีที่ ณ เวลานั้น ร้านใหญ่ยอมปล่อยสินค้าให้มาขายและได้เป็นคู่ค้ากันมาตลอด ส่วนเรื่องค่าสินค้าที่ลงในร้านผมนั้นทุนค่าสินค้าเบื้องต้น 1,500,000 บาท และได้คุยกันว่าให้ผมผ่อนจ่ายค่าสินค้าทุกเดือนตั้งแต่ 50,000-100,000 บาท/เดือนเป็นอย่างน้อยขึ้นอยู่กับว่าขายสินค้าได้มากน้อยแค่ไหน เนื่องจากรายได้ตอนเปิดร้านใหม่นั้นยังไม่คงที่    

                จนกระทั่งตอนนี้คุมการเงินค่าสินค้าได้คงที่ คือจ่ายค่าสินค้าเป็นรอบเดือนได้แล้วและต้องผ่อนจ่ายค่าสินค้าที่ค้างไว้แต่เริ่มแรกเป็น รายสัปดาห์ๆละ 3,500 บาท  มาเป็นเวลา 2ปีกว่าแล้วเป็นเงินประมาณ 4แสน ซึ่งผมก็จ่ายมาตลอดทุกเดือนหวังว่ายอดหนี้จะลดลง แต่แล้ววันนี้ 29/12/60 เถ้าแก่กลับโทรมาคุยกับผมว่ายอดค่าสินค้าตั้งแต่เปิดร้านที่ค้าง 1,500,000 บาทยังคงเดิมแต่ที่จ่ายสัปดาห์ละ 3,500 บาท นั้นคือค่าดอกเบี้ยคิดเทียบเท่า O.D ที่กู้แบงค์ 15%เพราะเถ้าแก่บอกว่ากู้แบงค์มา 5 ล้านแต่หนี้ค่าสินค้าของผม 1,500,000บาทก็อยู่ใน O.D 5ล้านนั้นด้วย ผมถึงกับ งง ไปหมดเพราะที่ผ่านมาไม่เคยพูดกันแบบนั้นเลย ผมรู้สึกท้อใจมากๆเลยครับ  แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่ผมจะหมดหนี้ล่ะ ผมต้องไปคุยกับเถ้าแก่ใหญ่อย่างไงดีครับ เพราะผมจ่ายเงินตรงมาตลอดและไม่เคยคิดเลยว่าจะโดนแบบนี้ เหมือนโยนเงิน4แสนทิ้งไปเฉยๆ ทั้งที่ผมเป็นหนี้อะไหล่ยนต์เเต่เถ้าเเก่โยนหนี้O.Dมาให้โดยพร้อมดอกอีก15% ในความคิดของผมO.D ของเถ้าแก่นั้นผมก็ไม่ได้ไปกู้ด้วยเลย  ช่วยผมหน่อยครับ ผมคิดจนปวดหัวไปหมดแล้ว

ผมอยากจะทราบว่า

1. จ่ายค่าสินค้าคงค้างเก่ามาหลายปีแล้วแต่กลับบอกว่าเป็นค่าดอกเบี้ยได้ด้วยเหรอครับ

2. เนื่องจากผมไม่มีที่ดินเป็นของตัวเองแต่เถ้าเเก่บอกว่าจะโอนที่ดินของเถ้าเเก่ให้ผมไปกู้กับแบงค์ แล้วให้ผมไปผ่อน O.D กับแบงค์แทน(ผม งง ว่าทำไมต้องให้ผมกู้มาจ่ายค่าอะไหล่โดยใช้ที่ของเถ้าแก่เอง ทำไมเถ้าแก่ไม่เอาเข้าแบงค์เอง)

3.ถ้าผมต้องการผ่อนจ่ายค่าสินค้าเเบบเดิมเพราะผมบริหารลงตัวแล้วควรบอกกับเถ้าแก่อย่างไรดีครับ เพราะเถ้าแก่บอกว่าถ้าจ่ายแบบเดิมหนี้เก่าก็ยังคงเดิมแต่ที่จะจ่ายทุกสัปดาห์คือดอกเบี้ย