โอเค เริ่มจาก ที่มาที่ไป ทำไมถึงมาถ่ายรูปที่สตูดิโอมานีมีใจ
คือ เริ่มมาจากที่ หมิวเห็นรูปถ่ายที่มานีมีใจถ่ายทางไอจีของเค้า (ig. maneemejai) แบบว่ามีคนรู้จักเอาให้ดู แล้วหมิวชอบ แบบว่าชอบมาก คือรูปมันมีอารมณ์ของพลังงานด้านบวก เห็นแล้วอารมณ์ดี เห็นแล้วอยากยิ้มกว้างๆ
บวกกับหมิวตัดสินใจเด็ดขาดกับตัวเองว่า อื่ม เราจะเป็นคนทำคอนเท้นต์ คอนเท้นต์ของหมิว ก็จะเกี่ยวกับแฟชั่น เสื้อผ้า หน้าผม แล้วหมิวต้องการรูปที่ represent สิ่งเหล่านี้ จะได้เอาไปใช้กับ youtube, facebook และก็เว็บไซต์ของตัวเองด้วย และประเด็นสำคัญก็คือ หมิวชอบงานของมานีมีใจอะะะะ มันเป็นรูปที่สัมผัสได้ถึงความจริงใจ ความน่ารักน่าเอ็นดู คืออยากให้มานีถ่ายให้ตัวเองซักครั้งในชีวิตอะแหละ ก่อนที่จะแก่ไปกว่านี้ คิดอย่างนี้จริงๆ เลยตัดสินใจติดต่อไป และก็นัดวันถ่าย
ที่จริงนัดไว้แล้วครั้งนึง และดั๊นนน เป็นไข้หวัดใหญ่ เลยต้องเลื่อนมาเป็นวันที่ทุกคนเห็นนี่ละฮะ
(ถ้าใครขี้เกียจอ่าน ก็ไปดูในคลิปได้นะคะ หมิวใส่ไว้ให้ตรงนี้น้าา)
บอกเป็นประโยคไม่ได้จิงๆ คือมันต้องค่อยๆบรรยายออกมาทีละนิดๆ เหมือนเป็นกลิ่นของกาแฟใส่นมไม่ใส่น้ำตาล เบาๆ ลอยออกมาจากห้องครัวจิ๋วๆในบ้านหลังเล็กๆ อ่า…. หอมจัง หวานจัง มันรู้สึกอย่างนั้นจิงๆ
และก็สีของผนังแต่ห้องคือ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ม้ากกกกกกกกกกก งื้อออออออออออ ชอบบบบบบบบบบบบบ คือมันจะไม่ได้เห็นแล้วสวยด้วยตาเปล่าอะะ แต่ถ่ายรูปขึ้นมากกกกก แบบ เหมือนออกมาจากหนังสือ ออกมาจากการ์ตูน มีความหลุดไปอยู่ในความฝัน เหมือนหลับอยู่ แล้วไม่อยากตื่นขึ้นมาเลยงื้ออออออออ อยากแต่งบ้านแบบนี้ๆๆๆๆๆ คือยิ่งเห็นรูปแว้บๆ คือยิ่งอยากได้ อยากมีแบบนี้ นี่อินสไปร์มาก แบบอยากทาสีบ้านเปนสีพีช กำแพงเปนสีฟ้า อีกฝั่งเป็นสีเขียว งึ้ยๆๆ โง่ยยย มีความสุขขขขข เห้ออ เหมือนอยู่ในความฝันที่บ้านเราไปอยู่ในขนมเค้กที่มีวิปครีมนวลๆแปะอยู่บนหัว อ่าาาา พริ้ม แฮ้ปปี้จุงงงงงง
ไม่อยากตื่นเลยยยย
เอาล่ะค่ะ มาลุยกันให้ละเอียดๆกันเลยดีกว่า
สตูดิโอบ้านหลังเล็กๆ ที่ชื่อ มานีมีใจ ทาสีพาสเทล สารพัดสีเอาไว้ทุกกำแพง เมื่อเดินเข้าไปแล้วเหมือนกับหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของขนมหวาน ใบหน้าของเราปะกับแสงรำไร (ในตอน 8 โมงเช้าที่หมิวไปถึง ไก่ขันเว่ออ แต่ไม่มีไก่นะ คิดเอาเองในจินตนาการ 5555) บรรยากาศมันอบอวลด้วยความฝัน นี่แหละค่ะ คือความรู้สึกแรกที่หมิวเดินเข้าไปแล้วสัมผัสได้
พูดเลยว่าที่นี่ไม่เหมือนโลกมนุษย์!! มันไม่น่าจะมีคนอยู่อาศัยได้จริง มันดูเซอร์เรียลตั้งแต่สีเขียวอ่อนละมุน เหมือนเฮบลูบอยผสมนมข้นหวาน แล้วเอามาทาที่กำแพงบ้าน มีเก้าอี้รถเมล์ทาสีพีชอ่อนๆ สีมันสวยเหมือนได้กลิ่นลูกพีชตลอดเวลา
แล้วหมิวก็ได้เจอกับ คุณอุ๊ หรือก็คือ น้องมานี เจ้าของสตูดิโอนี่เอง มานีอยู่ที่นี่ค่ะ อยู่บนชั้นสอง (โอ้ว บ้านนี้มีคนอยู่!! มันยังเป็นโลกมนุษย์อยู่สินะ) มานีใส่เสื้อแจ็กแก็ทสีเหลือง กางเกงสีเหลือง เข้ากับบ้านไปอีกกก มาพร้อมกับ น้องฟีโน่ สาวซ่า ผิวสีน้ำผึ้ง ที่บุคลิกคนละขั้วกันไปอีกก แต่ 2 คนนี้ดูเหมือนมีด้ายแดงที่มองไม่เห็นคล้องอยู่ที่ข้อมือแน่ๆ เพราะดูรู้ใจกันมากเว่อ
ก่อนที่จะผ่านเข้าห้องแรก ประตูกระจกที่กั้นกลางระหว่างข้างนอก กับข้างใน ก็จะพบกับกิมมิคปุ้กปิ้ก กุ๊กกิ๊กเหมือนมีใครเอาลิปสติกสีๆ ทั้งสีฟ้า สีเขียว สีชมพู สีเหลือง มาเขียนคำทักทายน่ารักๆเอาไว้บนกระจก ไม่ต้องอ่านว่าหมายความว่ายังไง แต่สัมผัสได้ถึงความน่าร้ากกกกก ทุกอนู เมื่อเดินเข้าไปในบ้าน ฝั่งขวามือ จะพบกับกำแพงสีชมพูอ่อน เจือสีลูกพีช มีรูปลูกพีชจริงๆ แปะอยู่บนกำแพง พร้อมกับโซฟาสีเดียวกัน และที่อบผมสีเดียวกัน (ไม่ได้เมาความหวาน มีที่อบผมจริงๆ) ยังไม่พอ มีพร๊อพเป็นโทรศัพท์รุ่นโบราณ แถมโตกลมสีขาว ที่ไม่ว่าดูยังไง ก็เล่าเรื่องได้ดีทุกอนู (เออๆ 2 คนนี้ เค้าติดว่าคำว่า “เล่าเรื่อง” ถ่ายไปก็บอกกันว่า ไอนี่ไม่เล่าเรื่องๆ เอาออกๆ หรือถามกันอีกว่า อันนี้เล่าเรื่องรึยัง คนโดนถ่ายก็ฟังไปขำไป แอบชอบคำนี้ ก็ว่าจะแอบเอาไปใช้บ้าง 555)
หมิวถ่ายฉากแรกที่กำแพงสีพีชนี้ค่ะ พอดีหมิวเตรียมพร๊อพที่ทาสีพาสเทลมา ทั้ง เอาหุ่นไม้ ไมโครโฟน สมุด กรรไกร ตามความชอบของหมิว และตามงานที่หมิวทำ เพราะหมิวทำงานด้านแฟชั่น ทำงานพิธีกร อะไรแบบนี้ ของที่หมิวเลือกมาก็เลยอยากให้ represent ตัวตนของหมิวด้วย หมิวเลยเลือกหาสี (ที่คิดว่า) ที่เหมาะกับสตู มานีมีใจ แบบว่าเลือกสีจากในหัวเลย ไม่ได้เอาสีไปเทียบ ลุ้นมากกกกก เกือบไม่รอด (สีที่หมิวใช้คือ สีอะคริลิกแบบหลอด มีขายที่ B2S ค่ะ ไปหาซื้อกันได้นะ ทาไม่ยาก ยิ่งถ้าเป็นวัสดุผ้า หรือไม้นี่ง่ายมาก แต่ถ้าเป็นพลาสติก็อาจจะต้องรอนานหน่อยเนาะ)
อะตัดกลับมาที่ฉากนี้ หมิวเลือกชุดสีชมพูมา เป็นเสื้อยืด กางเกงอารมณ์Jogger สีชมพูพีช และข้างในก็ใส่ Bodysuit ผ้าทูลบางๆ สีเนื้อ จะได้ดูมีอะไร
พอดีว่า ตอนนี้เป็นเวลาเช้า ยังไม่ 9 โมงดี แสงอาทิตย์ดูเป็นมิตรกับสตูนี้มากกกกกกก คือทุกทิศที่มีทางให้แสงเข้า แสงก็จะเล็ดลอด สอดส่อง สอดแนม สอดแทรก เข้ามาได้ หึ้มมมม เพิ่งรู้ว่า การมีแสงอาทิตย์ส่องเข้าบ้านมันดีอย่างนี้เอง!! มันทำให้รูปที่ออกมา มีความนัวๆ มัวๆ ดูเหมือนอยู่ในก้อนเมฆที่ลอยตัวอยู่เหนือภูเขาไฟฟูจิ อาาาห์ มานี จะคอยบอกตลอดว่า พี่หมิวๆๆ เอาตามาโดนแสง ย่อตัวลงๆ เออๆ เงยหน้านิดนึง โอเคๆ สวยๆๆ อาาาาาห์ รู้สึกดี…มีคนชมว่า สวย 555
แต่ชุดแรก มานีบอก ไม่ปัง…เอ่าทำไงอะ
อ่อ มานีมีออฟชั่น มานีไม่ได้มีหม้ออย่างเดียว มีตัวเลือกมาเสนอด้วย! นางวิ่งขึ้นไปหยิบ ชุดส่วนตัวมาให้เลือกค่ะ มีเสื้อยืดสีพีช เดรสเรียบๆสีพีชเหมือนกัน และเดรสบ๊าางงง บางงงง สีชมพูอ่อน กรุยกรายสุดๆ มาให้เลือก
อื่ม…หมิวตัดสินใจเลือกเดรสบ๊างงงงบางงงงค่ะ!! โตแล้ว โป๊ได้!! ผ่าง!! พอดีว่า บอดี้สูทที่เตรียมมา มันพอที่จะเข้ากับเดรสกรุยกรายแบบนี้ได้ เลยเอาวะ ลองดู สรุป โคตรดี!!!!! ชอบมากกกกกก มันจะมีกลิ่นอายเซ็กซี่ ผสมความหวาน แต่ก็มีความเกร๋รวมอยู่ด้วย เรียกว่า ใช่มาก ขอบคุณนะคะ คุณออมสุชา (อ่อ ลืมบอก ชุดนี้เป็นของ คุณออมสุชา นักแสดงที่เรารู้จักกันนี่แหละ ฮี่ ได้ยืมชุดใส่เฉย)
โอเค แล้วไงต่อ มานี ให้หมิวไปนอนพาดบนโซฟาค่ะ เอาขาไปทาง เอาหัวไปทาง เอาโทรศัพท์มาโทรหาผู้ชายซิ นอนค่ะ ทำตาเบิกโพลง เหมือนเพิ่งกินน้ำยาล้างห้องน้ำเป็ดมา (นางพูดแบบนี้จริงๆ) แต่พอเรานอน หน้ามันก้จะบวมใช่มะ นี่ก็แอบกลัว แต่มานี ใจดี งัดหน้าให้ ค่อยยังชั่ว คือ ดีใจที่เค้าเข้าใจความต้องการของผู้หญิงด้วยกันอะ ว่ารูปจะสวยแค่ไหน ถ้าหน้าไม่เรียว ไม่สวย ก็จบเด้ออ
ต่อกันที่เอาโซฟาออก มานีให้หมิวไปนอนกับพื้น เล่นกับน้องตุ๊กตา น้องกรรไกร น้องสมุด น้องด้าย และน้องไมค์ ทุกคนสีพีชหมดเลย เพราะทามาเองเมื่อคืนก่อน 55 จะบอกว่า สีแมชมาก!! มานีถึงกับขอซื้อต่ออะ ว่าไงล่าา อะต่อๆๆ หมิวไปนอนราบกับพื้นค่ะ นอนเล่นตุ๊กตา นั่งชันเข่า มองกล้องบ้าง ไม่มองบ้าง มานีก็ให้ฟีโน่ (คนนี้ตลก หมิวชอบ) ช่วยเลื่อนผ้าม่าน ถือรีเฟลก จับ ขยับชุดให้เรา ไม่ให้ผ้ามากองตรงพุง ให้ผมเข้าที่เข้าทาง ทำงานเป็นคนรู้ใจเว่อ ฉากนี้หมิวชอบมาก เพราะมานีเปลี่ยนเลนส์กล้องตามแสง ใส่ฟิลเตอร์กล้อง ให้มันนัวเบอร์สุด เห็นรูปแล้วแบบ ละลายเว่อออออ นี่เราสวยได้ขนาดนี้เลยเรอะะะะ 55555
ชุดแรก ผ่านไป เปลี่ยนชุด 2 ค่ะ แต่!!! ยังไม่เริ่มรีวิวฉากที่สอง จะรีวิวห้องเปลี่ยนชุดก่อน ที่จริงที่นี่ก็ไม่มีห้องเปลี่ยนชุดหรอก คือห้องไหนไม่มีคน ก็เข้าไปเปลี่ยนได้ ทีนี้ หมิวเข้าไปในห้องจิ๋ว ที่เป็นอีกฉากนึงที่เค้ามีไว้ถ่ายรูป ในห้อง หมิวเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในยุคของคุณยายอังกฤษ สมัยที่คุณยายยังสาว ในสมอง เหมือนได้กลิ่นความเก่า ความวินเทจ ผนังห้องเป็นวอลเปเปอร์ลายดอกไม้จิ๋วสารพัด มีเตียงเตี้ยๆ ที่ปูด้วยผ้ากำมะหยี่สีเขียวน้ำทะเล มีโต๊ะเครื่องแป้งที่มีอุปกรณ์ปุ้กปิ้ก แว่นตงแว่นตาสีฟ้า สีเหลือง สีชมพู กระเป๋าขนๆที่เอามาวางไว้เฉยๆ และหน้าต่างที่มีแสงรำไรเข้ามาอีกแล้ววว คือทุกอย่างดี!! ทุกอย่างดีมาก!!!
เข้าเรื่องหลักกันต่อ ชุดที่สอง หมิวเปลี่ยนเป็นชุดสีแดง!! ฮั่นแน่ สีแดง ต้องหลุดจากความพาสเทลแน่ๆ จะถ่ายสวยเร้อะะ เราก็แอบลุ้นนะ แต่สีนี้ เป็นสีที่มานี ส่งเรฟเฟอเร้นมาเลยค่ะ ดังนั้น มันต้องได้ดิ มานีพาหมิว ออกไปนอกบ้านค่ะ ไปถ่ายกันข้างๆบ้าน มันเป็นพื้นที่ที่สร้างมาเพื่อการนี้เว่อ เดินไป จะเจอกับถังน้ำมัน ทาสีต่างๆ ของหมิว มานีเลือกให้หมิวไปยืนบนถังสีเขียวน้ำทะเล และถือคัพเค้กสีแดง แปะไว้ที่ปาก สีสนุกป้ะล่า จากนั้นไม่พอจ่ะ ฟีโน่ ก้เกิดมโนภาพ พี่ๆๆๆ เอาหัวใจที่อยู่บนคัพเค้กไปแปะที่ลิ้นดิ เนี่ยเหมือนภาพในหัวเลย อะลองดู นางก็บรรเจิดเนอะ 55 เลยได้รูปประหลาดๆมาให้ชาวโลกได้ดูกันซะงั้น 555
ด้านนอกบ้าน ยังมีฉากที่ทาสีแดง สีฟ้า สีเขียว ให้เลือกใช้ มานีไม่กลัวค่ะ เอาฉากสีฟ้ามา ให้หมิวไปอยู่หน้าฉาก คิดว่าคนเห็นรูปน่าจะต้องมีหรี่ตา เพราะสีมันจัดเว่อ ไม่พอๆๆ มีการเอาพร้อพมาให้อี้กกก ขวดเกลือ ขวดซอสมะเขือเทศ หมิวก็เอาหนังสือสีแดงมารวมๆกัน ภาพมันก็จะมีความเล่าเรื่องละ ฮาา
สุดท้ายของชุดนี้ คือ การขึ้นบันไดหนีไฟไปยืนอยู่บนสุด เพื่อเก็บภาพความชิคสไตล์ Kiko (idol เราเอง) ส่องกล้องส่องทางไกลที่เป็นพร๊อพของสตู เราชอบโมเม้นนี้มาก
ไปต่อค่ะ กลับมาที่ในบ้าน และกลับมาที่ความฟรุ้งฟริ้ง เหมือนมานีจะรู้ว่า ชุดไหนสำคัญ ชุดไหนจะถ่ายเยอะ ชุดไหน จะถ่ายปกติ ชุดนี้ก็เรียกว่า ความสำคัญระดับกลาง แต่มีความมุ้งมิ้ง เอาแมวมาเป็นพร๊อพจ้าาา น้องแมว ชื่อว่า หวาน แต่นิสัยบ่หวานเด้อ แอบซนแบบนิ่งๆ จับเข้าฉากปุ้บ นิ่งได้แป้บบบเดียว แต่แมวตัวนี้ ดูเป็นลูกรักของมานี เราสัมผัสได้ ในฉาก มานี ฟีโน่ เอากระจกมาวาง หมิวเอาป้อกกี้สีชมพูมา เอาเค้กตลาดนัด (ก้อนละ 35 บาท อยู่นอกตู้เย็นก็ไม่ละลาย กินได้จริงๆใช่ป้ะ) มาวาง แถมด้วยไมค์ทาสีฟ้า ทีนี้ น้องแมวก็ยิ่งสนุกสิคะ เอามือจะมาเขียเค้กตลอดเวลาาา อะแต่ไม่เป็นไร พอดีแสงเข้า ก็ได้ไป 3-4 รูป เห็นรูปแล้ว จะบอกว่า ฟินมากกกก ดิฉันเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปตอนอายุ 14 ความมุ้งมุ้ง ใสๆ มันได้มากกกก
ชุดนี้ไปต่อกันที่ ห้องน้ำค่ะ เป็นห้องน้ำที่ อื่มม…ขอเรียกว่าได้อินสไปร์มาจาก Stylenanda กำแพงมีความทาสีชมพู กระเบื้องสีขาวสะอาด พอหมิวที่ใส่ชุดสีฟ้า กระโปรงน้ำเงินไปยืนปุ้บ ก็เด่นขึ้นมาเล้ยยยย สีชมพูขอให้นึกถึง Stylenanda ค่ะ แล้วจะนึกออก 555 จุดนี้ใช้เวลาไม่นาน หมิวแค่อยากได้สเปซ จะได้เอาไปใช้งานในเว็บไซต์ได้
ชุดถัดมา คือ สีเหลือง!! ทฤษฎีง่ายๆในการมาถ่ายที่สตูนี้ก็คือ ให้ชุดของเรา มีสีเดียว หรือเป็นสีใกล้เคียงกันทั้งตัว เพราะในการทำงานจริง มันจะง่ายกว่ามาก ง่ายกว่าที่ชุดเราเหย หลายสี เห็นแล้วงง หมิวคิดแบบนี้นะ และเวลาหาพร๊อพมาเอง ก็จะหาง่ายด้วย ดูตามสีเอา สบายใจ อะสีเหลือง มานีให้ไปยืนหน้ากำแพงสีเขียวน้ำทะเลจ้าา มัน ขึ้น กล้อง มากกกกกกกก เค้ารู้ได้ไงอะ ว่าสีไหนจะอยู่กับสีไหนดี หมิวเองก็พอจะรู้นะ แต่ไม่นึกว่ามันจะดีได้ขนาดนี้ กำแพงนี้ เป็นกำแพงหน้าห้องครัวจิ๋วๆ หมิวเลยไปยืนบนโซฟา เพื่อเก็บรูปเฉพาะกำแพงอย่างเดียว ไม่ต้องติดอย่างอื่น ไอเลิฟฟฟ และข้างๆกำแพง ก็คือประตูครัว สีเหลืองอ่อน พอหมิวไปยืน มันก็แสนนน จะเข้ากัน เหมือนตัวเองได้กลายร่างเป็นปิงซูข้าวเหนียวมะม่วงของ After You เป็นที่เรียบร้อย 5555
ต่อกันที่ข้างบ้านอีกแล้วค่ะ แต่ทีนี้เป็นอีกข้างนึง ข้างนี้จะเน้นงานกระเบี้อง มีตั้งแต่สีขาว สีพีช สีเขียวอ่อน และจบที่สีเหลือง เหลืองนี่มันเเหลืองจริงๆ เป็นเหลืองอมส้มนิสๆ แบบแสบตากำลังดี มีมุมที่มานีเลือกให้หมิวไปยืน คือมุมที่มีลายเพ้นคำว่า Summer ด้วยสีชมพูอยู่ จี๊ดดดดดจิงงงงงง หมิวชอบที่มานีคอยบอกให้หันหน้าไปทางไหน มุมไหนสวย ทำท่าไหนดี เค้ารู้ท่า และมีวิธีทำให้เราสนุกตลอดเวลา แฮปเป้!!!
...ว้ายย หมดโควต้าพิมพ์ เด๋วมาต่อนะคะะ...
[CR] มหากาพย์รีวิว ถ่ายรูปกับ Maneemejai! สตูดิโอแนวญี่ปุ๊นนน ญี่ปุ่น ที่มาแรงที่สุดในยุคนี้!
คือ เริ่มมาจากที่ หมิวเห็นรูปถ่ายที่มานีมีใจถ่ายทางไอจีของเค้า (ig. maneemejai) แบบว่ามีคนรู้จักเอาให้ดู แล้วหมิวชอบ แบบว่าชอบมาก คือรูปมันมีอารมณ์ของพลังงานด้านบวก เห็นแล้วอารมณ์ดี เห็นแล้วอยากยิ้มกว้างๆ
บวกกับหมิวตัดสินใจเด็ดขาดกับตัวเองว่า อื่ม เราจะเป็นคนทำคอนเท้นต์ คอนเท้นต์ของหมิว ก็จะเกี่ยวกับแฟชั่น เสื้อผ้า หน้าผม แล้วหมิวต้องการรูปที่ represent สิ่งเหล่านี้ จะได้เอาไปใช้กับ youtube, facebook และก็เว็บไซต์ของตัวเองด้วย และประเด็นสำคัญก็คือ หมิวชอบงานของมานีมีใจอะะะะ มันเป็นรูปที่สัมผัสได้ถึงความจริงใจ ความน่ารักน่าเอ็นดู คืออยากให้มานีถ่ายให้ตัวเองซักครั้งในชีวิตอะแหละ ก่อนที่จะแก่ไปกว่านี้ คิดอย่างนี้จริงๆ เลยตัดสินใจติดต่อไป และก็นัดวันถ่าย
ที่จริงนัดไว้แล้วครั้งนึง และดั๊นนน เป็นไข้หวัดใหญ่ เลยต้องเลื่อนมาเป็นวันที่ทุกคนเห็นนี่ละฮะ
บอกเป็นประโยคไม่ได้จิงๆ คือมันต้องค่อยๆบรรยายออกมาทีละนิดๆ เหมือนเป็นกลิ่นของกาแฟใส่นมไม่ใส่น้ำตาล เบาๆ ลอยออกมาจากห้องครัวจิ๋วๆในบ้านหลังเล็กๆ อ่า…. หอมจัง หวานจัง มันรู้สึกอย่างนั้นจิงๆ
และก็สีของผนังแต่ห้องคือ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ม้ากกกกกกกกกกก งื้อออออออออออ ชอบบบบบบบบบบบบบ คือมันจะไม่ได้เห็นแล้วสวยด้วยตาเปล่าอะะ แต่ถ่ายรูปขึ้นมากกกกก แบบ เหมือนออกมาจากหนังสือ ออกมาจากการ์ตูน มีความหลุดไปอยู่ในความฝัน เหมือนหลับอยู่ แล้วไม่อยากตื่นขึ้นมาเลยงื้ออออออออ อยากแต่งบ้านแบบนี้ๆๆๆๆๆ คือยิ่งเห็นรูปแว้บๆ คือยิ่งอยากได้ อยากมีแบบนี้ นี่อินสไปร์มาก แบบอยากทาสีบ้านเปนสีพีช กำแพงเปนสีฟ้า อีกฝั่งเป็นสีเขียว งึ้ยๆๆ โง่ยยย มีความสุขขขขข เห้ออ เหมือนอยู่ในความฝันที่บ้านเราไปอยู่ในขนมเค้กที่มีวิปครีมนวลๆแปะอยู่บนหัว อ่าาาา พริ้ม แฮ้ปปี้จุงงงงงง
ไม่อยากตื่นเลยยยย
เอาล่ะค่ะ มาลุยกันให้ละเอียดๆกันเลยดีกว่า
สตูดิโอบ้านหลังเล็กๆ ที่ชื่อ มานีมีใจ ทาสีพาสเทล สารพัดสีเอาไว้ทุกกำแพง เมื่อเดินเข้าไปแล้วเหมือนกับหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของขนมหวาน ใบหน้าของเราปะกับแสงรำไร (ในตอน 8 โมงเช้าที่หมิวไปถึง ไก่ขันเว่ออ แต่ไม่มีไก่นะ คิดเอาเองในจินตนาการ 5555) บรรยากาศมันอบอวลด้วยความฝัน นี่แหละค่ะ คือความรู้สึกแรกที่หมิวเดินเข้าไปแล้วสัมผัสได้
พูดเลยว่าที่นี่ไม่เหมือนโลกมนุษย์!! มันไม่น่าจะมีคนอยู่อาศัยได้จริง มันดูเซอร์เรียลตั้งแต่สีเขียวอ่อนละมุน เหมือนเฮบลูบอยผสมนมข้นหวาน แล้วเอามาทาที่กำแพงบ้าน มีเก้าอี้รถเมล์ทาสีพีชอ่อนๆ สีมันสวยเหมือนได้กลิ่นลูกพีชตลอดเวลา
แล้วหมิวก็ได้เจอกับ คุณอุ๊ หรือก็คือ น้องมานี เจ้าของสตูดิโอนี่เอง มานีอยู่ที่นี่ค่ะ อยู่บนชั้นสอง (โอ้ว บ้านนี้มีคนอยู่!! มันยังเป็นโลกมนุษย์อยู่สินะ) มานีใส่เสื้อแจ็กแก็ทสีเหลือง กางเกงสีเหลือง เข้ากับบ้านไปอีกกก มาพร้อมกับ น้องฟีโน่ สาวซ่า ผิวสีน้ำผึ้ง ที่บุคลิกคนละขั้วกันไปอีกก แต่ 2 คนนี้ดูเหมือนมีด้ายแดงที่มองไม่เห็นคล้องอยู่ที่ข้อมือแน่ๆ เพราะดูรู้ใจกันมากเว่อ
ก่อนที่จะผ่านเข้าห้องแรก ประตูกระจกที่กั้นกลางระหว่างข้างนอก กับข้างใน ก็จะพบกับกิมมิคปุ้กปิ้ก กุ๊กกิ๊กเหมือนมีใครเอาลิปสติกสีๆ ทั้งสีฟ้า สีเขียว สีชมพู สีเหลือง มาเขียนคำทักทายน่ารักๆเอาไว้บนกระจก ไม่ต้องอ่านว่าหมายความว่ายังไง แต่สัมผัสได้ถึงความน่าร้ากกกกก ทุกอนู เมื่อเดินเข้าไปในบ้าน ฝั่งขวามือ จะพบกับกำแพงสีชมพูอ่อน เจือสีลูกพีช มีรูปลูกพีชจริงๆ แปะอยู่บนกำแพง พร้อมกับโซฟาสีเดียวกัน และที่อบผมสีเดียวกัน (ไม่ได้เมาความหวาน มีที่อบผมจริงๆ) ยังไม่พอ มีพร๊อพเป็นโทรศัพท์รุ่นโบราณ แถมโตกลมสีขาว ที่ไม่ว่าดูยังไง ก็เล่าเรื่องได้ดีทุกอนู (เออๆ 2 คนนี้ เค้าติดว่าคำว่า “เล่าเรื่อง” ถ่ายไปก็บอกกันว่า ไอนี่ไม่เล่าเรื่องๆ เอาออกๆ หรือถามกันอีกว่า อันนี้เล่าเรื่องรึยัง คนโดนถ่ายก็ฟังไปขำไป แอบชอบคำนี้ ก็ว่าจะแอบเอาไปใช้บ้าง 555)
หมิวถ่ายฉากแรกที่กำแพงสีพีชนี้ค่ะ พอดีหมิวเตรียมพร๊อพที่ทาสีพาสเทลมา ทั้ง เอาหุ่นไม้ ไมโครโฟน สมุด กรรไกร ตามความชอบของหมิว และตามงานที่หมิวทำ เพราะหมิวทำงานด้านแฟชั่น ทำงานพิธีกร อะไรแบบนี้ ของที่หมิวเลือกมาก็เลยอยากให้ represent ตัวตนของหมิวด้วย หมิวเลยเลือกหาสี (ที่คิดว่า) ที่เหมาะกับสตู มานีมีใจ แบบว่าเลือกสีจากในหัวเลย ไม่ได้เอาสีไปเทียบ ลุ้นมากกกกก เกือบไม่รอด (สีที่หมิวใช้คือ สีอะคริลิกแบบหลอด มีขายที่ B2S ค่ะ ไปหาซื้อกันได้นะ ทาไม่ยาก ยิ่งถ้าเป็นวัสดุผ้า หรือไม้นี่ง่ายมาก แต่ถ้าเป็นพลาสติก็อาจจะต้องรอนานหน่อยเนาะ)
อะตัดกลับมาที่ฉากนี้ หมิวเลือกชุดสีชมพูมา เป็นเสื้อยืด กางเกงอารมณ์Jogger สีชมพูพีช และข้างในก็ใส่ Bodysuit ผ้าทูลบางๆ สีเนื้อ จะได้ดูมีอะไร
พอดีว่า ตอนนี้เป็นเวลาเช้า ยังไม่ 9 โมงดี แสงอาทิตย์ดูเป็นมิตรกับสตูนี้มากกกกกกก คือทุกทิศที่มีทางให้แสงเข้า แสงก็จะเล็ดลอด สอดส่อง สอดแนม สอดแทรก เข้ามาได้ หึ้มมมม เพิ่งรู้ว่า การมีแสงอาทิตย์ส่องเข้าบ้านมันดีอย่างนี้เอง!! มันทำให้รูปที่ออกมา มีความนัวๆ มัวๆ ดูเหมือนอยู่ในก้อนเมฆที่ลอยตัวอยู่เหนือภูเขาไฟฟูจิ อาาาห์ มานี จะคอยบอกตลอดว่า พี่หมิวๆๆ เอาตามาโดนแสง ย่อตัวลงๆ เออๆ เงยหน้านิดนึง โอเคๆ สวยๆๆ อาาาาาห์ รู้สึกดี…มีคนชมว่า สวย 555
แต่ชุดแรก มานีบอก ไม่ปัง…เอ่าทำไงอะ
อ่อ มานีมีออฟชั่น มานีไม่ได้มีหม้ออย่างเดียว มีตัวเลือกมาเสนอด้วย! นางวิ่งขึ้นไปหยิบ ชุดส่วนตัวมาให้เลือกค่ะ มีเสื้อยืดสีพีช เดรสเรียบๆสีพีชเหมือนกัน และเดรสบ๊าางงง บางงงง สีชมพูอ่อน กรุยกรายสุดๆ มาให้เลือก
อื่ม…หมิวตัดสินใจเลือกเดรสบ๊างงงงบางงงงค่ะ!! โตแล้ว โป๊ได้!! ผ่าง!! พอดีว่า บอดี้สูทที่เตรียมมา มันพอที่จะเข้ากับเดรสกรุยกรายแบบนี้ได้ เลยเอาวะ ลองดู สรุป โคตรดี!!!!! ชอบมากกกกกก มันจะมีกลิ่นอายเซ็กซี่ ผสมความหวาน แต่ก็มีความเกร๋รวมอยู่ด้วย เรียกว่า ใช่มาก ขอบคุณนะคะ คุณออมสุชา (อ่อ ลืมบอก ชุดนี้เป็นของ คุณออมสุชา นักแสดงที่เรารู้จักกันนี่แหละ ฮี่ ได้ยืมชุดใส่เฉย)
โอเค แล้วไงต่อ มานี ให้หมิวไปนอนพาดบนโซฟาค่ะ เอาขาไปทาง เอาหัวไปทาง เอาโทรศัพท์มาโทรหาผู้ชายซิ นอนค่ะ ทำตาเบิกโพลง เหมือนเพิ่งกินน้ำยาล้างห้องน้ำเป็ดมา (นางพูดแบบนี้จริงๆ) แต่พอเรานอน หน้ามันก้จะบวมใช่มะ นี่ก็แอบกลัว แต่มานี ใจดี งัดหน้าให้ ค่อยยังชั่ว คือ ดีใจที่เค้าเข้าใจความต้องการของผู้หญิงด้วยกันอะ ว่ารูปจะสวยแค่ไหน ถ้าหน้าไม่เรียว ไม่สวย ก็จบเด้ออ
ต่อกันที่เอาโซฟาออก มานีให้หมิวไปนอนกับพื้น เล่นกับน้องตุ๊กตา น้องกรรไกร น้องสมุด น้องด้าย และน้องไมค์ ทุกคนสีพีชหมดเลย เพราะทามาเองเมื่อคืนก่อน 55 จะบอกว่า สีแมชมาก!! มานีถึงกับขอซื้อต่ออะ ว่าไงล่าา อะต่อๆๆ หมิวไปนอนราบกับพื้นค่ะ นอนเล่นตุ๊กตา นั่งชันเข่า มองกล้องบ้าง ไม่มองบ้าง มานีก็ให้ฟีโน่ (คนนี้ตลก หมิวชอบ) ช่วยเลื่อนผ้าม่าน ถือรีเฟลก จับ ขยับชุดให้เรา ไม่ให้ผ้ามากองตรงพุง ให้ผมเข้าที่เข้าทาง ทำงานเป็นคนรู้ใจเว่อ ฉากนี้หมิวชอบมาก เพราะมานีเปลี่ยนเลนส์กล้องตามแสง ใส่ฟิลเตอร์กล้อง ให้มันนัวเบอร์สุด เห็นรูปแล้วแบบ ละลายเว่อออออ นี่เราสวยได้ขนาดนี้เลยเรอะะะะ 55555
ชุดแรก ผ่านไป เปลี่ยนชุด 2 ค่ะ แต่!!! ยังไม่เริ่มรีวิวฉากที่สอง จะรีวิวห้องเปลี่ยนชุดก่อน ที่จริงที่นี่ก็ไม่มีห้องเปลี่ยนชุดหรอก คือห้องไหนไม่มีคน ก็เข้าไปเปลี่ยนได้ ทีนี้ หมิวเข้าไปในห้องจิ๋ว ที่เป็นอีกฉากนึงที่เค้ามีไว้ถ่ายรูป ในห้อง หมิวเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในยุคของคุณยายอังกฤษ สมัยที่คุณยายยังสาว ในสมอง เหมือนได้กลิ่นความเก่า ความวินเทจ ผนังห้องเป็นวอลเปเปอร์ลายดอกไม้จิ๋วสารพัด มีเตียงเตี้ยๆ ที่ปูด้วยผ้ากำมะหยี่สีเขียวน้ำทะเล มีโต๊ะเครื่องแป้งที่มีอุปกรณ์ปุ้กปิ้ก แว่นตงแว่นตาสีฟ้า สีเหลือง สีชมพู กระเป๋าขนๆที่เอามาวางไว้เฉยๆ และหน้าต่างที่มีแสงรำไรเข้ามาอีกแล้ววว คือทุกอย่างดี!! ทุกอย่างดีมาก!!!
เข้าเรื่องหลักกันต่อ ชุดที่สอง หมิวเปลี่ยนเป็นชุดสีแดง!! ฮั่นแน่ สีแดง ต้องหลุดจากความพาสเทลแน่ๆ จะถ่ายสวยเร้อะะ เราก็แอบลุ้นนะ แต่สีนี้ เป็นสีที่มานี ส่งเรฟเฟอเร้นมาเลยค่ะ ดังนั้น มันต้องได้ดิ มานีพาหมิว ออกไปนอกบ้านค่ะ ไปถ่ายกันข้างๆบ้าน มันเป็นพื้นที่ที่สร้างมาเพื่อการนี้เว่อ เดินไป จะเจอกับถังน้ำมัน ทาสีต่างๆ ของหมิว มานีเลือกให้หมิวไปยืนบนถังสีเขียวน้ำทะเล และถือคัพเค้กสีแดง แปะไว้ที่ปาก สีสนุกป้ะล่า จากนั้นไม่พอจ่ะ ฟีโน่ ก้เกิดมโนภาพ พี่ๆๆๆ เอาหัวใจที่อยู่บนคัพเค้กไปแปะที่ลิ้นดิ เนี่ยเหมือนภาพในหัวเลย อะลองดู นางก็บรรเจิดเนอะ 55 เลยได้รูปประหลาดๆมาให้ชาวโลกได้ดูกันซะงั้น 555
ด้านนอกบ้าน ยังมีฉากที่ทาสีแดง สีฟ้า สีเขียว ให้เลือกใช้ มานีไม่กลัวค่ะ เอาฉากสีฟ้ามา ให้หมิวไปอยู่หน้าฉาก คิดว่าคนเห็นรูปน่าจะต้องมีหรี่ตา เพราะสีมันจัดเว่อ ไม่พอๆๆ มีการเอาพร้อพมาให้อี้กกก ขวดเกลือ ขวดซอสมะเขือเทศ หมิวก็เอาหนังสือสีแดงมารวมๆกัน ภาพมันก็จะมีความเล่าเรื่องละ ฮาา
สุดท้ายของชุดนี้ คือ การขึ้นบันไดหนีไฟไปยืนอยู่บนสุด เพื่อเก็บภาพความชิคสไตล์ Kiko (idol เราเอง) ส่องกล้องส่องทางไกลที่เป็นพร๊อพของสตู เราชอบโมเม้นนี้มาก
ไปต่อค่ะ กลับมาที่ในบ้าน และกลับมาที่ความฟรุ้งฟริ้ง เหมือนมานีจะรู้ว่า ชุดไหนสำคัญ ชุดไหนจะถ่ายเยอะ ชุดไหน จะถ่ายปกติ ชุดนี้ก็เรียกว่า ความสำคัญระดับกลาง แต่มีความมุ้งมิ้ง เอาแมวมาเป็นพร๊อพจ้าาา น้องแมว ชื่อว่า หวาน แต่นิสัยบ่หวานเด้อ แอบซนแบบนิ่งๆ จับเข้าฉากปุ้บ นิ่งได้แป้บบบเดียว แต่แมวตัวนี้ ดูเป็นลูกรักของมานี เราสัมผัสได้ ในฉาก มานี ฟีโน่ เอากระจกมาวาง หมิวเอาป้อกกี้สีชมพูมา เอาเค้กตลาดนัด (ก้อนละ 35 บาท อยู่นอกตู้เย็นก็ไม่ละลาย กินได้จริงๆใช่ป้ะ) มาวาง แถมด้วยไมค์ทาสีฟ้า ทีนี้ น้องแมวก็ยิ่งสนุกสิคะ เอามือจะมาเขียเค้กตลอดเวลาาา อะแต่ไม่เป็นไร พอดีแสงเข้า ก็ได้ไป 3-4 รูป เห็นรูปแล้ว จะบอกว่า ฟินมากกกก ดิฉันเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปตอนอายุ 14 ความมุ้งมุ้ง ใสๆ มันได้มากกกก
ชุดนี้ไปต่อกันที่ ห้องน้ำค่ะ เป็นห้องน้ำที่ อื่มม…ขอเรียกว่าได้อินสไปร์มาจาก Stylenanda กำแพงมีความทาสีชมพู กระเบื้องสีขาวสะอาด พอหมิวที่ใส่ชุดสีฟ้า กระโปรงน้ำเงินไปยืนปุ้บ ก็เด่นขึ้นมาเล้ยยยย สีชมพูขอให้นึกถึง Stylenanda ค่ะ แล้วจะนึกออก 555 จุดนี้ใช้เวลาไม่นาน หมิวแค่อยากได้สเปซ จะได้เอาไปใช้งานในเว็บไซต์ได้
ชุดถัดมา คือ สีเหลือง!! ทฤษฎีง่ายๆในการมาถ่ายที่สตูนี้ก็คือ ให้ชุดของเรา มีสีเดียว หรือเป็นสีใกล้เคียงกันทั้งตัว เพราะในการทำงานจริง มันจะง่ายกว่ามาก ง่ายกว่าที่ชุดเราเหย หลายสี เห็นแล้วงง หมิวคิดแบบนี้นะ และเวลาหาพร๊อพมาเอง ก็จะหาง่ายด้วย ดูตามสีเอา สบายใจ อะสีเหลือง มานีให้ไปยืนหน้ากำแพงสีเขียวน้ำทะเลจ้าา มัน ขึ้น กล้อง มากกกกกกกก เค้ารู้ได้ไงอะ ว่าสีไหนจะอยู่กับสีไหนดี หมิวเองก็พอจะรู้นะ แต่ไม่นึกว่ามันจะดีได้ขนาดนี้ กำแพงนี้ เป็นกำแพงหน้าห้องครัวจิ๋วๆ หมิวเลยไปยืนบนโซฟา เพื่อเก็บรูปเฉพาะกำแพงอย่างเดียว ไม่ต้องติดอย่างอื่น ไอเลิฟฟฟ และข้างๆกำแพง ก็คือประตูครัว สีเหลืองอ่อน พอหมิวไปยืน มันก็แสนนน จะเข้ากัน เหมือนตัวเองได้กลายร่างเป็นปิงซูข้าวเหนียวมะม่วงของ After You เป็นที่เรียบร้อย 5555
ต่อกันที่ข้างบ้านอีกแล้วค่ะ แต่ทีนี้เป็นอีกข้างนึง ข้างนี้จะเน้นงานกระเบี้อง มีตั้งแต่สีขาว สีพีช สีเขียวอ่อน และจบที่สีเหลือง เหลืองนี่มันเเหลืองจริงๆ เป็นเหลืองอมส้มนิสๆ แบบแสบตากำลังดี มีมุมที่มานีเลือกให้หมิวไปยืน คือมุมที่มีลายเพ้นคำว่า Summer ด้วยสีชมพูอยู่ จี๊ดดดดดจิงงงงงง หมิวชอบที่มานีคอยบอกให้หันหน้าไปทางไหน มุมไหนสวย ทำท่าไหนดี เค้ารู้ท่า และมีวิธีทำให้เราสนุกตลอดเวลา แฮปเป้!!!
...ว้ายย หมดโควต้าพิมพ์ เด๋วมาต่อนะคะะ...
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น