สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
ขอพิมพ์ยาวๆน่ะครับ
ผมเคยทำงานอยู่ในกลุ่มโรงงานที่ใหญ่อยู่ในระดับ Top 5 ที่เงินเดือนดีและสวัสดิการดีมาก
เพื่อนร่วมงานมาจากสถาบันดังๆ เกียรตินิยมเดินสวนกับให้ควั่ก
บรรยากาศการทำงานก็ทุกคนมีหน้าที่ชัดเจน แต่ด้วยความที่แต่ล่ะคนอยากจะก้าวหน้าในชีวิต จึงทำงานกันอย่างลืมตาย ถ้าใครไม่ตามก็จะกลายเป็นตัวถ่วงและถูกจัดอยู่ในพวก Loser ทำงานกันเลิกหัวค่ำถึงดึกทุกวัน แทบไม่เคยเห็นท้องฟ้าในช่วงโพล้เพล้ เลิกงานเดินออกมาก็มืดแล้ว วันไหนกลับบ้านเร็วนี่จะงงกับการขับรถในตอนเย็นที่จราจรคับคั่ง ทำอยู่ได้ 9 ปี ธุรกิจที่ทำก็เลิกไปเพราะเทคโนโลยีใหม่มาแทนที่ ตอนนั้นไม่ขอย้ายไปอีกโรง ขอออกไปหางานใหม่เองและรับเงินชดเชย เพราะรู้สึกว่าพอแล้วกับชีวิตแบบนี้ เพราะเป็นทั้งโรคเครียด กรดไหลย้อน นอนฝันเป็นงาน
มาที่ใหม่เงินเดือนลดลงมานิดนึงแต่ตำแหน่งใหญ่ขึ้น (จริงๆตำแหน่งใหญ่ขึ้นเงินควรจะมากขึ้น 555 ) เข้ามาแรกๆก็งงกับวัฒนธรรมใหม่ ที่นี่เค้าเลิกงานกัน 5 โมงเย็น วันนี้งานไม่เสร็จก็ทำต่อพรุ่งนี้ ผมก็รู้สึกว่า เฮ้ย แล้วแบบนี้มันจะไปแข่งขันกับชาวบ้านเค้าได้งัย รอวันเจ๊งล่ะมั้ง เพื่อนร่วมงานก็ไม่ได้เก่งอะไร บางคนผมก็ดูถูกว่าโง่แบบนี้ มาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ยังงัย ตอนนั้นคิดเลยว่าจะอยู่ที่นี่ไม่นาน แต่กลายเป็นว่า ยิ่งอยู่ไปเริ่มเห็นสิ่งที่ดีที่เราไม่เคยเห็น เช่น การทำงานเป็นทีม การเรียนรู้ไปด้วยกัน การเอื้อเฟื้อ การไม่เอากันให้ตาย การยอมรับความผิดพลาด ผมขึ้นตรงกับ Top management ซึ่งก็ไม่เคยถูกกดดันอะไร อยู่กันแบบครอบครัว นี่แป้บเดียวก็ผ่านมา 10 ปีแล้ว และ บริษัทก็เติบโตขึ้นทุกปี แบรนด์ของสินค้าก็เป็นอับดับ 1 ในญี่ปุ่น โบนัส 9 ปีหลังสุด ได้น้อยที่สุดคือ 4 เดือน เลิกงานมาก็เล่นฟิสเนส หาของกิน โรคกรดไหลย้อนก็หายไปปจากชีวิต เจ้านายเก่าเคยตามให้ไปทำงานด้วย ผมปฎิเสธแบบไม่ต้องคิดเลย 5555
จากประสบการณ์ผม บอกว่าได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกที่ทำงาน ถ้าให้ผมเรียงลำดับความสำคัญคือ 1.ตัวธุรกิจ 2.ความไว้วางใจที่ได้จากผู้บริหาร(หรือหัวหน้างาน)และโอกาสที่ได้แสดงฝีมือ ถ้า 1และ 2 ดี ตัวอื่นๆมันจะตามมาเองครับ
ผมเคยทำงานอยู่ในกลุ่มโรงงานที่ใหญ่อยู่ในระดับ Top 5 ที่เงินเดือนดีและสวัสดิการดีมาก
เพื่อนร่วมงานมาจากสถาบันดังๆ เกียรตินิยมเดินสวนกับให้ควั่ก
บรรยากาศการทำงานก็ทุกคนมีหน้าที่ชัดเจน แต่ด้วยความที่แต่ล่ะคนอยากจะก้าวหน้าในชีวิต จึงทำงานกันอย่างลืมตาย ถ้าใครไม่ตามก็จะกลายเป็นตัวถ่วงและถูกจัดอยู่ในพวก Loser ทำงานกันเลิกหัวค่ำถึงดึกทุกวัน แทบไม่เคยเห็นท้องฟ้าในช่วงโพล้เพล้ เลิกงานเดินออกมาก็มืดแล้ว วันไหนกลับบ้านเร็วนี่จะงงกับการขับรถในตอนเย็นที่จราจรคับคั่ง ทำอยู่ได้ 9 ปี ธุรกิจที่ทำก็เลิกไปเพราะเทคโนโลยีใหม่มาแทนที่ ตอนนั้นไม่ขอย้ายไปอีกโรง ขอออกไปหางานใหม่เองและรับเงินชดเชย เพราะรู้สึกว่าพอแล้วกับชีวิตแบบนี้ เพราะเป็นทั้งโรคเครียด กรดไหลย้อน นอนฝันเป็นงาน
มาที่ใหม่เงินเดือนลดลงมานิดนึงแต่ตำแหน่งใหญ่ขึ้น (จริงๆตำแหน่งใหญ่ขึ้นเงินควรจะมากขึ้น 555 ) เข้ามาแรกๆก็งงกับวัฒนธรรมใหม่ ที่นี่เค้าเลิกงานกัน 5 โมงเย็น วันนี้งานไม่เสร็จก็ทำต่อพรุ่งนี้ ผมก็รู้สึกว่า เฮ้ย แล้วแบบนี้มันจะไปแข่งขันกับชาวบ้านเค้าได้งัย รอวันเจ๊งล่ะมั้ง เพื่อนร่วมงานก็ไม่ได้เก่งอะไร บางคนผมก็ดูถูกว่าโง่แบบนี้ มาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ยังงัย ตอนนั้นคิดเลยว่าจะอยู่ที่นี่ไม่นาน แต่กลายเป็นว่า ยิ่งอยู่ไปเริ่มเห็นสิ่งที่ดีที่เราไม่เคยเห็น เช่น การทำงานเป็นทีม การเรียนรู้ไปด้วยกัน การเอื้อเฟื้อ การไม่เอากันให้ตาย การยอมรับความผิดพลาด ผมขึ้นตรงกับ Top management ซึ่งก็ไม่เคยถูกกดดันอะไร อยู่กันแบบครอบครัว นี่แป้บเดียวก็ผ่านมา 10 ปีแล้ว และ บริษัทก็เติบโตขึ้นทุกปี แบรนด์ของสินค้าก็เป็นอับดับ 1 ในญี่ปุ่น โบนัส 9 ปีหลังสุด ได้น้อยที่สุดคือ 4 เดือน เลิกงานมาก็เล่นฟิสเนส หาของกิน โรคกรดไหลย้อนก็หายไปปจากชีวิต เจ้านายเก่าเคยตามให้ไปทำงานด้วย ผมปฎิเสธแบบไม่ต้องคิดเลย 5555
จากประสบการณ์ผม บอกว่าได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกที่ทำงาน ถ้าให้ผมเรียงลำดับความสำคัญคือ 1.ตัวธุรกิจ 2.ความไว้วางใจที่ได้จากผู้บริหาร(หรือหัวหน้างาน)และโอกาสที่ได้แสดงฝีมือ ถ้า 1และ 2 ดี ตัวอื่นๆมันจะตามมาเองครับ
แสดงความคิดเห็น
ถ้าว่ากันตรงๆ ระหว่างเงินเดือนเยอะ กับ สังคมที่ทำงานดี เลือกแบบไหนกันครับ