จะเหล้า เอ๊ย จะเล่าแบบหล่อ ๆ ให้ฟังครับ
แดงราชดำเนิน เมื่อก่อนไม่มีกลุ่ม ไม่มีพวก ไม่มีฝ่าย
ล้วนคือแดงเดียวกัน
การมีทติ้ง จะตั้งกระทู้เชิญชวนทางหน้าบอร์ด มีผู้ประสานงานทางหลังไมค์
นัดสถานที่ เวลา จำนวนเพื่อนสมาชิกที่เข้าร่วม
การทำกิจกรรมใด ๆ จะประกาศเชิญชวนร่วมกันสละทรัพย์ สละแรง หน้าบอร์ด
ทุกคนมีส่วนร่วม ทุกคนเท่าเทียมกัน ร่วมมือเชื่อมใจกัน ไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การเถียงกับสลิ่ม ก็จะแบบ หนัก หรือ เบา ก็เป็นเรื่องการเมือง เป็นเรื่องในบอร์ด
ไม่มีการลากเรื่องนอกบอร์ดมาอวดเบ่ง ไม่มีการเอาเรื่องในบอร์ดออกไปท้าทายเจอกันข้างนอก
ด่ากัน เถียงกัน จบในบอร์ด จบเรื่อง วันใหม่ เรื่องใหม่ เถียงกันใหม่
ไม่เหมือนหลังจาก "ตัวบรรลัย" เข้ามาในบอร์ด
ที่มาปั๊บ ก็ลากเรื่องนอกบอร์ดเข้าในบอร์ด เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองน่าเชื่อถือ
ลากเรื่องเถียงกับสลิ่มออกไปนอกบอร์ด จนเจอดี หางจุกตูด
ในวงสนทนาบนโต๊ะกินข้าวครั้งหนึ่ง จำนวน 4-5 คน
มีปู่อภิวัฒน์เป็นต้นคิด ว่าน่าจะมีการจัดมีทติ้งแบบใหญ่ ๆ ให้เพื่อนสมาชิกได้พบปะรู้จักกันทางนอกบอร์ดบ้าง
ก็มีผู้รับหน้าที่ประสานงาน ดำเนินการไปเรื่อย ๆ
มาถึงการมีทติ้งอีกครั้ง (ยังไม่ใช่ครั้งใหญ่ที่ปู่อภิวัฒน์อยากให้จัด) ที่สามเสนวิลล่า
ก็มีการปรึกษาหารือกันว่า น่าจะมีการตั้งชื่อการมีทติ้งใหญ่ที่จะจัดขึ้นเพื่อเพิ่มสีสันบรรยากาศ
มีการเสนอชื่อหลายชื่อ
จนสุดท้าย มีมติเลือกชื่อ "
รวมพลคนนอกกะลา" เป็นชื่องานมีทติ้งเสื้อแดงราชดำเนิน
ผู้เป็นเจ้าของไอเดียชื่อ "รวมพลคนนอกกะลา" ก็คือ "ตุ้ม แมคคาร์ทนีย์" หรือ จ่าพิเชษฐ์ นั่นเอง
เมื่อมีมติอย่างนั้น ก็ไม่ได้ถือวิสาสะใช้ชื่อนั้นเลยทันที
มีการตั้งกระทู้โหวตในราชดำเนิน เพื่อถามความเห็นเพื่อนสมาชิกโดยรวมว่าจะมีความเห็นอย่างไร
ผลก็คือ
นี่แหละที่มาของคำว่า คนนอกกะลา
แต่เชื่อไหมครับ มีเทวาดตนหนึ่ง โม้คับยุทธภพ
ว่าตัวมันนี่แหละ เป็นคนตั้งกลุ่มคนนอกกะลา
เอากะมันสิ
ทั้งที่มันมาทีหลัง ทีหลังแบบคนละปี ทีหลังแบบล่าสุด ไม่มีส่วนร่วมใด ๆ มาก่อนเลย
เทวดาตนใด คงไม่ต้องบอก ผมเชื่อว่าเพื่อนสมาชิกรู้ดี
เมื่อเทวดาเข้ามาร่วมด้วย ก็เกิดปรากฎการณ์ "ครอบ" กันกระเจิง
คนนอกกะลาที่เป็นแดงราชดำเนินทั้งมวลอยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นกลุ่มไฮโซกลุ่มหนึ่งภายใต้การนำของเทวดาขึ้นมาทันที
แต่ไม่นาน ครอบก็แตกละเอียด เพราะดีไม่แท้ ไส้โผล่
(เรื่องน่าจะจบ หากหันหลังให้กันแล้วทางใครทางมัน แต่ไม่จบเพราะมีการพูดจาให้คนอื่นเสียหาย เอาดีใส่ตัว โม้ทุกเรื่อง
ไม่แค่คำพูด แต่รวมทั้งทางโทรศัพท์ด้วย โทรไปหาคนนั้นคนนี้ สร้างเรื่องโกหกใส่ร้ายคนอื่นไปทั่ว ปัญหามันก็เกิด)
เมื่อครอบแตก ก็หาที่ครอบใหม่ แล้วก็ได้สมใจ
ครอบที่ไหนก็ไม่ต้องสาธบาย เห็น ๆ กันอยู่
แดงราชดำเนินหลายสิบยังเคลิ้ม ประสาอะไรกับคนหย่อมหนึ่ง
แดงราชดำเนิน จากแดงแผ่นเดียวกัน ก็กลายเป็นแดงหลงทาง
แบ่งพวก แบ่งฝ่าย พวกเอ็ง พวกข้า ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย
ลองทบทวนดูนะครับ
ว่าสาเหตุจากอะไร ทำไม ยังไง
ความขัดแย้ง แบ่งพวก แบ่งฝ่าย ของ "แดงราชดำเนิน"
ผมกล้าบอกเลยว่า เพราะ "ตัวบรรลัย" ตัวเดียว ที่เชี่ยวชาญในการวางมาดสร้างความน่าเชื่อถือ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว
สร้างความขัดแย้ง เพื่อเปิดช่องให้ตัวเองมีที่ยืน มีความสำคัญ ได้บทเด่นบทนำ เนียนทำใสซื่อไร้พิษสง มาดทรงคนดีมีน้ำใจ
ใครที่รู้ไม่ทัน ก็โดนจูงต่อไป
โดนชม โดนเชียร์ โดนหลอกใช้เป็นเครื่องมือต่อไป
ใครที่ไม่คิดอะไร ก็จะได้เจอความอ่อนโยน เจอลีลาแสดงความจริงใจ ก็เกิดความประทับใจ
หันไปเป็นพวกเอาง่าย ๆ ไม่รู้ตัวว่า โดนหลอกเข้ากลุ่มเพื่อเป็นฐานยืนให้ "ตัวบรรลัย" เรียบร้อย
เล่ห์ที่เห็นบ่อย ก็คือ การทำเป็นผู้มีอุดมการณ์ สร้างความสุดโต่ง
ไม่เอาสลิ่ม ไม่คบสลิ่ม สร้างความน่านับถือให้แดงที่รู้ไม่ทัน หันเข้าเป็นพวกทันที
คนจริงใจ ไม่พยายามสร้าง "แบรนด์" ให้ตัวเองหรอกครับ
คนอย่าง บก.ลายจุด จ่านิว คณะนิติราษฎร์ ฯลฯ ล้วนเป็น "แบรนด์" ธรรมชาติ
ที่เกิดจากแนวคิด การกระทำ ที่สังคมยอมรับโดยไม่มีการโฆษณาชวนเชื่อ ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งดีให้คนยอมรับ
ไม่เห็นจ่านิวควักเงินทำนั่นทำนี่เพื่อเอาหน้าสักบาท จ่านิวยังเป็นแบรนด์ทางการเมืองได้
ใครคือตัวปัญหา ? ใครสร้างความขัดแย้งแตกแยก ? ใครทำร้ายทำลายแดงราชดำเนิน ?
คิดต่อเอาเองครับ
หล่อเมื่อยแระ ปวดนิ้ว
จบ
เรื่องของ "เสื้อแดงราชดำเนิน" ที่หากใครไม่สังเกต ไม่รู้เรื่อง จะไม่เข้าใจว่า แตกเป็นพวก เป็นฝ่ายได้อย่างไร
แดงราชดำเนิน เมื่อก่อนไม่มีกลุ่ม ไม่มีพวก ไม่มีฝ่าย
ล้วนคือแดงเดียวกัน
การมีทติ้ง จะตั้งกระทู้เชิญชวนทางหน้าบอร์ด มีผู้ประสานงานทางหลังไมค์
นัดสถานที่ เวลา จำนวนเพื่อนสมาชิกที่เข้าร่วม
การทำกิจกรรมใด ๆ จะประกาศเชิญชวนร่วมกันสละทรัพย์ สละแรง หน้าบอร์ด
ทุกคนมีส่วนร่วม ทุกคนเท่าเทียมกัน ร่วมมือเชื่อมใจกัน ไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในวงสนทนาบนโต๊ะกินข้าวครั้งหนึ่ง จำนวน 4-5 คน
มีปู่อภิวัฒน์เป็นต้นคิด ว่าน่าจะมีการจัดมีทติ้งแบบใหญ่ ๆ ให้เพื่อนสมาชิกได้พบปะรู้จักกันทางนอกบอร์ดบ้าง
ก็มีผู้รับหน้าที่ประสานงาน ดำเนินการไปเรื่อย ๆ
มาถึงการมีทติ้งอีกครั้ง (ยังไม่ใช่ครั้งใหญ่ที่ปู่อภิวัฒน์อยากให้จัด) ที่สามเสนวิลล่า
ก็มีการปรึกษาหารือกันว่า น่าจะมีการตั้งชื่อการมีทติ้งใหญ่ที่จะจัดขึ้นเพื่อเพิ่มสีสันบรรยากาศ
มีการเสนอชื่อหลายชื่อ
จนสุดท้าย มีมติเลือกชื่อ "รวมพลคนนอกกะลา" เป็นชื่องานมีทติ้งเสื้อแดงราชดำเนิน
ผู้เป็นเจ้าของไอเดียชื่อ "รวมพลคนนอกกะลา" ก็คือ "ตุ้ม แมคคาร์ทนีย์" หรือ จ่าพิเชษฐ์ นั่นเอง
เมื่อมีมติอย่างนั้น ก็ไม่ได้ถือวิสาสะใช้ชื่อนั้นเลยทันที
มีการตั้งกระทู้โหวตในราชดำเนิน เพื่อถามความเห็นเพื่อนสมาชิกโดยรวมว่าจะมีความเห็นอย่างไร
ผลก็คือ
นี่แหละที่มาของคำว่า คนนอกกะลา
แต่เชื่อไหมครับ มีเทวาดตนหนึ่ง โม้คับยุทธภพ
ว่าตัวมันนี่แหละ เป็นคนตั้งกลุ่มคนนอกกะลา
เอากะมันสิ
ทั้งที่มันมาทีหลัง ทีหลังแบบคนละปี ทีหลังแบบล่าสุด ไม่มีส่วนร่วมใด ๆ มาก่อนเลย
เทวดาตนใด คงไม่ต้องบอก ผมเชื่อว่าเพื่อนสมาชิกรู้ดี
เมื่อเทวดาเข้ามาร่วมด้วย ก็เกิดปรากฎการณ์ "ครอบ" กันกระเจิง
คนนอกกะลาที่เป็นแดงราชดำเนินทั้งมวลอยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นกลุ่มไฮโซกลุ่มหนึ่งภายใต้การนำของเทวดาขึ้นมาทันที
แต่ไม่นาน ครอบก็แตกละเอียด เพราะดีไม่แท้ ไส้โผล่
(เรื่องน่าจะจบ หากหันหลังให้กันแล้วทางใครทางมัน แต่ไม่จบเพราะมีการพูดจาให้คนอื่นเสียหาย เอาดีใส่ตัว โม้ทุกเรื่อง
ไม่แค่คำพูด แต่รวมทั้งทางโทรศัพท์ด้วย โทรไปหาคนนั้นคนนี้ สร้างเรื่องโกหกใส่ร้ายคนอื่นไปทั่ว ปัญหามันก็เกิด)
เมื่อครอบแตก ก็หาที่ครอบใหม่ แล้วก็ได้สมใจ
ครอบที่ไหนก็ไม่ต้องสาธบาย เห็น ๆ กันอยู่
แดงราชดำเนินหลายสิบยังเคลิ้ม ประสาอะไรกับคนหย่อมหนึ่ง
แดงราชดำเนิน จากแดงแผ่นเดียวกัน ก็กลายเป็นแดงหลงทาง
แบ่งพวก แบ่งฝ่าย พวกเอ็ง พวกข้า ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย
ลองทบทวนดูนะครับ
ว่าสาเหตุจากอะไร ทำไม ยังไง
ความขัดแย้ง แบ่งพวก แบ่งฝ่าย ของ "แดงราชดำเนิน"
ผมกล้าบอกเลยว่า เพราะ "ตัวบรรลัย" ตัวเดียว ที่เชี่ยวชาญในการวางมาดสร้างความน่าเชื่อถือ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว
สร้างความขัดแย้ง เพื่อเปิดช่องให้ตัวเองมีที่ยืน มีความสำคัญ ได้บทเด่นบทนำ เนียนทำใสซื่อไร้พิษสง มาดทรงคนดีมีน้ำใจ
ใครที่รู้ไม่ทัน ก็โดนจูงต่อไป
โดนชม โดนเชียร์ โดนหลอกใช้เป็นเครื่องมือต่อไป
ใครที่ไม่คิดอะไร ก็จะได้เจอความอ่อนโยน เจอลีลาแสดงความจริงใจ ก็เกิดความประทับใจ
หันไปเป็นพวกเอาง่าย ๆ ไม่รู้ตัวว่า โดนหลอกเข้ากลุ่มเพื่อเป็นฐานยืนให้ "ตัวบรรลัย" เรียบร้อย
เล่ห์ที่เห็นบ่อย ก็คือ การทำเป็นผู้มีอุดมการณ์ สร้างความสุดโต่ง
ไม่เอาสลิ่ม ไม่คบสลิ่ม สร้างความน่านับถือให้แดงที่รู้ไม่ทัน หันเข้าเป็นพวกทันที
คนจริงใจ ไม่พยายามสร้าง "แบรนด์" ให้ตัวเองหรอกครับ
คนอย่าง บก.ลายจุด จ่านิว คณะนิติราษฎร์ ฯลฯ ล้วนเป็น "แบรนด์" ธรรมชาติ
ที่เกิดจากแนวคิด การกระทำ ที่สังคมยอมรับโดยไม่มีการโฆษณาชวนเชื่อ ไม่ต้องเสแสร้งแกล้งดีให้คนยอมรับ
ไม่เห็นจ่านิวควักเงินทำนั่นทำนี่เพื่อเอาหน้าสักบาท จ่านิวยังเป็นแบรนด์ทางการเมืองได้
ใครคือตัวปัญหา ? ใครสร้างความขัดแย้งแตกแยก ? ใครทำร้ายทำลายแดงราชดำเนิน ?
คิดต่อเอาเองครับ
หล่อเมื่อยแระ ปวดนิ้ว
จบ