ฤดูกาล 17/18 ครึ่งทางผ่านไป คิดว่าใครคือยอดโค้ชในถิ่นยุโรปประจำครึ่งแรกครับ

Premier League
- เป๊ป กวาร์ดิโอลา (Manchester City) จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก / แชมป์กลุ่ม UCL / ไร้พ่ายครึ่งแรก 17/18
จากชายผู้ล้มเหลวในปีแรกที่เข้ามาคุมเรือใบสีฟ้า เป็นเหตุให้ปีต่อมาเขาเปิดอัลติเมททำลายทุกสถิติที่มีใน EPL อย่างมากมาย
และยังไม่มีทีมใดในครึ่งฤดูกาลแรกสามารถล้มเขาได้เลย เรื่องรูปแบบการเล่นคงไม่ถูกกล่าวถึงมากเท่ากับ
"ยังมีสถิติใดบ้างที่โล้นจิบน้ำคนนี้จะสามารถทำลายได้อีก"

- โชเซ่ มูรินโญ่ (Manchester United) รองจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก / แชมป์กลุ่ม UCL
แม้ว่ารูปแบบการเล่นของเขาจะถูกวิพากษ์วิจารณ์มากมาย แต่ผลงานของ "เดอะสเปเชียล วัน" คนนี้ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
แม้ว่าจะตามหลังคู่อริอยู่มากโขจนแฟน ๆ บางท่านอาจต้องถอดใจยกแชมป์ให้ แต่ในเวทียุโรปชายคนนี้ก็ยังคงเป็นคนที่แฟนผียังคงไว้ใจอยู่เสมอ

- เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ (Tottenham Hotspur) อันดับ 5 พรีเมียร์ลีก / แชมป์กลุ่ม UCL
แม้ว่าผลงานในลีกจะดูดรอปลงไปบ้าง แต่ในเวทียุโรปทีมไก่เดือยทองกลับทำผลงานได้อย่างมหัศจรรย์
แม้ว่าทีมไก่เดือยทองจะต้องร่วมกลุ่มกับบิ๊กทีมอย่าง เรอัล มาดริด และดอร์ทมุนด์ จนหลาย ๆ คนคิดว่าไก่เดือยทองคงตกรอบเหมือนเคย
แต่ทว่าเฮ้ดโค้ช โปเช็ตติโน่ กลับพาลูกทีมโชว์ฟอร์มอันร้อนแรงคว้าชัยไปถึง 5 นัด และเสมอ 1 นัด โดยไม่แพ้ใคร

La Liga
- เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด (Barcelona) จ่าฝูงลาลีก้า / แชมป์กลุ่ม UCL / ไร้พ่ายครึ่งแรก 17/18
มีการตั้งคำถามเกิดขึ้นในช่วงแรกว่า บัลเบร์เด้ คนนี้จะสามารถรักษาระดับของทีมต่างดาวนี้ไว้ได้หรือไม่
หลายคนถึงขั้นเคยบอกว่าทีมต่างดาวกำลังจะเข้าสู่ยุคมืดหลังจากนี้ แต่ทว่าสายเลือดต่างดาวคนนี้
กลับแสดงยีนส์ต่างดาวให้เห็น ด้วยการพาทีมต่างดาวเดินเครื่องเก็บชัยชนะแบบไร้พ่ายในครึ่งแรกทั้งในลีกและเวทียุโรป

- ซีเนอดีน ซีดาน (Real Madrid) อันดับ 4 ลาลีก้า / รองแชมป์กลุ่ม UCL
นี่อาจจะเป็นฤดูกาลที่ไม่ค่อยดีนักสำหรับ ราชัน ชุดขาว เพราะผลงานของโค้ชสมองใสรายนี้กลับดิ่งลงราวกับหุ้นตก
ปล่อยให้ผลงานฤดูกาลก่อนติดดอยอยู่อย่างนั้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังพาทีมเข้าไปในรอบ 16 ทีมบนเวทียุโรปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
แฟน ๆ คงต้องลุ้นกันเหนื่อยว่าหลังปีใหม่ โค้ชสมองใสแดนน้ำหอมรายนี้จะพาทีมกลับเข้าป้ายที่ 2 ในลีก หรือจะมีถ้วยติดไม้ติดมือหรือไม่

- เอดูอาร์โด้ เบริซโซ่ (Sevilla) อันดับ 5 ลาลีก้า / รองแชมป์กลุ่ม UCL (เด้งแล้ว)
แม้ว่าจะพึ่งมารับไม้ต่อจากซามเปาลีที่ทำผลงานพาทีมเข้าป้ายที่ 4 ในฤดูกาลที่แล้ว แต่โค้ชชาวอาร์เจนไตน์คนนี้
กลับทำผลงานในลีกได้ค่อนข้างแย่กว่ารุ่นพี่ ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการลงไปอยู่กลาง-ท้ายตาราง แต่ในเวทียุโรปก็ยังพอถูไถ
พาทีมเข้าสู่รอบ 16 ทีมได้ แต่อย่างไรก็ดีบอร์ดบริหารของเซบีญ่าก็จำเป็นต้องเด้งเขา หลังจากที่เขาพึ่งกลับมาจากการผ่าตัดมะเร็งต่อมลูกหมาก

Bundesliga
- จุ๊ปป์ ไฮย์เกส (Bayern Munich) จ่าฝูงบุนเดสลีก้า / รองแชมป์กลุ่ม UCL
หลังจากบอร์ดเด้งฟ้าผ่าน้าแจ้ อันเชล็อตติ เมื่อช่วงต้นฤดูกาลเพื่อสังเวยฟอร์มห่วย สุดยอดคุณปู่ก็กลับมารับงานขี่หลังเสืออีกครั้ง
และหลังจากนั้นเองพี่เสือแห่งเมืองเบียร์ก็กลับมาดุอีกครั้ง จนพาทีมกอดคอเข้ารอบกับ PSG และกลับมาเข้าสู่ตำแหน่งแชมป์ลีกอีกครั้งหนึ่ง

- โดเมนิโก้ เตเดสโก้ (Schalke 04) รองจ่าฝูงบุนเดสลีก้า
โค้ชวัย 31 ปีคนนี้ เข้ามาคุมทีมชุดใหญ่ครั้งแรกก็พาทีมราชันน้ำเงินเข้าป้ายที่ 2 ในครึ่งแรกตามหลังฝูงอยู่ 11 แต้ม
แม้ว่าหนทางที่จะพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสแซงพี่เสือจะริบหรี่ชนิดแสงสุดท้ายก็มิอาจเห็นได้ในฤดูกาลนี้
แต่แฟน ๆ ก็ยังได้ลุ้นว่าโค้ชหนุ่มคนนี้จะพาทีมกลับไปเล่นในเวทียุโรปได้อีกหรือไม่

- ไฮโค แฮร์ลิช (Bayer 04 Leverkusen) อันดับ 4 บุนเดสลีก้า
หลังจากทีมตกไปอยู่ที่ 12 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แฮร์ลิช ก็ได้เข้ามาคุมทีมและพาห้างยาเข้าป้ายที่ 4
และยังมีลุ้นพาทีมเข้าชิงตั๋วไปเล่นบนเวทียุโรปอีกด้วย

Serie A
- เมาริซิโอ ซาร์รี่ (Napoli) จ่าฝูงเซเรีย อา
โค้ชเกมบุกรายนี้ พาทีมทำผลงานได้อย่างสุดยอดด้วยการพาทีมติดลมบนจนหนาวเหน็บขึ้นจ่าฝูงในครึ่งแรก แต่ก็ยังอุ่นใจไม่ได้
เพราะทิ้งห่างอดีตสัมปทานแชมป์อย่างยูเวนตุสเพียง 1 คะแนนเท่านั้น ส่วนเวทียุโรปก็ตกรอบลงไปเล่นถ้วยเล็กหลังพลาดท่า
ไม่สามารถคว้าชัยไล่ชัคตาร์ได้ในที่สุด

- มัสซีมีเลียโน อัลเลกรี (Juventus) รองจ่าฝูงเซเรีย อา / รองแชมป์กลุ่ม UCL
อัลเลกรี พาทีมติดเครื่องช้าไปนิดแต่ก็ยังกลับมารองฝูงได้ตามหลังนาโปลีเพียง 1 คะแนนเท่านั้น และเข้าไปเล่นรอบ 16 ทีมต่อ
ตามมาตรฐานของทีมม้าลายไฮสปีดทีมนี้

- ลูเซียโน่ สปัลเลตติ (Internazionale) อันดับ 3 เซเรีย อา
เมื่อฤดูกาลที่แล้วเขาพาทีมโรม่าเข้าป้ายรองแชมป์ของลีกอิตาลี และในฤดูกาลนี้เขาก็กลับมาพางูใหญ่อดีตบิ๊กทีมยุโรป
เข้าป้ายที่ 3 ด้วยผลงานที่เรียกได้ว่า น่าจะเข้าใกล้แชมป์มากที่สุดในรอบหลายปี หลังจากหลับไหลไปนาน
แถมยังมีโอกาสได้กลับไปโชว์ความยิ่งใหญ่ในเวทียุโรปในฤดูกาลถัดไปอีกด้วย

- ดิ ฟรานเชสโก้ (Roma) อันดับ 4 เซเรีย อา / แชมป์กลุ่ม UCL
ตำนานโรม่า กลับสู่ถิ่นเก่าครั้งนี้ด้วยการเป็นหัวหน้าโค้ช และพาทีมทำผลงานได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ และน่ามหัศจรรย์
ด้วยการพาทีมคว่ำแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกอย่าง เขลซี ของคอนเต้ และจบด้วยการเป็นผู้นำของกลุ่ม
แถมในลีกเองก็ยังมีโอกาสต่อสู้เพื่อแชมป์ด้วยเช่นกัน

Ligue 1 (France)
- อูไนย์ เอเมรี (PSG) จ่าฝูงลีกเอิง / แชมป์กลุ่ม UCL
ฤดูกาลนี้ เอเมรี่ ได้อาวุธหนักมาอย่าง เนย์มาร์ & เอ็มบับเป้ ส่งผลให้ทีมสามารถเป็นแชมป์ลีกได้อย่างแบบอ
ซ้ำยังเป็นตัวเต็งในถ้วยหูใหญ่บนเวทียุโรปอีกด้วย เรียกได้ว่าถ้าไม่ดวงแตกอาวุธหนักขึ้นสนิมคงมีสิทธิ์ได้ลุ้นถ้วยหูใหญ่กับเขาสักที

- เลโอนาโด้ ยาร์ดิม (Monaco) รองจ่าฝูงลีกเอิง
แม้ว่าทีมจะเสียผู้เล่นหลัก ๆ ไป แต่อดีตแชมป์ลีกเอิงยังคงไว้ลาย ครองรองฝูงได้ในครึ่งแรก
แต่ในครึ่งหลังยังคงต้องลุ้นหนักอยู่ดี ว่าอดีตแชมป์จะยังรักษาตั๋วเวทียุโรปได้หรือไม่

- บูรโน่ เจเนซิโอ (Lyon) อันดับ 3 ลีกเอิง
เมื่อฤดูกาลที่แล้วเขาพาทีมจบที่ 4 และในฤดูกาลนี้เขาก็ยังคงรักษามาตรฐานเดิมไว้ได้ และยังคงมีลุ้นถ้วยใบเล็กในยุโรปอีกด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่