.....เมื่อตอนเริ่มต้นสร้าง bitcoin ในเดือนมีนาคม ปี 2010 เขาขาย 10,000 หน่วย ราคาแค่ $ 50 ดอลฯ ( ราคา หน่วยละ $ 0.005 ) ก็ไม่มีใครซื้อสักคน...ต่อมา ราคาลดลงเหลือหน่วยละ $ 0.003 ต่ำสุด....ตอนนั้น ถ้าใครลงทุนแค่ $ 100 ลงทุนซื้อหน่วยละ $ 0.003 ก็จะได้มาถึง 33,333 หน่วย ซึ่งราคาวันนี้ หน่วยละ 16,000 ....นั่นคือ จะมีมูลค่า $ 533 ล้านดอลล่าร์แล้ว ยิ่งกว่าถูกล๊อตโต้ซะอีก ....เงินแค่ $ 100 ดอลล่าร์ ผ่านไป 7 ปี กลายเป็น $ 533 ล้านดอลล่าร์..
.....จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สร้างเงิน Cryptocurrency หลายร้อยชนิดแล้ว คงคิดจะแย่งตำแหน่งของ Bitcoin,...เมืองไทยมีสักชนิดหรือยัง
รออะไรอยู่ ??
.....ถ้าทำได้ ก็รีบลงทุนใน cryptocurrency ด่วนกำลังจะบูมยิ่งกว่าหุ้น IT เมื่อ 18 ปีก่อน
.....แต่ดูเหมือนเมืองไทยยังไม่ยอมรับ bitcoin หรือ พวก cryptocurrency อื่นๆทั้งหลาย .. ใช่ไหม?
.....มีแต่ประเทศสิงคโปร์ประเทศเดียวในเอเซีย ที่มีการอนุญาตให้เปิดพอร์ตให้ลงทุนใน cryptocurrency ได้
.....ว่าตามจริง เงินคริ๊ปโต้พวกนี้ มันไม่ใช่เงินคือไม่ใช่ currency แต่มันเป็นทรัพย์สิน (assets) ต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจน และมันก็ไม่มี intrinsic value ที่แท้จริง ไม่มีรากฐานการแบ๊คอั๊พแบบเงินธรรมดาที่เราใช้ๆกันทุกๆวันทั่วโลก ... รากฐานที่แท้จริงที่เป็นมูลค่าของเิงนคริ๊ปโต้ คือ
ความเชื่อถือเชื่อมั่นเท็คโนโลยี่ blockchain นี่แหละคือมูลค่าของเงินคริ๊ปโต้พวกนี้ ราคาของมัน จึงไม่มีเพดาน อาจจะพุ่งขึ้นไปได้เรื่อยๆๆ คาดกันว่า ในไม่นานนี้ ราคาของ bitcoin อาจจะพุ่งไปถึงหน่วยละล้านดอลล่าร ...แต่ถ้าเมื่อใด เท็คโนโลยี่ blockchain ถูกทำลายได้ หรือ ถูกแฮ๊กได้...เมื่อนั้นเงินคริ๊ปโต้พวกนี้ จะมีมูลค่าเป็น 0 ทันที
.....แต่ว่า การที่ใครจะแฮ๊ก เท็คโนโลยี่ blockchain แทบเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย หรืออาจจะพูดว่า ด้วยเท็คโนโลยี่ในยุคนี้ ยังไม่มีใครจะทำลายหรือแฮ๊กระบบ เท็คโนโลยี่ blockchain ได้...นอกจาก ในอนาคต ถ้ามีการสร้าง quantum computer ได้สำเร็จ ตอนนั้นจึงอาจจะสามารถแฮ๊กหรือทำลายระบบ เท็คโนโลยี่ blockchain ได้ ..แต่ก็คงไม่ง่ายนัก ...
.....แต่ละบล๊อค จะมี key และ key ของบล๊อคแต่ละบล๊อค ใช้หน่วยบิทถึง 256 หลัก คือ 010100011110000......-> เรียงกันแบบ random แบบยังไงก็ได้ ด้วยจำนวนบิท 256 หลัก ใครจะแฮ๊กให้ได้แค่บล๊อคเดียว อาจจะต้องใช้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์หลายพันเครื่อง ทำงานพร้อมๆกันหลายปี ....แต่เนื่องจากมันมีบล็อคจำนวนนับไม่ถ้วนเกี่ยวโยงเข้าด้วยกัน(จึงเรียกว่า blckchain ไงละ) ..
ดังนั้น ถ้าใครจะแฮ็ก ก็ต้องแฮ็กพร้อมๆกันทั้งระบบ ในเวลาเดียวกัน จึงจะทำลายหรือล้วงข้อมูลได้ ... นั่นคือ ไม่อาจจะเป็นไปได้เลย สำหรับความรู้ความสามารถของเท็คโนโลยี่ในยุคนี้หรือในยุคใกล้ๆในอนาคต .... ความเชื่อมั่นในเท็คโนโลยี่บล็อคเชน จึงสูงสุดเต็มที่ ราคาของเงินคริ๊ปโต้ จึงไม่มีขีดจำกัด...{ เงินคริ๊ปโต้ ที่แท้มันก็คือ หน่วยข้อมูลที่ถูกเก็บล๊อคไว้ใน block แต่ละบล๊อค นั่นเอง }
.....ปัญหาเดียว คือ ราคาของเงินคริ๊ปโต้ มีช่วงของการแกว่ง ขึ้นๆลงๆ กว้างมากๆ ไวมากๆ...แต่ในระยะยาว มันจะพุ่งไปเรื่อยๆๆ ไม่เคยหยุด..
.....รอวันที่ 2 กพ. 2562 .. ถ้าบริษัท Amazon.com ประกาศยอมรับเงินคริ๊ปโต้พวกนี้ ...นั่นคือวันที่กลุ่มเงินคริ๊ปโต้จะพุ่งไปเรื่อยๆๆ ไม่มีจุดสิ้นสุดในเวลาอันใกล้ อาจจะบูมยิ่งกว่า การบูมของหุ้นอินเตอร์เน็ตเมื่อ 18 ปีก่อน ...อาจจะเป็นการบูมที่ลบสถิติการบูมทั้งหลายในประวัติศาสตร์
$$$ ?QQ มาดูความอัศจรรย์ของเงินคริ๊ปโต้(cryptocurrency) ที่ชื่อว่า Bitcoin ...-->QQ? $$$
.....จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สร้างเงิน Cryptocurrency หลายร้อยชนิดแล้ว คงคิดจะแย่งตำแหน่งของ Bitcoin,...เมืองไทยมีสักชนิดหรือยัง
รออะไรอยู่ ??
.....ถ้าทำได้ ก็รีบลงทุนใน cryptocurrency ด่วนกำลังจะบูมยิ่งกว่าหุ้น IT เมื่อ 18 ปีก่อน
.....แต่ดูเหมือนเมืองไทยยังไม่ยอมรับ bitcoin หรือ พวก cryptocurrency อื่นๆทั้งหลาย .. ใช่ไหม?
.....มีแต่ประเทศสิงคโปร์ประเทศเดียวในเอเซีย ที่มีการอนุญาตให้เปิดพอร์ตให้ลงทุนใน cryptocurrency ได้
.....ว่าตามจริง เงินคริ๊ปโต้พวกนี้ มันไม่ใช่เงินคือไม่ใช่ currency แต่มันเป็นทรัพย์สิน (assets) ต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจน และมันก็ไม่มี intrinsic value ที่แท้จริง ไม่มีรากฐานการแบ๊คอั๊พแบบเงินธรรมดาที่เราใช้ๆกันทุกๆวันทั่วโลก ... รากฐานที่แท้จริงที่เป็นมูลค่าของเิงนคริ๊ปโต้ คือ ความเชื่อถือเชื่อมั่นเท็คโนโลยี่ blockchain นี่แหละคือมูลค่าของเงินคริ๊ปโต้พวกนี้ ราคาของมัน จึงไม่มีเพดาน อาจจะพุ่งขึ้นไปได้เรื่อยๆๆ คาดกันว่า ในไม่นานนี้ ราคาของ bitcoin อาจจะพุ่งไปถึงหน่วยละล้านดอลล่าร ...แต่ถ้าเมื่อใด เท็คโนโลยี่ blockchain ถูกทำลายได้ หรือ ถูกแฮ๊กได้...เมื่อนั้นเงินคริ๊ปโต้พวกนี้ จะมีมูลค่าเป็น 0 ทันที
.....แต่ว่า การที่ใครจะแฮ๊ก เท็คโนโลยี่ blockchain แทบเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย หรืออาจจะพูดว่า ด้วยเท็คโนโลยี่ในยุคนี้ ยังไม่มีใครจะทำลายหรือแฮ๊กระบบ เท็คโนโลยี่ blockchain ได้...นอกจาก ในอนาคต ถ้ามีการสร้าง quantum computer ได้สำเร็จ ตอนนั้นจึงอาจจะสามารถแฮ๊กหรือทำลายระบบ เท็คโนโลยี่ blockchain ได้ ..แต่ก็คงไม่ง่ายนัก ...
.....แต่ละบล๊อค จะมี key และ key ของบล๊อคแต่ละบล๊อค ใช้หน่วยบิทถึง 256 หลัก คือ 010100011110000......-> เรียงกันแบบ random แบบยังไงก็ได้ ด้วยจำนวนบิท 256 หลัก ใครจะแฮ๊กให้ได้แค่บล๊อคเดียว อาจจะต้องใช้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์หลายพันเครื่อง ทำงานพร้อมๆกันหลายปี ....แต่เนื่องจากมันมีบล็อคจำนวนนับไม่ถ้วนเกี่ยวโยงเข้าด้วยกัน(จึงเรียกว่า blckchain ไงละ) .. ดังนั้น ถ้าใครจะแฮ็ก ก็ต้องแฮ็กพร้อมๆกันทั้งระบบ ในเวลาเดียวกัน จึงจะทำลายหรือล้วงข้อมูลได้ ... นั่นคือ ไม่อาจจะเป็นไปได้เลย สำหรับความรู้ความสามารถของเท็คโนโลยี่ในยุคนี้หรือในยุคใกล้ๆในอนาคต .... ความเชื่อมั่นในเท็คโนโลยี่บล็อคเชน จึงสูงสุดเต็มที่ ราคาของเงินคริ๊ปโต้ จึงไม่มีขีดจำกัด...{ เงินคริ๊ปโต้ ที่แท้มันก็คือ หน่วยข้อมูลที่ถูกเก็บล๊อคไว้ใน block แต่ละบล๊อค นั่นเอง }
.....ปัญหาเดียว คือ ราคาของเงินคริ๊ปโต้ มีช่วงของการแกว่ง ขึ้นๆลงๆ กว้างมากๆ ไวมากๆ...แต่ในระยะยาว มันจะพุ่งไปเรื่อยๆๆ ไม่เคยหยุด..
.....รอวันที่ 2 กพ. 2562 .. ถ้าบริษัท Amazon.com ประกาศยอมรับเงินคริ๊ปโต้พวกนี้ ...นั่นคือวันที่กลุ่มเงินคริ๊ปโต้จะพุ่งไปเรื่อยๆๆ ไม่มีจุดสิ้นสุดในเวลาอันใกล้ อาจจะบูมยิ่งกว่า การบูมของหุ้นอินเตอร์เน็ตเมื่อ 18 ปีก่อน ...อาจจะเป็นการบูมที่ลบสถิติการบูมทั้งหลายในประวัติศาสตร์