ไบรท์ คือ ภาพยนตร์เเนวเเฟนตาซี เเอ็คชั่น อาชญากรรม สดใหม่เรื่องเเรกจากสตรีมวิดีโอชื่อดังอย่างเน็ตฟลิกซ์ทุ่มทุนสร้างกว่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐ กำกับโดย เดวิด เอเยอร์ จาก End Of Watch หนังตามติดชีวิตตำรวจ เเละ Suicide Squad หนังรวมดาวร้ายจากค่ายดีซีที่เรารู้จักกันดี คราวนี้เขาขอนั่งเเท่นกำกับหนังเเนวเดียวกันอีกครั้งโดยใช้ส่วนผสมจากหนังเรื่องก่อนๆมาด้วย พร้อมนักเเสดงอย่าง วิล สมิธ จากบท เดดช็อต ใน Suicide Squad โจเอล เอดเกอร์ตัน จาก บทพอล ใน It comes At Night หนังระทึกขวัญที่ยังไม่เข้าฉายในไทย เเละ นูมี ราเพซ จากบท เเฝดเจ็ดที่ทำให้ทุกคนทึ่งในการเเสดงไปเมื่อหลายเดือนก่อน จาก What Happened to Monday เเละได้มือเขียนบทอย่าง แม็กซ์ แลนดิส จาก Chronicle หนังไซไฟ มาดูกันว่าเอเยอร์จะสามารถข้ามผ่านปัญหาจากหนังเรื่องก่อนๆไปได้หรือไม่
เรื่องราวของโลกที่เต็มไปด้วยเผ่าพันธ์หลากหลายผ่านมุมมองตำรวจมนุษย์ เเละ ตำรวจออร์ค เเดริค วาร์ดเเละ นิค จาโคบี้ ที่ถูกดึงเข้าสู่มหันตภัยครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อต้องเข้าไปพัวพันกับเเผนการชั่วร้ายที่อาจทำให้โลกทั้งใบต้องตกอยู่ในหายนะ มีเพียงคำบอกเล่าจากคำพยากรณ์เกี่ยวกับ ไม้กายสิทธิ์เท่านั้นที่จะช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากอันตรายได้
- บทได้สร้างโลกขึ้นมาใหม่เหมือนอยู่คนละโลกกับโลกเเห่งความจริงที่มีความสนใจเเละเต็มไปด้วยความขัดเเย้งระหว่างเผ่าพันธุ์ท ทำให้เกิดเรื่องราวขึ้น เเละมันก็ค่อนข้างดีเลย เพียงเเต่ช่วงเเรกๆ ออกจะชวนให้รำคาญตัวละครหลายตัวเลย ก่อนที่ช่วงกลางจะทำให้เราเริ่มอินกับเรื่อง เเล้วก็มาเเผ่วลงในช่วงองค์สุดท้ายที่หมดพลังอย่างน่าเสียดาย เเฟนตาซีนั้นมีความจริง ผสมกับ เสมือนจริง เเต่รู้สึกว่ามันเเปร่งๆไปหน่อย เรื่องเผ่าพันธ์มีเเค่ไม่กี่เผ่า บางเผ่าพันธุ์มีบทเเค่ตามตัวอย่างเเค่นั้น เเละไม่ค่อยมีฉากอะไรที่น่าจดจำ มีเเค่ฉากช่วงท้ายๆที่ยังพอว้าวได้อยู่
- ปัญหาของเรื่องคือการเล่าเรื่องที่ดูเรื่อยเปื่อยไม่มีความจำเป็น รวมทั้งการสร้างปมขึ้นมา เเล้วเเก้เเค่บางปมเท่านั้น ทึ่เหลือถูกโยนทิ้งหมด อาจจะเพราะจะเอาไว้ใช้ในภาคต่อหรือไม่ก็ไม่เเน่ใจ เเต่เรื่องเเอ็คชั่นพอดูเพลินๆได้อยู่ มีฉากยิงกันก็จริง เเต่ก็อาจจะทำให้คนเอียนได้ ในส่วนการเปรียบเทียบประเด็นต่างๆ ทำได้ไม่เลว เเต่อาจจะไม่โดนคนดูสักเท่าไหร่ เพราะต้องตีความประมาณนึง เหมือนเรากำลังมองเห็นปัญหาโลกเราผ่านโลกในหนังนั่นเอง
- วิล สมิธ นั้นเเสดงดีตามมาตรฐาน เเต่ไม่ได้มีอะไรที่ต่างจากหนังก่อนๆ คือพูดคำหยาบเท่ๆ มุขตลกห่ามๆ ถือปืนยิงผู้ร้าย มีคิวบู๊นิดหน่อย เเต่โจเอล เอดเกอร์ตัน ที่เล่นจาโคบี้ กลับทำให้ผมเอาใจช่วยฝ่ายออร์กได้อย่างสนิทใจ ทั้งความหวาดระเเวงผู้คน ความขัดเเย้งในใจ การพยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยจิตใจที่บริสุทธ์ ส่วนบทของนูมิ ราเพซ รู้สึกว่าจะใช้บทเธอไม่คุ้ม สักเท่าไหร่ เเต่ก็เท่ไม่หยอกในบทเอลฟ์สาวผู้ชั่วร้าย เเต่เเบนราบในบทอย่างที่สุด ในขณะที่ทิกกา เอล์ฟสาวขี้หวาดระเเวง ที่เเสดงโดย ลูซี ฟรายนั้น เเสดงให้เห็นถึงหลายมิติของตัวละคร ว่าตกลงเธอดีหรือร้าย เเละการพัฒนาตัวละครนั้นทำได้ดี ทำให้เราอดขำเเละเป็นห่วงเธอไม่ได้ทั้งเรื่อง ที่เหลือก็ดีตามมาตรฐาน บทมันก็ได้เเค่นั้นล่ะ
- เดวิด เอเยอร์ ยังมีปัญหาในเรื่องการกำกับที่บางครั้งก็ทำให้เราไม่คลิกกับหนัง ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมาตั้งเเต่ Suicide Squad เเล้ว เพราะหนังไม่มีอะไรดึงดูดได้เลยในช่วงเเรกที่เหมือนเป็นหนังคู่หูตำรวจทั่วไป เเละค่อนข้างน่าเบื่อ เเต่ช่วงเเฟนตาซีกลับทำได้ดีมาก เขาทำหนังสงคราม บู๊เเหลก ได้ดีเลยล่ะ คงต้องไปพัฒนาเพิ่มในเรื่องการถ่ายทำหรือการตัดต่อ เรื่องนี้ดีขึ้นกว่าเรื่องนั้น เเละก็ดูสนุกกว่า เเค่มีปัญหาช่วงเเรกของหนังคล้ายกันเท่านั้นเอง
- เพลงประกอบ อารมณ์พอๆกันกับ Suicide Squad ช่วงเเรกๆ เปิดถี่มากนึกว่าดูมิวสิควิดีโอที่มีตำรวจเป็นตัวเอก บางเพลงก็ไม่ค่อยจะเข้ากับหนังก็ยัดเข้ามา มีเพลง World Gone Mad นี่ล่ะที่ใช้ถูกฉาก เเละก็เพลง Home ที่สื่อให้เห็นถึงบทสรุปของเรื่องได้ดีเลย
- สรุป หนังมีปัญหากับการปูเรื่องเเละการเซ็ตติ้งโลก การเล่าเรื่อง การใช้ตัวละครรอบตัวละครหลักไม่คุ้ม เเละการขาดพลังในช่วงท้ายๆ เเต่ถ้าหากผ่านช่วงเเรกไปได้ หนังจะมอบความบันเทิงให้เราได้ประมาณนึง เเต่คิดว่ามันก็คุ้มค่าที่จะชมอยู่ เพราะถ้าหากตัดเรื่องนี้ออกไป มันก็คือหนังเเฟนตาซีเเอ็คชั่นความยาวสองชั่วโมง ส่งท้ายปีที่มีความทะเยอทะยานเเละน่าสนใจที่สุด
7/10
- หนังฉายเเล้วนะครับที่เน็ตฟลิกซ์ สมัครครั้งเเรก ฟรี 1 เดือน เเละมีการประกาศทำภาคต่อเเล้วด้วย มารอดูกันว่ารอบหน้าจะเป็นยังไง เเต่สำหรับผม ผมให้ผ่านนะครับ
จบไปด้วยเพลงประกอบท้ายเรื่องของหนังที่เพราะเเละเนื้อหาดีมาก ถ้าชมหนังจบเเล้วได้ฟังจะอินกับเรื่องราวมากเลยครับ
รีวิวหนังเรื่องที่ 2 : ไบรท์ หนังคู่หูต่างพันธุ์มหาประลัยที่ทะเยอทะยานที่สุดของปี
ไบรท์ คือ ภาพยนตร์เเนวเเฟนตาซี เเอ็คชั่น อาชญากรรม สดใหม่เรื่องเเรกจากสตรีมวิดีโอชื่อดังอย่างเน็ตฟลิกซ์ทุ่มทุนสร้างกว่า 90 ล้านเหรียญสหรัฐ กำกับโดย เดวิด เอเยอร์ จาก End Of Watch หนังตามติดชีวิตตำรวจ เเละ Suicide Squad หนังรวมดาวร้ายจากค่ายดีซีที่เรารู้จักกันดี คราวนี้เขาขอนั่งเเท่นกำกับหนังเเนวเดียวกันอีกครั้งโดยใช้ส่วนผสมจากหนังเรื่องก่อนๆมาด้วย พร้อมนักเเสดงอย่าง วิล สมิธ จากบท เดดช็อต ใน Suicide Squad โจเอล เอดเกอร์ตัน จาก บทพอล ใน It comes At Night หนังระทึกขวัญที่ยังไม่เข้าฉายในไทย เเละ นูมี ราเพซ จากบท เเฝดเจ็ดที่ทำให้ทุกคนทึ่งในการเเสดงไปเมื่อหลายเดือนก่อน จาก What Happened to Monday เเละได้มือเขียนบทอย่าง แม็กซ์ แลนดิส จาก Chronicle หนังไซไฟ มาดูกันว่าเอเยอร์จะสามารถข้ามผ่านปัญหาจากหนังเรื่องก่อนๆไปได้หรือไม่
เรื่องราวของโลกที่เต็มไปด้วยเผ่าพันธ์หลากหลายผ่านมุมมองตำรวจมนุษย์ เเละ ตำรวจออร์ค เเดริค วาร์ดเเละ นิค จาโคบี้ ที่ถูกดึงเข้าสู่มหันตภัยครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อต้องเข้าไปพัวพันกับเเผนการชั่วร้ายที่อาจทำให้โลกทั้งใบต้องตกอยู่ในหายนะ มีเพียงคำบอกเล่าจากคำพยากรณ์เกี่ยวกับ ไม้กายสิทธิ์เท่านั้นที่จะช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากอันตรายได้
- บทได้สร้างโลกขึ้นมาใหม่เหมือนอยู่คนละโลกกับโลกเเห่งความจริงที่มีความสนใจเเละเต็มไปด้วยความขัดเเย้งระหว่างเผ่าพันธุ์ท ทำให้เกิดเรื่องราวขึ้น เเละมันก็ค่อนข้างดีเลย เพียงเเต่ช่วงเเรกๆ ออกจะชวนให้รำคาญตัวละครหลายตัวเลย ก่อนที่ช่วงกลางจะทำให้เราเริ่มอินกับเรื่อง เเล้วก็มาเเผ่วลงในช่วงองค์สุดท้ายที่หมดพลังอย่างน่าเสียดาย เเฟนตาซีนั้นมีความจริง ผสมกับ เสมือนจริง เเต่รู้สึกว่ามันเเปร่งๆไปหน่อย เรื่องเผ่าพันธ์มีเเค่ไม่กี่เผ่า บางเผ่าพันธุ์มีบทเเค่ตามตัวอย่างเเค่นั้น เเละไม่ค่อยมีฉากอะไรที่น่าจดจำ มีเเค่ฉากช่วงท้ายๆที่ยังพอว้าวได้อยู่
- ปัญหาของเรื่องคือการเล่าเรื่องที่ดูเรื่อยเปื่อยไม่มีความจำเป็น รวมทั้งการสร้างปมขึ้นมา เเล้วเเก้เเค่บางปมเท่านั้น ทึ่เหลือถูกโยนทิ้งหมด อาจจะเพราะจะเอาไว้ใช้ในภาคต่อหรือไม่ก็ไม่เเน่ใจ เเต่เรื่องเเอ็คชั่นพอดูเพลินๆได้อยู่ มีฉากยิงกันก็จริง เเต่ก็อาจจะทำให้คนเอียนได้ ในส่วนการเปรียบเทียบประเด็นต่างๆ ทำได้ไม่เลว เเต่อาจจะไม่โดนคนดูสักเท่าไหร่ เพราะต้องตีความประมาณนึง เหมือนเรากำลังมองเห็นปัญหาโลกเราผ่านโลกในหนังนั่นเอง
- วิล สมิธ นั้นเเสดงดีตามมาตรฐาน เเต่ไม่ได้มีอะไรที่ต่างจากหนังก่อนๆ คือพูดคำหยาบเท่ๆ มุขตลกห่ามๆ ถือปืนยิงผู้ร้าย มีคิวบู๊นิดหน่อย เเต่โจเอล เอดเกอร์ตัน ที่เล่นจาโคบี้ กลับทำให้ผมเอาใจช่วยฝ่ายออร์กได้อย่างสนิทใจ ทั้งความหวาดระเเวงผู้คน ความขัดเเย้งในใจ การพยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยจิตใจที่บริสุทธ์ ส่วนบทของนูมิ ราเพซ รู้สึกว่าจะใช้บทเธอไม่คุ้ม สักเท่าไหร่ เเต่ก็เท่ไม่หยอกในบทเอลฟ์สาวผู้ชั่วร้าย เเต่เเบนราบในบทอย่างที่สุด ในขณะที่ทิกกา เอล์ฟสาวขี้หวาดระเเวง ที่เเสดงโดย ลูซี ฟรายนั้น เเสดงให้เห็นถึงหลายมิติของตัวละคร ว่าตกลงเธอดีหรือร้าย เเละการพัฒนาตัวละครนั้นทำได้ดี ทำให้เราอดขำเเละเป็นห่วงเธอไม่ได้ทั้งเรื่อง ที่เหลือก็ดีตามมาตรฐาน บทมันก็ได้เเค่นั้นล่ะ
- เดวิด เอเยอร์ ยังมีปัญหาในเรื่องการกำกับที่บางครั้งก็ทำให้เราไม่คลิกกับหนัง ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมาตั้งเเต่ Suicide Squad เเล้ว เพราะหนังไม่มีอะไรดึงดูดได้เลยในช่วงเเรกที่เหมือนเป็นหนังคู่หูตำรวจทั่วไป เเละค่อนข้างน่าเบื่อ เเต่ช่วงเเฟนตาซีกลับทำได้ดีมาก เขาทำหนังสงคราม บู๊เเหลก ได้ดีเลยล่ะ คงต้องไปพัฒนาเพิ่มในเรื่องการถ่ายทำหรือการตัดต่อ เรื่องนี้ดีขึ้นกว่าเรื่องนั้น เเละก็ดูสนุกกว่า เเค่มีปัญหาช่วงเเรกของหนังคล้ายกันเท่านั้นเอง
- เพลงประกอบ อารมณ์พอๆกันกับ Suicide Squad ช่วงเเรกๆ เปิดถี่มากนึกว่าดูมิวสิควิดีโอที่มีตำรวจเป็นตัวเอก บางเพลงก็ไม่ค่อยจะเข้ากับหนังก็ยัดเข้ามา มีเพลง World Gone Mad นี่ล่ะที่ใช้ถูกฉาก เเละก็เพลง Home ที่สื่อให้เห็นถึงบทสรุปของเรื่องได้ดีเลย
- สรุป หนังมีปัญหากับการปูเรื่องเเละการเซ็ตติ้งโลก การเล่าเรื่อง การใช้ตัวละครรอบตัวละครหลักไม่คุ้ม เเละการขาดพลังในช่วงท้ายๆ เเต่ถ้าหากผ่านช่วงเเรกไปได้ หนังจะมอบความบันเทิงให้เราได้ประมาณนึง เเต่คิดว่ามันก็คุ้มค่าที่จะชมอยู่ เพราะถ้าหากตัดเรื่องนี้ออกไป มันก็คือหนังเเฟนตาซีเเอ็คชั่นความยาวสองชั่วโมง ส่งท้ายปีที่มีความทะเยอทะยานเเละน่าสนใจที่สุด
7/10
- หนังฉายเเล้วนะครับที่เน็ตฟลิกซ์ สมัครครั้งเเรก ฟรี 1 เดือน เเละมีการประกาศทำภาคต่อเเล้วด้วย มารอดูกันว่ารอบหน้าจะเป็นยังไง เเต่สำหรับผม ผมให้ผ่านนะครับ
จบไปด้วยเพลงประกอบท้ายเรื่องของหนังที่เพราะเเละเนื้อหาดีมาก ถ้าชมหนังจบเเล้วได้ฟังจะอินกับเรื่องราวมากเลยครับ