"ว่างมั้ย ไปเที่ยวกันเถอะ"
ประโยคสั้นๆ ที่ฟังแล้วมีไอเดียผุดขึ้นมาเต็มไปหมด เรียกว่าโลดแล่นกว่าตอนหัวหน้าสั่งงานเยอะเลย

และ "หัวหิน" ก็คือที่แรกๆ ที่เรานึกถึงเสมอ ทุกครั้งที่เราอยากหนีกรุงเทพไปพักผ่อน
ก็อำเภอเดียว มีที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก ให้เที่ยวเยอะแยะ และร้านอร่อยก็มีตั้งแต่ร้านข้างทาง ร้านเก่าแก่ และร้านบรรยากาศดีใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ

Air Space คือร้านใหม่สำหรับเรา หรืออาจจะคนอื่นๆ ด้วย เพราะเค้าเพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน เราก็เลยจะไปลองเลียบๆ เคียงๆ สักหน่อย


จากภาพจะเห็นความโปร่ง โล่ง สบายของร้าน เพราะเป็นเรือนกระจกหลังใหญ่เลยล่ะ


หน้าร้านตกแต่งด้วยต้นไม้ให้ร่มเงา เมื่อเข้าไปแล้วร้านจะแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งเป็นร้านอาหาร อีกฝั่งเป็นคาเฟ่เก๋ๆ

วันนี้เราจะไปลองในส่วนของคาเฟ่ เพราะเราทานมื้อกลางวันมาจนพุงแทบแตกแล้ว ก็อยากหาขนมปิดท้ายสักหน่อย






ช่วงที่เราไปคือเข้าสู่เดือนธันวาคม ร้านเค้าก็ตกแต่งด้วยคุณลุงซานต้าหลายตัวเลย ส่วนเรื่องที่นั่งก็น่านั่ง
ลองนั่งแล้วก็นั่งสบาย คงเพราะร้านเค้าเตรียมที่นั่งไว้รับแขก คือให้ลูกค้าได้นั่งยาวๆ ได้
ไม่ใช่เก้าอี้ไล่แขก ที่ดูสวยแต่นั่งได้ไม่นาน

มาดูสิว่า วันนี้เราสั่งขนมอะไรมาชิมบ้าง


ท๊าดาาาาาา เมนูแรกคือ ช็อกโกแลตเย็นจ้าาาาา
เป็นช็อกโกแลตเย็นที่แยกเลเยอร์มาสวยๆ ครึ่งล่างเป็นช็อกโกแลตเข้มๆ ออกหวานมัน
ครึ่งบนเป็นนมสดเพียวๆ ความหวานจะอยู่ก้นแก้วมากกว่า อยากอร่อยต้องคนๆ ให้รสชาติเข้ากัน
สำหรับเรา (ที่ชอบกินหวาน) เราว่ารสชาติใช้ได้ ไม่หวานมาก ออกมันๆ และหอมช็อกโกแลต


เมนูต่อมา ก็คือ ชาเขียวเย็น เย็น เย็น....
เค้าแยกนมสดเย็นกับชาเขียวมัทฉะเข้มข้น ย้ำว่าเข้มข้น เพราะกว่าจะเทหมดแก้วก็หนืดทีเดียว
สังเกตดูจากชาเขียวที่เทลงไปยังเกาะตัวกันอยู่เลย
ส่วนเรื่องรสชาติก็ถือว่าใช้ได้ ลองชิมชาเขียวเปล่าๆ ก็ขมๆ ต้องเทผสมนมเท่านั้นถึงจะหวานมัน
คือถ้าใครชอบชาเขียว มัทฉะ อยากให้ลองสั่งมาชิม


เฟร๊นซ์โทสต์รสชาติละมุน ด้วยเนื้อเค้กที่ฟู นุ่ม แต่ต่างจากเนื้อเค้กชิฟฟ่อนทั่วไปบอกไม่ถูก
แต่ที่เราติดใจคือซอสคาราเมลที่ราดมาบนขนม มันไม่ได้หวานแหลมๆ เหมือนน้ำตาล แต่มีความเค็มๆ มันๆ มีกลิ่นนมๆ
เสียดายที่ร้านเค้าราดมาให้ไม่หนำใจเท่าไหร่
เมนูนี้ตัดความหวานมันของขนมด้วยผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เปรี้ยวนิดๆ
ส่วนวิปครีมเค้าก็หอม มัน ใครไม่ชอบวิปครีมก็น่าจะลองชิมได้

ทีนี่มาดูบรรยากาศนอกร้านกันบ้าง



ตอนที่เราไปเป็นช่วงประมาณบ่ายสอง แดดแรงมากๆ เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปนอกร้านเท่าไหร่

สำหรับใครที่จะมาร้านนี้ ก็ขับรถมาทางเขาตะเกียบ (ทางเดียวกับซิเคด้า)
เข้ามาจนเจอทางแยก สังเกตทางขวามือจะมีวัด ก็ให้เข้ามาทางด้านขวาเลย
ตรงมาเรื่อยๆ สักระยะ ร้านจะอยู่ซ้ายมือ เลยร้านมานิดนึง เลี้ยวเข้าซอยจะเจอที่จอดรถของร้าน




เอาเป็นว่าเรื่องรสชาติอาจจะแล้วแต่คนชอบ
แต่เรื่องบรรยากาศ เราว่าก็สวย สบาย น่านั่ง ใครอยากไปนั่งชิลๆ ในร้านสวยๆ ร้านนี้ตอบโจทย์เลย
ถ้าไปช่วงแดดแรงๆ อาจจะร้อนบ้าง แนะนำให้ไปช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ให้พอได้เห็นเรือนกระจกโปร่งๆ และไม่ร้อนจนเกินไป

เป็นอีกทางเลือกที่ดีทีเดียว


ปล. นี่เป็นรีวิวแรกของเราเลย ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะจ๊ะ