รีวิว : The Greatest Showman
เพลินหู เพลินตามาก สายมิวสิคัลห้ามพลาด!!
[**No Spoil นอกตัวอย่างหนัง]

เป็นหนังเรื่องที่แค่เห็นตัวอย่างแล้วก็ตั้งใจไว้ว่า
ยังไงก็ต้องขอเข้าไปดูในโรงตั้งแต่วันแรกแน่นอน!!
และหนังก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยแม้แต่น้อย..

Showman ไม่ใช่หนังตุ๊กตาหิมะแต่อย่างใด #xุย!!
เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์มิวสิคัล ได้แรงบันดาลใจจาก
ความมุ่งมั่นและจินตนาการของ "พี.ที. บาร์นัม"

บทอ้างอิงและดัดแปลงจากชีวิตจริงของเขา
ในฐานะที่เป็นผู้บุกเบิกวงการธุรกิจโชว์ในอเมริกา
เนื่องด้วยการแสดงโชว์ในสมัยยุคก่อนช่วงปี 19 นั้น
เป็นความบันเทิงสำหรับชนชั้นสูงเพียงเท่านั้น..

หนังเล่าถึงความยากลำบากในวัยเด็กของ บาร์นัม
ถีบตัวเองจากล่างจนกราฟชีวิตพุ่งทะยานถึงขีดสุด
พร้อมเผยให้เห็นอุปสรรคต่างๆนานามากมาย

โดยในหนังเรื่องนี้เขาได้เปิดคณะละครสัตว์ขึ้น
แต่ตัวหนังไม่ได้เน้นไปที่สัตว์เท่าไหร่นัก ไม่เลย
เล่นประเด็นไปที่บุคคลที่มีร่างกายแปลกประหลาด
ไม่เป็นที่ยอมรับ ถูกรังเกียจจากสังคมในสมัยนั้น..

ทั้งคนที่แคระที่เตี้ยมากๆ หรือคนที่ตัวสูงใหญ่มากๆ
เหล่าคนที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมทั้งหลาย
คนผิวสี ที่สังคมยังแบ่งแยกหรือแฝดสยามเป็นต้น



จุดเด่นในหนังเรื่องนี้ที่ชอบมากๆ
ส่วนตัวตั้งใจไปฟังเพลง แต่ที่กลับชอบมากกว่านั้น
ก็คือเรื่องของการ "ลำดับภาพ" คือมันดีมากกกกกก
การแพนกล้อง มุมกล้อง ประกอบจังหวะของเพลง
การเต้น การโชว์กายกรรมอะไรก็ตามแต่มันลงตัว

นอกจากเพลงที่ไพเราะเสนาะหูมากพออยู่แล้ว
ยังมีภาพสวยๆให้เพลิดเพลินตาสุดๆอีกต่างหาก
มันฟินแบบสุดยอด ทุกโสตประสาทจริงๆเจ้าข้าเอ๊ย
ฟินเหมือนยกละครเวทีแบบติดขอบมาไว้ในโรงหนัง

นักแสดงนำทั้งหลายในเรื่องนี้คือดีจริง
พึ่งมารู้ว่าพี่วูลฟ์เวอรีน "ฮิวจ์ แจ็คแมน" ของเรา
ร้อง เล่น เต้น ได้เพราะและมันส์สะแด่วขนาดนี้
มาหาข้อมูลทีหลังถึงได้ร้องอ๋อ.. ว่าก่อนที่จะโด่งดัง
เจ้าตัวเข้าวงการมาในสายละครเพลงมาก่อนนี่เอง..

ในส่วนของคนอื่นๆก็ตัวท็อปในสายนี้ไม่แพ้กัน
ทั้ง "แซ็ค เอฟรอน" จาก High School Musical
ที่ยังไม่ทันเอ่ยปากร้องสาวๆก็แทบระทวยแล้ว
มาเล่นคู่กับ "เซนดายา" สาวน้อยผิวสีวัยทีน 21 ปี
ที่หลายๆคนคงเคยเห็นลุคเซอร์ๆจากบท มิเชล
ในหนังดังอย่าง Spider-Man : Homecoming

ซึ่งต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้เธอเจิดจรัสมากๆๆๆ
คือดูแล้วกระผมอยากจะได้เป็นภรรยาจริงๆ #อุ๊บส์
หน้าสวย หุ่นเป๊ะ โxตรรรรร ได้แต่กลืนน้ำลายอึกๆ
ไม่คิดว่า มิเชล ลุคเซอร์ๆในวันนั้น จะปังได้ขนาดนี้
ตกเป็นทาสหัวใจ เป็นแฟนคลับน้องไปเรียบร้อย

อีกคนที่โผล่มาแล้วแค่จ้องตาก็สะกดใจชาย
ก็คือ "รีเบคคา เฟอร์กูสัน" คนนี้ดีกรีไม่ต้องพูดถึง
แต่ว่าสาวเจ้าไม่ได้ร้องเองนะ แค่ขยับปากตามเอา
ซึ่งก็เล่นได้ดีพอให้เราอินไปกับเพลงได้ไม่ติดขัด



ประเด็นดราม่าที่ในหนังถือว่าทำได้ดีเลยคือ..
เรื่องของการแบ่งแยกชนชั้น ระหว่างคนรวย-คนจน
หนังเผยให้เห็นถึงความคิด สภาพจิตใจของบาร์นัม
ว่าเขาต้องการที่จะรวยไปเพื่ออะไร และเพื่อใคร
และเมื่อเขาเริ่มที่จะเข้าสู่ความสำเร็จแล้วนั้น
เขาได้ติดกับดักทางความคิดอะไรบ้าง..?
ซึ่งไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราทุกคนเลย

จุดที่ไม่ชอบของหนัง (เล็กน้อย)
ธีมหนังคือต้องการสร้างแรงบันดาลใจกับผู้คน
ให้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับโชคชะตาพี่ฟ้าลิขิตมาให้
แต่เรากลับรู้สึกหนังแค่พูดถึงแบบแตะๆประเด็นนี้
ไม่ได้ขยี้ปม หรือทำให้มีอิมแพคกับคนดูมากนัก

และหนังดำเนินเรื่องเร็วเกินไปเหมือนกลัวนาน
ทั้งๆที่ความยาวหนังโดยรวมแค่ 105 นาทีเท่านั้น
หรือไม่ก็คงกลัวว่าถ้าเล่นประเด็นดราม่ามากเกินไป
จะทำให้อารมณ์ร่วมกับธีมมิวสิคัลน้อยลงกระมัง
เอาเป็นว่าก็แค่ความไม่ชอบส่วนตัวของผมล่ะเนาะ

หนังเข้าชิงลูกโลกทองคำสามสาขา!! #อูววววส์
..ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภท มิวสิคคอล-คอมเมดี้
..นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (ฮิวจ์ แจ็คแมน)
..เพลงประกอบภาพยนต์ยอดเยี่ยม "This is Me"
ซึ่งต้องบอกเลยว่าเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง..

สรุป.. ชอบมากๆๆสำหรับเรื่องนี้ จัดไป 9 คะแนน
หายไปไหนคะแนนนึง ? ก็ตามข้างต้นที่กล่าวมาฮะ
มีจุดที่ไม่ชอบอยู่พอสมควร แต่ไม่ได้หักในจุดนั้น
คือความไม่สมเหตุสมผล กับความโลกสวยของบท
ซึ่งหนังก็ตั้งใจจะไม่สนใจในจุดนี้อยู่แล้วตั้งแต่ต้น
ก็ทำให้เรามองข้ามในจุดนั้นไปซะ..

หนังจะเข้าฉายในไทย ในวันพฤหัสที่ 28 นี้
แต่เปิดฉายรอบพิเศษ 2 ทุ่มเป็นต้นไปให้ชมก่อน
เห็นว่าบางโรงอย่างพารากอนมีรอบ 6 โมงเย็นนะ
ใครสะดวกที่ไหนก็ลองเช็คดูได้จ้า (ตั๋วราคาเต็ม)
พร้อมแล้วไปฟินหู และฟินตาในโรงกันได้เลย ^^

.
.
.

#ก็แค่คนชอบดูหนัง
#รสนิยมการดูหนังเป็นเรื่องส่วนบุคคล
#พิสูจน์ด้วยตาของคุณเองในโรงหนังดีที่สุด

ใครที่ชอบวิธีเขียน รสนิยมการดูหนังตรงกัน
ชอบการรีวิวแบบไม่มีสปอยล์ก็ติดตามกันได้นะฮะ ><
คะแนนมันก็จะเฟ้อๆหน่อยๆ ผมให้ตามความรู้สึกไม่อยากกดคะแนนมาก ^^'
https://www.facebook.com/JustAManLikeToWatchMovie




Zendaya

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้