สวัสดีค่ะ นี้เป็นกระทู้แรกเลยที่จะพิมเล่าเรื่องอะไรแบบยาวๆ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เข้าเรื่องเลยแล้วกัน เรากับเพื่อนคนหนึ่งได้มีโอกาสเรียนวิชาเกี่ยวกับความเป็นพหุวัฒนธรรม และได้มีโอกาสทำการศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยเรากับเพื่อนก็เลือกศึกษาประเด็นเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ เพราะโดยส่วนตัวมีความรู้เกี่ยวกับศาสนาคริสต์น้อยมาก เรากับเพื่อนเป็นพุทธทั้งคู่ เรามาจาก 3 จังหวัดเลยมีความรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลามค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับความรู้เกี่ยวกับศาสนาคริสต์
เราได้มีโอกาสไปทำกิจกรรมร่วมกับชาวคริสต์เตียนในวันอาทิตย์ 2 ครั้งด้วยกัน โดยไปตั้งแต่เริ่มพิธีกรรมต่างๆจนเสร็จพิธี ในอำเภอท่าศาลามีคริสตจักร 3 แห่งด้วยกัน คือ คริสตจักรพระคุณพระเจ้า, คริสตจักรลิฟวิ่งสตรีมส์, คริสตจักรพระกิตติคุณสมบูรณ์ เราเลือกไปที่คริสตจักรพระคุณพระเจ้าเพราะเป็นคริสตจักรที่เก่าแก่ที่สุดในอำเภอท่าศาลา (แต่คนในพื้นที่บ้างคนก็ไม่รู้จัก TT)
ชาวคริสต์เตียนที่นี้มีประมาณ 100 คน พวกเขานับถือนิกายโปรเตสแตนท์ ซึ่งแตกต่างจากนิกายอื่นๆตรงที่ไม่มีซิสเตอร์หรือบาทหลวงใดๆ จะมีเพียงศิษยาภิบาลที่เป็นผู้ดูแลโบสถ์เท่านั้น ในเรื่องของพิธีกรรมที่ทำกันเป็นประจำในวันอาทิตย์ก็เป็นไปอย่างเรียบง่ายและอบอุ่นสุดๆ ใช้เวลาตั้งแต่ประมาณ 09:00-13.00 น โดยเริ่มจากการทานอาหารเช้าเล็กๆน้อยๆร่วมกัน เช่น น้ำชา กาแฟ คุกกี้หรือขนมปังต่างๆ ต่อด้วยกันแบ่งกลุ่มกันศึกษาคัมภีร์ไบเบิ้ล แบ่งเป็นกลุ่มเด็กๆ กลุ่มสาวๆน้อยใหญ่ กลุ่มชายฉกรรจ์ มีกลุ่มชาวต่างชาติด้วย (เรากับเพื่อนได้เรียนรวมกับกลุ่มเด็ก เพราะความรู้ที่มีเท่ากับ 0 ฮ่าๆ) เมื่อจบคลาสเรียนก็เริ่มการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าร่วมกัน ต่อด้วยการฟังเทศน์ และร่วมรับประทานอาหารเที่ยงกัน
2 คนนี้เป็นเพื่อนร่วมคลาสเรียน 55555
กำลังจะเริ่มการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า
ครั้งแรกที่ได้ไปคือจะบอกว่า ประทับใจมากกกกกกกกกกกก ก.ไก่ ล้านตัว คือทุกคนเป็นกันเองมาก ตอนไปถึง เราไปถึงก่อนศิษยาภิบาล(คนส่วนใหญ่เรียกท่านว่าอาจารย์)ที่ดูแลโบสถ์นิดหน่อย เราเข้าไปถามหาอาจารย์กับคุณลุงคนหนึ่ง(ตอนแรกคิดว่าคุณลุงคืออาจารย์ 555) คุณลุงก็บอกว่าอาจารย์กำลังเดินทางมา แล้วก็ชวนไปนั่งในโบสถ์ แนะนำเรากับเพื่อนให้รู้จักกับชาวคริสต์เตียนที่นั้น แล้วก็นั่งพูดคุยกันจนอาจารย์มา
ทักทาย สวัสดีกันตลอดตลอด 555 ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก
เนื่องจากการไปครั้งนี้นั้นไปเพื่อการทำรายงาน จึงได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับแบบส่วนตัว มันจึงทำให้เรารู้ถึงเหตุผลที่พวกเขาต้อนรับเรากับเพื่อนเป็นอย่างดีมากๆ ทั้งที่เรากับเพื่อนนับถือศาสนาอื่น มันเป็นเพราะหลักคำสอนของศาสนาคริสต์นั้นเอง ที่ยึดหลักสำคัญๆอย่าง 2 ข้อ คือ รักพระเจ้าสุดจิตสุดใจและ
รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง งืออออออ ซึ้งใจมากก TT อาจารย์ที่ให้ข้อมูลกับเราบอกว่า ชาวคริสต์เตียนที่นี้สามารถปรับตัวให้เข้ากับความหลากหลายต่างศาสนาได้อย่างราบรื่นส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลักำสอนของศาสนาเองและอีกส่วนที่สำคัญเลยคือความเป็นไทย ไม่ว่าเราจะนับถือศาสนาใด เราต่างก็เป็นนไทยด้วยกัน (แถมอาจารย์ยังชวนเรากับเพื่อนไปร่วมงานคริสต์มาสอีกด้วย ตอบอย่างไวว่า "ได้ค่ะ" ไปสิรอไร 5555)
day 2 อาทิตย์ต่อมาตรงกับวันคริสต์มาส พิธีกรรมต่างๆก็คล้ายๆกับอาทิตย์ที่ไปครั้งแรก แต่ต่างกันตรงที่ใช้เวลานานกว่าอาทิตย์แรกนิดหน่อย ไม่มีคลาสเรียนด้วย (เย้ 55555 ล้อเล่น) เพราะเป็นวันคริสต์มาสบรรยากาศเลยอบอุ่นยิ่งกว่าเดิมอีก (ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองรึป่าว คืออบอุ่นจริงๆ)
เราในฐานะผู้เข้าร่วม แต่ไม่มีของไปร่วมเกมส์ แต่ยังมีโอกาสได้ของขวัญจากโบสถ์ โดยไม่ต้องมีของขวัญไปแลก ง่ายๆคืออาจได้ฟรี 5555
หมายเลขที่ออกนั้นนนนนนนนนนน 64 ต่อมาาาาาาาาา 67 (เป็นคนไร้ซึ่งดวงค่ะ TT)
บรรยากาศต้องร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าในวันเกิดของพระเยซู
วันพิเศษก็ต้องมีอะไรพิเศษๆ คือออออออ คริสต์เตียนที่เป็นต่างชาตินำร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าด้วย (ปกติร้องเป็นภาษาไทย)
เมื่อเสร็จพิธีกรรมทางศาสนา ก็ต่อด้วยการจับของขวัญที่โบสถ์เป็นผู้จัดให้กับผู้ร่วมงานในวันนั้น ไม่พออออออ ให้นักดนตรีที่มาเล่นเพลงสรเสริญพระเจ้าอยู่เสมอๆเป็นของขวัญพิเศษอีกด้วย
มือกลอง ตีมันมาก ประหนึ่งอยู่ในงานกีฬาสีโรงเรียน 5555555
ของขวัญสำหรับผู้ดวงดี 555555555
เมื่อจับและแจกของขวัญเสร็จ ก็ร่วมกันรับประทานอาหาร จะบอกว่าาาา มีเยอะมากกกกกกก หลากหลายมากก และอร่อยมากด้วย ทั้งหมดเป็นของชาวคริสต์เตียนด้วยกันเองทั้งหมด ทำกันมาบ้านละนิดละหน่อย (รูปอาหารอาจจะเยอะหน่อย ถ้าหิวก็เลื่อนผ่านไวๆ 5555)
ตามด้วยของหวานนน มีทั้งไอศครีม ผลไม้และเค้กกกก !!!!!!
พอทานอาหารเสร็จก็เริ่มการแลกขวัญกัน (เราไม่ได้ซื้อของไปเลยไม่ได้เล่น ฮ่าาๆ) ของที่นำมาแลกกันต้องเป็นของที่มีราคาไม่ต่ำกว่า 200 บาท จะเป็นของเก่าสภาพดีที่ไม่ใช้งานหรือจะเป็นของใหม่ก็ได้ ตามความสะดวกและคุณทรัพย์
เป็นอันจบบบบบบบบบ นอกจากการทำวิจัยและสัมมนาก็ไม่เคยพิมอะไรยาวเท่านี้มาก่อนเลยย อาจพิมผิดบ้าง พิมตกบ้าง เนื่องจากแป้นพิมไม่ค่อยดีแล้ว ฮื่อออ มีแววเสียเงินอีก ขอจบกระทู้แค่นี้เลยแล้วกันน บร๊ายยยยยยยยยย
ศาสนาคริสต์ในอำเภอท่าศาลา นครศรีธรรมราช
เข้าเรื่องเลยแล้วกัน เรากับเพื่อนคนหนึ่งได้มีโอกาสเรียนวิชาเกี่ยวกับความเป็นพหุวัฒนธรรม และได้มีโอกาสทำการศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยเรากับเพื่อนก็เลือกศึกษาประเด็นเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ เพราะโดยส่วนตัวมีความรู้เกี่ยวกับศาสนาคริสต์น้อยมาก เรากับเพื่อนเป็นพุทธทั้งคู่ เรามาจาก 3 จังหวัดเลยมีความรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลามค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับความรู้เกี่ยวกับศาสนาคริสต์
เราได้มีโอกาสไปทำกิจกรรมร่วมกับชาวคริสต์เตียนในวันอาทิตย์ 2 ครั้งด้วยกัน โดยไปตั้งแต่เริ่มพิธีกรรมต่างๆจนเสร็จพิธี ในอำเภอท่าศาลามีคริสตจักร 3 แห่งด้วยกัน คือ คริสตจักรพระคุณพระเจ้า, คริสตจักรลิฟวิ่งสตรีมส์, คริสตจักรพระกิตติคุณสมบูรณ์ เราเลือกไปที่คริสตจักรพระคุณพระเจ้าเพราะเป็นคริสตจักรที่เก่าแก่ที่สุดในอำเภอท่าศาลา (แต่คนในพื้นที่บ้างคนก็ไม่รู้จัก TT)
ชาวคริสต์เตียนที่นี้มีประมาณ 100 คน พวกเขานับถือนิกายโปรเตสแตนท์ ซึ่งแตกต่างจากนิกายอื่นๆตรงที่ไม่มีซิสเตอร์หรือบาทหลวงใดๆ จะมีเพียงศิษยาภิบาลที่เป็นผู้ดูแลโบสถ์เท่านั้น ในเรื่องของพิธีกรรมที่ทำกันเป็นประจำในวันอาทิตย์ก็เป็นไปอย่างเรียบง่ายและอบอุ่นสุดๆ ใช้เวลาตั้งแต่ประมาณ 09:00-13.00 น โดยเริ่มจากการทานอาหารเช้าเล็กๆน้อยๆร่วมกัน เช่น น้ำชา กาแฟ คุกกี้หรือขนมปังต่างๆ ต่อด้วยกันแบ่งกลุ่มกันศึกษาคัมภีร์ไบเบิ้ล แบ่งเป็นกลุ่มเด็กๆ กลุ่มสาวๆน้อยใหญ่ กลุ่มชายฉกรรจ์ มีกลุ่มชาวต่างชาติด้วย (เรากับเพื่อนได้เรียนรวมกับกลุ่มเด็ก เพราะความรู้ที่มีเท่ากับ 0 ฮ่าๆ) เมื่อจบคลาสเรียนก็เริ่มการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าร่วมกัน ต่อด้วยการฟังเทศน์ และร่วมรับประทานอาหารเที่ยงกัน
2 คนนี้เป็นเพื่อนร่วมคลาสเรียน 55555
กำลังจะเริ่มการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า
ครั้งแรกที่ได้ไปคือจะบอกว่า ประทับใจมากกกกกกกกกกกก ก.ไก่ ล้านตัว คือทุกคนเป็นกันเองมาก ตอนไปถึง เราไปถึงก่อนศิษยาภิบาล(คนส่วนใหญ่เรียกท่านว่าอาจารย์)ที่ดูแลโบสถ์นิดหน่อย เราเข้าไปถามหาอาจารย์กับคุณลุงคนหนึ่ง(ตอนแรกคิดว่าคุณลุงคืออาจารย์ 555) คุณลุงก็บอกว่าอาจารย์กำลังเดินทางมา แล้วก็ชวนไปนั่งในโบสถ์ แนะนำเรากับเพื่อนให้รู้จักกับชาวคริสต์เตียนที่นั้น แล้วก็นั่งพูดคุยกันจนอาจารย์มา
ทักทาย สวัสดีกันตลอดตลอด 555 ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก
เนื่องจากการไปครั้งนี้นั้นไปเพื่อการทำรายงาน จึงได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับแบบส่วนตัว มันจึงทำให้เรารู้ถึงเหตุผลที่พวกเขาต้อนรับเรากับเพื่อนเป็นอย่างดีมากๆ ทั้งที่เรากับเพื่อนนับถือศาสนาอื่น มันเป็นเพราะหลักคำสอนของศาสนาคริสต์นั้นเอง ที่ยึดหลักสำคัญๆอย่าง 2 ข้อ คือ รักพระเจ้าสุดจิตสุดใจและรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง งืออออออ ซึ้งใจมากก TT อาจารย์ที่ให้ข้อมูลกับเราบอกว่า ชาวคริสต์เตียนที่นี้สามารถปรับตัวให้เข้ากับความหลากหลายต่างศาสนาได้อย่างราบรื่นส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลักำสอนของศาสนาเองและอีกส่วนที่สำคัญเลยคือความเป็นไทย ไม่ว่าเราจะนับถือศาสนาใด เราต่างก็เป็นนไทยด้วยกัน (แถมอาจารย์ยังชวนเรากับเพื่อนไปร่วมงานคริสต์มาสอีกด้วย ตอบอย่างไวว่า "ได้ค่ะ" ไปสิรอไร 5555)
day 2 อาทิตย์ต่อมาตรงกับวันคริสต์มาส พิธีกรรมต่างๆก็คล้ายๆกับอาทิตย์ที่ไปครั้งแรก แต่ต่างกันตรงที่ใช้เวลานานกว่าอาทิตย์แรกนิดหน่อย ไม่มีคลาสเรียนด้วย (เย้ 55555 ล้อเล่น) เพราะเป็นวันคริสต์มาสบรรยากาศเลยอบอุ่นยิ่งกว่าเดิมอีก (ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองรึป่าว คืออบอุ่นจริงๆ)
เราในฐานะผู้เข้าร่วม แต่ไม่มีของไปร่วมเกมส์ แต่ยังมีโอกาสได้ของขวัญจากโบสถ์ โดยไม่ต้องมีของขวัญไปแลก ง่ายๆคืออาจได้ฟรี 5555
หมายเลขที่ออกนั้นนนนนนนนนนน 64 ต่อมาาาาาาาาา 67 (เป็นคนไร้ซึ่งดวงค่ะ TT)
บรรยากาศต้องร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าในวันเกิดของพระเยซู
วันพิเศษก็ต้องมีอะไรพิเศษๆ คือออออออ คริสต์เตียนที่เป็นต่างชาตินำร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าด้วย (ปกติร้องเป็นภาษาไทย)
เมื่อเสร็จพิธีกรรมทางศาสนา ก็ต่อด้วยการจับของขวัญที่โบสถ์เป็นผู้จัดให้กับผู้ร่วมงานในวันนั้น ไม่พออออออ ให้นักดนตรีที่มาเล่นเพลงสรเสริญพระเจ้าอยู่เสมอๆเป็นของขวัญพิเศษอีกด้วย
มือกลอง ตีมันมาก ประหนึ่งอยู่ในงานกีฬาสีโรงเรียน 5555555
ของขวัญสำหรับผู้ดวงดี 555555555
เมื่อจับและแจกของขวัญเสร็จ ก็ร่วมกันรับประทานอาหาร จะบอกว่าาาา มีเยอะมากกกกกกก หลากหลายมากก และอร่อยมากด้วย ทั้งหมดเป็นของชาวคริสต์เตียนด้วยกันเองทั้งหมด ทำกันมาบ้านละนิดละหน่อย (รูปอาหารอาจจะเยอะหน่อย ถ้าหิวก็เลื่อนผ่านไวๆ 5555)
ตามด้วยของหวานนน มีทั้งไอศครีม ผลไม้และเค้กกกก !!!!!!
พอทานอาหารเสร็จก็เริ่มการแลกขวัญกัน (เราไม่ได้ซื้อของไปเลยไม่ได้เล่น ฮ่าาๆ) ของที่นำมาแลกกันต้องเป็นของที่มีราคาไม่ต่ำกว่า 200 บาท จะเป็นของเก่าสภาพดีที่ไม่ใช้งานหรือจะเป็นของใหม่ก็ได้ ตามความสะดวกและคุณทรัพย์
เป็นอันจบบบบบบบบบ นอกจากการทำวิจัยและสัมมนาก็ไม่เคยพิมอะไรยาวเท่านี้มาก่อนเลยย อาจพิมผิดบ้าง พิมตกบ้าง เนื่องจากแป้นพิมไม่ค่อยดีแล้ว ฮื่อออ มีแววเสียเงินอีก ขอจบกระทู้แค่นี้เลยแล้วกันน บร๊ายยยยยยยยยย