สวัสดีครับทุกๆท่านที่เคารพ คือ ผมจะเล่าเรื่องราวในชีวิตก่อนนะครับ (แบบย่อๆ)
เล่าเลยนะครับ ตอนผมอายุ 11 ขวบผมได้ย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองกับพ่อครับ (เพื่อไปเรียนครับ)
ผมก็ได้เรียนรู้ชีวิตใหม่หลายๆอย่าง เพราะเป็นคนบ้านนอกไม่ค่อยได้เห็นอะไร
พออายุ 14 ได้ย้ายโรงเรียนไป ตจว.ไปอยู่กับลุงครับ แล้วนตอนอายุ 15 ย้ายมาอยู่บ้านกลับแม่
(นี่แหละครับคือจุดเปลี่ยน) ผมกลับมาเจอเพื่อนคนหนึ่งเขาชวนไปเล่นครับเขาเอาเหล้าให้กินครับ (ครั้งแรกในชีวิต)
ผมก็เริ่มมีกลุ่มเพราะความอยากมีเพื่อน แต่วันนึงผมสุดจะทนกับนิสัยแย่ๆของกลุ่มๆนี้ผมหาทางหนีหลบอยู่ในบ้าน เขาก็ตามมา
จนวันนึงผมนอนอยู่ เป ผมมองไปเห็นจีวรพระ ทันใดนั้นผมอยากบวช เพราะชีวิตแบบนี้ไม่ดีเอาซะเลย ผมเลยขอแม่ไปบวช
เป็นสามเณร แม่ผมดีใจมาก แล้วผมก็ได้บวชจริงๆ ผมตั้งใจอ่านธรรมมะ และ พระไตรปิฎก ปฏิบัติธรรม เคร่งในศิล
พระอาจารย์คอยเปลี่ยนนิสัยผม สอนผม ทำให้ผมเห็นสัจธรรมในชีวิต แต่อยู่ๆวันชีวิตผมก็เปลี่ยนไป ผมไปช่วยสร้างกุฏิ
โบสถ์ และ โรงครัวที่วัด (มันเป็นเรื่องดีใช่ไหมละครับ) และผมก็เริ่มขาดการปฏบัติ ทำให้จิตใจเริ่มไม่หนักแน่นทำให้โมหะควบคุมจิตใจ
แล้วช่างก็พูดให้เณรและพระไม่ชอบกัน ผมก็ทนช่างไม่ไหวขอย้ายวัด ไปวัด ตจว.ได้เห็นชีวิตเณรหลายองค์ต่างจากผมมาก (เพราะตอนนั้นผมอยู่องค์เดียว)อ้อลืมบอก ผมย้ายไปอยู่วัดที่มีเณรเยอะเพราะเรียนด้วยครับ ซึ่งไม่มีใครเคร่ง สิ่งที่ผมทำและปฏิบัติดูเหมือนไร้สาระสำหรับเขา
พออยู่ไปไม่นานจิตใจขาดความเชื่อมั่น เพราะมีผมตั้งใจปฏิบัติคนเดียว ผมเลยเลิกพิจารณาสังขาร เกิด ตั้ง ดับ เลิกคิดเรื่องนิพพาน แล้วหันมาอ่านหนังสือทางโลกจนผมได้ลาสิกขาเพื่อจะตั้งใจเรียน พอลาสิกขาได้ 1 ปี ผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ทำให้ผมเริ่มเกือบเชื่อในพระเจ้า แต่ก็ยังลังเลใจนะครับ เพราะศาสนาพุทธให้อะไรผมหลายๆอย่าง อีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้ผมมีแต่รุ่นพี่ที่ชวนแต่กินเหล้า ผมเบื่อมากไม่ดีเลย อีกไม่กี่เดือนจะเข้ามหาลัยแล้ว ผมไม่มีเพื่อนเลย ถ้าผมไม่กินก็หาเรื่องมาว่า ผมเป็นคนที่เกรงใจคนมากอีกอย่างถ้าปฏิเสธก็กลัวเขาไม่พอใจ จนทำให้ผมซึ่งกับสุภาษิตที่ว่า 'คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล ' (เอาเท่านี้แหละครับ หวังว่าจะไม่รบกวนนะครับ)ขอบคุณครับ
อ้อลืมบอก ผมเพิ่งอายุ 18 ครับ
ผมสับสนเกี่ยวกับชีวิตและศาสนา ผมต้องการที่ปรึกษาครับ
เล่าเลยนะครับ ตอนผมอายุ 11 ขวบผมได้ย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองกับพ่อครับ (เพื่อไปเรียนครับ)
ผมก็ได้เรียนรู้ชีวิตใหม่หลายๆอย่าง เพราะเป็นคนบ้านนอกไม่ค่อยได้เห็นอะไร
พออายุ 14 ได้ย้ายโรงเรียนไป ตจว.ไปอยู่กับลุงครับ แล้วนตอนอายุ 15 ย้ายมาอยู่บ้านกลับแม่
(นี่แหละครับคือจุดเปลี่ยน) ผมกลับมาเจอเพื่อนคนหนึ่งเขาชวนไปเล่นครับเขาเอาเหล้าให้กินครับ (ครั้งแรกในชีวิต)
ผมก็เริ่มมีกลุ่มเพราะความอยากมีเพื่อน แต่วันนึงผมสุดจะทนกับนิสัยแย่ๆของกลุ่มๆนี้ผมหาทางหนีหลบอยู่ในบ้าน เขาก็ตามมา
จนวันนึงผมนอนอยู่ เป ผมมองไปเห็นจีวรพระ ทันใดนั้นผมอยากบวช เพราะชีวิตแบบนี้ไม่ดีเอาซะเลย ผมเลยขอแม่ไปบวช
เป็นสามเณร แม่ผมดีใจมาก แล้วผมก็ได้บวชจริงๆ ผมตั้งใจอ่านธรรมมะ และ พระไตรปิฎก ปฏิบัติธรรม เคร่งในศิล
พระอาจารย์คอยเปลี่ยนนิสัยผม สอนผม ทำให้ผมเห็นสัจธรรมในชีวิต แต่อยู่ๆวันชีวิตผมก็เปลี่ยนไป ผมไปช่วยสร้างกุฏิ
โบสถ์ และ โรงครัวที่วัด (มันเป็นเรื่องดีใช่ไหมละครับ) และผมก็เริ่มขาดการปฏบัติ ทำให้จิตใจเริ่มไม่หนักแน่นทำให้โมหะควบคุมจิตใจ
แล้วช่างก็พูดให้เณรและพระไม่ชอบกัน ผมก็ทนช่างไม่ไหวขอย้ายวัด ไปวัด ตจว.ได้เห็นชีวิตเณรหลายองค์ต่างจากผมมาก (เพราะตอนนั้นผมอยู่องค์เดียว)อ้อลืมบอก ผมย้ายไปอยู่วัดที่มีเณรเยอะเพราะเรียนด้วยครับ ซึ่งไม่มีใครเคร่ง สิ่งที่ผมทำและปฏิบัติดูเหมือนไร้สาระสำหรับเขา
พออยู่ไปไม่นานจิตใจขาดความเชื่อมั่น เพราะมีผมตั้งใจปฏิบัติคนเดียว ผมเลยเลิกพิจารณาสังขาร เกิด ตั้ง ดับ เลิกคิดเรื่องนิพพาน แล้วหันมาอ่านหนังสือทางโลกจนผมได้ลาสิกขาเพื่อจะตั้งใจเรียน พอลาสิกขาได้ 1 ปี ผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ทำให้ผมเริ่มเกือบเชื่อในพระเจ้า แต่ก็ยังลังเลใจนะครับ เพราะศาสนาพุทธให้อะไรผมหลายๆอย่าง อีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้ผมมีแต่รุ่นพี่ที่ชวนแต่กินเหล้า ผมเบื่อมากไม่ดีเลย อีกไม่กี่เดือนจะเข้ามหาลัยแล้ว ผมไม่มีเพื่อนเลย ถ้าผมไม่กินก็หาเรื่องมาว่า ผมเป็นคนที่เกรงใจคนมากอีกอย่างถ้าปฏิเสธก็กลัวเขาไม่พอใจ จนทำให้ผมซึ่งกับสุภาษิตที่ว่า 'คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล ' (เอาเท่านี้แหละครับ หวังว่าจะไม่รบกวนนะครับ)ขอบคุณครับ
อ้อลืมบอก ผมเพิ่งอายุ 18 ครับ