ปกติทุกครั้งที่มาโอซาก้าเราก็จะเน้นแต่กินกับช็อปปิ้งเนอะ แต่หากใครอยากจะเปลี่ยนแนวมาท่องโลกใต้ท้องทะเลที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังดูบ้างก็คงจะสนุกดี ซึ่งที่นี่นับว่าเจ๋งมากจากหลายๆที่ๆเคยไปมา อีกทั้งยังขึ้นชื่อว่าเป็น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ติดอันดับโลก ซึ่งเป็นเหมือนศูนย์รวมปลาแปลกๆจากหลากหลายทวีปมาย่อรวมตัวอยู่ที่นี่ที่เดียว

โดยไฮไลท์สำคัญของที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นฉลามวาฬจินเบตัวเป็นๆ หรือจะเป็นน้องกวิ้น โดยก่อนเดินทางเราซื้อตั๋วกับ KKday ง่ายๆ ผ่านทาง ออนไลน์ที่ลิงค์ https://goo.gl/AVN6wu โดยเราต้องระบุวันที่จะเข้าพิพิธภัณฑ์ไว้เลย ซึ่งก็ถือว่าสะดวกดีเพราะเราจะได้fixไปเลยไม่ต้องไปฉุกละหุกที่นู่น เค้าจะส่งเอกสารยืนยันทางอีเมล และนำเอกสารนั้นมารับตั๋วที่เคาท์เตอร์ HIS ที่สนามบินตอนขาเข้า

สถานที่ตั้ง: 1-1-10 Kaigan-dori, Minato-ku, Osaka-shi, Osaka

อัตราค่าเข้า:


เวลาทำการ: 10:00 – 20:00 น.
*เวลาทำการจะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล กรุณาตรวจสอบรายละเอียดในเว็บไซต์
  http://www.kaiyukan.com/language/thai/

--------------------------------------------------------------------------------------------

เริ่มต้นวันตามสไตล์คอนเซ็ปต์มนุษย์slothค่ะ ตื่น9 ออก10 เราเดินออกจากที่พักตรง Nambaใช้เวลาไม่ถึง10 นาทีก็ถึงสถานี
การเดินทางมาง่ายมากๆ จากสถานีNamba ขึ้นสาย Midosuji Line มาเปลี่ยนที่ สถานีHommachi สาย Chuo สีเขียวเข้มมาลง
ที่สถานี Osakako ด้วยบัตร 2 Days Amazing Pass


ซึ่งหากใครใช้ไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใช้บัตรนี้ก็ถือว่าสะดวกและคุ้มมากค่ะ แนะนำๆ

มาต่อกันๆ พอถึงสถานี Osakako ใช้เวลาเดินไม่ถึง 10นาทีก็จะถึง Aquarium โดยเราสามารถเดินตาม Google Map ได้เลย



พอเดินมาตามทางจะสะดุดตากับร้านกาแฟฮิปๆ ซึ่งหากใครเป็นสายคาเฟ่ หรือคอกาแฟขอบอกเลยห้ามพลาด!!
9 Borden Coffee! มาฉีดคาเฟอีนเข้าเส้นเลือดกันหน่อย จัดไปค่ะ! กาแฟคนละแก้ว กับ Cinnamon bun *** Very recommended **
อร่อยมากกก กลิ่น cinnamon ไม่แรงไป  มีความฉ่ำตั้งแต่รอบนอกจนไปถึงตรงกลางที่เต็มไปด้วยซอสcinnamon

หลังจากเติมคาเฟอีนเสร็จแล้ว หลังออกจากร้านกาแฟเดินต่อไปอีกประมาณ 400 ม.
ข้ามถนนไปจะสังเกตเห็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ (Tempozan Giant Wheel)
             

ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาไม่หยุดกับลมที่พัดแรงมากจนร่มเกือบพัง เราต้องพบเจอกับคิวที่ยาวประมานแปดขดที่กำลังรอซื้อตั๋ว
เพียงแค่นำตั๋วที่ปริ้นมายื่นให้เจ้าหน้าที่ก็สามารถเดินเข้าได้เลยไม่ต้องไปเสียเวลาต่อแถว ได้ฟิวเหมือนผู้ชนะ 55555


ตอนมาถึงเราก็ได้เจอบรรดาแก๊งอนุบาลหมีน้อยที่มาทัศนศึกษากับโรงเรียน เด็กญี่ปุ่นจะมีความคาวาอี้และน่าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูกไม่รู้ทำไม 55555


แนะนำให้เผื่อเวลาในการเดินชมAquarium ประมาน 3-4 ชม. อันนี้ขึ้นอยู่กับความอินของแต่ละคน ซึ่งหากใครที่นำสำภาระมาสามารถนำมาฝากที่ Locker ได้ และสำหรับนักสะสมตัวปั๊มแนะนำให้นำสมุดมา หรือจะแวะซื้อสมุดหรือโปสการ์ดที่ร้านขายตุ๊กตาก็ได้ โดยแต่ละโซนจะมีตัวปั๊มรูปสัตว์ต่างๆวางไว้อยู่ ไว้ปั๊มเป็นที่ระลึก

คอนเซ็ปต์การเดินของพิพิธภัณฑ์ที่นี่คือจะเรียงลำดับเริ่มจากบนบกก่อน ตอนเริ่มเดินจะเจอสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ แล้วค่อยเดินต่อไปเรื่อยๆจะเป็นสัตว์น้ำ

เริ่มโดยเดินผ่านอุโมงค์ที่มีปลากระเบนแหวกว่ายไปมา ถัดจากนี้ก็เป็นโซนป่าญี่ปุ่นที่มีเจ้านาก Asian short-clawed otter
และตัวซาลาแมนเดอร์ Giant Salamander

หมู่เกาะอะลูเชียน Aleutian Islands

และเพลิดเพลินไปกับเหล่าสิงโตทะเลและน้องอุ๋งลายจุดจากอ่าวมอนเทอเรย์ (Monterey Bay)


เดินต่อไปอีกก็จะเจอตัว South American Coat จากอ่าวปานามา วิ่งไวมากกกกดชัตเตอร์แทบไม่ทัน  

โซนป่าฝนเอกวาดอร์ ปลาฝนเขตร้อนของอเมริกาใต้ กับเจ้าปลาอาราไพม่า

เอาหล่ะ มาถึงโซนไฮไลท์สำคัญที่เรารอคอยย น้องกวิ้นนอิมพอร์ตมาจากทวีปแอนตาร์กติกาเลยน้า
พาเหรดยกกันมาหมดเลยจ้า ทั้งเพนกวินอาเดลี เพนกวินเจนทู เพนกวินราชา

และต่อไปอีกก็จะเจอกันกับเจ้าโลมาแห่งทะเลแทสมัน (Tasman Sea  Pacific White-sided Dolphin)
และพวกกลุ่มปลาผีเสื้อ และ Pearl-spot chromis ที่อาศัยอยู่ตามแถบแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลกอย่างเกรตแบร์ริเออร์รีฟ

ต่อไปนี้จะถึงจุดไฮไลท์ของที่นี่นั่นก็คือโซนมหาสมุทรแปซิฟิก เราจะเห็นว่าตรงนี้ผู้คนจะมุงกันเยอะมากกกก  เพราะเราจะได้พบกับพระเอกของที่นี่แบบตัวเป็นๆ นั่นก็คือฉลามวาฬจินเบ เอาจริงๆคือไม่ต้องงไปดำน้ำตามหากันแล้วเพราะที่นี่ก็มี!!!   น้องจินเบอยู่ในแทงค์ตู้ปลาขนาดยักษ์ยาวถึง 34 เมตร ลึก9เมตร ตรงแทงค์เราสามารถเดินวนไล่จากบนลงล่างได้หลายรอบ

และอีกหนึ่งสิ่งที่เราชอบมากคือฝูงปลาฮอร์สแมคเคอเรลส่องประกายฟรุ้งฟริ้งว่ายไปมา คนส่วนใหญ่จะใช้เวลาตรงจุดนี้นาน
เพราะอยากจะแชะกับเจ้าจินเบ เลยอยากจะแนะนำว่าถ้าจะถ่ายรูปแบบคนโล่งๆ ขอให้เดินต่อไปอีก จะได้รูปชิคๆคูลๆแบบไม่ติดคนสมใจ

เดินต่อไปจะพบกับเพื่อนนีโม่อย่างน้องเต่าหัวค้อนจากช่องแคบคุก (ซึ่งตั้งอยู่ในโซนทะเลที่อยู่ระหว่างเกาะเหนือและเกาะใต้ของนิวซีแลนด์)
กุ้งมังกรญี่ปุ่น และปูแมงมุมยักษ์ที่ใหญ่สมชื่อจริงๆค่ะ


ถัดมาอีกจะเป็นโซนตู้ปลาแมงกะพรุน (ป.ล.ไม่ใช่ที่ทานในก๊วยเตี๋ยวเย็นตาโฟเด้อ)

เดินขึ้นมาจะเป็นโซนอาร์กติก เปิดให้เราได้สัมผัสความหนาวแบบขั้วโลก จะเจอแมววน้ำตัวอ้วนกลม ที่เป็นตู้กระจกแบบเปิด
ดูทรงที่นี่น่าจะเลี้ยงดีมากเพราะอุ๋งดูขยับตัวไม่ไหวแล้ว 55555 น่ารักกกนางดูมองตาแป๋วแลดูมีความเล่นกล้อง
ส่วนอีกตัวหาวแบบเกรงใจเพื่อนเลย


ถัดมาใกล้ๆก็จะเจอกับเจ้ากวิ้น Southern Rockhopper จากหมู่เกาะฟอล์คแลนด์  โดยโซนนี้จะเป็นการจำลองการใช้ชีวิตอย่าง
เหมือนจริงของเพนกวิน เค้าทำเป็นตู้เปิดดังนั้นเราจะสามารถสัมผัสแบบใกล้ชิด เปิดโอกาสขนาดนี้อยากจะอุ้มมกลับไทยจริงๆ
นางแข่งกันร้องแบบโหยหวนมาก พอตัวนึงร้องอีกตัวก็ร้องเหมือนส่งซิกแนลหากัน 555  แต่ก็นะคิ้วๆตามสไตล์กวิ้น
----------------------------------------------------------------------------------------------
เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง!!! เดินเสร็จ หิวโซเลยค่ะ ไม่คิดว่าจะใช้เวลากันถึง4ชม. เราเลยมาแวะมาฝากท้องกันที่เท็มโปซังมาเก็ตเพลสซึ่งอยู่ด้านข้าง Aquarium ใกล้ๆนี่เอง กึ่งๆห้างด้านในใหญ่กว่าที่เราคิดไว้ ร้านค้าส่วนใหญ่จะออกแนวlocal ภายในมีร้านอาหารแนวฟาสต์ฟู้ดและตรอกนานิว่าซึ่งเป็นการจำลองย่านการค้าเก่าสมัยก่อนของชาวบ้านโอซาก้า ร้านทาโกะยากิกับโอโคะโนะมิยากิ จัดไปค่ะ ข้าวหมูแกงกะหรี่ กับเทมปุระ  



หลังจากนั้น ก็ได้เวลากลับ ระหว่างทางเดินไปสถานี Osakako เรากับเพื่อนมองตากันเหมือนรู้ใจ ไม่ลีลาเดินเข้าร้านซูเฟล่
จัดซูเฟล่ชีสซิกเนเจอร์พอหอมมปากก่อนกลับ  อร่อยดีนะเนื้อมีความละมุน หอมมชีสเบาๆ ไม่เลี่ยนเกิน แนะนำให้มาลองค่ะ
ของหวานเป็นพิธี เป็นอันว่าฟินก่อนกลับ!! 

วันนี้แอดขอจบแต่เพียงเท่านี้เน้อออออ