ช่อง 3 ลุยขายคอนเทนต์ต่างแดน หวังดันรายได้ต่างประเทศโต 2-3 เท่า เตรียมปูพรมรุกหนักอาเซียน ยุโรป และอเมริกา
นายรณพงศ์ คำนวณทิพย์ หัวหน้าคณะผู้บริหารสายการพาณิชย์ บริษัท บีอีซี เวิลด์ เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับการขายคอนเทนต์ไปในตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยกลุ่มประเทศที่บริษัทให้ความสนใจเข้าไปทำตลาดเป็นพิเศษ คือ อาเซียน เนื่องจากประชาชนในกลุ่มประเทศดังกล่าวมีความชื่นชอบในคอนเทนต์ของไทยโดยเฉพาะละคร และรายการวาไรตี้ ซึ่งหลังจากบริษัทได้ทดลองนำคอนเทนต์เข้าไปทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้านพบว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทบรรลุข้อตกลง กับบริษัท พีเอ็นเอ็นทีวี กัมพูชา ในการซื้อลิขสิทธิ์ละครช่อง 3 ไปออกอากาศในช่องพีเอ็นเอ็นทีวี ในช่วงไพรม์ไทม์เวลาประมาณ 21.00-22.00 น. และนันไพรม์ไทม์เวลาประมาณ 12.00- 14.00 น. โดยในส่วนของละครที่ได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปจะมีทั้งหมด 1,400 ชั่วโมง หรือประมาณ 40-50 เรื่อง ซึ่งในส่วนของละครที่มีการซื้อไปออกอากาศจะมีทั้งละครใหม่และละครเก่าควบคู่กันไป
"การจับมือร่วมกันกับพีเอ็นเอ็นทีวี กัมพูชา ในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ ซึ่งในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจในรูปแบบ ดังกล่าวไปยังประเทศอื่นๆ ในอาเซียน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในประเทศเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน และฟิลิปปินส์ คาดว่าเร็วๆ นี้ น่าจะได้ข้อสรุป" นายรณพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะ นำคอนเทนต์ละครและรายการวาไรตี้เข้าไปทำตลาดในประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น กลุ่มประเทศยุโรป และอเมริกา เพื่อขยายธุรกิจในต่างประเทศให้มี ความแข็งแกร่งมากขึ้น ขณะเดียวกันยังถือเป็นการหารายได้เข้ามาเสริมตัวธุรกิจหลักของช่อง 3
นายรณพงศ์ กล่าวอีกว่า หลังจากเดินหน้าขายคอนเทนต์ไปในตลาด ต่างประเทศอย่างต่อเนื่องคาดว่า สิ้นปี 2561 น่าจะมีรายได้จากการขายคอนเทนต์ไปในตลาดต่างประเทศเติบโตไม่ต่ำกว่า 2-3 เท่าตัว
CR. Post Today
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.posttoday.com/biz/aec/news/531603
ช่อง 3 ลุยส่งออกละคร ประกาศปูพรมตลาดอาเซียน
ช่อง 3 ลุยขายคอนเทนต์ต่างแดน หวังดันรายได้ต่างประเทศโต 2-3 เท่า เตรียมปูพรมรุกหนักอาเซียน ยุโรป และอเมริกา
นายรณพงศ์ คำนวณทิพย์ หัวหน้าคณะผู้บริหารสายการพาณิชย์ บริษัท บีอีซี เวิลด์ เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับการขายคอนเทนต์ไปในตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยกลุ่มประเทศที่บริษัทให้ความสนใจเข้าไปทำตลาดเป็นพิเศษ คือ อาเซียน เนื่องจากประชาชนในกลุ่มประเทศดังกล่าวมีความชื่นชอบในคอนเทนต์ของไทยโดยเฉพาะละคร และรายการวาไรตี้ ซึ่งหลังจากบริษัทได้ทดลองนำคอนเทนต์เข้าไปทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้านพบว่าลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทบรรลุข้อตกลง กับบริษัท พีเอ็นเอ็นทีวี กัมพูชา ในการซื้อลิขสิทธิ์ละครช่อง 3 ไปออกอากาศในช่องพีเอ็นเอ็นทีวี ในช่วงไพรม์ไทม์เวลาประมาณ 21.00-22.00 น. และนันไพรม์ไทม์เวลาประมาณ 12.00- 14.00 น. โดยในส่วนของละครที่ได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปจะมีทั้งหมด 1,400 ชั่วโมง หรือประมาณ 40-50 เรื่อง ซึ่งในส่วนของละครที่มีการซื้อไปออกอากาศจะมีทั้งละครใหม่และละครเก่าควบคู่กันไป
"การจับมือร่วมกันกับพีเอ็นเอ็นทีวี กัมพูชา ในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ ซึ่งในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจในรูปแบบ ดังกล่าวไปยังประเทศอื่นๆ ในอาเซียน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในประเทศเวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน และฟิลิปปินส์ คาดว่าเร็วๆ นี้ น่าจะได้ข้อสรุป" นายรณพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะ นำคอนเทนต์ละครและรายการวาไรตี้เข้าไปทำตลาดในประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น กลุ่มประเทศยุโรป และอเมริกา เพื่อขยายธุรกิจในต่างประเทศให้มี ความแข็งแกร่งมากขึ้น ขณะเดียวกันยังถือเป็นการหารายได้เข้ามาเสริมตัวธุรกิจหลักของช่อง 3
นายรณพงศ์ กล่าวอีกว่า หลังจากเดินหน้าขายคอนเทนต์ไปในตลาด ต่างประเทศอย่างต่อเนื่องคาดว่า สิ้นปี 2561 น่าจะมีรายได้จากการขายคอนเทนต์ไปในตลาดต่างประเทศเติบโตไม่ต่ำกว่า 2-3 เท่าตัว
CR. Post Today
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้