สวัสดีครับ วันนี้ผมขออณุญาตแชร์ประสบการณ์ที่คิดว่าจะไม่มีวันลืมแล้วไม่คิดจะทำอีกของผมเลยนะครับ ผมอาจจะเรียบเรียงไม่ถูก ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย นี่เป็นกระทู้แรกของผมนะครับ อึดอัดจริงๆ อยากได้ทั้งคำด่า และกำลังใจนะครับแต่คิดว่าเพื่อนๆที่อ่านจบ คงต้องมีสติมากขึ้นแน่นอน ถ้าได้เผชิญกับเหตุการณ์เหล่านี้
เรื่องมีอยู่ว่า ครอบครัวผมมีสมาชิกอยู่4คนครับ คือผม แฟน แม่ แล้วก็ลูกสาวจะ4ขวบละ เช่าบ้านอยู่ แล้วก็ผ่อนรถเก๋งกับมอไซค์1คันครับ ฐานะปานกลาง พอมีเงินเหลือใช้บ้างไม่มาก ผมเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่สามารถมีปากมีเสียงกับเมียได้ครับ วันหนึ่งเมียเห็นพี่สาวของเค้ากู้ซื้อบ้านในโครงการหนึ่ง เมียและแม่ยาย น้องแม่ยายรวม3ครอบครัวซึ่งก็เช่าบ้านอยู่เช่นกันมีความฝันอยากจะได้บ้านเป็นของตัวเอง ประจวบกับพี่สาวเมียกำลังยื่นกู้ซื้อบ้านได้ยื่นข้อเสนอมาว่าจะกู้ซื้อบ้านให้โดยใช้ชื่อของพี่สาวเมีย ถ้ากู้ผ่านนอกจากได้บ้านแล้วยังเหลือเงินด้วยนะหลังละ3หมื่น 6หมื่น และ1แสน ทำให้ทุกคนเกิดความหวังและได้ตกลงว่าจะยืมชื่อพี่สาวเมียซื้อจึงได้วางเงินจองกันไปหลังละ5พัน รวม3หลัง
เวลาต่อมาทางพี่สาวเมียบอกว่าเงินส่วนต่างตรงนี้อาจจะลดลงนะ เช่นหลังของน้าจาก1แสนเหลือ 6หมื่นเป็นต้น ด้วยความที่พวกเราอยากได้ก็เลยคิดว่า ไม่เป็นไรให้เค้าไปก็ได้เค้าอุส่ากู้ให้
เวลาต่อมา เค้าบอกว่าเงินส่วนต่างนี้มันไม่ได้แล้วนะ แต่จะทำหลังคาให้3หลังเลย พวกเราก็ยังยืนยันว่าไม่เป็นไรได้หลังคามาก็ยังดี(เค้าบอกประมาณว่าบ้านกู้ไม่ได้เต็มเลยต้องเอาเงินส่วนต่างเป็นเงินดาวน์ประมาณนี้ แต่มีบ้านผมหลังเดียวที่เค้ามาบอกให้จ่ายค่าส่วนกลาง2ปีและค่ามิเตอร์น้ำไฟเอง เพิ่มอีก25000)
เวลาต่อมาถึงคราวเข้าอยู่ของ4ครอบครัว รวมของพี่สาวเมียด้วย ทุกคนมีความสุขมากได้บ้านเป็นของตัวเองโดยพี่สาวเมียบอกว่าผ่อนครบ3ปีจะให้ยื่นกู้ใหม่แล้วจะโอนเปลี่ยนชื่อให้ทุกบ้าน ตอนนี้ทุกบ้านมีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มยิ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมางานวันเกิดหลาน(ลูกของพี่ส่วเมีย)ปกติผมจะไม่ค่อยสนิทกับเค้าเท่าไรแต่วันนั้นผมนั่งกินเหล้ากับเพื่อนเค้ายันเช้าความรู้สึกเหมือนจะดีขึ้นจากเมื่อก่อนที่อาจจะเคยมองเค้าในแง่ลบบ้าง
แต่แล้ว
.........................
เมื่อมาถึงวันที่ต้องจ่ายงวดแรกของบ้านน้าน้าแกก็สงสัยทำไมตั้งแต่อยู่ม่ไม่เคยเห็นเอกสารของบ้านหลังนี้ซักใบทั้งที่ปณ.เค้าก็เอามาส่งให้แต่ทำไมเค้าไม่เอามาให้น้าแล้วทุกคนก็ห้ามแกะเอกสารของพี่สาวเมียไม่งั้นบ้านแตกแล้วเวลาจ่ายเงินก็ต้งจ่ายเป็นเงินสดเท่านั้น ผมได้ไปนั่งคุยกับน้า(น้องสาวแม่ยาย)ก็เลยรู้สึกสงสัย เหมือนได้กลิ่นอะไรตุๆและโฮ่งๆ พอมาถึงหลังแม่ยายก็เหมือนกับหลังของน้าไม่มีผิด แต่ด้วยความที่เค้าเป็นญาติกันเป็นแม่ลูกกันคงคิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก แต่สำหรับเรามันคนนอกมันยิ่งสงสัย แต่ก็คิดว่าคงได้แค่สงสัยเพราะเราไม่มีหลักฐานอะไรเลย .......
เวลาต่อมาอยู่มาสักพักรู้สึกร้อนมากเกิดอยากติดแอร์ขึ้นมาเลยเปิดดูในเน็ตเค้าบอกให้ใช้สัญญาซื้อขายบ้านเพราะเราไม่มีบัตรเครดิตหรือเงินเพื่อที่จะไปซื้อแอร์(จริงๆ
แถมบ้านละหลังแทงค์น้ำก็แถม แต่3หลังผม แม่ยาย และน้า ไม่ได้อะำรเลย)เลยต้องไปขอสัญญาซื้อขายที่พี่สาวแฟนพอไปเอาสังเกตุเค้าจะเหวี่ยงๆหน่อยยิ่งทำให้เราสงสัย วันต่อมาวันที่ความแตกเหมือนพระเจ้าทรงโปรดอยู่ดีๆก็ไปเจอเอกสารซองหนึ่งที่อยู่ในกระเป๋าเมียกำลังจะเอาไปให้พี่สาวมันที่ไม่มีใครกล้าเปิดซึ่งใหญ่มากแถมหน้าซองเขียนว่าธนาคารกรุงศ..อ้าวเฮ้ย นี่ธนาคารบ้านกรูนี่น่า(อะตอม) ไม่รอช้าหาวิธีเปิดแบบแนบเนียนที่สุด เปิดออกมาดูโดยไม่ตั้งใจว่าจะได้เจอรูปเก่า รูปที่เทอตั้งใจปกปิดไว้เปิดดูโดยไม่รู้ตัว(พี่ป้างก็มาขอใส่มุขบ้างเดี๋ยวเบื่อ) บ้านราคา1.7 แต่ธนาคารอณุมัติ1.9😨😨 อ่าว...และๆแล้วตังหายไปไหน2แสน
และไหนบอกว่ากู้ได้ไม่เต็มแถมมาเอาตังกูไปอีกสองหมื่นห้า จึงได้โทรบอกแม่และน้าว่า โด้น โดนแล้วล่ะ
แม่กับน้าก็เลยลุกขึ้นมาเต้น...ถุ้ย. บังเอิญน้องเมียไปเก็บขี้แมวให้คฤหาสน์หลังนี้พอดี(สงสัยตั้งแต่มันทำบ้านแบบอลังมากแล้วก็ออกรถป้ายแดงมาแล้วด้วย)น้องมันเลยบอกอุ้ยเต๊ะซองอะไรวางทิ้งเรี่ยราดกำลังจะเก็บให้เค้า อยู่ดีๆสำเนาเช็ค2แสนของบ้านผมก็หล่นลงมากับบ้านแม่อีกแสนห้า แต่ของน้ายังไม่เจอแต่เมื่อวันก่อนจำได้ว่าพ่อให้ดูแปลงของน้าว่าได้3แสน(พ่อผมเตือนแล้วไม่ฟัง ผมผิดเองครับพ่อ) บวกกันดูสิ200000+150000+300000= ?
พอรู้แบบนั้นแล้วความบรรเทิงจึงเกิด......
เวลาต่อมาจึงมาปรึกษาแม่ยายและน้าบอกว่าให้อยู่เฉยๆอย่าผลีผลามเดี๋ยวผมจัดการเองแกก็ตกลงเพราะแกเป็นคนใจเย็นมาก ก็เลยเดินกลับมาบ้านเพื่อมาเอาเอกสารให้พี่เมีย พอกำลังจะเดินไปถึงบ้านมัน โอ้โหแม่ยายกูเปิดก่อนเลยครับผิดแผนเลยต้องตามน้ำ ก็ได้ถามว่า
ผม "ทำไมพี่ถึงไม่บอกว่าส่วนต่างได้หลังละเป็นแสนๆแถมยังมาก็บเงินผมอีกสองหมื่นห้า"
มันก็เถียงกลับมาว่า
ยักษ์ "ชั้นบอกแกแล้วว่าส่วนต่างชั้ลไม่ให้แกก็ตกลง
ผม "ใช่ผมตกลงว่าไม่เอา แต่นั้นพี่บอกแค่สามหมื่นไม่ใช่สองแสน ถ้าบอกว่าจะเอาไปทั้งสองแสน ผมจะไม่เอาเลยตั้งแต่แรก เพราะผมได้แค่บ้านอย่างเดียว1.7แต่ต้องมาผ่อน1.9 "
ยักษ์ "ก็มันเป็นชื่อของชั้นมันก็ต้องเป็นของชั้น"......
สรุป เค้าพยายามบอกว่ามันเป็นชื่อของเค้า เค้าต้องได้ส่วนนั้นไปทั้งที่เราเป็นคนจ่ายเงินคืน (สาเหตุที่ไม่ใช้ชื่อตัวเองเพราะเราติดบัตรเฟิสช้อยจึงต้องใช้ชื่อเค้า แล้วก็ไม่คิดว่าเค้าจะทำเพราะแม่เค้า น้าเค้าก็เอาด้วย)
เหมือนจะจบ.....แต่มันไม่จบ
สองวันต่อมาระหว่างที่กำลังช่วยแม่ทำงานอยู่นางยักษ์ได้เปิดประตูเข้ามาแล้วบอกว่า เมื่อไหร่จะย้ายไปด้วยเสียงที่ดุดัน ผมเลยตอบว่าไม่ย้ายแม่ก็เลยตอบมันว่าเอาเงิน3หมื่นคืนมาก่อน(รวมเงินจองด้วย) เท่านั้นแหละมันด่าแม่ผมแบบอี** มึ*** แล้วก็เถียงกันจนทนไม่ไหวผมพยายามระงับอารมณ์ไม่ทำอะไรมันเพราะในบ้านเป็นบ้านมัน เลยวิ่งไปข้างนอกบอกให้มันออกมาแล้วก็ทะเลาะกัน ผมรู้ว่าผมคงไม่ได้คืนหรอกเงินสามหมื่นแต่อยากจะด่ามันว่าคนที่กล้าโกงพ่อโกงแม่โกงพี่โกงน้องโกงญาติมันไม่เจริญหรอกจำไว้ พ่อแม่ก็ลำบากแทนที่จะมีเงินก้อนมาปิดหนี้เพื่อที่จะเอามาผ่อนบ้านทางเดียวกลับต้องมาเป็นหนี้เพิ่ม.......
จากครอบครัวใหญ่ที่เคยมีความสุขได้อยู่กันพร้อมหน้าเด็กๆไปมาหาสู่ปั่นจักรยานเล่นกันทุกวัน มาวันนี้ผมไม่เคยเห็นรอยยิ้มใครอีกเลยมีแต่คนร้องไห้เสียใจ กำลังใจทำงานก็ไม่มี ทุกคนป่วยทั้งกายและใจรวมทั้งตัวผมด้วย ตอนนี้ทุกคนได้ตัดสินใจทยอยกลับไปอยู่ที่เก่าด้วยคราบน้ำตา ตอนนี้ผมเองก็พยายามสร้างกำลังใจให้ทุกคนโดยการไปลองยื่นกู้ซื้อเองจะปิดหนี้เฟิสช้อย จะหาทางเยียวยาจิตใจทุกคนให้ได้มากที่สุด ผมเข้าใจทุกคนเลยครับว่าฝันสลายมันเป็นยังไงใครจะไปคิดว่าลูกหลานจะทำกับเราได้ขนาดนี้ ขนาดบัตรเครดิต2-3หมื่นยังทำยากเลย นี่เงินหลักแสนคงไม่ไหวนะครับ แต่ผมเชื่อว่าหลังจากผมย้ายออกกันแล้วเวรกรรมคงตามพี่ทันอีกไม่ช้าแน่ครับ......
ตอนนี้ครอบครัวผมเดือดร้อนอยากได้เงิน3หมื่นคืน ไม่รู้จะพอมีทางไหนได้บ้าง เพราะเค้ายังยืนยันว่าไม่ให้คืน ไม่รู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆพอจะแนะนำผมได้บ้างรึปล่าวครับ หรือผมอาจต้องเสียเงินก้อนนั้นไปฟรีๆ(เพราะความไว้ใจใครจะไปคิดว่ามันจะกล้าทำแบบนี้กับคนที่เป็นแม่และน้าของมัน)
สุดท้ายขอขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ด้วยนะครับที่ให้ผมระบายความในใจได้ยาวขนาดนี้ คิดว่าเพื่อนๆที่ได้อ่านคงเอาไว้เป็นอุทาหรนะครับ สวัสดีครับ
ใช้ชื่อคนอื่นซื้อบ้านเพราะความไว้ใจ(พี่สาวแฟน) สุดท้ายโดนไล่ออกจากบ้านเงินส่วนต่างไม่ได้ แถมเสียเงินไปอีก3หมื่น
เรื่องมีอยู่ว่า ครอบครัวผมมีสมาชิกอยู่4คนครับ คือผม แฟน แม่ แล้วก็ลูกสาวจะ4ขวบละ เช่าบ้านอยู่ แล้วก็ผ่อนรถเก๋งกับมอไซค์1คันครับ ฐานะปานกลาง พอมีเงินเหลือใช้บ้างไม่มาก ผมเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่สามารถมีปากมีเสียงกับเมียได้ครับ วันหนึ่งเมียเห็นพี่สาวของเค้ากู้ซื้อบ้านในโครงการหนึ่ง เมียและแม่ยาย น้องแม่ยายรวม3ครอบครัวซึ่งก็เช่าบ้านอยู่เช่นกันมีความฝันอยากจะได้บ้านเป็นของตัวเอง ประจวบกับพี่สาวเมียกำลังยื่นกู้ซื้อบ้านได้ยื่นข้อเสนอมาว่าจะกู้ซื้อบ้านให้โดยใช้ชื่อของพี่สาวเมีย ถ้ากู้ผ่านนอกจากได้บ้านแล้วยังเหลือเงินด้วยนะหลังละ3หมื่น 6หมื่น และ1แสน ทำให้ทุกคนเกิดความหวังและได้ตกลงว่าจะยืมชื่อพี่สาวเมียซื้อจึงได้วางเงินจองกันไปหลังละ5พัน รวม3หลัง
เวลาต่อมาทางพี่สาวเมียบอกว่าเงินส่วนต่างตรงนี้อาจจะลดลงนะ เช่นหลังของน้าจาก1แสนเหลือ 6หมื่นเป็นต้น ด้วยความที่พวกเราอยากได้ก็เลยคิดว่า ไม่เป็นไรให้เค้าไปก็ได้เค้าอุส่ากู้ให้
เวลาต่อมา เค้าบอกว่าเงินส่วนต่างนี้มันไม่ได้แล้วนะ แต่จะทำหลังคาให้3หลังเลย พวกเราก็ยังยืนยันว่าไม่เป็นไรได้หลังคามาก็ยังดี(เค้าบอกประมาณว่าบ้านกู้ไม่ได้เต็มเลยต้องเอาเงินส่วนต่างเป็นเงินดาวน์ประมาณนี้ แต่มีบ้านผมหลังเดียวที่เค้ามาบอกให้จ่ายค่าส่วนกลาง2ปีและค่ามิเตอร์น้ำไฟเอง เพิ่มอีก25000)
เวลาต่อมาถึงคราวเข้าอยู่ของ4ครอบครัว รวมของพี่สาวเมียด้วย ทุกคนมีความสุขมากได้บ้านเป็นของตัวเองโดยพี่สาวเมียบอกว่าผ่อนครบ3ปีจะให้ยื่นกู้ใหม่แล้วจะโอนเปลี่ยนชื่อให้ทุกบ้าน ตอนนี้ทุกบ้านมีแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มยิ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมางานวันเกิดหลาน(ลูกของพี่ส่วเมีย)ปกติผมจะไม่ค่อยสนิทกับเค้าเท่าไรแต่วันนั้นผมนั่งกินเหล้ากับเพื่อนเค้ายันเช้าความรู้สึกเหมือนจะดีขึ้นจากเมื่อก่อนที่อาจจะเคยมองเค้าในแง่ลบบ้าง
แต่แล้ว
.........................
เมื่อมาถึงวันที่ต้องจ่ายงวดแรกของบ้านน้าน้าแกก็สงสัยทำไมตั้งแต่อยู่ม่ไม่เคยเห็นเอกสารของบ้านหลังนี้ซักใบทั้งที่ปณ.เค้าก็เอามาส่งให้แต่ทำไมเค้าไม่เอามาให้น้าแล้วทุกคนก็ห้ามแกะเอกสารของพี่สาวเมียไม่งั้นบ้านแตกแล้วเวลาจ่ายเงินก็ต้งจ่ายเป็นเงินสดเท่านั้น ผมได้ไปนั่งคุยกับน้า(น้องสาวแม่ยาย)ก็เลยรู้สึกสงสัย เหมือนได้กลิ่นอะไรตุๆและโฮ่งๆ พอมาถึงหลังแม่ยายก็เหมือนกับหลังของน้าไม่มีผิด แต่ด้วยความที่เค้าเป็นญาติกันเป็นแม่ลูกกันคงคิดว่าคงไม่มีอะไรหรอก แต่สำหรับเรามันคนนอกมันยิ่งสงสัย แต่ก็คิดว่าคงได้แค่สงสัยเพราะเราไม่มีหลักฐานอะไรเลย .......
เวลาต่อมาอยู่มาสักพักรู้สึกร้อนมากเกิดอยากติดแอร์ขึ้นมาเลยเปิดดูในเน็ตเค้าบอกให้ใช้สัญญาซื้อขายบ้านเพราะเราไม่มีบัตรเครดิตหรือเงินเพื่อที่จะไปซื้อแอร์(จริงๆแถมบ้านละหลังแทงค์น้ำก็แถม แต่3หลังผม แม่ยาย และน้า ไม่ได้อะำรเลย)เลยต้องไปขอสัญญาซื้อขายที่พี่สาวแฟนพอไปเอาสังเกตุเค้าจะเหวี่ยงๆหน่อยยิ่งทำให้เราสงสัย วันต่อมาวันที่ความแตกเหมือนพระเจ้าทรงโปรดอยู่ดีๆก็ไปเจอเอกสารซองหนึ่งที่อยู่ในกระเป๋าเมียกำลังจะเอาไปให้พี่สาวมันที่ไม่มีใครกล้าเปิดซึ่งใหญ่มากแถมหน้าซองเขียนว่าธนาคารกรุงศ..อ้าวเฮ้ย นี่ธนาคารบ้านกรูนี่น่า(อะตอม) ไม่รอช้าหาวิธีเปิดแบบแนบเนียนที่สุด เปิดออกมาดูโดยไม่ตั้งใจว่าจะได้เจอรูปเก่า รูปที่เทอตั้งใจปกปิดไว้เปิดดูโดยไม่รู้ตัว(พี่ป้างก็มาขอใส่มุขบ้างเดี๋ยวเบื่อ) บ้านราคา1.7 แต่ธนาคารอณุมัติ1.9😨😨 อ่าว...และๆแล้วตังหายไปไหน2แสน
และไหนบอกว่ากู้ได้ไม่เต็มแถมมาเอาตังกูไปอีกสองหมื่นห้า จึงได้โทรบอกแม่และน้าว่า โด้น โดนแล้วล่ะ
แม่กับน้าก็เลยลุกขึ้นมาเต้น...ถุ้ย. บังเอิญน้องเมียไปเก็บขี้แมวให้คฤหาสน์หลังนี้พอดี(สงสัยตั้งแต่มันทำบ้านแบบอลังมากแล้วก็ออกรถป้ายแดงมาแล้วด้วย)น้องมันเลยบอกอุ้ยเต๊ะซองอะไรวางทิ้งเรี่ยราดกำลังจะเก็บให้เค้า อยู่ดีๆสำเนาเช็ค2แสนของบ้านผมก็หล่นลงมากับบ้านแม่อีกแสนห้า แต่ของน้ายังไม่เจอแต่เมื่อวันก่อนจำได้ว่าพ่อให้ดูแปลงของน้าว่าได้3แสน(พ่อผมเตือนแล้วไม่ฟัง ผมผิดเองครับพ่อ) บวกกันดูสิ200000+150000+300000= ?
พอรู้แบบนั้นแล้วความบรรเทิงจึงเกิด......
เวลาต่อมาจึงมาปรึกษาแม่ยายและน้าบอกว่าให้อยู่เฉยๆอย่าผลีผลามเดี๋ยวผมจัดการเองแกก็ตกลงเพราะแกเป็นคนใจเย็นมาก ก็เลยเดินกลับมาบ้านเพื่อมาเอาเอกสารให้พี่เมีย พอกำลังจะเดินไปถึงบ้านมัน โอ้โหแม่ยายกูเปิดก่อนเลยครับผิดแผนเลยต้องตามน้ำ ก็ได้ถามว่า
ผม "ทำไมพี่ถึงไม่บอกว่าส่วนต่างได้หลังละเป็นแสนๆแถมยังมาก็บเงินผมอีกสองหมื่นห้า"
มันก็เถียงกลับมาว่า
ยักษ์ "ชั้นบอกแกแล้วว่าส่วนต่างชั้ลไม่ให้แกก็ตกลง
ผม "ใช่ผมตกลงว่าไม่เอา แต่นั้นพี่บอกแค่สามหมื่นไม่ใช่สองแสน ถ้าบอกว่าจะเอาไปทั้งสองแสน ผมจะไม่เอาเลยตั้งแต่แรก เพราะผมได้แค่บ้านอย่างเดียว1.7แต่ต้องมาผ่อน1.9 "
ยักษ์ "ก็มันเป็นชื่อของชั้นมันก็ต้องเป็นของชั้น"......
สรุป เค้าพยายามบอกว่ามันเป็นชื่อของเค้า เค้าต้องได้ส่วนนั้นไปทั้งที่เราเป็นคนจ่ายเงินคืน (สาเหตุที่ไม่ใช้ชื่อตัวเองเพราะเราติดบัตรเฟิสช้อยจึงต้องใช้ชื่อเค้า แล้วก็ไม่คิดว่าเค้าจะทำเพราะแม่เค้า น้าเค้าก็เอาด้วย)
เหมือนจะจบ.....แต่มันไม่จบ
สองวันต่อมาระหว่างที่กำลังช่วยแม่ทำงานอยู่นางยักษ์ได้เปิดประตูเข้ามาแล้วบอกว่า เมื่อไหร่จะย้ายไปด้วยเสียงที่ดุดัน ผมเลยตอบว่าไม่ย้ายแม่ก็เลยตอบมันว่าเอาเงิน3หมื่นคืนมาก่อน(รวมเงินจองด้วย) เท่านั้นแหละมันด่าแม่ผมแบบอี** มึ*** แล้วก็เถียงกันจนทนไม่ไหวผมพยายามระงับอารมณ์ไม่ทำอะไรมันเพราะในบ้านเป็นบ้านมัน เลยวิ่งไปข้างนอกบอกให้มันออกมาแล้วก็ทะเลาะกัน ผมรู้ว่าผมคงไม่ได้คืนหรอกเงินสามหมื่นแต่อยากจะด่ามันว่าคนที่กล้าโกงพ่อโกงแม่โกงพี่โกงน้องโกงญาติมันไม่เจริญหรอกจำไว้ พ่อแม่ก็ลำบากแทนที่จะมีเงินก้อนมาปิดหนี้เพื่อที่จะเอามาผ่อนบ้านทางเดียวกลับต้องมาเป็นหนี้เพิ่ม.......
จากครอบครัวใหญ่ที่เคยมีความสุขได้อยู่กันพร้อมหน้าเด็กๆไปมาหาสู่ปั่นจักรยานเล่นกันทุกวัน มาวันนี้ผมไม่เคยเห็นรอยยิ้มใครอีกเลยมีแต่คนร้องไห้เสียใจ กำลังใจทำงานก็ไม่มี ทุกคนป่วยทั้งกายและใจรวมทั้งตัวผมด้วย ตอนนี้ทุกคนได้ตัดสินใจทยอยกลับไปอยู่ที่เก่าด้วยคราบน้ำตา ตอนนี้ผมเองก็พยายามสร้างกำลังใจให้ทุกคนโดยการไปลองยื่นกู้ซื้อเองจะปิดหนี้เฟิสช้อย จะหาทางเยียวยาจิตใจทุกคนให้ได้มากที่สุด ผมเข้าใจทุกคนเลยครับว่าฝันสลายมันเป็นยังไงใครจะไปคิดว่าลูกหลานจะทำกับเราได้ขนาดนี้ ขนาดบัตรเครดิต2-3หมื่นยังทำยากเลย นี่เงินหลักแสนคงไม่ไหวนะครับ แต่ผมเชื่อว่าหลังจากผมย้ายออกกันแล้วเวรกรรมคงตามพี่ทันอีกไม่ช้าแน่ครับ......
ตอนนี้ครอบครัวผมเดือดร้อนอยากได้เงิน3หมื่นคืน ไม่รู้จะพอมีทางไหนได้บ้าง เพราะเค้ายังยืนยันว่าไม่ให้คืน ไม่รู้ว่าเพื่อนๆพี่ๆพอจะแนะนำผมได้บ้างรึปล่าวครับ หรือผมอาจต้องเสียเงินก้อนนั้นไปฟรีๆ(เพราะความไว้ใจใครจะไปคิดว่ามันจะกล้าทำแบบนี้กับคนที่เป็นแม่และน้าของมัน)
สุดท้ายขอขอบคุณพื้นที่แห่งนี้ด้วยนะครับที่ให้ผมระบายความในใจได้ยาวขนาดนี้ คิดว่าเพื่อนๆที่ได้อ่านคงเอาไว้เป็นอุทาหรนะครับ สวัสดีครับ