แค่จั่วหัวข้อมาก็ทำเอาหลายคนสงสัยแล้วใช่ไหมครับว่ามันคืออะไร มันเป็นยังไง มันมีอะไรซับซ้อนหรอกับการเติมน้ำมัน
สำหรับคนที่ตั้งใจมาเรียน มาทำงานหรือแม้กระทั่งมาท่องเที่ยวหากจะเดินทางไปในหลายๆรัฐใกล้ๆกัน มันคงจะสะดวกกว่าแน่ๆหากท่านมีรถให้ขับเป็นของตัวเอง หรือเช่ารถไว้เป็นพาหนะเดินทาง ซึ่งจะทำให้ชีวิตของท่านนั้นมีความปลอดภัย ความสะดวกสบายมากขึ้นทีเดียว ยิ่งเฉพาะกับการออกไปท่องเที่ยวนั้น ถ้ามีรถขับเรียกว่าได้ไปหลายที่ที่ไกลกันได้สะดวกขึ้นเยอะเลย ไว้วันหลังจะมาเล่าขั้นตอนการซื้อรถให้ฟังด้วยนะครับ ซึ่งไม่ยากและที่สำคัญใช้เงินน้อยกว่าที่ไทยอีกด้วย เจ๋งเป้งไหมละ
อย่างที่เกริ่นนำไปครับ ใช่ครับในเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรมของไทยกับอเมริกา ทำให้เรื่องการเติมน้ำมันก็มีความต่างเช่นกัน เนื่องจากที่นี่นั้นส่วนใหญ่แล้วเจ้าของรถจะมีหน้าที่รับผิดชอบในการเติมน้ำมันเองนะครับ เราจะได้ทำในทุกขั้นตอนซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่ท้าทายและสนุกมากนะครับสำหรับคนที่ไม่เคยทำเองมาก่อน
บรรยากาศรอบๆปั๊มน้ำมันครับ ต่างคนก็ต่างเริ่มเติมกันเองเลยครับ ถ้าปั๊มใหญ่หน่อยแบบในรูปนี้ก็จะมีเป็นสิบช่องให้เลือกเติมเลยครับ ต้องสังเกตนะครับว่าที่เติมน้ำมันของรถเราอยู่ข้างใน แล้วก็หันด้านให้ถูกครับ
โดยปกติแล้วนั้น การเติมน้ำมันที่นี่ก็จะคล้ายกับบ้านเราคือมีให้เลือกใช้บัตรเครดิต เดบิต หรือจ่ายเป็นเงินสด หากว่าท่านไม่มีบัตรเครดิตหรือเดบิต ท่านก็สามารถจ่ายเงินสดได้เช่นกันที่เคาน์เตอร์ซึ่งส่วนใหญ่จะเปิดเป็นมินิมาร์ทหรือร้านขายของเล็กๆ ซึ่งเราจะเติมเท่าไรก็ได้เพียงแค่บอกจำนวนเงินกับเบอร์เลขตรงแท่นปั๊มน้ำมันที่เราจะเติม แค่นี้พนักงานก็จะกดให้แล้วเราก็สามารถออกมาเติมเองได้ตามจำนวนที่เราได้จ่ายเงินไป
ในครั้งนี้นั้น ผมสาธิตด้วยการใช้บัตรเครดิตที่ผมมีนะครับ มาเริ่มกันเลย!
หน้าจอแรกที่เจอก่อนเริ่มเติมน้ำมันก็จะประมาณนี้ครับ ที่หน้าจอของปั๊มน้ำมันก็จะถามว่า จะจ่ายเป็นบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือ จ่ายเงินสดข้างในที่เคาน์เตอร์
ส่วนใหญ่แล้วน้ำมันก็จะมีให้เลือกสามแบบประมาณนี้ครับ ถูกสุดก็คล้ายๆบ้านเราครับ น้ำมันที่มีค่าออคเทน 87 ระดับขึ้นไปก็จะเป็น 89 และ 93 ตามลำดับ ส่วนใหญ่คนที่นี่ก็เลือกถูกกันครับ ถ้าไม่ใช่รถที่จำเป็นต้องเติมชนิดที่แพง วันนี้ผมก็เลือกที่ตัว 87 ครับ เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋าซักหน่อย
ช่องใส่บัตรเครดิตหรือเดบิตในกรณีที่ไม่ได้เลือกจ่ายเงินสดข้างในที่เคาน์เตอร์ครับ
แป้นพิมพ์ต่างๆในกรณีการกรอกรหัสบัตร หรือ รหัสไปรษณีย์ของบัตร ซึ่งแล้วแต่ว่าแต่ละเครื่องแต่ละสถานที่จะถามอะไรครับ
ที่ประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่เท่าที่ทราบมาและเคยพบเห็น เราจะมีเด็กปั๊มคอยให้บริการเราแต่ที่นี่ตรงบริเวณเติมน้ำมันจะค่อนข้างโล่งโปร่ง เมื่อไปถึงที่เติมจะมีที่ให้รูดบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตคล้ายๆที่ไทย การรูดบัตรคือเสียบเข้าไปแล้วให้เอาออกทันทีนะครับ เป็นสไตล์ของที่นี่นะครับ แล้วระบบก็จะตรวจสอบ
หลังจากเสียบบัตรเข้าไปแล้วดึงออกมานะครับ หน้าจอจะถามว่าบัตรที่เราพึ่งเสียบเข้าไปนั้นเป็นบัตรเดบิตหรือไม่ ถ้าใช่ก็ตอบ Yes ครับ ถ้าใช้บัตรเครดิตก็ตอบ No ในกรณีนี้ผมจะตอบเป็น No นะครับเนื่องจากผมใช้บัตรเครดิตครับ
หน้าจอถัดมาก็จะให้เราพิมพ์ zip code หรือรหัสไปรษณีย์ของที่อยู่บัตรนะครับ ก็ส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่ที่เราแจ้งไว้กับธนาคารที่เราใช้บัตรเครดิตนั่นแหละครับ คิดว่าถ้าใช้บัตรเดบิตจะเปลี่ยนเป็นรหัสพินของบัตรเดบิตแทน ก็ให้กรอกพินลงไปครับ
หน้าจอถัดไปเครื่องที่ปั๊มน้ำมันก็จะบอกให้เราสามารถเอาที่เติมออกได้แล้วให้เลือกเกรดของน้ำมันที่เราต้องการ
สำหรับครั้งนี้ผมจะเลือกเกรด 87 นะครับ ซ้ายมือสุดตามรูปด้านล่าง
หลังจากนั้นก็ให้ดึงสายที่เติมน้ำมันออกจากที่วางของมันแล้วก็นำไปใส่ที่รูน้ำมันที่รถของท่าน ในขั้นตอนนี้ส่วนใหญ่จะสามารถกดให้น้ำมันไหลแบบออโต้ไปเรื่อยๆได้จนกว่าจะเต็มถัง ระหว่างที่รอเติมน้ำมันก็จะมีโฆษณาด้วยนะครับ ถ้าเจอปั๊มที่ใหม่หน่อย บางปั๊มเก่าๆก็ไม่มีหน้าจอแบบนี้ครับ จะมีแค่หน้าจอแสดงตัวเลข ส่วนตัวเลขต่างๆก็จะแสดงจำนวนเงิน จำนวนลิตรที่กำลังเติมอยู่ครับ
หลังจากน้ำมันเต็มถัง ก็ให้เอาสายที่เติมน้ำมันกลับไปวางคืนที่เดิม ปิดจุกน้ำมันรถให้เรียบร้อยก็สามารถเดินทางต่อได้ เท่านี้ก็เสร็จสิ้นกระบวนการ
ที่เติมน้ำมันจากที่รถนะครับ ก็จะดูเก่าหน่อยนะครับรถผม ก็แค่บิดที่ปิดออกมา เปิดช่องก็พร้อมเติมครับผม
หลังจากเติมน้ำมันเสร็จ ปั๊มก็จะถามว่าเราต้องการใบเสร็จหรือไม่ ถ้าต้องการไว้เพื่อเป็นหลักฐานก็ตอบ ใช่ แล้วเครื่องจะปริ้นออกมาให้ตอนนั้นเลย หรือเครื่องจะบอกให้เราไปรับกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ แต่ถ้าไม่ต้องการอะไรมากมายก็สามารถตอบ ไม่ ได้ครับ ช่วยประหยัดกระดาษ รักษ์โลก
ในกรณีนี้ผมตอบว่าต้องการใบเสร็จนะครับ เครื่องก็จะทำการปริ้นให้โดยการแจ้งเตือนบอกว่า ใบเสร็จกำลังปริ้นครับ
ช่องรอรับใบเสร็จครับ
หลังจากน้ำมันเต็มถัง ก็ให้เอาสายที่เติมน้ำมันกลับไปวางคืนที่เดิม ปิดจุกน้ำมันรถให้เรียบร้อยก็สามารถเดินทางต่อได้ เท่านี้ก็เสร็จสิ้นกระบวนการ ลุยเที่ยวกันต่อได้เลยครับ
เทคนิคเล็กน้อยสำหรับคนที่อยากจะทำโร้ดทริป (Road Trip) หรือการขับรถท่องเที่ยวไปยังภูมิภาคต่างๆของประเทศอเมริกานะครับ ในแต่ละเมืองราคาน้ำมันก็จะไม่เท่ากันนะครับ ถึงแม้จะเป็นประเทศเดียวกันก็ตาม ให้ศึกษาวางแผนให้ดีนะครับ เพราะถ้าเติมน้ำมันเมืองที่ถูกกว่า ก็สามารถบริหารเงินทุนให้ต่ำกว่า เพื่อเก็บไว้กินไว้เที่ยวในทริปต่อได้อีกด้วย คุณสามารถจะกูเกิลดูราคาคร่าวๆของแต่ละเมืองได้ครับ อาจจะคำว่า "Gas near me" "Gas price in ตามด้วยชื่อเมืองเป็นต้นครับ"
เป็นอย่างไรกันมั่งครับ การเติมน้ำมันซึ่งไม่ยากเกินความสามารถของคนไทยหรอกครับ แต่รู้ไว้ก่อนก็ดีกว่าไม่รู้เลยนะครับ ดั่งสำนวนที่ว่า รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
วันหลังจะมาเล่าให้ฟังถึงเทคนิคการโร้ดทริปในอเมริกาที่ผมใช้อยู่ด้วยนะครับ ไม่ได้เลิศหรูอะไรแต่ก็ถือว่าสนุกและได้ประ
การเติมน้ำมันรถในอเมริกา ความแตกต่างที่น่าสนใจ
สำหรับคนที่ตั้งใจมาเรียน มาทำงานหรือแม้กระทั่งมาท่องเที่ยวหากจะเดินทางไปในหลายๆรัฐใกล้ๆกัน มันคงจะสะดวกกว่าแน่ๆหากท่านมีรถให้ขับเป็นของตัวเอง หรือเช่ารถไว้เป็นพาหนะเดินทาง ซึ่งจะทำให้ชีวิตของท่านนั้นมีความปลอดภัย ความสะดวกสบายมากขึ้นทีเดียว ยิ่งเฉพาะกับการออกไปท่องเที่ยวนั้น ถ้ามีรถขับเรียกว่าได้ไปหลายที่ที่ไกลกันได้สะดวกขึ้นเยอะเลย ไว้วันหลังจะมาเล่าขั้นตอนการซื้อรถให้ฟังด้วยนะครับ ซึ่งไม่ยากและที่สำคัญใช้เงินน้อยกว่าที่ไทยอีกด้วย เจ๋งเป้งไหมละ
อย่างที่เกริ่นนำไปครับ ใช่ครับในเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรมของไทยกับอเมริกา ทำให้เรื่องการเติมน้ำมันก็มีความต่างเช่นกัน เนื่องจากที่นี่นั้นส่วนใหญ่แล้วเจ้าของรถจะมีหน้าที่รับผิดชอบในการเติมน้ำมันเองนะครับ เราจะได้ทำในทุกขั้นตอนซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่ท้าทายและสนุกมากนะครับสำหรับคนที่ไม่เคยทำเองมาก่อน
บรรยากาศรอบๆปั๊มน้ำมันครับ ต่างคนก็ต่างเริ่มเติมกันเองเลยครับ ถ้าปั๊มใหญ่หน่อยแบบในรูปนี้ก็จะมีเป็นสิบช่องให้เลือกเติมเลยครับ ต้องสังเกตนะครับว่าที่เติมน้ำมันของรถเราอยู่ข้างใน แล้วก็หันด้านให้ถูกครับ
โดยปกติแล้วนั้น การเติมน้ำมันที่นี่ก็จะคล้ายกับบ้านเราคือมีให้เลือกใช้บัตรเครดิต เดบิต หรือจ่ายเป็นเงินสด หากว่าท่านไม่มีบัตรเครดิตหรือเดบิต ท่านก็สามารถจ่ายเงินสดได้เช่นกันที่เคาน์เตอร์ซึ่งส่วนใหญ่จะเปิดเป็นมินิมาร์ทหรือร้านขายของเล็กๆ ซึ่งเราจะเติมเท่าไรก็ได้เพียงแค่บอกจำนวนเงินกับเบอร์เลขตรงแท่นปั๊มน้ำมันที่เราจะเติม แค่นี้พนักงานก็จะกดให้แล้วเราก็สามารถออกมาเติมเองได้ตามจำนวนที่เราได้จ่ายเงินไป
ในครั้งนี้นั้น ผมสาธิตด้วยการใช้บัตรเครดิตที่ผมมีนะครับ มาเริ่มกันเลย!
หน้าจอแรกที่เจอก่อนเริ่มเติมน้ำมันก็จะประมาณนี้ครับ ที่หน้าจอของปั๊มน้ำมันก็จะถามว่า จะจ่ายเป็นบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือ จ่ายเงินสดข้างในที่เคาน์เตอร์
ส่วนใหญ่แล้วน้ำมันก็จะมีให้เลือกสามแบบประมาณนี้ครับ ถูกสุดก็คล้ายๆบ้านเราครับ น้ำมันที่มีค่าออคเทน 87 ระดับขึ้นไปก็จะเป็น 89 และ 93 ตามลำดับ ส่วนใหญ่คนที่นี่ก็เลือกถูกกันครับ ถ้าไม่ใช่รถที่จำเป็นต้องเติมชนิดที่แพง วันนี้ผมก็เลือกที่ตัว 87 ครับ เพื่อประหยัดเงินในกระเป๋าซักหน่อย
ช่องใส่บัตรเครดิตหรือเดบิตในกรณีที่ไม่ได้เลือกจ่ายเงินสดข้างในที่เคาน์เตอร์ครับ
แป้นพิมพ์ต่างๆในกรณีการกรอกรหัสบัตร หรือ รหัสไปรษณีย์ของบัตร ซึ่งแล้วแต่ว่าแต่ละเครื่องแต่ละสถานที่จะถามอะไรครับ
ที่ประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่เท่าที่ทราบมาและเคยพบเห็น เราจะมีเด็กปั๊มคอยให้บริการเราแต่ที่นี่ตรงบริเวณเติมน้ำมันจะค่อนข้างโล่งโปร่ง เมื่อไปถึงที่เติมจะมีที่ให้รูดบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตคล้ายๆที่ไทย การรูดบัตรคือเสียบเข้าไปแล้วให้เอาออกทันทีนะครับ เป็นสไตล์ของที่นี่นะครับ แล้วระบบก็จะตรวจสอบ
หลังจากเสียบบัตรเข้าไปแล้วดึงออกมานะครับ หน้าจอจะถามว่าบัตรที่เราพึ่งเสียบเข้าไปนั้นเป็นบัตรเดบิตหรือไม่ ถ้าใช่ก็ตอบ Yes ครับ ถ้าใช้บัตรเครดิตก็ตอบ No ในกรณีนี้ผมจะตอบเป็น No นะครับเนื่องจากผมใช้บัตรเครดิตครับ
หน้าจอถัดมาก็จะให้เราพิมพ์ zip code หรือรหัสไปรษณีย์ของที่อยู่บัตรนะครับ ก็ส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่ที่เราแจ้งไว้กับธนาคารที่เราใช้บัตรเครดิตนั่นแหละครับ คิดว่าถ้าใช้บัตรเดบิตจะเปลี่ยนเป็นรหัสพินของบัตรเดบิตแทน ก็ให้กรอกพินลงไปครับ
หน้าจอถัดไปเครื่องที่ปั๊มน้ำมันก็จะบอกให้เราสามารถเอาที่เติมออกได้แล้วให้เลือกเกรดของน้ำมันที่เราต้องการ
สำหรับครั้งนี้ผมจะเลือกเกรด 87 นะครับ ซ้ายมือสุดตามรูปด้านล่าง
หลังจากนั้นก็ให้ดึงสายที่เติมน้ำมันออกจากที่วางของมันแล้วก็นำไปใส่ที่รูน้ำมันที่รถของท่าน ในขั้นตอนนี้ส่วนใหญ่จะสามารถกดให้น้ำมันไหลแบบออโต้ไปเรื่อยๆได้จนกว่าจะเต็มถัง ระหว่างที่รอเติมน้ำมันก็จะมีโฆษณาด้วยนะครับ ถ้าเจอปั๊มที่ใหม่หน่อย บางปั๊มเก่าๆก็ไม่มีหน้าจอแบบนี้ครับ จะมีแค่หน้าจอแสดงตัวเลข ส่วนตัวเลขต่างๆก็จะแสดงจำนวนเงิน จำนวนลิตรที่กำลังเติมอยู่ครับ
หลังจากน้ำมันเต็มถัง ก็ให้เอาสายที่เติมน้ำมันกลับไปวางคืนที่เดิม ปิดจุกน้ำมันรถให้เรียบร้อยก็สามารถเดินทางต่อได้ เท่านี้ก็เสร็จสิ้นกระบวนการ
ที่เติมน้ำมันจากที่รถนะครับ ก็จะดูเก่าหน่อยนะครับรถผม ก็แค่บิดที่ปิดออกมา เปิดช่องก็พร้อมเติมครับผม
หลังจากเติมน้ำมันเสร็จ ปั๊มก็จะถามว่าเราต้องการใบเสร็จหรือไม่ ถ้าต้องการไว้เพื่อเป็นหลักฐานก็ตอบ ใช่ แล้วเครื่องจะปริ้นออกมาให้ตอนนั้นเลย หรือเครื่องจะบอกให้เราไปรับกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ แต่ถ้าไม่ต้องการอะไรมากมายก็สามารถตอบ ไม่ ได้ครับ ช่วยประหยัดกระดาษ รักษ์โลก
ในกรณีนี้ผมตอบว่าต้องการใบเสร็จนะครับ เครื่องก็จะทำการปริ้นให้โดยการแจ้งเตือนบอกว่า ใบเสร็จกำลังปริ้นครับ
ช่องรอรับใบเสร็จครับ
หลังจากน้ำมันเต็มถัง ก็ให้เอาสายที่เติมน้ำมันกลับไปวางคืนที่เดิม ปิดจุกน้ำมันรถให้เรียบร้อยก็สามารถเดินทางต่อได้ เท่านี้ก็เสร็จสิ้นกระบวนการ ลุยเที่ยวกันต่อได้เลยครับ
เทคนิคเล็กน้อยสำหรับคนที่อยากจะทำโร้ดทริป (Road Trip) หรือการขับรถท่องเที่ยวไปยังภูมิภาคต่างๆของประเทศอเมริกานะครับ ในแต่ละเมืองราคาน้ำมันก็จะไม่เท่ากันนะครับ ถึงแม้จะเป็นประเทศเดียวกันก็ตาม ให้ศึกษาวางแผนให้ดีนะครับ เพราะถ้าเติมน้ำมันเมืองที่ถูกกว่า ก็สามารถบริหารเงินทุนให้ต่ำกว่า เพื่อเก็บไว้กินไว้เที่ยวในทริปต่อได้อีกด้วย คุณสามารถจะกูเกิลดูราคาคร่าวๆของแต่ละเมืองได้ครับ อาจจะคำว่า "Gas near me" "Gas price in ตามด้วยชื่อเมืองเป็นต้นครับ"
เป็นอย่างไรกันมั่งครับ การเติมน้ำมันซึ่งไม่ยากเกินความสามารถของคนไทยหรอกครับ แต่รู้ไว้ก่อนก็ดีกว่าไม่รู้เลยนะครับ ดั่งสำนวนที่ว่า รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
วันหลังจะมาเล่าให้ฟังถึงเทคนิคการโร้ดทริปในอเมริกาที่ผมใช้อยู่ด้วยนะครับ ไม่ได้เลิศหรูอะไรแต่ก็ถือว่าสนุกและได้ประ