ที่ทำงานแผนกเราไปเลี้ยงสังสรรค์และจับฉลากของขวัญปีใหม่กันนอกสถานที่ ไปหลังเวลาเลิกงาน ลักษณะของการสังสรรค์ก็คือ ไปกินอาหาร ร้องเพลงคาราโอเกะ และจับของขวัญ
เราในฐานะที่เป็นพนักงานใหม่ และอายุน้อยสุดในแผนก ก็ไปกับเขาด้วย เพราะไม่กล้าปฏิเสธ เดี๋ยวจะถูกมองว่าไม่ยอมเข้าสังคม(ปกติเราไม่ชอบเที่ยวหลังเลิกงาน และเราก็ต้องเดินทางกลับคนเดียว ไม่มีรถส่วนตัว)
แต่พอไปถึงที่สังสรรค์ ห้องที่จัดเลี้ยงเล็กมาก
เหมือนจัดในห้องนอนที่บ้าน สิ่งเดียวที่เราชอบก็คือ อาหาร อาหารค่อนข้างดี เรากินจนอิ่ม แต่ก็แอบเสียใจ เพราะตอนนี้เรากำลังพยายามไดเอตอยู่
แต่อย่างอื่นเราไม่สนุกเลย พวกรุ่นพี่เขาสนุกกับการร้องเพลงคาราโอเกะ เต้นแร้งเต้นกา ดื่มเหล้ากันด้วย(แต่เราไม่ดื่ม) เราไม่สนุก เพราะเพลงที่ทางร้านจัดไว้ให้ ล้วนไม่ใช่แนวเพลงที่เราชอบ หลายเพลงเราไม่รู้จักเลย รุ่นพี่ก็คอยส่งไมค์ให้เราร้องเพลงหลายครั้ง แต่เราไม่ร้อง เพราะร้องไม่เป็น(ถ้าไม่แน่ใจว่าตัวเองร้องได้ และไม่ใช่เพลงที่ตัวเองชอบด้วยแล้ว จะไม่ร้องเด็ดขาด เสียงเราก็ใช่ว่าจะดี) รุ่นพี่ก็หาว่าเราไม่กล้าแสดงออก (เราเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ ก็จะถูกมองว่าไม่กล้าแสดงออกอยู่บ่อยๆ แต่พวกเขาไม่เคยเห็นตัวเราเวลาที่ต้องร้องเพลง เต้น หรือแสดงละครในสมัยเรียน เราทำมาหมดแล้ว ถ้าต้องทำจริงๆ เราก็ทำได้)
พอเวลาผ่านไปสัก 1-2 ชม. เราก็รู้สึกไม่อยากอยู่แล้ว แต่เราก็ยังกลับไม่ได้ถ้าคนอื่นๆยังไม่กลับ เรารู้สึกหนวกหูกับคนที่ร้องเพลง แล้วเราก็โดนแซวโน่นแซวนี่ เราไม่ขำ เราอารมณ์กร่อยแล้ว(แต่ก็แกล้งยิ้มๆตอบไปบ้าง)
สุดท้ายกว่าจะได้กลับก็สี่ทุ่ม เรานั่งรถกลับคนเดียว พร้อมด้วยของขวัญจับฉลากที่เราไม่อยากได้เลย(เพราะเรามีของนั่นเยอะแล้ว แต่เราก็ไม่ได้พูดออกไปหรอกว่าเราไม่ต้องการ เรายังมีมารยาทอยู่) และเราก็คิดอีกว่า พอถึงวันจันทร์ เราจะโดนเพื่อนร่วมงานแซวอีกไหม จะมีเรื่องให้พวกเขาเอาไปนินทาอีกไหม โดยรวมแล้วไม่รู้สึกประทับใจ ถ้าปีหน้ายังมีจัดเลี้ยงสังสรรค์แบบนี้ เราคงไม่ไปแล้ว เราผิดไหมที่รู้สึกและทำตัวแบบนี้
ไปเลี้ยงสังสรรค์กับพวกเพื่อนร่วมงาน แต่เราไม่สนุกเลย ผิดไหม
เราในฐานะที่เป็นพนักงานใหม่ และอายุน้อยสุดในแผนก ก็ไปกับเขาด้วย เพราะไม่กล้าปฏิเสธ เดี๋ยวจะถูกมองว่าไม่ยอมเข้าสังคม(ปกติเราไม่ชอบเที่ยวหลังเลิกงาน และเราก็ต้องเดินทางกลับคนเดียว ไม่มีรถส่วนตัว)
แต่พอไปถึงที่สังสรรค์ ห้องที่จัดเลี้ยงเล็กมาก
เหมือนจัดในห้องนอนที่บ้าน สิ่งเดียวที่เราชอบก็คือ อาหาร อาหารค่อนข้างดี เรากินจนอิ่ม แต่ก็แอบเสียใจ เพราะตอนนี้เรากำลังพยายามไดเอตอยู่
แต่อย่างอื่นเราไม่สนุกเลย พวกรุ่นพี่เขาสนุกกับการร้องเพลงคาราโอเกะ เต้นแร้งเต้นกา ดื่มเหล้ากันด้วย(แต่เราไม่ดื่ม) เราไม่สนุก เพราะเพลงที่ทางร้านจัดไว้ให้ ล้วนไม่ใช่แนวเพลงที่เราชอบ หลายเพลงเราไม่รู้จักเลย รุ่นพี่ก็คอยส่งไมค์ให้เราร้องเพลงหลายครั้ง แต่เราไม่ร้อง เพราะร้องไม่เป็น(ถ้าไม่แน่ใจว่าตัวเองร้องได้ และไม่ใช่เพลงที่ตัวเองชอบด้วยแล้ว จะไม่ร้องเด็ดขาด เสียงเราก็ใช่ว่าจะดี) รุ่นพี่ก็หาว่าเราไม่กล้าแสดงออก (เราเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ ก็จะถูกมองว่าไม่กล้าแสดงออกอยู่บ่อยๆ แต่พวกเขาไม่เคยเห็นตัวเราเวลาที่ต้องร้องเพลง เต้น หรือแสดงละครในสมัยเรียน เราทำมาหมดแล้ว ถ้าต้องทำจริงๆ เราก็ทำได้)
พอเวลาผ่านไปสัก 1-2 ชม. เราก็รู้สึกไม่อยากอยู่แล้ว แต่เราก็ยังกลับไม่ได้ถ้าคนอื่นๆยังไม่กลับ เรารู้สึกหนวกหูกับคนที่ร้องเพลง แล้วเราก็โดนแซวโน่นแซวนี่ เราไม่ขำ เราอารมณ์กร่อยแล้ว(แต่ก็แกล้งยิ้มๆตอบไปบ้าง)
สุดท้ายกว่าจะได้กลับก็สี่ทุ่ม เรานั่งรถกลับคนเดียว พร้อมด้วยของขวัญจับฉลากที่เราไม่อยากได้เลย(เพราะเรามีของนั่นเยอะแล้ว แต่เราก็ไม่ได้พูดออกไปหรอกว่าเราไม่ต้องการ เรายังมีมารยาทอยู่) และเราก็คิดอีกว่า พอถึงวันจันทร์ เราจะโดนเพื่อนร่วมงานแซวอีกไหม จะมีเรื่องให้พวกเขาเอาไปนินทาอีกไหม โดยรวมแล้วไม่รู้สึกประทับใจ ถ้าปีหน้ายังมีจัดเลี้ยงสังสรรค์แบบนี้ เราคงไม่ไปแล้ว เราผิดไหมที่รู้สึกและทำตัวแบบนี้