อยากมาระบายเรื่องรูมเมทของตัวเองบ้าง เทอมนี้เลยล่าสุด
แล้วเทอมหน้าว่าจะย้ายออกแล้ว ไม่ไหวมากกกจริงๆ คืออัดอั้นมาสักพักแล้วแหละ
คือเมื่อตอนแรกเราอยู่หอในกับเพื่อนเก่าสมัยมัธยม ตอนนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร ค่าห้องถูกเมทดีก็ไม่ค่อยยุ่งไรกันคุยกันบ้าง ยืมหมวกยืมเครื่องประดับไรกันบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไร
จนเมทเราย้ายออกไปอยู่กับเพื่อนคณะตัวเอง เราเลยต้องหาห้องใหม่คนเดียวเพราะหอในก็อยู่ไม่ได้แล้วคะแนนหอไม่ถึง เนื่องจากว่าเราไม่ได้ทำกิจกรรมหอเท่าไหร่ หาไปหามาจนไปถามเพื่อนในสาขาที่อยู่หอในนอกว่าเออห้องแบบไหนราคาเท่าไหร่เป็นไงบ้าง นางก็เลยบอกว่าเมทนางซิ่วเลยย้ายออกพอดีหาเมทใหม่อยู่ เราก็แบบเห็นปกติก็คุยด้วยกันดีไปเที่ยวกันบ้าง นางก็อายุเยอะแล้วเหมือนจะซิ่วมาหลายรอบ (คือก็ห่างจากเราหลายปีอยู่ แต่เรียนปีเดียวกัน) เลยว่าเดี๋ยวจะเข้ามาอยู่ด้วยแล้วกัน
จนวันย้ายนางก็มาช่วยย้าย เราก็ว่านางก็ดีมาช่วยย้ายของด้วย ก็อยู่กันมาไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่นะ เรื่องห้องรกก็รกพอๆกันแหละ สักพักก็เก็บ กวาดห้องบางทีนางก็กวาดบางทีเราก็กวาด แต่นางจะไม่ชอบทิ้งขยะ เราจะเป็นคนเอาไปทิ้งตลอด คือนางจะทิ้งจนมันจะล้นถุงที่แขวนไว้อย่างงั้น เราก็จะเป็นคนเก็บใส่ถุงดำละเอาลงไปทิ้ง
แล้วของใช้พวกสบู่ยาสระผมนางไม่เคยซื้อเองเลยตั้งแต่เราย้ายเข้ามาอยู่ คือตอนเราย้ายเข้ามาตอนแรกจะมีอันเก่าของนางที่ใช้อยู่ นางก็ใช้จนของนางหมดทั้งสบู่ทั้งยาสระผมแต่ไม่ทิ้งขวดนะตั้งไว้แบบนั้นแหละแล้วมาใช้ของเรา เราซื้อเองไปสามสี่ขวดได้ละ เราเคยว่าแบบวันนั้นยาสระผมหมดซึ่งก็คือที่เราซื้อมานั่นแหละ แล้วเราเลยไม่ซื้อปล่อยไว้งั้นแล้วไปสระร้าน เราจะรอดูว่านางจะซื้อใช้เองมั้ย ปรากฏว่านางก็ไม่ซื้อเหมือนเดิม จนเป็นอาทิตย์แล้วเราทนไม่ไหวต้องไปซื้อมาใช้เองแล้วนางก็มาใช้อีกละจ้า สรุปคือในห้องน้ำจะมีสบู่กับแชมพูของเราที่ยังไม่หมด กับของนางที่หมดแล้วเป็นขวดเปล่าที่ไม่ทิ้งซักทีทำไมไม่รู้ ก็คือเวลานางออกจากห้องน้ำทีนี่แบบกลิ่นเดียวกันกับเราเลยจ้าแล้วประเด็นคือไม่เคยออกช่วยเราสักบาท
ช่วงหลังๆนี่เรามีแชมพูดตุนไว้ขวดนึง คือมันเป็นขวดแบบปั๊มถ้าเปิดใช้ก็จะรู้เลยไงเพราะที่ปั๊มมันจะไม่ปิดเหมือนเดิมแล้ว แล้วในห้องน้ำแชมพูของเราก็หมดละ ของนางก็หมดไปตั้งแต่เราย้ายเข้าแรกๆแล้ว บวกกับช่วงนี้ก็ใกล้ย้ายออกละเราเลยไม่เปิดใช้เก็บไว้งั้นแหละ เปิดไปเมทเราก็มาใช้ด้วยดีอยู่ดีมันเปลือง เราเลยไปสระผมห้องเพื่อนเอา จนวันนึงเราก็นอนๆเล่นอยู่ที่ห้อง แล้วมองไปใต้โต๊ะ คือโต๊ะเราตรงกับปลายเตียงพอดีเลย เราเห็นขวดแชมพูตรงที่ปั๊มมันเด้งขึ้นมาแบบมีคนเปิดใช้แล้วทั้งๆที่เราไม่ได้ใช้ คือนางก็เอาไปใช้แล้วเอามาเก็บไว้ที่เดิม
ส่วนเรื่องเครื่องสำอางนี่เยอะมาก นี่แหละประเด็นที่เราทนไม่ไหวเลย คือเราจะชอบแต่งหน้าเครื่องสำอางเลยจะเยอะอยู่บ้าง มีทั้งแพงทั้งไม่แพงแหละ ช่วงเปิดเทอมแรกๆก็ไปเที่ยวด้วยกัน เที่ยวกลางคืนนั่นแหละ55555 แล้วตอนแต่งหน้านางก็จะแบบยืมไฮไลท์หน่อย หรือไม่ก็มีที่เขียนคิ้วแบบดินสอมั้ยอ่ะอายไลน์เนอร์หมด หรือจะแบบยืมอะไรวิ้งๆหน่อย เราก็ให้ยืมก็นางขอมาขนาดนั้นเราก็ปฏิเสธไมได้อ่ะ แล้วนางก็ว่าไฮไลท์ wet n wild ดีจัง เดี๋ยวจะไปซื้อมาใช้บ้างไรงี้ จนตอนนี้ผ่านมาหลายเดือนแล้วนางก็ยังไม่ซื้อ แล้วมาใช้ของเราเรื่อยๆ... แบบไม่ขอแล้วอ่ะ ใช้เวลาเราออกไปเรียนก่อนหรือไม่อยู่ห้องอะไรงี้ เรารู้เพราะว่าเราไม่ค่อยได้ใช้ไฮไลท์ในวันปกติ ใช้แค่ตอนไปเที่ยวหรือตอนจะแต่งเยอะๆอะไรแค่นั้น แต่คือไฮไลท์อันนั้นของเรามันมีจุดนึงที่แหว่งลงไปจนถึงก้นมันอ่ะทั้งๆที่เราไม่ค่อยได้ใช้ นางคงเอาจิ้มไปเขียนหัวตาเพราะมันวิ้งดีเหมือนตอนที่นางยังขอยืมอยู่
มีแป้งอีทูดี้ที่เราใช้นานแล้วสมัยเพิ่งเริ่มแต่งหน้า แล้วก็ไม่ได้ใช้มาสักพักแล้วเหมือนกัน ก็เก็บไว้ในลิ้นชัก จนวันนึงอยู่ดีๆเราเอ๊ะมันหายไปไหนหาไม่เจอ เราเลยหาแล้วหาอีกสรุปคือหาไม่เจอ เลยทักน้องไปถามว่าแป้งอันนี้เราได้ลืมไว้บ้านหรือเปล่าน้องก็บอกไม่มี เราก็สงสัยอยู่ว่ามันหายไปไหน จนวันนึงเอะใจอะไรไม่รู้เปิดกระเป๋าเครื่องสำอางนางดู แป้งเรานอนอยู่ในนั้น... พอเราเห็นอย่างนั้นใช่มั้ยเราเลยถามนางว่าเห็นแป้งอีทูดี้เรามั้ย เปิดรูปให้ดูด้วยรุ่นนี้ตลับแบบนี้ นางบอกไม่เห็นนะ ปกติก็ใช้แต่อีกรุ่นนึงทั้งๆที่ตอนนั้นแป้งเราก็นอนอยู่ในกระเป๋านาง คือนางใช้ของเราจนพัฟเยินเราเลยไม่เอาคืนละทิ้งไว้แบบนั้นแหละ
แล้วก็มีมาสคาร่า คือของเราจะมีอยู่ 6 อัน มันก็จะมีอันที่เราใช้บ่อยกับอันที่ใช้ไม่บ่อยอยู่ เราก็เรียงๆไว้ตรงโต๊ะเราก็จัดให้มันเหมือนโต๊ะเครื่องแป้งอ่ะ นางก็มีของนางอยู่ตอนแรกอ่ะ อันแรกที่หายคือของเมเบอลีนเหมือนอันนี้ที่หายเพราะนางคงว่ามันปัดขนตาล่างสวยดีเพราะของนางก็ยังไม่หมด แปรงมันจะเป็นหวีๆใช้กับขนตาล่างดี ก็ไปเปิดเจอในกระเป๋าพร้อมแป้งอีทูดี้เราอันข้างบนนั่นแหละ แต่ตอนนั้นช่วงแรกๆไม่กล้าหยิบก็ทิ้งไว้อย่างนั้น แต่ตอนนี้เหมือนมาสคาร่านางหมดแล้ว นางเลยมาเอาของเราไปอันที่สองที่หายนี่คือมาสคาร่าของอีทูดี้ฝากเพื่อนซื้อมาจากเกาหลี ของใหม่เลย ใช้ไม่ค่อยบ่อยแบบที่เปิดมาปุ๊ปเนื้อมันจะติดแปรงมาเยอะๆอยู่ แล้วคือเวลาแต่งหน้าปกติเราก็แต่งรีบๆหยิบอันที่ใช้บ่อยๆปัดๆละจบเลยไม่ได้สังเกต จนวันนึงเราจะใช้เอ้าหายอีกแล้วหาไม่เจอ รู้แกวแล้วเลยไปเปิดกระเป๋านางก็เจอจ้าพร้อมกับที่เปิดออกมาเนื้อไม่เยอะเหมือนเดิมแล้ว โอ้โหเรานี่แบบเอาไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะ พอเจออันนี้เราหยิบออกมาเลย แล้วช่วงนี้คือเราไปอยู่ห้องเพื่อนบ่อยก็เอามาสคาร่าอันนี้ไปไว้ห้องเพื่อนนั่นแหละ แล้วทำเนียนไปเหมือนไมได้หยิบออกมาไม่พูดอะไร นางก็ไม่พูดอะไร
มีอีกวันที่สาขาเรามีงาน เราก็แต่งหน้าแต่งตัวกับเมทอยู่ที่ห้องเนี่ยแหละ แล้วเราออกไปก่อนนางสักแปปนึง คืนนั้นเรากลับห้องก็นอนๆ ตื่นมาเจอบลัชออนเราอยู่บนโต๊ะนาง พร้อมกับที่มาสคาร่าเมเบอลีนอีกรุ่นที่มีเหมือนกันสองอันหายไปอันนึง แล้วพอตอนเย็นมาสคาร่าอันนั้นก็กลับมาอยู่ที่เดิม จนตอนนี้นางเอาอันนั้นไปแล้วไม่คืนอีกแล้ว
มีลิปสติกอีก ของ nyx คือเอาตรงๆเลยเราจำเครื่องสำอางค์ได้นะแต่แบบอันไหนไมได้ใช้บ่อยๆก็ลืมละบางทีก็ไม่คิดจะหยิบมาใช้ เดี๋ยวนี้คือเราเปิดกระเป๋านางดูก่อนถึงจะรู้ว่าอะไรหาย ก็ลิปสติก nyx นั่นแหละ เราก็หยิบออกมาละไปเก็บไว้ห้องเพื่อน ตอนนี้นางเอาลิปเมเบอลีนเราไป แท่งนี้เราใช้นานมาแล้วนะ ไม่ได้ใช้มานานแล้วด้วย ก็จะถือว่าทำบุญ เราเหนื่อยมากเลยเนี่ยจะต้องตามหาของตัวเองในกระเป๋าเมทเนี่ยนะ
แต่เราก็เคยแกล้งเมทแหละ แบบช่วงหลังๆคือพอเจอเครื่องสำอางค์ตัวเองแล้วอารมณ์เราขึ้นมากอ่ะ จนไปเอาน้ำยาล้างห้องน้ำมาเทใส่พัฟคุชชั่นเมทเรา แล้วเหมือนนางก็ใช้ไม่ได้นั่นแหละ จนมาเอาพัฟคุชชั่นที่เราไมได้ใช้แล้วไป เราก็เออไม่เอาคืนละแล้วก็เทน้ำยาล้างห้องน้ำใส่พัฟเราเองนั่นแหละ จนเหมือนนางทนใช้ไม่ได้ตอนนี้พัฟเยินแบบควักฟองน้ำข้างในออกมา แต่คราวนี้เราไม่มีพัฟแล้วไง นางก็ต้องทนใช้แบบควักฟองน้ำนั้นต่อไป
มีกระโปรงนักศึกษาของเราที่นางเอาไปด้วย คือช่วงย้ายมาใหม่แรกๆเลย กระโปรงตัวนี้เรายาว 18 คือเราก็ไม่ค่อยได้ใส่แหละ จนวันนึงจะใส่แล้วหาไม่เจอ ช่วงนั้นยังจับไม่ได้ว่านางขโมยของ ก็บ่นๆกับนางอยู่ว่ากระโปรงหาย ก็เลยคิดว่ามันจะหล่นอยู่ในตู้แหละมั้งเพราะเสื้อผ้าเราเยอะจนแน่นตู้แล้วอ่ะ จนจัดตู้เสื้อผ้าแล้วก็ยังหาไม่เจอก็แบบเอ๊ะละ ตอนย้ายเข้ามาก็ขนมาทั้งไม้แขวน (คือเรากลัวกระโปรงยับ) แล้วนางก็มีใส่กระโปรงยาว 18 อยู่ตัวนึง จนตอนหลังมาเจอเรื่องเครื่องสำอางค์เลยไปดูกระโปรงนางตัวนั้น ของเราเอง.. ป้ายยี่ห้อกับตัวที่บอกความยาวเหมือนเป๊ะกับของเราเลย และประเด็นคือนางใส่จนจีบกระโปรงแตกไปแล้วเรียบร้อย
นี่มีเรื่องเหรียญสิบซักผ้าอีก คือเราเก็บใส่กระเป๋าไว้ที่ห้องเพราะกลัวเอาออกไปละจะใช้หมดเดี๋ยวไม่มีซักผ้า จนวันนี้เห็นกระเป๋ามันเปิดพร้อมกับเหรียญที่หายไปจนเหลือสองเหรียญ
มีเรื่องค่าน้ำค่าๆฟที่ไม่รู้นางไปบวกค่าอะไรเพิ่มอีก คือวันนั้นค่าไฟมาแล้วเรามีเรียนเช้าก่อนนาง เราลงไปเห็นค่าไฟมาละเลยเปิดดูถ่ายรูปส่งให้แม่อะไรเรียบร้อยแล้วเสียบไว้ที่เดิมเพราะเราก็ยังไม่ได้แวะไปจ่ายอยู่แล้วเลยเก็บไว้ที่เดิมละกัน แล้วพอคาบบ่ายเรียนกับนาง นางก็มาบอกว่าไปจ่ายค่าไฟมาละนะ หารแล้วคนละ สมมติ 375 นะ คือทั้งๆที่ตอนเราเห็นมัน 650 หารแล้วต้องคนละ 325 ดิ นี่เลยว่าแบบเอ้าตอนแรกดูแล้วเห็นมัน 650 นะ นางก็บอกไม่รู้อ่ะตอนไปจ่ายมันเท่านี้ไม่รู้บวกอะไรเพิ่ม ตลกมากจ้าถ้าบวกเพิ่มบิลมันก็ต้องบอกแล้ว แล้วนางก็ไม่ให้เราดูบิลด้วยนะ เออเราก็ไม่กล้าขอดูนั่นแหละไม่อยากมีปัญหา แล้วปกตินางก็ไปจ่ายตลอด นี่เลยสงสัยว่านางคงบวกเพิ่มเดือนละนิดตลอดแน่ๆ
คืองงกับคนเรามาก อายุก็เยอะแล้วนะ หน้าตาก็ดี เรียกว่าดีกว่าเราอีกเอาจริงๆ ขาวๆหุ่นดีๆเหมือนแบบลูกคุณหนูไรงี้ แต่แก่แล้วแหละ55555 คนมาชอบก็เยอะ บ้านก็ไม่ได้จนแต่งหน้าแต่งตัวเสื้อผ้านางก็แน่นตู้เหมือนกัน มีรถขับด้วย แต่ไม่ยอมซื้อของใช้เอง แล้วเครื่องสำอางนางจะน้อยกว่าเรา แบบกระเป๋าเดียวก็เก็บหมดแล้วเวลานางใช้กระเป๋าใบใหญ่ๆหน่อยก็จะเอากระเป๋าเครื่องสำอางอันนี้ออกไปด้วยตลอด คือช่วงหลังๆนี่เราเจอของแล้วก็เอาออกมาเลยนะ นางก็ยังทำอยู่ มีที่เป็นเหมือนอายชาโดว์อีกอย่างอีกนางเอาไป ก็เออมันเก่าละหมดอายุแล้วฝาก็แตก เอาไปเถอะถือว่าทำบุญ แต่เราเอาน้ำยาล้างห้องน้ำไปเทใส่ลิปเราที่นางเอาไปด้วยงะ แล้วก็เก็บไว้ในกระเป๋าเราเหมือนเดิม55555555
จนตอนนี้เราว่านางคงค้นเครื่องสำอางเราหมดแล้ว ไม่รู้ว่าใช้ไปหมดทุกอันรึยัง แต่คือเอาตรงๆเราก็ขยะแขยงอ่ะ ไม่อยากใช้เครื่องสำอางร่วมกับใคร แต่ให้ทิ้งหมดเลยก็ไม่ได้มั้งเราเสียดาย คือเรื่องอื่นเราก็ไม่มีปัญหานะ รกก็ได้ถ้าแบบรกในที่ของตัวเองอ่ะโต๊ะตัวเองเตียงตัวเองรกก็รกไป บางทีเราก็ขี้เกียจเก็บเหมือนกัน เรื่องใช้สบู่กับยาสระผมนี่ก็ว่าแย่แหละแต่ก็พอทนได้มั้งเรามีตังซื้อ แต่เรื่องมาขโมยเครื่องสำอางใช้แล้วเอาไปเก็บเป็นของตัวเองอีกคือมันทุเรศมากเลยจริงๆ มันไม่ใช่ว่านางจะหยิบใช้ตอนเราไม่อยู่แล้วลืมเอาไปใส่กระเป๋าตัวเองแล้ว มันหลายอันเกินจนตั้งใจชัดๆขนาดนี้ จนเพื่อนเราถึงกับพูดว่าก่อนย้ายออกก็ดูของตัวเองให้ดีๆเผื่อนางแบบเห็นเราจะออกแล้วเลยฉวยโอกาสเอาไปอีกแล้วกันเดี๋ยวเราจะไม่อยู่ให้ใช้ของแล้วไรงี้
ช่วงหลังๆมานี้เราอึดอัดมากอ่ะ ไม่อยากกลับห้องมาเจอเมท เราไปนอนที่อื่นติดกันหลายคืนมากช่วงนี้ คือพอเจอกันนางก็คุยปกติเราก็พยายามปกติ แต่เราไม่อยากคุยไม่อยากเสวนาด้วยแล้วอ่ะ จะพูดเราก็ไม่กล้าพูดอีก ก่อนตัดสินใจว่าจะย้ายเราก็คุยกับเมทใหม่ว่าแบบจะย้ายดีมั้ย เมทเราจะหาเมทได้รึเปล่าบอกตอนนี้จะกะทันหันไปมั้ย จนเมทใหม่เราว่าจะไปคิดมากทำไมขนาดเขายังไม่เกรงใจเราเลย ถ้าอึดอัดก็ออกมาเถอะไรงี้ เราว่ามันก็จริงอ่ะ อยู่ต่อคือเราจะระแวงมากว่านางจะใช้อะไรของเราอีก อะไรจะหายอีก เครื่องสำอางเราจะหมดเกลี้ยงเลยมั้ย ซื้อใหม่ปุ๊ปก็ไม่พ้นนางเอาไปใช้อีกแน่ๆ
จริงๆเราก็สะเพร่าเองแหละ ไม่ค่อยสังเกตว่าของหาย แล้วยังไม่กล้าพูดอะไรกับนางอีก แต่ก็นั่นแหละเราไม่กล้าพูดจริงๆ
ถ้าถามว่าทำไมไม่อยู่คนเดียว เอาจริงๆเราก็อยากอยู่แต่ที่บ้านเราค่าใช้จ่ายเยอะแค่ซื้อของใช้ตัวเองก็ใช้เงินเปลืองจะแย่แล้ว
แม่ก็บอกว่ามันแพงไปรึเปล่าอยู่เดียว ที่ย้ายไปอยู่กับเมทคนใหม่ แต่เราก็เล่าเรื่องเมทคนนี้ให้ฟัง
เมทคนใหม่เราก็แบบนางจะแยกใช้ของอะไรพวกนั้นบลาๆ แล้วเมทใหม่เราไม่แต่งหน้าด้วย
เราก็ว่าจะดูไปว่าจะมีปัญหาอะไรอีกมั้ย หรืออาจจะอยู่กับคนใหม่ได้จนจบเลยก็ได้
ใครเคยเจอรูมเมทยังไงกันมาบ้าง
แล้วเทอมหน้าว่าจะย้ายออกแล้ว ไม่ไหวมากกกจริงๆ คืออัดอั้นมาสักพักแล้วแหละ
คือเมื่อตอนแรกเราอยู่หอในกับเพื่อนเก่าสมัยมัธยม ตอนนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร ค่าห้องถูกเมทดีก็ไม่ค่อยยุ่งไรกันคุยกันบ้าง ยืมหมวกยืมเครื่องประดับไรกันบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไร
จนเมทเราย้ายออกไปอยู่กับเพื่อนคณะตัวเอง เราเลยต้องหาห้องใหม่คนเดียวเพราะหอในก็อยู่ไม่ได้แล้วคะแนนหอไม่ถึง เนื่องจากว่าเราไม่ได้ทำกิจกรรมหอเท่าไหร่ หาไปหามาจนไปถามเพื่อนในสาขาที่อยู่หอในนอกว่าเออห้องแบบไหนราคาเท่าไหร่เป็นไงบ้าง นางก็เลยบอกว่าเมทนางซิ่วเลยย้ายออกพอดีหาเมทใหม่อยู่ เราก็แบบเห็นปกติก็คุยด้วยกันดีไปเที่ยวกันบ้าง นางก็อายุเยอะแล้วเหมือนจะซิ่วมาหลายรอบ (คือก็ห่างจากเราหลายปีอยู่ แต่เรียนปีเดียวกัน) เลยว่าเดี๋ยวจะเข้ามาอยู่ด้วยแล้วกัน
จนวันย้ายนางก็มาช่วยย้าย เราก็ว่านางก็ดีมาช่วยย้ายของด้วย ก็อยู่กันมาไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่นะ เรื่องห้องรกก็รกพอๆกันแหละ สักพักก็เก็บ กวาดห้องบางทีนางก็กวาดบางทีเราก็กวาด แต่นางจะไม่ชอบทิ้งขยะ เราจะเป็นคนเอาไปทิ้งตลอด คือนางจะทิ้งจนมันจะล้นถุงที่แขวนไว้อย่างงั้น เราก็จะเป็นคนเก็บใส่ถุงดำละเอาลงไปทิ้ง
แล้วของใช้พวกสบู่ยาสระผมนางไม่เคยซื้อเองเลยตั้งแต่เราย้ายเข้ามาอยู่ คือตอนเราย้ายเข้ามาตอนแรกจะมีอันเก่าของนางที่ใช้อยู่ นางก็ใช้จนของนางหมดทั้งสบู่ทั้งยาสระผมแต่ไม่ทิ้งขวดนะตั้งไว้แบบนั้นแหละแล้วมาใช้ของเรา เราซื้อเองไปสามสี่ขวดได้ละ เราเคยว่าแบบวันนั้นยาสระผมหมดซึ่งก็คือที่เราซื้อมานั่นแหละ แล้วเราเลยไม่ซื้อปล่อยไว้งั้นแล้วไปสระร้าน เราจะรอดูว่านางจะซื้อใช้เองมั้ย ปรากฏว่านางก็ไม่ซื้อเหมือนเดิม จนเป็นอาทิตย์แล้วเราทนไม่ไหวต้องไปซื้อมาใช้เองแล้วนางก็มาใช้อีกละจ้า สรุปคือในห้องน้ำจะมีสบู่กับแชมพูของเราที่ยังไม่หมด กับของนางที่หมดแล้วเป็นขวดเปล่าที่ไม่ทิ้งซักทีทำไมไม่รู้ ก็คือเวลานางออกจากห้องน้ำทีนี่แบบกลิ่นเดียวกันกับเราเลยจ้าแล้วประเด็นคือไม่เคยออกช่วยเราสักบาท
ช่วงหลังๆนี่เรามีแชมพูดตุนไว้ขวดนึง คือมันเป็นขวดแบบปั๊มถ้าเปิดใช้ก็จะรู้เลยไงเพราะที่ปั๊มมันจะไม่ปิดเหมือนเดิมแล้ว แล้วในห้องน้ำแชมพูของเราก็หมดละ ของนางก็หมดไปตั้งแต่เราย้ายเข้าแรกๆแล้ว บวกกับช่วงนี้ก็ใกล้ย้ายออกละเราเลยไม่เปิดใช้เก็บไว้งั้นแหละ เปิดไปเมทเราก็มาใช้ด้วยดีอยู่ดีมันเปลือง เราเลยไปสระผมห้องเพื่อนเอา จนวันนึงเราก็นอนๆเล่นอยู่ที่ห้อง แล้วมองไปใต้โต๊ะ คือโต๊ะเราตรงกับปลายเตียงพอดีเลย เราเห็นขวดแชมพูตรงที่ปั๊มมันเด้งขึ้นมาแบบมีคนเปิดใช้แล้วทั้งๆที่เราไม่ได้ใช้ คือนางก็เอาไปใช้แล้วเอามาเก็บไว้ที่เดิม
ส่วนเรื่องเครื่องสำอางนี่เยอะมาก นี่แหละประเด็นที่เราทนไม่ไหวเลย คือเราจะชอบแต่งหน้าเครื่องสำอางเลยจะเยอะอยู่บ้าง มีทั้งแพงทั้งไม่แพงแหละ ช่วงเปิดเทอมแรกๆก็ไปเที่ยวด้วยกัน เที่ยวกลางคืนนั่นแหละ55555 แล้วตอนแต่งหน้านางก็จะแบบยืมไฮไลท์หน่อย หรือไม่ก็มีที่เขียนคิ้วแบบดินสอมั้ยอ่ะอายไลน์เนอร์หมด หรือจะแบบยืมอะไรวิ้งๆหน่อย เราก็ให้ยืมก็นางขอมาขนาดนั้นเราก็ปฏิเสธไมได้อ่ะ แล้วนางก็ว่าไฮไลท์ wet n wild ดีจัง เดี๋ยวจะไปซื้อมาใช้บ้างไรงี้ จนตอนนี้ผ่านมาหลายเดือนแล้วนางก็ยังไม่ซื้อ แล้วมาใช้ของเราเรื่อยๆ... แบบไม่ขอแล้วอ่ะ ใช้เวลาเราออกไปเรียนก่อนหรือไม่อยู่ห้องอะไรงี้ เรารู้เพราะว่าเราไม่ค่อยได้ใช้ไฮไลท์ในวันปกติ ใช้แค่ตอนไปเที่ยวหรือตอนจะแต่งเยอะๆอะไรแค่นั้น แต่คือไฮไลท์อันนั้นของเรามันมีจุดนึงที่แหว่งลงไปจนถึงก้นมันอ่ะทั้งๆที่เราไม่ค่อยได้ใช้ นางคงเอาจิ้มไปเขียนหัวตาเพราะมันวิ้งดีเหมือนตอนที่นางยังขอยืมอยู่
มีแป้งอีทูดี้ที่เราใช้นานแล้วสมัยเพิ่งเริ่มแต่งหน้า แล้วก็ไม่ได้ใช้มาสักพักแล้วเหมือนกัน ก็เก็บไว้ในลิ้นชัก จนวันนึงอยู่ดีๆเราเอ๊ะมันหายไปไหนหาไม่เจอ เราเลยหาแล้วหาอีกสรุปคือหาไม่เจอ เลยทักน้องไปถามว่าแป้งอันนี้เราได้ลืมไว้บ้านหรือเปล่าน้องก็บอกไม่มี เราก็สงสัยอยู่ว่ามันหายไปไหน จนวันนึงเอะใจอะไรไม่รู้เปิดกระเป๋าเครื่องสำอางนางดู แป้งเรานอนอยู่ในนั้น... พอเราเห็นอย่างนั้นใช่มั้ยเราเลยถามนางว่าเห็นแป้งอีทูดี้เรามั้ย เปิดรูปให้ดูด้วยรุ่นนี้ตลับแบบนี้ นางบอกไม่เห็นนะ ปกติก็ใช้แต่อีกรุ่นนึงทั้งๆที่ตอนนั้นแป้งเราก็นอนอยู่ในกระเป๋านาง คือนางใช้ของเราจนพัฟเยินเราเลยไม่เอาคืนละทิ้งไว้แบบนั้นแหละ
แล้วก็มีมาสคาร่า คือของเราจะมีอยู่ 6 อัน มันก็จะมีอันที่เราใช้บ่อยกับอันที่ใช้ไม่บ่อยอยู่ เราก็เรียงๆไว้ตรงโต๊ะเราก็จัดให้มันเหมือนโต๊ะเครื่องแป้งอ่ะ นางก็มีของนางอยู่ตอนแรกอ่ะ อันแรกที่หายคือของเมเบอลีนเหมือนอันนี้ที่หายเพราะนางคงว่ามันปัดขนตาล่างสวยดีเพราะของนางก็ยังไม่หมด แปรงมันจะเป็นหวีๆใช้กับขนตาล่างดี ก็ไปเปิดเจอในกระเป๋าพร้อมแป้งอีทูดี้เราอันข้างบนนั่นแหละ แต่ตอนนั้นช่วงแรกๆไม่กล้าหยิบก็ทิ้งไว้อย่างนั้น แต่ตอนนี้เหมือนมาสคาร่านางหมดแล้ว นางเลยมาเอาของเราไปอันที่สองที่หายนี่คือมาสคาร่าของอีทูดี้ฝากเพื่อนซื้อมาจากเกาหลี ของใหม่เลย ใช้ไม่ค่อยบ่อยแบบที่เปิดมาปุ๊ปเนื้อมันจะติดแปรงมาเยอะๆอยู่ แล้วคือเวลาแต่งหน้าปกติเราก็แต่งรีบๆหยิบอันที่ใช้บ่อยๆปัดๆละจบเลยไม่ได้สังเกต จนวันนึงเราจะใช้เอ้าหายอีกแล้วหาไม่เจอ รู้แกวแล้วเลยไปเปิดกระเป๋านางก็เจอจ้าพร้อมกับที่เปิดออกมาเนื้อไม่เยอะเหมือนเดิมแล้ว โอ้โหเรานี่แบบเอาไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะ พอเจออันนี้เราหยิบออกมาเลย แล้วช่วงนี้คือเราไปอยู่ห้องเพื่อนบ่อยก็เอามาสคาร่าอันนี้ไปไว้ห้องเพื่อนนั่นแหละ แล้วทำเนียนไปเหมือนไมได้หยิบออกมาไม่พูดอะไร นางก็ไม่พูดอะไร
มีอีกวันที่สาขาเรามีงาน เราก็แต่งหน้าแต่งตัวกับเมทอยู่ที่ห้องเนี่ยแหละ แล้วเราออกไปก่อนนางสักแปปนึง คืนนั้นเรากลับห้องก็นอนๆ ตื่นมาเจอบลัชออนเราอยู่บนโต๊ะนาง พร้อมกับที่มาสคาร่าเมเบอลีนอีกรุ่นที่มีเหมือนกันสองอันหายไปอันนึง แล้วพอตอนเย็นมาสคาร่าอันนั้นก็กลับมาอยู่ที่เดิม จนตอนนี้นางเอาอันนั้นไปแล้วไม่คืนอีกแล้ว
มีลิปสติกอีก ของ nyx คือเอาตรงๆเลยเราจำเครื่องสำอางค์ได้นะแต่แบบอันไหนไมได้ใช้บ่อยๆก็ลืมละบางทีก็ไม่คิดจะหยิบมาใช้ เดี๋ยวนี้คือเราเปิดกระเป๋านางดูก่อนถึงจะรู้ว่าอะไรหาย ก็ลิปสติก nyx นั่นแหละ เราก็หยิบออกมาละไปเก็บไว้ห้องเพื่อน ตอนนี้นางเอาลิปเมเบอลีนเราไป แท่งนี้เราใช้นานมาแล้วนะ ไม่ได้ใช้มานานแล้วด้วย ก็จะถือว่าทำบุญ เราเหนื่อยมากเลยเนี่ยจะต้องตามหาของตัวเองในกระเป๋าเมทเนี่ยนะ
แต่เราก็เคยแกล้งเมทแหละ แบบช่วงหลังๆคือพอเจอเครื่องสำอางค์ตัวเองแล้วอารมณ์เราขึ้นมากอ่ะ จนไปเอาน้ำยาล้างห้องน้ำมาเทใส่พัฟคุชชั่นเมทเรา แล้วเหมือนนางก็ใช้ไม่ได้นั่นแหละ จนมาเอาพัฟคุชชั่นที่เราไมได้ใช้แล้วไป เราก็เออไม่เอาคืนละแล้วก็เทน้ำยาล้างห้องน้ำใส่พัฟเราเองนั่นแหละ จนเหมือนนางทนใช้ไม่ได้ตอนนี้พัฟเยินแบบควักฟองน้ำข้างในออกมา แต่คราวนี้เราไม่มีพัฟแล้วไง นางก็ต้องทนใช้แบบควักฟองน้ำนั้นต่อไป
มีกระโปรงนักศึกษาของเราที่นางเอาไปด้วย คือช่วงย้ายมาใหม่แรกๆเลย กระโปรงตัวนี้เรายาว 18 คือเราก็ไม่ค่อยได้ใส่แหละ จนวันนึงจะใส่แล้วหาไม่เจอ ช่วงนั้นยังจับไม่ได้ว่านางขโมยของ ก็บ่นๆกับนางอยู่ว่ากระโปรงหาย ก็เลยคิดว่ามันจะหล่นอยู่ในตู้แหละมั้งเพราะเสื้อผ้าเราเยอะจนแน่นตู้แล้วอ่ะ จนจัดตู้เสื้อผ้าแล้วก็ยังหาไม่เจอก็แบบเอ๊ะละ ตอนย้ายเข้ามาก็ขนมาทั้งไม้แขวน (คือเรากลัวกระโปรงยับ) แล้วนางก็มีใส่กระโปรงยาว 18 อยู่ตัวนึง จนตอนหลังมาเจอเรื่องเครื่องสำอางค์เลยไปดูกระโปรงนางตัวนั้น ของเราเอง.. ป้ายยี่ห้อกับตัวที่บอกความยาวเหมือนเป๊ะกับของเราเลย และประเด็นคือนางใส่จนจีบกระโปรงแตกไปแล้วเรียบร้อย
นี่มีเรื่องเหรียญสิบซักผ้าอีก คือเราเก็บใส่กระเป๋าไว้ที่ห้องเพราะกลัวเอาออกไปละจะใช้หมดเดี๋ยวไม่มีซักผ้า จนวันนี้เห็นกระเป๋ามันเปิดพร้อมกับเหรียญที่หายไปจนเหลือสองเหรียญ
มีเรื่องค่าน้ำค่าๆฟที่ไม่รู้นางไปบวกค่าอะไรเพิ่มอีก คือวันนั้นค่าไฟมาแล้วเรามีเรียนเช้าก่อนนาง เราลงไปเห็นค่าไฟมาละเลยเปิดดูถ่ายรูปส่งให้แม่อะไรเรียบร้อยแล้วเสียบไว้ที่เดิมเพราะเราก็ยังไม่ได้แวะไปจ่ายอยู่แล้วเลยเก็บไว้ที่เดิมละกัน แล้วพอคาบบ่ายเรียนกับนาง นางก็มาบอกว่าไปจ่ายค่าไฟมาละนะ หารแล้วคนละ สมมติ 375 นะ คือทั้งๆที่ตอนเราเห็นมัน 650 หารแล้วต้องคนละ 325 ดิ นี่เลยว่าแบบเอ้าตอนแรกดูแล้วเห็นมัน 650 นะ นางก็บอกไม่รู้อ่ะตอนไปจ่ายมันเท่านี้ไม่รู้บวกอะไรเพิ่ม ตลกมากจ้าถ้าบวกเพิ่มบิลมันก็ต้องบอกแล้ว แล้วนางก็ไม่ให้เราดูบิลด้วยนะ เออเราก็ไม่กล้าขอดูนั่นแหละไม่อยากมีปัญหา แล้วปกตินางก็ไปจ่ายตลอด นี่เลยสงสัยว่านางคงบวกเพิ่มเดือนละนิดตลอดแน่ๆ
คืองงกับคนเรามาก อายุก็เยอะแล้วนะ หน้าตาก็ดี เรียกว่าดีกว่าเราอีกเอาจริงๆ ขาวๆหุ่นดีๆเหมือนแบบลูกคุณหนูไรงี้ แต่แก่แล้วแหละ55555 คนมาชอบก็เยอะ บ้านก็ไม่ได้จนแต่งหน้าแต่งตัวเสื้อผ้านางก็แน่นตู้เหมือนกัน มีรถขับด้วย แต่ไม่ยอมซื้อของใช้เอง แล้วเครื่องสำอางนางจะน้อยกว่าเรา แบบกระเป๋าเดียวก็เก็บหมดแล้วเวลานางใช้กระเป๋าใบใหญ่ๆหน่อยก็จะเอากระเป๋าเครื่องสำอางอันนี้ออกไปด้วยตลอด คือช่วงหลังๆนี่เราเจอของแล้วก็เอาออกมาเลยนะ นางก็ยังทำอยู่ มีที่เป็นเหมือนอายชาโดว์อีกอย่างอีกนางเอาไป ก็เออมันเก่าละหมดอายุแล้วฝาก็แตก เอาไปเถอะถือว่าทำบุญ แต่เราเอาน้ำยาล้างห้องน้ำไปเทใส่ลิปเราที่นางเอาไปด้วยงะ แล้วก็เก็บไว้ในกระเป๋าเราเหมือนเดิม55555555
จนตอนนี้เราว่านางคงค้นเครื่องสำอางเราหมดแล้ว ไม่รู้ว่าใช้ไปหมดทุกอันรึยัง แต่คือเอาตรงๆเราก็ขยะแขยงอ่ะ ไม่อยากใช้เครื่องสำอางร่วมกับใคร แต่ให้ทิ้งหมดเลยก็ไม่ได้มั้งเราเสียดาย คือเรื่องอื่นเราก็ไม่มีปัญหานะ รกก็ได้ถ้าแบบรกในที่ของตัวเองอ่ะโต๊ะตัวเองเตียงตัวเองรกก็รกไป บางทีเราก็ขี้เกียจเก็บเหมือนกัน เรื่องใช้สบู่กับยาสระผมนี่ก็ว่าแย่แหละแต่ก็พอทนได้มั้งเรามีตังซื้อ แต่เรื่องมาขโมยเครื่องสำอางใช้แล้วเอาไปเก็บเป็นของตัวเองอีกคือมันทุเรศมากเลยจริงๆ มันไม่ใช่ว่านางจะหยิบใช้ตอนเราไม่อยู่แล้วลืมเอาไปใส่กระเป๋าตัวเองแล้ว มันหลายอันเกินจนตั้งใจชัดๆขนาดนี้ จนเพื่อนเราถึงกับพูดว่าก่อนย้ายออกก็ดูของตัวเองให้ดีๆเผื่อนางแบบเห็นเราจะออกแล้วเลยฉวยโอกาสเอาไปอีกแล้วกันเดี๋ยวเราจะไม่อยู่ให้ใช้ของแล้วไรงี้
ช่วงหลังๆมานี้เราอึดอัดมากอ่ะ ไม่อยากกลับห้องมาเจอเมท เราไปนอนที่อื่นติดกันหลายคืนมากช่วงนี้ คือพอเจอกันนางก็คุยปกติเราก็พยายามปกติ แต่เราไม่อยากคุยไม่อยากเสวนาด้วยแล้วอ่ะ จะพูดเราก็ไม่กล้าพูดอีก ก่อนตัดสินใจว่าจะย้ายเราก็คุยกับเมทใหม่ว่าแบบจะย้ายดีมั้ย เมทเราจะหาเมทได้รึเปล่าบอกตอนนี้จะกะทันหันไปมั้ย จนเมทใหม่เราว่าจะไปคิดมากทำไมขนาดเขายังไม่เกรงใจเราเลย ถ้าอึดอัดก็ออกมาเถอะไรงี้ เราว่ามันก็จริงอ่ะ อยู่ต่อคือเราจะระแวงมากว่านางจะใช้อะไรของเราอีก อะไรจะหายอีก เครื่องสำอางเราจะหมดเกลี้ยงเลยมั้ย ซื้อใหม่ปุ๊ปก็ไม่พ้นนางเอาไปใช้อีกแน่ๆ
จริงๆเราก็สะเพร่าเองแหละ ไม่ค่อยสังเกตว่าของหาย แล้วยังไม่กล้าพูดอะไรกับนางอีก แต่ก็นั่นแหละเราไม่กล้าพูดจริงๆ
ถ้าถามว่าทำไมไม่อยู่คนเดียว เอาจริงๆเราก็อยากอยู่แต่ที่บ้านเราค่าใช้จ่ายเยอะแค่ซื้อของใช้ตัวเองก็ใช้เงินเปลืองจะแย่แล้ว
แม่ก็บอกว่ามันแพงไปรึเปล่าอยู่เดียว ที่ย้ายไปอยู่กับเมทคนใหม่ แต่เราก็เล่าเรื่องเมทคนนี้ให้ฟัง
เมทคนใหม่เราก็แบบนางจะแยกใช้ของอะไรพวกนั้นบลาๆ แล้วเมทใหม่เราไม่แต่งหน้าด้วย
เราก็ว่าจะดูไปว่าจะมีปัญหาอะไรอีกมั้ย หรืออาจจะอยู่กับคนใหม่ได้จนจบเลยก็ได้