[[รีวิว]] Peaky Blinders season 4 ซีรีส์แก๊งสเตอร์ เมื่อแก๊งอันธพาลเจอมาเฟียคุกคาม [[ซ่อนสปอยล์]]



Peaky Blinders ซีซั่น 4 เพิ่งจบไป เลยจะมารีวิว ในส่วนที่ไม่สปอยล์จะเปิดเต็มที่ สำหรับที่จะติดตามดู
และในส่วนที่ซ่อนไว้สำหรับคนที่ดูแล้วหรืออ่านสปอยล์ได้ จะได้มาคุยกัน
หรือติดตามข้อมูลอื่นๆ ได้ทาง https://peakyblindersthaifans.tumblr.com/
สามารถรับชมแบบซับไทย ได้ทาง https://www.netflix.com/




เรื่องย่อแบบไม่สปอยล์
ระหว่างที่แก๊ง Peaky Blinders มีปัญหาครอบครัว คือ แกนนำดั้งเดิมคือ ทอมมี่ เชลบี้ (Cillian Murphy) พอลลี่ เกรย์ (Helen McCrory) อาเธอร์ เชลบี้ (Paul Anderson) จอห์น เชลบี้ (Joe Cole) แยกย้ายกัน ทอมมี่ยังคงทำบริษัทต่อ ส่วนที่เหลือออกจากวงการและโกรธสิ่งที่ทอมมี่ทำ และพอแล้วก็ชีวิตแบบนี้ ทอมมี่มีเอด้า ธอร์น (Sophie Rundle) น้องสาวกับไมเคิล เกรย์ (Finn Cole) ลูกของพอลลี่ที่ยังทำงานให้อยู่ และอยากให้ทุกคนมารวมกัน

แต่สิ่งที่บังคับให้ทุกคนต้องมารวมกันคือ การคุกคามของลูก้า แชงเก็ตต้า (Adrien Brody) มาเฟียอเมริกันเชื้ออิตาเลียน ที่กำลังจะมาไล่ฆ่า Peaky Blinders ทุกคน ทุกคนต้องกลับมารวมเพื่อปกป้องกันเอง และช่วยดูแลธุรกิจในยุคที่คอมมิวนิสต์กำลังคุกคามโรงงานเช่นกัน แต่สิ่งที่ยากคือ ครอบครัวที่เคยแข็งแกร่งไม่เหมือนเดิมแล้ว ทอมมี่ต้องรับมือกับศึกนอกโดยที่ อาเธอร์ไม่พร้อมจะเป็นอาวุธสังหารถึงขั้นต้องปลุกปิศาจด้วยโตเกียว พอลลี่หัวใจของครอบครัว กลับมาพร้อมความแค้นต่อทอมมี่และความอันตราย ไม่รู้ว่าจะมาช่วยหรือเอาคืนหลานชายตัวเอง พันธมิตรอย่าง อเบอรามา โกลด์ (Aidan Gillen) และอัลฟี่ โซโลมอนส์ (Tom Hardy) ที่ไม่รู้ว่าใครจริงใจหรือใครเตรียมตัวหักหลัง สงครามและการเล่นเกมระหว่างตัวละครทำให้เกิดเรื่องที่คาดไม่ถึง และไม่รู้จะไว้ใจอะไรในเรื่องนี้ได้



รีวิวแบบไม่สปอยล์
จุดเด่น
1 Peaky Blinders เป็นซีรีส์ที่ยิ่งทำยิ่งดี การเอาชนะกันด้วยแผน กลยุทธ และสงครามประสาทยังมีอยู่ เพิ่มเติมคือการล่าหัวที่ทำให้ได้ลุ้นยิ่งขึ้น ตัวละครวางออกมาได้ดี จนไว้ใจใครไม่ได้ และไม่รู้จะมีอะไรพลิกผันตอนไหน มีเรื่องเซอร์ไพรส์เยอะมาก เนื้อเรื่องในซีซั่นนี้ฉีกออกไปและดูไม่ซ้ำซาก แต่ฟีลที่เป็นเอกลักษณ์ไม่หายไปไหน

2 ดู 6 คนนี้เล่นก็คุ้มแล้ว


การเข้าถึงบทของแต่ละคน รวมถึงการรับส่งที่ซัดกันมันมาก สะใจมาก และน่าจะได้ชิงรางวัลต่างๆ นำชาย - Cillian Murphy หญิง - Helen McCrory สมทบชาย -  Adrien Brody และคนที่ออกน้อยแต่คนชมทุกซีน Tom Hardy
ข้อแนะนำในการชม ดูการแสดงของคนเหล่านี้ให้ละเอียด !!!

3 ฉากแอคชั่นที่กดดัน ลุ้น ดิบ โหด กว่าทุกๆ ซีซั่น ไม่ต้องรอถึงตอนท้าย เพราะจัดมาทุกตอน มีตายกันทุกตอน ฉากไม่ได้ยิ่งใหญ่ระดับหนังทุนสูง แต่ทุกๆ อย่างมันลงตัว จังหวะดี เลยออกมามันสุดๆ และมันไม่ใช่การโชว์คิวบู๊แต่ดิบๆ แบบเอาชีวิตรอด

4 งานภาพ งานตัดต่อ ยังดีงามเช่นเคย งานคอสตูม แฟชั่นมากๆ เพลงประกอบ รู้สึกว่าเพลงเด็ดกว่าซีซั่นที่ผ่านมาอีก โดยเฉพาะ Beat the Devil's Tattoo ของ BRMCใส่มาได้ถูกที่ถูกเวลาจริงๆ (แต่ถ้าดูใน Netflix จะไม่เจอเพลงนี้ ซึ่งอารมณ์ไม่ได้เท่าของจริง)

5 ท้าทายคนดูมากขึ้น เมื่อคนดูเริ่มอ่านทอมมี่ เชลบี้ได้ ซีซั่นนี้ทำให้เข้าใจยากขึ้นเพื่อให้เดาเรื่องไม่ถูก พอทอมมี่กับพอลลี่ไม่ได้มาคุยกันให้คนดูฟัง เราก็ไม่รู้เลยว่าทอมมี่คิดทำอะไรอยู่ แล้วต้องมาเดาพอลลี่ที่ไร้ขอบเขตอีก รวมถึง ตัวร้ายอย่าง ลูก้า  แชงเก็ตต้า และ อเบอราม่า โกลด์ ก็คิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ซีซั่นนี้เลยสนุกตรงได้เดา เพราะไม่มีใครในเรื่องไว้ใจได้เลย

6 ปริศนาใหญ่ที่สุดในเรื่อง อะไรจะเกิน "พอลลี่งูพิษ"  พอลลี่ เกรย์ มาแบบทำให้คนดูอึ้ง ทึ่ง เหวอ เกิดทฤษฎีต่างๆ ว่าเธอเล่นเกมอะไรอยู่ ส่วนหนึ่งก็อินไปแล้วจนเกิดการแจกรูปงูให้เธออย่างล้นหลาม เธอจะเป็นตัวละครที่คนดูรักหรือเกลียดที่สุดในวงการโทรทัศน์ คำตอบอยู่ในตอนเฉลยเท่านั้น

จุดที่แล้วแต่คนชอบ
1 ตัวร้าย Luca Changretta ถ้าเรื่องฝีมือไม่มีใครปฎิเสธ แต่กระแสที่ไม่ชอบคือ ดูเป็น Marlon Brando ใน Godfather ขาดความเป็นต้นฉบับ ทั้งที่เรื่องนี้ปั้นตัวละครได้มีความเฉพาะตัวมาก แม้แต่ อเบอราม่า โกลด์ ที่สร้างใหม่ก็ออกมาดี มันไม่ใช่เรื่องที่แย่กับการยกตัวละคร stereotype มาใส่ ถือว่าได้ดูทอมมี่ ฟัดกับ Godfather แล้วจะเป็นไง ส่วนเรื่องวีรกรรม ไม่ใช่ตัวร้ายง่อยๆ แน่นอน แต่ละอย่างนี่ทำได้สุดแบบที่เค้าควรจะทำได้ ซัดกับคนเก่งอย่างพระเอกเราได้อย่างน่าลุ้น โดยที่กำลังพลคนน้อยกว่าด้วยซ้ำ

2 เส้นเรื่องรักของทอมมี่ ถ้าใครลืมผู้หญิงที่ทอมมี่รักที่สุดไม่ได้ ก็คงจะไม่อินแล้ว บางคนอาจจะรู้สึกว่าทำทอมมี่ต้องมีอะไรกับผู้หญิงทุกคนอย่างกับเล่นเกมซิมส์ แต่เส้นเรื่องรักมันจะขาดไม่ได้ในเรื่องนี้ เส้นทางรักของทอมมี่ก็ยังไม่จบถ้าซีรีส์ไม่จบ

3 เล่นความสับสนทางจิตใจของตัวละครเยอะ ถ้าใครชอบยิงกันสนั่นจอไม่ใช่เรื่องนี้ เรื่องนี้คือดราม่า-อาชญากรรม-ครอบครัว ฉะนั้นเค้าเน้นดราม่าและครอบครัว ใครที่จิตใจพังอยู่ดูเรื่องนี้จะอินมาก เพราะทอมมี่-พอลลี่-อาเธอร์ อยู่กับการก้าวผ่านความพังๆ ไปพร้อมกับตีกับชาวบ้าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่