หลังจาก เคย Review เรียน ปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ 2 ใบ ที่ University of Kent กับ King's College London แล้ว วันนี้จะมาเขียนรีวิวประเทศแคนาดา
ก่อนอื่นเลยจะบอกว่าประเทศแคนาดาเป็นประเทสในฝันตั่งแต่เด็กๆว่าอยากจะไป คือให้ความรู้สึกว่า เป็นประเทศที่ไกล ห่างไกลมาก เป็นประเทศที่น่าค้นหา (เหมือนฝรั่งที่มองประเทศไทยในอดีต) และเป็นประเทศที่ต้องมีความอยากจะไปจริงๆถึงอยากจะไป ในกระทู้นี้ขอแบ่งเรื่องเล่าออกเป็น 2 ส่วน เนื่องจากเคยไปมาตอน High School กับ เคยไปมาตอนช่วงหยุดมหาลัยยาว
High School ขอบอกเลยว่า แคนาดาเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตจริงๆ เนื่องจากจำได้ว่าตอนนั้นเป็นช่วงสอบ GAT/PAT ก่อนไป GAT ภาษาอังกฤาได้ 30/150 แต่พอกลับมา ได้ 139/150 ซึ่งทำให้เป็น main point ที่เข้าจุฬาได้ และสามารถจบโทต่างประเทศได้ เอาหละ มาเข้าเรื่องวิถีชีวิตตอนอยู่ที่นั้นดีกว่า ตอนนั้นไปเรียน High School Grade 12 ซึ่งก็ติดต่อเอเจ้นตามปกติหละ แล้วได้ไปอยู่เมืองชื่อ Three Hills School ในเมือง Three Hills รัฐ Alberta ของ Canada ซึ่งเป็นเมืองที่เล็กมากๆ และเงียบมากๆ ที่สำคัญเป็นคนไทยแค่คนเดียว (และในปัจจุบันก็มีเพียงคนไทยคนเดียวที่ไปเรียน) 555+ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นแบบนั้น หรือว่าเด็กกลัวอะไร คือส่วนตัวพบว่าการเป็นคนไทยคนเดียวไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย และก็ไม่เหงาด้วยเนื่องจากได้ไปอยู่กับโฮส และคนแคนาดานิสัยดีมากๆ คือ ดูจากเพื่อนที่ได้โฮสทุกคนได้โฮสดีหมดเลย ของผมนี่โชคดีมาก เพราะเวลาอยากไปเที่ยวไหนโฮสก็ขับรถพาไป หรือเวลาเค้าไปเที่ยวเมืองต่างๆ เค้าก็ออกเงินค่าตั๋วเครื่องบินให้ ซึ่งโชคดีมากจริงๆ ส้วนเรื่องเพื่อน เนื่องจากโฮสหลังนึงจะมีเด็กประมาณ 2-3 คน ซึ่งเวลาอยู่ด้วยกันนานๆ ก็กลายเป็นพี่น้องกันไม่เหงาเลย และก็ไม่มีปัญหาในการใช้ Space เพราะต่างคนต่างก็มีห้องของตัวเอง ตอนไปปเรียน High School ถามว่ากดดันไหม เพราะว่าไปตั่งแต่ภาษายังไม่ได้เลย ตอนแรกยอมรับว่ากดดัน แต่พอทำความเข้าใจกับตัวเองว่า เรามาเรียนเพื่อมาภาษานะ ไม่ได้มาเรียนเพื่อเอาดีกรีหรือเพื่อสอบผ่าน เพราะยังไงก็ต้องกลับไปเรียนเมืองไทยอยู่ดี ทำให้เรียนได้ง่ายขึ้น และอย่างที่บอกว่าเราเป็นคนไทยคนเดียวในเมือง ข้อดีถึงดีมากที่สุดคือ ตลอด 1 ปี ไม่ได้ใช้ภาษาไทยเลยจ้า และทำห้กลายเป็นคนที่ใช้ภาษาอังกฤษอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ถึงตรงนี้ก็อยากจะบอกว่า ถ้ากลัวว่าไม่มีคนไทย อย่ากลัวเหงา อย่ากลัวที่จะใช้ชีวิตอยู่ไม่ได้ ไม่มีใครเหงาตาย มนุษษณ์เป็นสัตว์สังคม อยู่โน่นก็มีสังคมแค่คนละแบบกัน ถ้าคิดจะไปเรียนเอาภาษาจงไปในที่แบบนี้ แล้วมันจะติดตัวไปตลอดชีวิต
ส่วนสถาณที่ท่องเที่ยวในแคนาดาไม่ต้องพูดถึงลองไปเสริฟหารุปใน Google ดูสวยๆ ทั้งนั้น โดยเฉพาะ West Canada ไม่ว่าจะเป็น Banff, Jasper หรือ Vancouver และต้องไปเล่นน้ำที่ Edmonton ซึ่งเป็นเมืองที่มีสวนน้ำใหญ่ที่สุดในโลกคือ แบบอลังการจริงๆ ส่วนในเรื่องของอากาศก็หนาว แต่มันก็ไม่ใช่แบบหนาวจนทรมาน คือเป็นหนาวแบบได้ประสบการณ์มาคุยโม้กับเพื่อนได้ 555+ ห้าหนาวอังกฤษ -5 นิวยอร์ -10 ยอดดอย 0 เกาหลี -10 มั้งไม่เคยไป แต่ Cadana หน้าหนาวที่เคยเจอคือประมาณ -20 - -30 และสูงสุดที่เคยเจอคือ -42 คือแบบ OMG ไปโม้ให้ใครฟังเค้าก็ตะลึ่งว่าเรา Survive กันมาได้ไง
ส่วนที่สองเดี๋ยวค่อยมาเขียนต่อนะ เดี๋ยวจะเอารูปให้ดูข้างล่าง
ภาพไม่ค่อยชัดนะไม่ได้ใช้มือถือสมัยใหม่ถ่าย
ใครอยากไปอยากตือต่อเรียนเรื่องต่อ สอบถามก็แอดไลน์มาคุยกันได้ ID: dominicnarak1
Work and Study Canada / เรียนภาษาที่แคนาดา
ก่อนอื่นเลยจะบอกว่าประเทศแคนาดาเป็นประเทสในฝันตั่งแต่เด็กๆว่าอยากจะไป คือให้ความรู้สึกว่า เป็นประเทศที่ไกล ห่างไกลมาก เป็นประเทศที่น่าค้นหา (เหมือนฝรั่งที่มองประเทศไทยในอดีต) และเป็นประเทศที่ต้องมีความอยากจะไปจริงๆถึงอยากจะไป ในกระทู้นี้ขอแบ่งเรื่องเล่าออกเป็น 2 ส่วน เนื่องจากเคยไปมาตอน High School กับ เคยไปมาตอนช่วงหยุดมหาลัยยาว
High School ขอบอกเลยว่า แคนาดาเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตจริงๆ เนื่องจากจำได้ว่าตอนนั้นเป็นช่วงสอบ GAT/PAT ก่อนไป GAT ภาษาอังกฤาได้ 30/150 แต่พอกลับมา ได้ 139/150 ซึ่งทำให้เป็น main point ที่เข้าจุฬาได้ และสามารถจบโทต่างประเทศได้ เอาหละ มาเข้าเรื่องวิถีชีวิตตอนอยู่ที่นั้นดีกว่า ตอนนั้นไปเรียน High School Grade 12 ซึ่งก็ติดต่อเอเจ้นตามปกติหละ แล้วได้ไปอยู่เมืองชื่อ Three Hills School ในเมือง Three Hills รัฐ Alberta ของ Canada ซึ่งเป็นเมืองที่เล็กมากๆ และเงียบมากๆ ที่สำคัญเป็นคนไทยแค่คนเดียว (และในปัจจุบันก็มีเพียงคนไทยคนเดียวที่ไปเรียน) 555+ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นแบบนั้น หรือว่าเด็กกลัวอะไร คือส่วนตัวพบว่าการเป็นคนไทยคนเดียวไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย และก็ไม่เหงาด้วยเนื่องจากได้ไปอยู่กับโฮส และคนแคนาดานิสัยดีมากๆ คือ ดูจากเพื่อนที่ได้โฮสทุกคนได้โฮสดีหมดเลย ของผมนี่โชคดีมาก เพราะเวลาอยากไปเที่ยวไหนโฮสก็ขับรถพาไป หรือเวลาเค้าไปเที่ยวเมืองต่างๆ เค้าก็ออกเงินค่าตั๋วเครื่องบินให้ ซึ่งโชคดีมากจริงๆ ส้วนเรื่องเพื่อน เนื่องจากโฮสหลังนึงจะมีเด็กประมาณ 2-3 คน ซึ่งเวลาอยู่ด้วยกันนานๆ ก็กลายเป็นพี่น้องกันไม่เหงาเลย และก็ไม่มีปัญหาในการใช้ Space เพราะต่างคนต่างก็มีห้องของตัวเอง ตอนไปปเรียน High School ถามว่ากดดันไหม เพราะว่าไปตั่งแต่ภาษายังไม่ได้เลย ตอนแรกยอมรับว่ากดดัน แต่พอทำความเข้าใจกับตัวเองว่า เรามาเรียนเพื่อมาภาษานะ ไม่ได้มาเรียนเพื่อเอาดีกรีหรือเพื่อสอบผ่าน เพราะยังไงก็ต้องกลับไปเรียนเมืองไทยอยู่ดี ทำให้เรียนได้ง่ายขึ้น และอย่างที่บอกว่าเราเป็นคนไทยคนเดียวในเมือง ข้อดีถึงดีมากที่สุดคือ ตลอด 1 ปี ไม่ได้ใช้ภาษาไทยเลยจ้า และทำห้กลายเป็นคนที่ใช้ภาษาอังกฤษอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ ถึงตรงนี้ก็อยากจะบอกว่า ถ้ากลัวว่าไม่มีคนไทย อย่ากลัวเหงา อย่ากลัวที่จะใช้ชีวิตอยู่ไม่ได้ ไม่มีใครเหงาตาย มนุษษณ์เป็นสัตว์สังคม อยู่โน่นก็มีสังคมแค่คนละแบบกัน ถ้าคิดจะไปเรียนเอาภาษาจงไปในที่แบบนี้ แล้วมันจะติดตัวไปตลอดชีวิต
ส่วนสถาณที่ท่องเที่ยวในแคนาดาไม่ต้องพูดถึงลองไปเสริฟหารุปใน Google ดูสวยๆ ทั้งนั้น โดยเฉพาะ West Canada ไม่ว่าจะเป็น Banff, Jasper หรือ Vancouver และต้องไปเล่นน้ำที่ Edmonton ซึ่งเป็นเมืองที่มีสวนน้ำใหญ่ที่สุดในโลกคือ แบบอลังการจริงๆ ส่วนในเรื่องของอากาศก็หนาว แต่มันก็ไม่ใช่แบบหนาวจนทรมาน คือเป็นหนาวแบบได้ประสบการณ์มาคุยโม้กับเพื่อนได้ 555+ ห้าหนาวอังกฤษ -5 นิวยอร์ -10 ยอดดอย 0 เกาหลี -10 มั้งไม่เคยไป แต่ Cadana หน้าหนาวที่เคยเจอคือประมาณ -20 - -30 และสูงสุดที่เคยเจอคือ -42 คือแบบ OMG ไปโม้ให้ใครฟังเค้าก็ตะลึ่งว่าเรา Survive กันมาได้ไง
ส่วนที่สองเดี๋ยวค่อยมาเขียนต่อนะ เดี๋ยวจะเอารูปให้ดูข้างล่าง
ใครอยากไปอยากตือต่อเรียนเรื่องต่อ สอบถามก็แอดไลน์มาคุยกันได้ ID: dominicnarak1