ทำไมคนที่ลงทุนใหม่ๆอยากซื้อและมีความหวังกับหุ้นบลูชิพ เช่น Ptt SCC BBL
แต่ผลทำไมไม่เคยได้หลายเด้งจากหุ้นฮอตฮิตหรือส่วนต่างราคาเยอะๆเหมือนหุ้นขนาดกลางหรือเล็ก
หุ้นบลูชิพหรือหุ้นที่มีคนสนใจเยอะ ราคามาสุดทางขึ้นไม่มาก ถ้าเป็นคนก็อายุ40 ต้นๆ ไม่โตแล้ว มีแต่ลงพุง
ส่วนหุ้น ipo เปรียบเสมือน เป็นวัยรุ่นสร้างตัว แต่หุ้นipo บางตัวเป็นวัยรุ่นพังร้าน พังพอร์ทเม่าก็ได้อีกเช่นกัน
ผมลงสนามหุ้นมา 8 ปี สุดยอดของหุ้นสมัยนั้นที่เม่าอย่างผมฝันอยากมี อยากซื้อ ก็คือ PTT SCC Banpu
จำได้ว่าตอนนั้นหุ้นปูนใหญ่ราคาก็ 300 กว่าบาทต่อถุง หุ้นปูก็เป็นหุ้นสุดยอดที่เม่าควรมี ตอนนั้นปู กิโลละ 700 บาท
นักวิแคะว่าจะไป กิโลละพัน ตอนนี้ปู ขีดละ18 บาท คนยังไม่ค่อยอยากกินปูเลย
โชคดีที่มีเบี้ยน้อยหอยน้อย ไม่สามารถซื้อได้ เพราะลงเดือนละ 10,000 บาท ก็เลยเล่นหุ้นต่ำสิบ เป็นส่วนใหญ่
เลยรอดอาการท้องเสียจากปูเป็นพิษ เพราะเบี้ยน้อยหอยน้อย
ปลายปี มาดูทะเลหมอก ที่ดอยฟ้างาม บ้านสาแพะ ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง
ภาพจาก FB
สามปีแรกของการเล่นหุ้นต่ำสิบ ผมเสียค่าลงทะเบียนเรียน ขาดทุน กำไร สลับไปมา กำไรไม่ถึง10% พอร์ทใหญ่เพราะเติมเงิน
ก็อาศัยแอบดูเหล่าชาวยุทธสินธร อาศัยครูพักลักจำ เล่นไปก็ค่อยๆสังเกตตลาดและชาวสินธรที่มีแนวคิดต่างๆกัน
จนผมก็ตกผลึกเรื่องหุ้นร่วมสมัยต่างหากจะทำให้เรารวยได้ ความหมายหุ้นร่วมสมัยสำหรับผม คือ
หุ้นที่เราทันตอนมัน ipo ตอนที่เรากำลังลงทุน ถึงแม้ผมจะไม่เคยได้หุ้นipo จากโบรคเลยก็ตาม หรือหุ้นกำลังเติบโต
คนที่มาเล่นหุ้นไม่เกิน 10 ปี เราไม่มีโอกาสจะได้ราคาหุ้น SCC PTT BBL CPALL ในราคาถูกๆ เพราะเราย้อนเวลาหาอดีต
ไปซื้อตอนราคาต่ำไม่ได้ และเราไม่ได้เกิดร่วมสมัยกับหุ้นพวกนี้
>>> พูดถึงหุ้นร่วมสมัย<<<
เพื่อความเข้าใจง่ายขอเปรียบเทียบเป็นยุคๆ ตามสื่อบันทึกเพลงสมัยต่างๆ ใครทันหรือร่วมสมัยช่วงไหนบ้าง...
>>ยุคแรกๆ
>>ยุค 2 ผมทันยุคนี้ เทปตลับแรกที่ซื้อ ก็ชุดแรกของพี่แจ้ ราคา 60 บาท/ตลับ ต่อมาก็ป๋าเบิดร์ท
>> ยุคที3 ยุคดิจิตอล CD ที่ผมซื้อก็ของพีป้อม ชอบเพลงบ้าหอบฟาง
>>ยุคที่ 4 ยุคออนไลด์ ผมเริ่มฟังเพลงใหม่ๆไม่เพราะ 555 แปลว่าเริ่มแก่ (ผมเริ่มลงทุนยุคนี้แหละ Streaming pro กำลังมาเข้าถึงง่าย)
>> ยุคปัจจุบัน ผมกลับมาฟังเพลงเก่าๆได้อีก
>>>>คุณเกิดร่วมสมับกับยุคไหน ตอบในใจ เดี๋ยวรู้ว่าเราเกิดมานาน 5555
ยกตัวอย่างเรื่องเพลงมาซะยาว ก็สรุปได้ว่านักลงทุนมือใหม่โอกาสรวยจาก SCC PTT Cpall AOT RAM GLOW EGGO BBL
ยากเพราะเราไม่ได้เกิดร่วมสมัยกับมัน พูดง่ายๆว่าเกิดไม่ทัน เราจึงมารับราคาที่สูงแล้ว คนเกิดทันซื้อและถือยาวจะได้กำไรหลายเด้ง
เรามาซื้อที่ใกล้ดอยกำไรเป็นๆเด้งๆ จากหุ้นพวกนี้ยาก พอเกิดข่าวร้ายมันลงลึกเราเหมือนตกจากที่สูงเจ็บหนัก
แต่ก็มีปันผลปลอบใจให้บ้างแต่เมื่อเทียบกับราคาที่ลง ถ้าทนถือได้ คนถือก็จะทำใจเห็นมันแดงนานๆไม่ได้
คนที่เกิดทีหลังก็อาศัยใจกล้าตอนที่มันลงลึกซื้อแล้วเอามาขายขาขึ้นแต่ต้องลงทุนสูง โอกาสกำไรเป็นเด้งๆๆ น้อย
สำหรับคนที่ลงทุนหุ้นมาไม่เกิน10 ปี ก็มีหุ้นร่วมสมัยของเรา ที่ ipo ให้เราได้ซื้อมากมาย เป็นหุ้นดีจริงสัก 30% ส่วนอีก 70%
เป็นหุ้นดีทีเดียว วันเดียว อาทิตย์เดียว เดือนเดียว จากนั้นก็โลกลืมเป็นพวกสายย่อ เข้าสู่ราคา ipo หรือต่ำกว่า
ผมขอยกตัวอย่างหุ้นร่วมสมัยเด่นๆ ที่เรามีโอกาสสัมผัสประสบการเฉียดรวยกันมาแล้ว สักไม่เกิน 3 ปี ก็มี GPSC BCPG BGRIM GULF
CBG TKN SAWAD MTLS GGC
ผมขอแบ่งระยะต่างๆของหุ้น IPO เป็นข้อสังเกต ดังนี้ โดยเอา หลักอนิจจัง มาจับ
ระยะที่ 1 (เกิด) ก่อน ipo ช่วงนี้นักลงพุงก็จะดูชื่อเสียงของบริษัท ต่างคาดหวังราคาตามนิยม
ถ้าตัวไหนกระแสแรง ราคาipo ก็จะแรงมาก
ระยะที่ 2 (เติบโต-แก่)วันแรกที่ ipo ส่วนใหญ่จะแรงวันแรกๆ ต่อมาก็นิ่งหรือค่อยๆกระดึบไม่ทันใจนักลงทุนเลยขายทิ้ง
นักลงทุนส่วนใหญ่จะไม่สนใจ ส่วนมากไม่เกิน 3 เดือน บางตัวเล่นกันไม่เกินเดือน
ระยะที่ 3 (เจ็บ) ระยะสูญญากาศ ราคาจะต่ำตม น่าเบื่อ คนเล่นสั้นเก็งกำไรก็จะขายทิ้ง เพราะราคาไม่เป็นดังหวัง SW นานเป็นปี
เช่น GPSC BCPG ช่วงนี้แหละผมจะค่อยๆซื้อ ดูยอดขาย กำไร โครงการใหม่ กำไรรายไตรมาสมีพัฒนาการไหม บางตัวก็
ผลประกอบการแย่ ขาดทุนต่อเนื่อง เพิ่มทุน PP สารพัดจะทำเพื่อหนีตาย
ระยะที่ 4 (ระยะฟื้นตัว หรือบางตัวอาจตาย) ถ้าเป็นหนังก็ Batman Return ตัวเลขยอดขาย กำไร เริ่มเพิ่มขึ้น เริ่มมีกองทุนเข้ามาถือ
ยิ่งปันผลสม่ำเสมอ นั่นถือเป็นระยะก่อนขึ้นแน่นอน บางตัวกลับมาไม่ได้ก็ตายไป แต่ก่อนตายก็ทำตัวเหมือนโกโบริ ที่สั่งลาอังสุมาลินเป็นวัน
เหมือนหุ้นผีดิบ ที่ไม่ยอมตายง่ายๆ เช่น หุ้นไอเฟะ หุ้นชาวโลก
>>>ต่อจากนี้ไปจะมีหุ้นร่วมสมัยจะเข้ามา ipo มากขึ้นเรื่อยๆ หมดยุคเถ้าแก่ใหญ่ที่ไม่ยอมเอาหุ้นเข้าตลาดเพราะยังหวงแหนกิจการที่สร้างมา
เข้ามาสู่ยุคเถ้าแก่น้อย ที่มารับกิจการแทน รุ่นนี้คนละแนวคิดกับเถ้าแก่ใหญ่ ต้องเลือกให้ดีนะครับสำหรับหุ้นใหมๆที่ทยอยเข้าตลาด
สรุปได้ว่า : เราต้องหาหุ้นร่วมสมัยกับเราให้เจอซื้อและถืออย่างอดทนเราถึงจะรวย ยากมากครับที่เรารวยจากหุ้น Blue chip
ยกเว้นเราจะซื้อตอนตลาดวิกฤติใหญ่ๆ เช่น ช่วงแฮมเบอร์เกอร์ไครซิส QE น้ำท่วมใหญ่ และต้องใช้เงินจำนวนมาก จิตใจที่แน่วแน่
>>>หุ้นร่วมสมัยก็เปรียบเสมือนแม่ของลูกต้องหาให้ดีคัดสรรอย่างดี
ส่วนหุ้นปั่นแปะก็เหมือนกิ๊กหรือเด็กนั่งดริ๊งค์ ต้องสายเปย์เท่านั้นคุณจะเปลืองมากๆๆๆๆ<<<
สุดท้ายคุณหาหุ้นร่วมสมัยที่จะทำให้คุณมั่งคั่งเจอหรือยัง?????
#ที่สุดของแจ้#รวยด้วยหุ้นร่วมสมัย
แต่ผลทำไมไม่เคยได้หลายเด้งจากหุ้นฮอตฮิตหรือส่วนต่างราคาเยอะๆเหมือนหุ้นขนาดกลางหรือเล็ก
หุ้นบลูชิพหรือหุ้นที่มีคนสนใจเยอะ ราคามาสุดทางขึ้นไม่มาก ถ้าเป็นคนก็อายุ40 ต้นๆ ไม่โตแล้ว มีแต่ลงพุง
ส่วนหุ้น ipo เปรียบเสมือน เป็นวัยรุ่นสร้างตัว แต่หุ้นipo บางตัวเป็นวัยรุ่นพังร้าน พังพอร์ทเม่าก็ได้อีกเช่นกัน
ผมลงสนามหุ้นมา 8 ปี สุดยอดของหุ้นสมัยนั้นที่เม่าอย่างผมฝันอยากมี อยากซื้อ ก็คือ PTT SCC Banpu
จำได้ว่าตอนนั้นหุ้นปูนใหญ่ราคาก็ 300 กว่าบาทต่อถุง หุ้นปูก็เป็นหุ้นสุดยอดที่เม่าควรมี ตอนนั้นปู กิโลละ 700 บาท
นักวิแคะว่าจะไป กิโลละพัน ตอนนี้ปู ขีดละ18 บาท คนยังไม่ค่อยอยากกินปูเลย
โชคดีที่มีเบี้ยน้อยหอยน้อย ไม่สามารถซื้อได้ เพราะลงเดือนละ 10,000 บาท ก็เลยเล่นหุ้นต่ำสิบ เป็นส่วนใหญ่
เลยรอดอาการท้องเสียจากปูเป็นพิษ เพราะเบี้ยน้อยหอยน้อย
ปลายปี มาดูทะเลหมอก ที่ดอยฟ้างาม บ้านสาแพะ ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง
ภาพจาก FB
สามปีแรกของการเล่นหุ้นต่ำสิบ ผมเสียค่าลงทะเบียนเรียน ขาดทุน กำไร สลับไปมา กำไรไม่ถึง10% พอร์ทใหญ่เพราะเติมเงิน
ก็อาศัยแอบดูเหล่าชาวยุทธสินธร อาศัยครูพักลักจำ เล่นไปก็ค่อยๆสังเกตตลาดและชาวสินธรที่มีแนวคิดต่างๆกัน
จนผมก็ตกผลึกเรื่องหุ้นร่วมสมัยต่างหากจะทำให้เรารวยได้ ความหมายหุ้นร่วมสมัยสำหรับผม คือ
หุ้นที่เราทันตอนมัน ipo ตอนที่เรากำลังลงทุน ถึงแม้ผมจะไม่เคยได้หุ้นipo จากโบรคเลยก็ตาม หรือหุ้นกำลังเติบโต
คนที่มาเล่นหุ้นไม่เกิน 10 ปี เราไม่มีโอกาสจะได้ราคาหุ้น SCC PTT BBL CPALL ในราคาถูกๆ เพราะเราย้อนเวลาหาอดีต
ไปซื้อตอนราคาต่ำไม่ได้ และเราไม่ได้เกิดร่วมสมัยกับหุ้นพวกนี้
>>> พูดถึงหุ้นร่วมสมัย<<<
เพื่อความเข้าใจง่ายขอเปรียบเทียบเป็นยุคๆ ตามสื่อบันทึกเพลงสมัยต่างๆ ใครทันหรือร่วมสมัยช่วงไหนบ้าง...
>>ยุคแรกๆ
>>ยุค 2 ผมทันยุคนี้ เทปตลับแรกที่ซื้อ ก็ชุดแรกของพี่แจ้ ราคา 60 บาท/ตลับ ต่อมาก็ป๋าเบิดร์ท
>> ยุคที3 ยุคดิจิตอล CD ที่ผมซื้อก็ของพีป้อม ชอบเพลงบ้าหอบฟาง
>>ยุคที่ 4 ยุคออนไลด์ ผมเริ่มฟังเพลงใหม่ๆไม่เพราะ 555 แปลว่าเริ่มแก่ (ผมเริ่มลงทุนยุคนี้แหละ Streaming pro กำลังมาเข้าถึงง่าย)
>> ยุคปัจจุบัน ผมกลับมาฟังเพลงเก่าๆได้อีก
>>>>คุณเกิดร่วมสมับกับยุคไหน ตอบในใจ เดี๋ยวรู้ว่าเราเกิดมานาน 5555
ยกตัวอย่างเรื่องเพลงมาซะยาว ก็สรุปได้ว่านักลงทุนมือใหม่โอกาสรวยจาก SCC PTT Cpall AOT RAM GLOW EGGO BBL
ยากเพราะเราไม่ได้เกิดร่วมสมัยกับมัน พูดง่ายๆว่าเกิดไม่ทัน เราจึงมารับราคาที่สูงแล้ว คนเกิดทันซื้อและถือยาวจะได้กำไรหลายเด้ง
เรามาซื้อที่ใกล้ดอยกำไรเป็นๆเด้งๆ จากหุ้นพวกนี้ยาก พอเกิดข่าวร้ายมันลงลึกเราเหมือนตกจากที่สูงเจ็บหนัก
แต่ก็มีปันผลปลอบใจให้บ้างแต่เมื่อเทียบกับราคาที่ลง ถ้าทนถือได้ คนถือก็จะทำใจเห็นมันแดงนานๆไม่ได้
คนที่เกิดทีหลังก็อาศัยใจกล้าตอนที่มันลงลึกซื้อแล้วเอามาขายขาขึ้นแต่ต้องลงทุนสูง โอกาสกำไรเป็นเด้งๆๆ น้อย
สำหรับคนที่ลงทุนหุ้นมาไม่เกิน10 ปี ก็มีหุ้นร่วมสมัยของเรา ที่ ipo ให้เราได้ซื้อมากมาย เป็นหุ้นดีจริงสัก 30% ส่วนอีก 70%
เป็นหุ้นดีทีเดียว วันเดียว อาทิตย์เดียว เดือนเดียว จากนั้นก็โลกลืมเป็นพวกสายย่อ เข้าสู่ราคา ipo หรือต่ำกว่า
ผมขอยกตัวอย่างหุ้นร่วมสมัยเด่นๆ ที่เรามีโอกาสสัมผัสประสบการเฉียดรวยกันมาแล้ว สักไม่เกิน 3 ปี ก็มี GPSC BCPG BGRIM GULF
CBG TKN SAWAD MTLS GGC
ผมขอแบ่งระยะต่างๆของหุ้น IPO เป็นข้อสังเกต ดังนี้ โดยเอา หลักอนิจจัง มาจับ
ระยะที่ 1 (เกิด) ก่อน ipo ช่วงนี้นักลงพุงก็จะดูชื่อเสียงของบริษัท ต่างคาดหวังราคาตามนิยม
ถ้าตัวไหนกระแสแรง ราคาipo ก็จะแรงมาก
ระยะที่ 2 (เติบโต-แก่)วันแรกที่ ipo ส่วนใหญ่จะแรงวันแรกๆ ต่อมาก็นิ่งหรือค่อยๆกระดึบไม่ทันใจนักลงทุนเลยขายทิ้ง
นักลงทุนส่วนใหญ่จะไม่สนใจ ส่วนมากไม่เกิน 3 เดือน บางตัวเล่นกันไม่เกินเดือน
ระยะที่ 3 (เจ็บ) ระยะสูญญากาศ ราคาจะต่ำตม น่าเบื่อ คนเล่นสั้นเก็งกำไรก็จะขายทิ้ง เพราะราคาไม่เป็นดังหวัง SW นานเป็นปี
เช่น GPSC BCPG ช่วงนี้แหละผมจะค่อยๆซื้อ ดูยอดขาย กำไร โครงการใหม่ กำไรรายไตรมาสมีพัฒนาการไหม บางตัวก็
ผลประกอบการแย่ ขาดทุนต่อเนื่อง เพิ่มทุน PP สารพัดจะทำเพื่อหนีตาย
ระยะที่ 4 (ระยะฟื้นตัว หรือบางตัวอาจตาย) ถ้าเป็นหนังก็ Batman Return ตัวเลขยอดขาย กำไร เริ่มเพิ่มขึ้น เริ่มมีกองทุนเข้ามาถือ
ยิ่งปันผลสม่ำเสมอ นั่นถือเป็นระยะก่อนขึ้นแน่นอน บางตัวกลับมาไม่ได้ก็ตายไป แต่ก่อนตายก็ทำตัวเหมือนโกโบริ ที่สั่งลาอังสุมาลินเป็นวัน
เหมือนหุ้นผีดิบ ที่ไม่ยอมตายง่ายๆ เช่น หุ้นไอเฟะ หุ้นชาวโลก
>>>ต่อจากนี้ไปจะมีหุ้นร่วมสมัยจะเข้ามา ipo มากขึ้นเรื่อยๆ หมดยุคเถ้าแก่ใหญ่ที่ไม่ยอมเอาหุ้นเข้าตลาดเพราะยังหวงแหนกิจการที่สร้างมา
เข้ามาสู่ยุคเถ้าแก่น้อย ที่มารับกิจการแทน รุ่นนี้คนละแนวคิดกับเถ้าแก่ใหญ่ ต้องเลือกให้ดีนะครับสำหรับหุ้นใหมๆที่ทยอยเข้าตลาด
สรุปได้ว่า : เราต้องหาหุ้นร่วมสมัยกับเราให้เจอซื้อและถืออย่างอดทนเราถึงจะรวย ยากมากครับที่เรารวยจากหุ้น Blue chip
ยกเว้นเราจะซื้อตอนตลาดวิกฤติใหญ่ๆ เช่น ช่วงแฮมเบอร์เกอร์ไครซิส QE น้ำท่วมใหญ่ และต้องใช้เงินจำนวนมาก จิตใจที่แน่วแน่
>>>หุ้นร่วมสมัยก็เปรียบเสมือนแม่ของลูกต้องหาให้ดีคัดสรรอย่างดี
ส่วนหุ้นปั่นแปะก็เหมือนกิ๊กหรือเด็กนั่งดริ๊งค์ ต้องสายเปย์เท่านั้นคุณจะเปลืองมากๆๆๆๆ<<<
สุดท้ายคุณหาหุ้นร่วมสมัยที่จะทำให้คุณมั่งคั่งเจอหรือยัง?????