"สิ่งที่ gu ทำ gu ไม่ได้นอกใจแฟนเว้ย มันแค่นอกกาย เพราะสุดท้าย gu ก็รักแฟน gu เหมือนเดิม ไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น"
นี่เป็นคำตอบที่ได้จากเพื่อนคนหนึ่ง หลังจากที่ผมพยายามตักเตือนว่าการไปมีอะไรกับผญ.คนอื่น แน่นอนว่ามันมีแฟนอยู่แล้ว
หลังจากนั้นมันก็ยังทำแบบนั้นอยู่เรื่อยๆ โดยที่แฟนของมันไม่เคยจับได้ แถมยังเอาเรื่องนี้มาคุยในเชิงอวดในกลุ่มเพื่อนบ่อยครั้ง จนปัจจุบันผมละความพยายามที่จะห้ามเพื่อนไปแล้ว
แต่ก็เห็นเป็น pattern แบบนี้มาตลอด ว่าใครก็ตามที่มีพฤติกรรมไม่ซือสัตย์ต่อคู่หรือแฟนตัวเอง ก็มักจะอ้างการเล่นสำนวน "นอกกาย ไม่ใช่นอกใจ" มาพูดราวกับว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ไม่ใช่เรื่องผิด ทั้งที่จริงๆแล้ว ในภาษาอังกฤษมันก็คือ cheating หรือจะเรียกแบบเป็นทางการว่า infidelity หมายถึงการมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนหรือคู่ของตัว ซึ่งไม่ได้สนใจว่าทำไปด้วยความรักหรือเปล่า
อยากรู้ว่าทำไมคนที่กระทำสิ่งเหล่านี้ถึงต้องพยายามเล่นสำนวนเพื่อให้ตัวเองดูไม่แย่ครับ ?
หรือว่า 'นอกใจ' กับ 'นอกกาย' มันเป็นคนละอย่างกัน และการ 'นอกกาย' ถือว่าโอเค ตราบใดที่ไม่ได้ 'นอกใจ' เหมือนอย่างที่เพื่อนผมว่าจริงๆ ?
"นอกกาย - นอกใจ" การเล่นสำนวนของผู้ทรยศในความสัมพันธ์
นี่เป็นคำตอบที่ได้จากเพื่อนคนหนึ่ง หลังจากที่ผมพยายามตักเตือนว่าการไปมีอะไรกับผญ.คนอื่น แน่นอนว่ามันมีแฟนอยู่แล้ว
หลังจากนั้นมันก็ยังทำแบบนั้นอยู่เรื่อยๆ โดยที่แฟนของมันไม่เคยจับได้ แถมยังเอาเรื่องนี้มาคุยในเชิงอวดในกลุ่มเพื่อนบ่อยครั้ง จนปัจจุบันผมละความพยายามที่จะห้ามเพื่อนไปแล้ว
แต่ก็เห็นเป็น pattern แบบนี้มาตลอด ว่าใครก็ตามที่มีพฤติกรรมไม่ซือสัตย์ต่อคู่หรือแฟนตัวเอง ก็มักจะอ้างการเล่นสำนวน "นอกกาย ไม่ใช่นอกใจ" มาพูดราวกับว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ไม่ใช่เรื่องผิด ทั้งที่จริงๆแล้ว ในภาษาอังกฤษมันก็คือ cheating หรือจะเรียกแบบเป็นทางการว่า infidelity หมายถึงการมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนหรือคู่ของตัว ซึ่งไม่ได้สนใจว่าทำไปด้วยความรักหรือเปล่า
อยากรู้ว่าทำไมคนที่กระทำสิ่งเหล่านี้ถึงต้องพยายามเล่นสำนวนเพื่อให้ตัวเองดูไม่แย่ครับ ?
หรือว่า 'นอกใจ' กับ 'นอกกาย' มันเป็นคนละอย่างกัน และการ 'นอกกาย' ถือว่าโอเค ตราบใดที่ไม่ได้ 'นอกใจ' เหมือนอย่างที่เพื่อนผมว่าจริงๆ ?