Wi-Fi ในร้าน Starbucks โดนแฮ็ก เอาไปขุดเหมืองเงินดิจิตอลซะงั้น !

ทาง Starbucks แถลงว่า ได้จัดการแก้ปัญหาที่มีการแฮ็กแล็บท็อปของลูกค้าในร้านเพื่อขุดเหมืองเงินดิจิตอลสกุล Monero แล้ว หลังจากเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ Noah Dinkin โพสภาพแคปหน้าจอที่แสดงรายการเครือข่าย Wi-Fi ที่มีให้ในร้านสตาร์บั๊กในเมืองบูเอโนสไอเรส ประเทศอาเจนตินา ว่ามีการแฮ็กและแก้ไขการตั้งค่าด้วยโค้ดแปลกๆ


ซึ่งโค้ดดังกล่าวทำให้ Dinkin รู้สึกว่าเป็นสาเหตุของเครื่องช้าลงในทันทีหลังจากเชื่อมต่อเน็ตที่ร้าน และเมื่อวิเคราะห์โค้ดดังกล่าวจะพบว่า เกตเวย์ที่ให้บริการ Wi-Fi ได้ฝังโค้ดขุดเหมืองบิทคอยน์โดยใช้ทรัพยากรประมวลผลของแล็บท็อปของเขา

หลังจากการทวีตดังกล่าว ทำให้ทั้ง Hackread.com และ Blockexplorer.com ได้ออกมารายงานว่าสคริปต์ที่ทวีตนั้นเป็นโค้ดของทาง Coinhive สำหรับขุดเหรียญสกุล Monero โดยเฉพาะ ซึ่งทาง Hackread.com มองว่าวายร้ายที่แท้จริงไม่ใช่ร้านสตาร์บั๊ก แต่เป็นอาชญากรไซเบอร์ที่ได้แฮ็กและแอบใส่สคริปต์ดังกล่าวลงในเว็บไซต์กว่า 5,000 แห่ง

ทั้งนี้ ทางร้านสตาร์บั๊กไม่ได้ออกมาอธิบายว่าเหตุใดจึงปล่อยให้สคริปต์ Wi-Fi ถูกเปลี่ยนให้ฝังโค้ดขุดเหมืองบิทคอยน์ตั้งแต่แรก ซึ่งการขุดเหมืองบิทคอยน์นั้นเป็นการผลาญกำลังการประมวลผลของคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ผ่านทางเทคโนโลยีบล็อกเชนที่คอยบันทึกการแลกเปลี่ยนเงินบิทคอยน์ จากนั้นเซิร์ฟเวอร์กลางจะให้เงินบิทคอยน์ออกมาเป็นค่าแลกเปลี่ยน

https://www.cnbc.com/2017/12/12/starbucks-customer-laptops-hacked-to-mine-cryptocurrency.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่