ข้อมูลจาก เมเนเจอร์ออนไลน์
https://mgronline.com/entertainment/detail/9600000127708
วัดรอยเท้า “สรยุทธ” ไม่สำเร็จ “ต๊ะ พิภู พุ่มแก้ว” โดนช่อง 3 เรียกเข้าไปคุยแค่ 4 นาที ก็กระเด็นออกจากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เจ้าตัวยืดอกรับผิดเองที่ไม่สามารถทำให้เรตติ้งรายการพุ่งสูงได้ แต่ก่อนหน้านี้ รายการก็เรตติ้งตกอยู่แล้ว จำได้ทุกคำพูดวันที่ถูกเชิญมาร่วมงาน ถ้าคนจะติดภาพสรยุทธก็คงต้องให้สรยุทธกลับมา
ในที่สุด “ต๊ะ พิภู พุ่มแก้ว” ผู้ดำเนินรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ช่อง 3 ที่มาทำหน้าที่เล่าข่าวแทน “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ก็ไปไม่รอด โดนผู้ใหญ่ช่อง 3 เรียกเข้าไปคุยแค่ 4 นาที เจ้าตัวก็ขอลาออกจากการทำหน้าที่ สาเหตุเพราะการทำหน้าที่ของต๊ะที่ผ่านมา ไม่สามารถกู้เรตติ้งของเรื่องเล่าเช้านี้ ให้กลับมาได้ ซึ่งล่าสุด ต๊ะก็ได้ตัดสินใจไปร่วมกับช่องจีเอ็มเอ็ม 25 โดยเผยถึงการออกจากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ว่า ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว เรตติ้งก็ไม่ได้ถึงกับเลวร้าย และเรตติ้งรายการก็ตกมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว และถ้าคิดว่าเรื่องเล่าเป็นแบรนด์ของสรยุทธ ก็คงต้องรอให้สรยุทธกลับมา
“คือ เขาเรียกเราเข้าไปคุยว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แต่ก็ไม่เชิงว่าผมลาออกเอง แต่มันจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ผมก็จำเป็นต้องออกมากกว่า ถ้าพูดกันตรงๆ แบบนี้ แต่มันไม่ใช่การถูกไล่ออกเพราะผมไม่ใช่พนักงานประจำ ผมไม่มีสัญญา ทุกอย่างเป็นการตกลงที่เกิดขึ้นจากปากเปล่าทั้งสิ้น”
"เขาเรียกไปคุยว่ามันอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงนะ ผมก็เลยบอกว่าไม่ต้องพูดต่อ เดี๋ยวผมรับผิดชอบด้วยการออกเองครับ สั้นๆ ใช้เวลาคุยไม่ถึง 4 นาที ซึ่งคนที่คุยกับผมว่าที่ผมจะออกก็ไม่ใช่คนเดียวกันกับคนที่ชวนผมมาทำงานที่นี่ แต่ก็ไม่ได้น้อยใจ ผมกลับคิดว่าไม่ได้มีอะไรที่เสียใจ และวันหนึ่งความจริงจะปรากฏขึ้นมาเองว่าอะไรคืออะไร ผมก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ดี แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่เลวร้าย หรือมาตรฐานที่เขาตั้งไว้อาจจะสูงเกินไป ยืนยันว่าที่ออกมา ไม่ได้มีปัญหากับใครหรือว่าโกรธใคร เฉยๆ มากกว่า ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป”
“ผมขออธิบายนิดนึงว่า ก่อนหน้านี้ ผมได้ลาออกจากช่อง 9 อยู่ที่นั่นมา 5 ปีเต็มๆ และพอปีที่ 6 - 7 ก็ยังอ่านข่าวอยู่ แต่ไม่ได้เซ็นสัญญา หลังจากนั้น ผมตัดสินออกจากช่อง 9 แล้วก็ไปอยู่ที่ทรูฟอร์ยู แต่ช่อง 9 ก็ขอว่าอย่าให้ผมออกทีวีเป็นเวลา 1 เดือน หลังจากออกจากที่นั่น ซึ่งเราก็ปฏิบัติตาม และระหว่างที่ไม่ได้ออกหน้าจอ ก็มีหลายที่เรียกไปคุย ซึ่งก็มีทรูฟอร์ยูเรียกไป ผู้ใหญ่ท่านน่ารักกับผมมาก ผมก็ตัดสินใจไปทำที่ทรูฟอร์ยู ซึ่งทำไปได้เดือนกว่าก็มีพี่จากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ มาชวนเราไปทำรายการ และจังหวะนั้นอย่างที่บอกว่าผมทำที่ทรูฯ อยู่แล้ว และไม่ได้อยากจะออกไปไหนอีก แต่ทุกคนรอบข้างก็บอกว่ารายการที่เราจะไปทำใหม่นั้น มันเป็นรายการใหญ่ เป็นรายการที่ใครๆ ก็อยากจะไปทำอยากจะไปนั่งตรงนั้น เป็นเวทีที่คุณสรยุทธนั้นเคยนั่ง ซึ่งถ้าผมปฏิเสธผมคงเท่เกินไปหรือว่าโง่เกินไปหรือเปล่า ซึ่งทางผู้ใหญ่ทางทรูฯ ผมก็ได้เข้าไปคุย ท่านก็ไม่อยากให้ไป แต่ท้ายที่สุดท่านก็อนุญาต แต่ไม่รู้ว่าลึกๆ ท่านจะเกลียดผมหรือเปล่า แต่ก็ขอโทษและขอขมาไปหลายครั้ง”
ช่อง 3 เรียก “ต๊ะ พิภู” คุยแค่ 4 นาที ก็กระเด็นจากเรื่องเล่าฯ เปิดใจทำดีที่สุดแล้ว แต่เรตติ้งรายการตกอยู่แล้ว
https://mgronline.com/entertainment/detail/9600000127708
วัดรอยเท้า “สรยุทธ” ไม่สำเร็จ “ต๊ะ พิภู พุ่มแก้ว” โดนช่อง 3 เรียกเข้าไปคุยแค่ 4 นาที ก็กระเด็นออกจากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เจ้าตัวยืดอกรับผิดเองที่ไม่สามารถทำให้เรตติ้งรายการพุ่งสูงได้ แต่ก่อนหน้านี้ รายการก็เรตติ้งตกอยู่แล้ว จำได้ทุกคำพูดวันที่ถูกเชิญมาร่วมงาน ถ้าคนจะติดภาพสรยุทธก็คงต้องให้สรยุทธกลับมา
ในที่สุด “ต๊ะ พิภู พุ่มแก้ว” ผู้ดำเนินรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ช่อง 3 ที่มาทำหน้าที่เล่าข่าวแทน “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ก็ไปไม่รอด โดนผู้ใหญ่ช่อง 3 เรียกเข้าไปคุยแค่ 4 นาที เจ้าตัวก็ขอลาออกจากการทำหน้าที่ สาเหตุเพราะการทำหน้าที่ของต๊ะที่ผ่านมา ไม่สามารถกู้เรตติ้งของเรื่องเล่าเช้านี้ ให้กลับมาได้ ซึ่งล่าสุด ต๊ะก็ได้ตัดสินใจไปร่วมกับช่องจีเอ็มเอ็ม 25 โดยเผยถึงการออกจากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ว่า ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว เรตติ้งก็ไม่ได้ถึงกับเลวร้าย และเรตติ้งรายการก็ตกมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว และถ้าคิดว่าเรื่องเล่าเป็นแบรนด์ของสรยุทธ ก็คงต้องรอให้สรยุทธกลับมา
“คือ เขาเรียกเราเข้าไปคุยว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แต่ก็ไม่เชิงว่าผมลาออกเอง แต่มันจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ผมก็จำเป็นต้องออกมากกว่า ถ้าพูดกันตรงๆ แบบนี้ แต่มันไม่ใช่การถูกไล่ออกเพราะผมไม่ใช่พนักงานประจำ ผมไม่มีสัญญา ทุกอย่างเป็นการตกลงที่เกิดขึ้นจากปากเปล่าทั้งสิ้น”
"เขาเรียกไปคุยว่ามันอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงนะ ผมก็เลยบอกว่าไม่ต้องพูดต่อ เดี๋ยวผมรับผิดชอบด้วยการออกเองครับ สั้นๆ ใช้เวลาคุยไม่ถึง 4 นาที ซึ่งคนที่คุยกับผมว่าที่ผมจะออกก็ไม่ใช่คนเดียวกันกับคนที่ชวนผมมาทำงานที่นี่ แต่ก็ไม่ได้น้อยใจ ผมกลับคิดว่าไม่ได้มีอะไรที่เสียใจ และวันหนึ่งความจริงจะปรากฏขึ้นมาเองว่าอะไรคืออะไร ผมก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้ดี แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่เลวร้าย หรือมาตรฐานที่เขาตั้งไว้อาจจะสูงเกินไป ยืนยันว่าที่ออกมา ไม่ได้มีปัญหากับใครหรือว่าโกรธใคร เฉยๆ มากกว่า ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป”
“ผมขออธิบายนิดนึงว่า ก่อนหน้านี้ ผมได้ลาออกจากช่อง 9 อยู่ที่นั่นมา 5 ปีเต็มๆ และพอปีที่ 6 - 7 ก็ยังอ่านข่าวอยู่ แต่ไม่ได้เซ็นสัญญา หลังจากนั้น ผมตัดสินออกจากช่อง 9 แล้วก็ไปอยู่ที่ทรูฟอร์ยู แต่ช่อง 9 ก็ขอว่าอย่าให้ผมออกทีวีเป็นเวลา 1 เดือน หลังจากออกจากที่นั่น ซึ่งเราก็ปฏิบัติตาม และระหว่างที่ไม่ได้ออกหน้าจอ ก็มีหลายที่เรียกไปคุย ซึ่งก็มีทรูฟอร์ยูเรียกไป ผู้ใหญ่ท่านน่ารักกับผมมาก ผมก็ตัดสินใจไปทำที่ทรูฟอร์ยู ซึ่งทำไปได้เดือนกว่าก็มีพี่จากรายการเรื่องเล่าเช้านี้ มาชวนเราไปทำรายการ และจังหวะนั้นอย่างที่บอกว่าผมทำที่ทรูฯ อยู่แล้ว และไม่ได้อยากจะออกไปไหนอีก แต่ทุกคนรอบข้างก็บอกว่ารายการที่เราจะไปทำใหม่นั้น มันเป็นรายการใหญ่ เป็นรายการที่ใครๆ ก็อยากจะไปทำอยากจะไปนั่งตรงนั้น เป็นเวทีที่คุณสรยุทธนั้นเคยนั่ง ซึ่งถ้าผมปฏิเสธผมคงเท่เกินไปหรือว่าโง่เกินไปหรือเปล่า ซึ่งทางผู้ใหญ่ทางทรูฯ ผมก็ได้เข้าไปคุย ท่านก็ไม่อยากให้ไป แต่ท้ายที่สุดท่านก็อนุญาต แต่ไม่รู้ว่าลึกๆ ท่านจะเกลียดผมหรือเปล่า แต่ก็ขอโทษและขอขมาไปหลายครั้ง”