** ด่วน! รีบอ่านก่อนทองขึ้น **
ก่อนจะไปพบกับ 9 คุณค่าแห่ง “ทองคำ” ผมขออนุญาต เล่าถึงแรงบันดาลใจที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมาก่อนสักนิดครับ
เมื่อวันศุกร์ (8 ธันวาคม 2560) ที่ผ่านมา ผมได้เข้าไปดูกราฟของราคาทองคำ (XAU/USD) พบว่า ราคาทองได้ร่วงลงสู่ระดับราคา 1248.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (USD/Ounce) ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน! และราคาไทยวันนี้ (10 ธันวาคม 2560 ) อยู่ที่ 19,350.00 บาทไทย (ทองแท่งที่ความบริสุทธิ์ 96.5%)
เหตุเนื่องด้วยการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานต่ำสุดในรอบหลายสิบปี พร้อมด้วยปัจจัยเงินบาทที่แข็งค่า อยู่ที่ระดับ 32.62535 บาทไทยต่อดอลลาร์สหรัฐ
จากปัจจัยเหล่านี้ ประกอบกับเทศกาลปีใหม่และเทศกาลตรุษจีนที่ใกล้เข้ามาถึง จึงเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้ผู้คนออกไปซื้อทองในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และผมก็เชื่อว่าต้องมีหลายท่านไปซื้อกับเขามาด้วยหละ!
ℹ แล้วทำไมคนถึงซื้อทองกัน??
ทองนั้นถือได้ว่าเป็นแร่ธาตุที่มีคุณค่าทางจิตใจต่อมนุษย์มายาวนานนับหมื่นปี อยู่คู่กับประวัติศาสตร์มนุษย์มาตลอดจนถึงทุกวันนี้
แล้วทำไมทุกคนต่างพร้อมใจให้เจ้าแร่สีเหลืองอมส้มแวววาวนี้มีค่า?
ในบทความนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับความพิเศษและไม่เหมือนใครของเจ้าทองคำกันครับ
** 9 คุณค่าแห่งทองคำ! **
1. “เคลื่อนย้ายง่ายเมื่อเทียบกับมูลค่าของตัวมันเอง”
▶ คุณลองนอกภาพอะไรที่มีค่ามากๆ แล้วมีชิ้นเล็กๆบ้างหละครับ?
ยากเลย . . .
แต่ถ้าเป็น ทองรูปพรรณ 5 บาทที่อยู่ในคอใครซักคน มูลค่าของมันก็เกือบแสนบาทแล้ว และที่สำคัญทองคำพกง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก ในอดีตยามสงครามจำต้องลี้ภัย จะหยิบติดมือใส่หีบขึ้นรถม้าหนีก็แสนจะง่ายดาย
2. “เป็นนิรันดร์”
▶ ไม่บูดไม่เหม็นไม่เน่าเสีย คุณรู้หรือไม่ว่าทองมันไม่เป็นสนิม! จะเก็บไว้ในคลังสมบัติ ในหีบ ในตู้เซฟ ส่งต่อยันรุ่นลูก รุ่นลูกของหลาน ก็ยังได้
ถ้าเป็นโฉนดที่ดิน หรือ เงินกระดาษ คงเรียบร้อยโรงเรียนปลวก
3. “ตรวจสอบง่าย ปลอมแปลงยาก”
▶ ทอง คือ แร่ธาตุ คือ โลหะ ยากต่อการปลอมแปลง (ทองปลอมมันก็มีอยู่ แต่มันตรวจสอบได้ไม่ยาก)
ลองเทียบกับทรัพย์สินอื่นๆ ดูสิ อย่างโฉนดที่ดิน หากจะตรวจสอบว่าจริงหรือปลอมอันนี้ต้องตรวจสอบกับทางการ ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ วุ่นวายมาก
4. “ไม่ขึ้นกับการเมือง ไม่ขึ้นกับประเทศใดๆ”
▶ ลองนึกภาพว่าวันนี้คุณถือครองธนบัตรดอลลาร์สหรัฐอยู่ มันก็แค่กระดาษ 1 แผ่น
สมมติว่าวันหนึ่งสหรัฐอเมริกาประกาศเลิกใช้ธนบัตรรุ่นที่คุณถืออยู่ แล้วผลิตธนบัตรรุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทน ธนบัตรดอลลาร์สหรัฐที่คุณถือครองอยู่ก็มีค่าเท่ากับกระดาษที่มีเพียงตราอิลลูมินาติทันที!
แต่ถ้าเป็นทองหละ?
มันสากลสุดๆ ไปเลย จะสงคราม จะเงินเฟ้อ จะนโยบายการเมืองใดๆ จะมีประเทศใดล่มสลาย “ทองก็คือทอง” มีค่าเสมอไม่ว่ากับชนชาติใด!
5. “ซื้อง่าย”
▶ ทองเป็นสินทรัพย์ที่ลงทุนได้ง่าย ก็แค่กำเงินเท่ากับราคาทองที่เราอยากได้ ไปถึงร้านทอง ซื้อ! จบ!
ไม่ต้องยืนยันบัตรประชน ไม่ต้องทำสัญญา ไม่ต้องเซ็นเอกสารยุ่งยาก ไม่ต้องมีพยาน สะดวกกว่าการลงทุนประเภทอื่นๆ เช่น หุ้น ที่ดิน Future เป็นต้น ที่ต้อง เปิดบัญชี ลงทะเบียน จัดการกับเอกสารมากมาย และ กว่าจะปิดดีลได้แต่ละที . . . เหนื่อย!
6. “ขายคล่อง”
▶ ลองนึกภาพหากคุณมีทองรูปพรรณซัก 5 บาทเก็บไว้ที่บ้าน หรือห้อยไว้ในคอ หากเกิดเหตุฉุกเฉินจำเป็นต้องใช้เงิน คุณก็แค่หิ้วทอง 5 บาทไปโรงรับจำนำหรือขายคืนร้านทองซะ
7. “ทรงคุณค่าทุกยุคทุกสมัย”
▶ ใครก็รู้และจดจำได้ว่า ไอ้เจ้าโลหะหนักๆ แวววาวสีเหลืองอมส้มเนี่ย
- มันจะต้องเป็นทองแน่ๆ
- และทุกคนบนโลกนี้รู้จักมัน!
- และมันก็มีค่าในทุกๆที่!
- ไม่มีที่ไหนที่ไม่ต้องการทอง!
- และเป็นหมื่นปีมาแล้วที่มนุษย์หลงไหลและให้คุณค่ากับทอง!
8. “ทองแบ่งได้!”
▶ แบ่งได้ยังไง? ก็แบ่งจากแท่งใหญ่เป็นเล็ก จาก 1 บาทเป็นถึง 1 สลึง แบ่งได้จนถึงทองกรัม (1 Gram) กันเลย ซึ่งมันมีมูลค่าต่อ 1 หน่วย ไม่ต่างจากทองแท่งใหญ่
ลองนึกภาพคุณถือพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 10,000,000 บาท จะแบ่งขายได้ไหมเนี่ยะ!
9. “ทนทานต่อเงินเฟ้อ”
▶ (ข้อนี้ผมชอบมากที่สุดเลยครับ!) เงินเฟ้อ คือ การที่เงินมีกำลังในการซื้อลดลง (Purchasing Power) เช่น เงิน 10 บาทเคยซื้อข้าวได้ 1 จาน (ราดแกง 2 อย่างด้วยนะ) แต่เดี๋ยวนี้ 10 บาท ซื่อไม่ได้แล้ว ต้องจ่ายถึง 40 บาทถึงจะซื้อได้ อย่างนี้เรียกว่าเงินเฟ้อ
มาดูกันที่ทอง สมัยปี 2549 บาทละ 9,000 บาท
วันนี้ (10 ธันวาคม 2560) ทองแท่งความบริสุทธิ์ 96.5% ราคาบาทละ 19,350.00 บาท นั่นหมายความว่า ทองมีมูค่าเพิ่มมากขึ้นกว่า 2 เท่าตัว !!
แต่ถ้าวันนั้นคุณไม่ได้เลือกที่จะซื้อทอง แล้วถือเงินบาทไว้หละ?
9,000 บาทในวันนั้น มันก็มีค่าอยู่เท่าเดิมนั่นแหละ แถมมูลค่าลดลง (เฟ้อ)
จาก 9,000 บาทที่สามารถซื้อทองได้ในวันนั้น ก็ไม่สามารถซื้อทอง 1 บาทได้ในวันนี้
อ่ะ! ถ้าจะบทความจะยาวขนาดนี้ แล้วท่านผู้อ่านก็อุตส่าห์อ่านมาถึงตรงนี้
งั้น แถมให้อีกข้อละกันครับ!
--> “ทองเป็นอมตะ ฆ่าไม่ตาย!” <--
▶เราจะทำลายทองอย่างไรได้บ้าง?
- เอาไปทุบ ต้ม เผา หลอม!!
- แม้ว่าทองจะละลาย กลายเป็นสถานะของเหลว
- แม้ว่าทองจะเสียรูปทรงเดิมไป
- ยังไงมันก็ยังคงเป็นทองอยู่!
ไม่เหมือนธนบัตรกระดาษ ที่โดนเผาทำลายแล้วกลายเป็นขึ้เถ้าไม่เหลือซึ่งคุณค่า แต่กับทอง
>>> “คุณทำลายทองไม่ได้ เพราะทองคือแร่ธาตุ!!” <<<
เป็นอย่างไรบ้างครับ กับ 9+1 คุณค่าแห่งทองคำ ที่ตอบคำถามว่าทำไมทองคำจึงอยู่คู่กับวัฒนธรรมของมนุษย์มาอย่างยาวนานและผมก็เชื่อว่าจะยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกนานแสนนานครับ
***หากท่านเห็นว่าบทความนี้ดี เป็นประโยชน์ โปรดส่งต่อ! แชร์! ความรู้ในการลงทุนดีๆ นี้ให้กับเพื่อนของท่าน #ยิ่งให้ยิ่งได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้***ท่านสามารถกดไลค์และติดตามบทความเกี่ยวกับการลงทุนของเราได้ทางหน้าเพจ
>>> คลิก (https://www.facebook.com/chillforex.by.jet)
** ด่วน! รีบอ่านก่อนทองขึ้น ** มารู้จัก 9 คุณค่าแห่งทองคำกัน เพื่อหาคำตอบว่าทำไม...ใครๆก็ซื้อ
ก่อนจะไปพบกับ 9 คุณค่าแห่ง “ทองคำ” ผมขออนุญาต เล่าถึงแรงบันดาลใจที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมาก่อนสักนิดครับ
เมื่อวันศุกร์ (8 ธันวาคม 2560) ที่ผ่านมา ผมได้เข้าไปดูกราฟของราคาทองคำ (XAU/USD) พบว่า ราคาทองได้ร่วงลงสู่ระดับราคา 1248.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (USD/Ounce) ต่ำสุดในรอบ 5 เดือน! และราคาไทยวันนี้ (10 ธันวาคม 2560 ) อยู่ที่ 19,350.00 บาทไทย (ทองแท่งที่ความบริสุทธิ์ 96.5%)
เหตุเนื่องด้วยการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานต่ำสุดในรอบหลายสิบปี พร้อมด้วยปัจจัยเงินบาทที่แข็งค่า อยู่ที่ระดับ 32.62535 บาทไทยต่อดอลลาร์สหรัฐ
จากปัจจัยเหล่านี้ ประกอบกับเทศกาลปีใหม่และเทศกาลตรุษจีนที่ใกล้เข้ามาถึง จึงเป็นปัจจัยหนุนที่ทำให้ผู้คนออกไปซื้อทองในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และผมก็เชื่อว่าต้องมีหลายท่านไปซื้อกับเขามาด้วยหละ!
ℹ แล้วทำไมคนถึงซื้อทองกัน??
ทองนั้นถือได้ว่าเป็นแร่ธาตุที่มีคุณค่าทางจิตใจต่อมนุษย์มายาวนานนับหมื่นปี อยู่คู่กับประวัติศาสตร์มนุษย์มาตลอดจนถึงทุกวันนี้
แล้วทำไมทุกคนต่างพร้อมใจให้เจ้าแร่สีเหลืองอมส้มแวววาวนี้มีค่า?
ในบทความนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับความพิเศษและไม่เหมือนใครของเจ้าทองคำกันครับ
** 9 คุณค่าแห่งทองคำ! **
1. “เคลื่อนย้ายง่ายเมื่อเทียบกับมูลค่าของตัวมันเอง”
▶ คุณลองนอกภาพอะไรที่มีค่ามากๆ แล้วมีชิ้นเล็กๆบ้างหละครับ?
ยากเลย . . .
แต่ถ้าเป็น ทองรูปพรรณ 5 บาทที่อยู่ในคอใครซักคน มูลค่าของมันก็เกือบแสนบาทแล้ว และที่สำคัญทองคำพกง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก ในอดีตยามสงครามจำต้องลี้ภัย จะหยิบติดมือใส่หีบขึ้นรถม้าหนีก็แสนจะง่ายดาย
2. “เป็นนิรันดร์”
▶ ไม่บูดไม่เหม็นไม่เน่าเสีย คุณรู้หรือไม่ว่าทองมันไม่เป็นสนิม! จะเก็บไว้ในคลังสมบัติ ในหีบ ในตู้เซฟ ส่งต่อยันรุ่นลูก รุ่นลูกของหลาน ก็ยังได้
ถ้าเป็นโฉนดที่ดิน หรือ เงินกระดาษ คงเรียบร้อยโรงเรียนปลวก
3. “ตรวจสอบง่าย ปลอมแปลงยาก”
▶ ทอง คือ แร่ธาตุ คือ โลหะ ยากต่อการปลอมแปลง (ทองปลอมมันก็มีอยู่ แต่มันตรวจสอบได้ไม่ยาก)
ลองเทียบกับทรัพย์สินอื่นๆ ดูสิ อย่างโฉนดที่ดิน หากจะตรวจสอบว่าจริงหรือปลอมอันนี้ต้องตรวจสอบกับทางการ ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ วุ่นวายมาก
4. “ไม่ขึ้นกับการเมือง ไม่ขึ้นกับประเทศใดๆ”
▶ ลองนึกภาพว่าวันนี้คุณถือครองธนบัตรดอลลาร์สหรัฐอยู่ มันก็แค่กระดาษ 1 แผ่น
สมมติว่าวันหนึ่งสหรัฐอเมริกาประกาศเลิกใช้ธนบัตรรุ่นที่คุณถืออยู่ แล้วผลิตธนบัตรรุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทน ธนบัตรดอลลาร์สหรัฐที่คุณถือครองอยู่ก็มีค่าเท่ากับกระดาษที่มีเพียงตราอิลลูมินาติทันที!
แต่ถ้าเป็นทองหละ?
มันสากลสุดๆ ไปเลย จะสงคราม จะเงินเฟ้อ จะนโยบายการเมืองใดๆ จะมีประเทศใดล่มสลาย “ทองก็คือทอง” มีค่าเสมอไม่ว่ากับชนชาติใด!
5. “ซื้อง่าย”
▶ ทองเป็นสินทรัพย์ที่ลงทุนได้ง่าย ก็แค่กำเงินเท่ากับราคาทองที่เราอยากได้ ไปถึงร้านทอง ซื้อ! จบ!
ไม่ต้องยืนยันบัตรประชน ไม่ต้องทำสัญญา ไม่ต้องเซ็นเอกสารยุ่งยาก ไม่ต้องมีพยาน สะดวกกว่าการลงทุนประเภทอื่นๆ เช่น หุ้น ที่ดิน Future เป็นต้น ที่ต้อง เปิดบัญชี ลงทะเบียน จัดการกับเอกสารมากมาย และ กว่าจะปิดดีลได้แต่ละที . . . เหนื่อย!
6. “ขายคล่อง”
▶ ลองนึกภาพหากคุณมีทองรูปพรรณซัก 5 บาทเก็บไว้ที่บ้าน หรือห้อยไว้ในคอ หากเกิดเหตุฉุกเฉินจำเป็นต้องใช้เงิน คุณก็แค่หิ้วทอง 5 บาทไปโรงรับจำนำหรือขายคืนร้านทองซะ
7. “ทรงคุณค่าทุกยุคทุกสมัย”
▶ ใครก็รู้และจดจำได้ว่า ไอ้เจ้าโลหะหนักๆ แวววาวสีเหลืองอมส้มเนี่ย
- มันจะต้องเป็นทองแน่ๆ
- และทุกคนบนโลกนี้รู้จักมัน!
- และมันก็มีค่าในทุกๆที่!
- ไม่มีที่ไหนที่ไม่ต้องการทอง!
- และเป็นหมื่นปีมาแล้วที่มนุษย์หลงไหลและให้คุณค่ากับทอง!
8. “ทองแบ่งได้!”
▶ แบ่งได้ยังไง? ก็แบ่งจากแท่งใหญ่เป็นเล็ก จาก 1 บาทเป็นถึง 1 สลึง แบ่งได้จนถึงทองกรัม (1 Gram) กันเลย ซึ่งมันมีมูลค่าต่อ 1 หน่วย ไม่ต่างจากทองแท่งใหญ่
ลองนึกภาพคุณถือพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 10,000,000 บาท จะแบ่งขายได้ไหมเนี่ยะ!
9. “ทนทานต่อเงินเฟ้อ”
▶ (ข้อนี้ผมชอบมากที่สุดเลยครับ!) เงินเฟ้อ คือ การที่เงินมีกำลังในการซื้อลดลง (Purchasing Power) เช่น เงิน 10 บาทเคยซื้อข้าวได้ 1 จาน (ราดแกง 2 อย่างด้วยนะ) แต่เดี๋ยวนี้ 10 บาท ซื่อไม่ได้แล้ว ต้องจ่ายถึง 40 บาทถึงจะซื้อได้ อย่างนี้เรียกว่าเงินเฟ้อ
มาดูกันที่ทอง สมัยปี 2549 บาทละ 9,000 บาท
วันนี้ (10 ธันวาคม 2560) ทองแท่งความบริสุทธิ์ 96.5% ราคาบาทละ 19,350.00 บาท นั่นหมายความว่า ทองมีมูค่าเพิ่มมากขึ้นกว่า 2 เท่าตัว !!
แต่ถ้าวันนั้นคุณไม่ได้เลือกที่จะซื้อทอง แล้วถือเงินบาทไว้หละ?
9,000 บาทในวันนั้น มันก็มีค่าอยู่เท่าเดิมนั่นแหละ แถมมูลค่าลดลง (เฟ้อ)
จาก 9,000 บาทที่สามารถซื้อทองได้ในวันนั้น ก็ไม่สามารถซื้อทอง 1 บาทได้ในวันนี้
อ่ะ! ถ้าจะบทความจะยาวขนาดนี้ แล้วท่านผู้อ่านก็อุตส่าห์อ่านมาถึงตรงนี้
งั้น แถมให้อีกข้อละกันครับ!
--> “ทองเป็นอมตะ ฆ่าไม่ตาย!” <--
▶เราจะทำลายทองอย่างไรได้บ้าง?
- เอาไปทุบ ต้ม เผา หลอม!!
- แม้ว่าทองจะละลาย กลายเป็นสถานะของเหลว
- แม้ว่าทองจะเสียรูปทรงเดิมไป
- ยังไงมันก็ยังคงเป็นทองอยู่!
ไม่เหมือนธนบัตรกระดาษ ที่โดนเผาทำลายแล้วกลายเป็นขึ้เถ้าไม่เหลือซึ่งคุณค่า แต่กับทอง
>>> “คุณทำลายทองไม่ได้ เพราะทองคือแร่ธาตุ!!” <<<
เป็นอย่างไรบ้างครับ กับ 9+1 คุณค่าแห่งทองคำ ที่ตอบคำถามว่าทำไมทองคำจึงอยู่คู่กับวัฒนธรรมของมนุษย์มาอย่างยาวนานและผมก็เชื่อว่าจะยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกนานแสนนานครับ
***หากท่านเห็นว่าบทความนี้ดี เป็นประโยชน์ โปรดส่งต่อ! แชร์! ความรู้ในการลงทุนดีๆ นี้ให้กับเพื่อนของท่าน #ยิ่งให้ยิ่งได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้