สวัสดีครับเพื่อนๆ เพิ่งจะถอย iPhone X มาได้ไม่นาน เลยอยากจะมารีวิวให้เพื่อนๆฟัง จริงๆกระทู้แนวรีวิวก็คงมีเยอะแล้ว แต่ถือซะว่า รีวิวนี้มาจากประสบการณ์คนที่ถือ Note 8 ครับ สถานที่รีวิวอาจดูเลอะๆนิดนึงนะครับ อยู่หน้าไซท์งานว่างๆพอดี เลยถือโอกาสควักโทรศัพท์มารีวิวซะเลย ฮ่าๆๆ
ปล. อยู่บ้านแฟน (เมีย) ด่าว่าวันๆเอาแต่เล่นโทรศัพท์ เลยมารีวิวข้างนอกละกัน
หัวข้อที่จะมารีวิววันนี้มีตามนี้ครับ

-    ตัวเครื่องและรูปลักษณ์ภายนอก
-    การใช้งานเบื้องต้น
-    เปรียบเทียบเบื้องต้นกล้องถ่ายรูปกับ Note 8

เริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกกันเลยครับ
ตัวเครื่องออกแบบมาค่อนข้างดี เห็นแว่บแรกตอนเปิดตัวรู้สึกดีไซน์ขัดใจนิดนึง แต่เมื่อลองได้สัมผัส เล่นไปเล่นมาก็รู้สึกว่าทั้งน้ำหนักและขนาดค่อนข้างลงตัว เอาจริงๆ ผมชอบนะ ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเครื่องเล็กจนเกินไปเมื่อเทียบกับเรือธงอื่นๆในตลาด
มีข้อสังเกตุนิดเดียวครับ ด้วยการดีไซน์กลมมน รู้สึกตัวเครื่องดูลื่นๆ กลัวหลุดมือมากๆครับ และในส่วนของกล้อง เนื่องจากผมเป็นคนชอบจับโทรศัพท์ด้วยมือซ้าย ทำให้นิ้วชี้ชอบเฉี่ยวมาโดนกล้องบ่อยๆครับ


การใช้งานมือเดียว
iPhone X ออกแบบมาให้ใช้งานมือเดียวได้ดีมากๆ อันนี้ขอชมเลยครับ ทั้งขนาดที่พอดีมือ ขนาดจอที่แม้ไม่ใหญ่มาก แต่ก็ได้รับการชดเชยด้วยขอบที่บางลง สิ่งที่ผมประทับใจจริงๆคือการใช้ปุ่ม Home แบบใหม่ ที่เหลือแค่แถบบางๆด้านล่าง ด้วยแถบนี้และนิ้วโป้งนิ้วเดียวสามารถ
-    ใช้ปิดแอพที่เปิดอยู่ด้วยการปัดขึ้น
-    สลับแอพด้วยการลากแถบขึ้นช้าๆ แล้วเลื่อนแอพที่ต้องการ
-    เลื่อนนิ้วค้างแล้วปัดแอพที่ไม่ต้องการขึ้นเพื่อเคลียร์แอพ
ในขณะที่ฝั่ง Android ยังใช้การออกแบบ UI ที่มี Function ของปุ่มแยกเป็น 3 ปุ่ม ประกอบกับการที่จอมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ต้องเปลี่ยนวิธีการจับ เพื่อเอื้อมนิ้วให้ถึงตามปุ่มต่างๆครับ เมื่อเทียบกันแล้ว จึงถือว่าการออกแบบการใช้งานแถบของ  iPhoneX ทำมาได้ค่อนข้างดีมากครับ
เมื่อทำการตะแคงจอเป็นแนวนอน แถบ Home ก็จะเอียงตามด้วยครับ ในขณะที่ Note 8 ปุ่มจะยังอยู่ด้านข้าง ถ้าอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ต้องใช้อีกมือมาเอื้อมแตะแทนครับ


การเก็บภาพหน้าจอ (Screen Capture)
อันนี้ไม่ใช่สาระสำคัญอะไรหรอก คือผมสงสัยมานานแล้ว ว่าเวลาเซฟภาพหน้าจอ ภาพมันจะแหว่งตามอิกรอบดำข้างบนป่าว ปรากฎว่า..... ไม่แหว่งจ้าาาาาาาาา....อเมซิ่งมั่กๆ

แหม่ะ ไม่แหว่งแฮะ เฟี๊ยวเงาะเจงๆ


การใช้งาน Face ID
ถ้าพูดถึง iPhone X คงไม่พูดถึง Security รูปแบบใหม่ซึ่งก็คือ Face ID ครับ จากการเปรียบเทียบการใช้งานจริง ค่อนข้างสะดวกทีเดียวครับ ความไวในการสแกนและปลดล็อค พอๆหรือเร็วกว่าการสแกนใบหน้าของ Note 8 ครับ (ตอนที่ลองคือสภาพแสงปกติกลางวันนะครับ) ไม่ได้รู้สึกติดขัด หรือไม่สะดวกใช้งานของทั้งคู่ครับ


การเปรียบเทียบกล้อง
การเปรียบเทียบถัดไป เป็นการลองประสิทธิภาพของกล้อง โดยทดลองภายใต้สถานการ์ณดังนี้ครับ
-    การเก็บสีและ range ของสี
-    การถ่ายภาพย้อนแสง (HDR – High Dynamic Range)
-    การถ่ายภาพแสงน้อย
-    การถ่ายภาพmacro
-    การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ

เริ่มจากการเปรียบเทียบrange ของสีที่สามารถเก็บได้ และการแสดงผลของสีจากการถ่ายรูปนะครับ สภาพแสงขณะถ่ายเป็นในร่ม มีแดดรำไรครับ
คิดว่าการที่กล้องของ Note 8 นั้นมีโทนออกไปทางสีเหลืองมากกว่า iPhone X อาจเกิดมาจากการปรับ White Balance ของตัวกล้องซึ่งตีความว่าบริเวณดังกล่าวเป็น Shade / Cloudy ครับ คือเอาตรงๆนะ พื้นที่จริงมันก็ไม่เหลืองขนาด Note 8 และก็ไม่ฟ้าขนาด iPhone X อ่ะ (-_-“)
ปล. ไม่ได้โฆษณาสี และไม่ได้ค่าสปอนเซอร์จากสีนะฮะ (^^)

จุดที่เริ่มเห็นความต่างจริงๆคือตอนที่ Crop ภาพออกมาดู พบว่าบริเวณที่สีอ่อน กล้องของ Note 8 ซึ่งมีความสว่างกว่าทำให้สีบริเวณนั้นจางลงมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ภาพบริเวณที่มีสีเข้ม กล้องของ iPhone X ทำให้เห็นความแตกต่างของสีได้ยากครับ
ข้อสรุปในเรื่องของความตรงของสี ก็มีข้อดีแตกต่างตามแนวทางครับ คหสต ภายใต้แสงปกติ ผมชอบ iPhone X ครับ


การเปรียบเทียบการถ่ายย้อนแสง ในขณะที่ถ่ายเป็นแสงตอนเย็นราวๆ 5 โมงเย็น ดวงอาทิตย์อยู่แนวหลังขอบตึกครับ
ในขณะที่ iPhone X สามารถเก็บความอิ่มของสีได้ดีกว่า Note 8 เองทำได้ดีมากๆในเรื่องของรายละเอียดเงาบริเวณใต้หลังคาด้านซ้ายครับ

รูปนี้ Note 8 มีเงาที่ค่อนข้างคมกว่า ในขณะที่ iPhone X จะออกฟุ้งๆนิดๆครับ

รูปนี้เป็นการถ่ายตึกย้อนแสงด้วย iPhone X, Note 8 ด้วยแอพกล้องที่ติดมากับเครื่อง และ Note 8 ด้วยแอพ Google Camera HDR+ ครับ ใครชอบแนวไหนก็เลือกกันตามสะดวกครับ
คหสต ผมชอบการไล่เงาของ Note 8 ในขณะที่ความสดของสีใน iPhone X ก็น่าสนใจไม่แพ้กันครับ

ถ่ายภาพในที่แสงน้อย
iPhone X เป็นอีกรุ่นของแอปเปิ้ลที่ปรับปรุงการถ่ายภาพแสงน้อยได้ดีมากๆ (ของเดิมเคยใช้ i6 noise รัวมากๆ)
แต่อย่างไรก็ตาม คหสต ภาพในที่แสงน้อยผมชอบของ Note 8 มากกว่า iPhone X จากรายละเอียด ความสว่าง และความคมของวัตถุครับ

การถ่ายภาพระยะใกล้ (macro)
สำหรับคนชอบถ่ายมมาโคร หรือการถ่ายระยะใกล้ ปกติแล้วการถ่ายมาโครเป็นเรื่องยากเพราะโทรศัพท์แต่ละรุ่นจะมีระยะโฟกัสที่ใกล้ที่สุดที่สามารถเข้าใกล้วัตถุได้ แต่ถ้ามีฟังก์ชั่นซูม 2X ก็ทำให้ถ่ายได้ง่ายขึ้นครับ
จากตัวอย่างด้านบน iPhone X สามารถเข้าใกล้วัตถุได้ที่ระยะสูงสุด 8.5 ซม. ก่อนที่จะหลุดโฟกัส ในขณะที่ Note 8 เข้าได้ 7 ซม. ก่อนหลุดโฟกัส เมื่อเข้าใกล้ระยะดังกล่าว ก็ใช้เลนส์ตัวที่สองในการถ่าย ในกรณีนี้ผมขอยกเรื่องการถ่ายภาพ macro ให้ Note 8 ครับ

การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ
โทรศัพท์ทั้งสองรุ่นมีความสามารถในการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ซึ่งการถ่ายภาพดังกล่าวสามารถทำได้ 2 วิธีด้วยกัน คือ การหน้าชัดหลังเบลอด้วยการโฟกัสระยะใกล้ และหน้าชัดหลังเบลอด้วย Portrait Mode / Live Focus

หน้าชัดหลังเบลอด้วยการโฟกัสระยะใกล้
เป็นการทำให้เกิดเอฟเฟคต์หน้าชัดหลังเบลอด้วยฮาร์ดแวร์ที่แท้จริง ส่วนตัวผมชอบการเบลอและโบเก้ของฝั่ง Note 8 มากกว่า iPhone X ครับ ใน Shot นี้ นอกจาก Note 8 จะให้โบเก้จากการสะท้อนที่ค่อนข้างชัดแล้ว ยังสามารถ balance แสงได้ดีมากอีกด้วยครับ

หน้าชัดหลังเบลอด้วย Portrait Mode / Live Focus
ผลการเปรียบเทียบการเบลอหลังด้วยซอฟท์แวร์พบว่า ทั้ง iPhone X และ Note 8 ต่างมีข้อผิดพลาดทั้งคู่ ดูเหมือนว่า iPhone X จะไม่สามารถแยกวัตถุขนาดเล็กและรายละเอียดปลีกย่อย บริเวณเขา และฉากหลังมือข้างซ้ายได้ ในขณะเดียวกัน Note 8 เองก็ยังมีข้อผิดพลาดบริเวณปีกของโล่ที่ถูกฉากหลังกลืนไป อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วผมคิดว่า Note 8 ทำได้ดีกว่าครับ


สรุปการใช้งานและเปรียบเทียบเบื้องต้น ผมชอบทั้งสองเครื่องนะครับ (เพราะซื้อมาแล้ว ไม่ชอบไม่ได้ กว่าจะขอเมียซื้อได้ก็เหนื่อยแล้ว ถ้าไปบอกว่าไม่ชอบ เด๋วมีเรื่อง -_-“ ) ส่วนนึงอาจเป็นเพราะไม่ได้ใช้ iPhone มาพักนึง (ไม่นับ iPad ที่ไว้เล่นเกมส์)
ในเรื่องของกล้อง คหสต ผมมองว่าไม่ได้ต่างกันมาก อันนี้แล้วแต่คนชอบเลยจริงๆ แต่ยังไงๆเครื่องหลักก็คงยังเป็น Note 8 เนื่องด้วยลักษณะงานที่ทำที่ปากกามีความจำเป็นมากๆและไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ตรงๆครับ ยังไงขอลองใช้ iPhone X ให้คุ้นไปอีกสักพักแล้วจะมารีวิว เปรียบเทียบฟังก์ชั่นต่างๆเพิ่มเติมครับ

ถ้ารีวิวตรงไหนผิดพลาดไป ก็ขอน้อมรับผิด และปรับปรุงให้รีวิวหน้าให้ดีขึ้นครับ
ขอบคุณครับ ^.^