ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่าต้องมีอาหารและขนมเด็ดๆแน่นอน แต่นอกจากอาหารเราอยากพาไปดูสถานที่สวยๆอย่าง Lake kawaguchiko และที่สำคัญพาไปเล่น Maricar ซิ่งให้มันส์กันไปเลย
-----------------------------------------------------
ตั๋วเครื่องบิน
ครั้งนี้เราไปกับ Scoot ชอบบบสายการบินนี้ เวลา+ทีนั่งโอเคค่ะ ราคาคุ้มค่า หลังจากลองเปรียบเทียบราคาจากหลายๆเว็บ จองผ่าน Traveloka นี่ถูกสุดในสามโลก เพราะว่าได้โค้ดลด 10% ใครจะจองแนะนำกดดูโปรโมชั่นล่าสุด โปรโมชั่นเด็ดเด็ดจะวนมาเรื่อยๆ
https://www.traveloka.com/th-th/
ส่วนที่พัก ตอนแรกตั้งใจจะจอง Airbnb เพราะราคาล้วนๆ แต่ด้วยความประหยัด และเจอโค้ดลดค่าที่พัก 15% ใน traveloka ลองเทียบๆกันแล้วราคาพอกันเลยค่ะ โรงแรมที่เจอก็ดูโอเคมากกกก รีวิวดี และที่สำคัญคือโรงแรมอยู่หน้าสถานี JR และ Skyliner
ทริปนี้เราเลือก APA HOTEL TKP NIPPORI-EKIMAE ซึ่ง รถไฟ Skyliner จาก สนามบินพุ่งตรงจอดที่สถานี Nippori เลย (ถ้าสังเกตจะเห็นคำว่า EKIMAE ในชื่อของหลายๆโรงแรม มันแปลว่าหน้าสถานีนะคะ ใครเจอแล้วถูกใจแบบนี่ก็จองโล้ด)
ต้องขออภัยด้วยที่รูปวิวหรือที่พักจะไม่ค่อยได้ถ่ายเลย แต่ใครที่กำลังรอดูของกินมีเพียบ
วันที่ 1
เครื่องลงปุ๊บ ก็วิ่งเข้าร้านสะดวกซื้อทันที ทั้ง แซนวิชทงคัดสึ ข้าวปั้นไข่เยิ้ม และ น้ำเปล่ารสชานมอันเลื่องชื่อ
มาถึง Kawaguchiko ใช้เวลาประมาน 3 ชั่วโมง ระหว่างเดินทางก็จกขนมมานิดหน่อย
ถึง Kawaguchigo station แต่ฟูจิโดนหมอกบังหมดค่ะ ไม่เป็นไร Houtou รออยู่
อากาศเย็นๆ ได้ซดซุปร้อนๆ เป็นอะไรที่เด็ดมาก เติมพริกที่เค้าบอกว่าเป็น Special Spice เข้าไปยิ่งกลมกล่อมค่ะ ขอเตือนจานนึงค่อนข้างใหญ่ แบ่งสองคนกำลังดี
กินเสร็จ เรียกรถ Sunnide Resort มารับถึงที่สถานีได้เลย โรงแรมนี้ต้องจองผ่าน JAPANiCAN เท่านั้น
ปรากฏว่า งงกันใหญ่ ไหนฟูจิ สักพักเริ่มเห็นรางๆ แถมพนักงานออกมาบอกว่า โชคดีมากกก หิมะคลุมฟูจิเป็นวันแรกของ Autumn และยังบอกอีกว่าพรุ่งนี้น่าจะเห็นภูเขาทั้งลูก
วันที่ 2
รีบตื่นเพื่อฟูจิซัง หมอกหนาตามเคย ตัดสินใจเดินไป สถานี 22 Oishi park คิดว่าเป็นมุมที่ถ่ายฟูจิค่อนข้างดี แต่พอไปถึง ก็ยังไม่เห็นฟูจิอยู่ดี หมอกลงหนามาก เลยเก็บภาพนี้มาแทน
เดินประมาณ 15 นาที กลับมาที่พัก จังหวะที่กำลังจะงอนหันหลังขึ้นบ้าน เจอภาพนี้เข้าไป
เตรียมตัวกลับโตเกียว ยืนสูดบรรยากาศนิ่ง 10 นาที ขอบคุณนะฟูจิที่ทำให้ทริป KAWAGUCHIKO สมบูรณ์
มาถึง โตเกียว เราจองขับ Maricar ต้องทำใบขับขี่สากลก่อนถึงจะขับได้นะคะ
จุดเริ่มต้นอยู่ที่ Shibuya แต่จองไว้ตอนเย็นเลย หาไรรองท้องซะหน่อย เลยวิ่งไปจองคิว Midori สาขา Shibuya
กรี๊ดดดด ได้คิวที่สอง โชคดีเว่อออ ปกติเขารอกันเป็นชั่วโมง (เวลาที่ไปกินประมาณบ่าย 3 โมง)
ทูน่าคือฟินนนนน
เนื้อก็ใช่เล่น
สด อร่อยทุกอย่าง สมราคาสุดๆ ราคานี้หาที่ไทยไม่ได้แล้ว ใครรอคิวไม่ไหว แต่อยากลองกิน เขามีขายแบบ Take Away ราคาก็ไม่แพงด้วย
อิ่มแล้ว ถึงเวลาของ Maricar
มีร้านชานมไข่มุกดักระหว่างทางต้องจัดสักหน่อย ชื่อร้าน The Alley Lu Jiao Xiang Shibuya ปื้ดเข้าไป ปรากฏว่า รสชาติดีมากกก หอมชามากกกก คือเป็นชาที่มีกลิ่นเฉพาะตัว ใครเป็นแฟนชานมไข่มุกแนะนำ
พอมาถึงร้าน Maricar ก็เลือกชุดกันไป ใครจะเป็น Mario เป็น Louis หรือแก๊ง Winnie the Pooh ก็มี
ขับเสร็จ จะบอกว่ามันส์มากก กรุ๊ปนึงจะมีคนจากที่ร้านเป็นคนนำ ซึ่งนางซิ่งมาก ที่เหลือก็ต้องเหยียบสิคะ ขับกันหนึ่งชั่วโมง ยอมรับว่าก็มีแวบสวดมนต์บ้าง รถก็เตี้ย สวนกับรถบรรทุกเอย รถเมล์เอย แต่สนุกจริงๆค่ะอยากให้ลอง จองกันก่อนผ่านไลน์ที่เค้าให้ในเว็บเลยค่ะ
http://maricar.com/th/shibuya.html
[CR] ทริปเด็กอ้วน TOKYO + KAWAGUCHIKO <แถม MARICAR>
ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่าต้องมีอาหารและขนมเด็ดๆแน่นอน แต่นอกจากอาหารเราอยากพาไปดูสถานที่สวยๆอย่าง Lake kawaguchiko และที่สำคัญพาไปเล่น Maricar ซิ่งให้มันส์กันไปเลย
ตั๋วเครื่องบิน
ครั้งนี้เราไปกับ Scoot ชอบบบสายการบินนี้ เวลา+ทีนั่งโอเคค่ะ ราคาคุ้มค่า หลังจากลองเปรียบเทียบราคาจากหลายๆเว็บ จองผ่าน Traveloka นี่ถูกสุดในสามโลก เพราะว่าได้โค้ดลด 10% ใครจะจองแนะนำกดดูโปรโมชั่นล่าสุด โปรโมชั่นเด็ดเด็ดจะวนมาเรื่อยๆ
https://www.traveloka.com/th-th/
ส่วนที่พัก ตอนแรกตั้งใจจะจอง Airbnb เพราะราคาล้วนๆ แต่ด้วยความประหยัด และเจอโค้ดลดค่าที่พัก 15% ใน traveloka ลองเทียบๆกันแล้วราคาพอกันเลยค่ะ โรงแรมที่เจอก็ดูโอเคมากกกก รีวิวดี และที่สำคัญคือโรงแรมอยู่หน้าสถานี JR และ Skyliner
ทริปนี้เราเลือก APA HOTEL TKP NIPPORI-EKIMAE ซึ่ง รถไฟ Skyliner จาก สนามบินพุ่งตรงจอดที่สถานี Nippori เลย (ถ้าสังเกตจะเห็นคำว่า EKIMAE ในชื่อของหลายๆโรงแรม มันแปลว่าหน้าสถานีนะคะ ใครเจอแล้วถูกใจแบบนี่ก็จองโล้ด)
ต้องขออภัยด้วยที่รูปวิวหรือที่พักจะไม่ค่อยได้ถ่ายเลย แต่ใครที่กำลังรอดูของกินมีเพียบ
วันที่ 1
เครื่องลงปุ๊บ ก็วิ่งเข้าร้านสะดวกซื้อทันที ทั้ง แซนวิชทงคัดสึ ข้าวปั้นไข่เยิ้ม และ น้ำเปล่ารสชานมอันเลื่องชื่อ
มาถึง Kawaguchiko ใช้เวลาประมาน 3 ชั่วโมง ระหว่างเดินทางก็จกขนมมานิดหน่อย
ถึง Kawaguchigo station แต่ฟูจิโดนหมอกบังหมดค่ะ ไม่เป็นไร Houtou รออยู่
อากาศเย็นๆ ได้ซดซุปร้อนๆ เป็นอะไรที่เด็ดมาก เติมพริกที่เค้าบอกว่าเป็น Special Spice เข้าไปยิ่งกลมกล่อมค่ะ ขอเตือนจานนึงค่อนข้างใหญ่ แบ่งสองคนกำลังดี
กินเสร็จ เรียกรถ Sunnide Resort มารับถึงที่สถานีได้เลย โรงแรมนี้ต้องจองผ่าน JAPANiCAN เท่านั้น
ปรากฏว่า งงกันใหญ่ ไหนฟูจิ สักพักเริ่มเห็นรางๆ แถมพนักงานออกมาบอกว่า โชคดีมากกก หิมะคลุมฟูจิเป็นวันแรกของ Autumn และยังบอกอีกว่าพรุ่งนี้น่าจะเห็นภูเขาทั้งลูก
วันที่ 2
รีบตื่นเพื่อฟูจิซัง หมอกหนาตามเคย ตัดสินใจเดินไป สถานี 22 Oishi park คิดว่าเป็นมุมที่ถ่ายฟูจิค่อนข้างดี แต่พอไปถึง ก็ยังไม่เห็นฟูจิอยู่ดี หมอกลงหนามาก เลยเก็บภาพนี้มาแทน
เดินประมาณ 15 นาที กลับมาที่พัก จังหวะที่กำลังจะงอนหันหลังขึ้นบ้าน เจอภาพนี้เข้าไป
เตรียมตัวกลับโตเกียว ยืนสูดบรรยากาศนิ่ง 10 นาที ขอบคุณนะฟูจิที่ทำให้ทริป KAWAGUCHIKO สมบูรณ์
มาถึง โตเกียว เราจองขับ Maricar ต้องทำใบขับขี่สากลก่อนถึงจะขับได้นะคะ
จุดเริ่มต้นอยู่ที่ Shibuya แต่จองไว้ตอนเย็นเลย หาไรรองท้องซะหน่อย เลยวิ่งไปจองคิว Midori สาขา Shibuya
กรี๊ดดดด ได้คิวที่สอง โชคดีเว่อออ ปกติเขารอกันเป็นชั่วโมง (เวลาที่ไปกินประมาณบ่าย 3 โมง)
ทูน่าคือฟินนนนน
เนื้อก็ใช่เล่น
สด อร่อยทุกอย่าง สมราคาสุดๆ ราคานี้หาที่ไทยไม่ได้แล้ว ใครรอคิวไม่ไหว แต่อยากลองกิน เขามีขายแบบ Take Away ราคาก็ไม่แพงด้วย
อิ่มแล้ว ถึงเวลาของ Maricar
มีร้านชานมไข่มุกดักระหว่างทางต้องจัดสักหน่อย ชื่อร้าน The Alley Lu Jiao Xiang Shibuya ปื้ดเข้าไป ปรากฏว่า รสชาติดีมากกก หอมชามากกกก คือเป็นชาที่มีกลิ่นเฉพาะตัว ใครเป็นแฟนชานมไข่มุกแนะนำ
พอมาถึงร้าน Maricar ก็เลือกชุดกันไป ใครจะเป็น Mario เป็น Louis หรือแก๊ง Winnie the Pooh ก็มี
ขับเสร็จ จะบอกว่ามันส์มากก กรุ๊ปนึงจะมีคนจากที่ร้านเป็นคนนำ ซึ่งนางซิ่งมาก ที่เหลือก็ต้องเหยียบสิคะ ขับกันหนึ่งชั่วโมง ยอมรับว่าก็มีแวบสวดมนต์บ้าง รถก็เตี้ย สวนกับรถบรรทุกเอย รถเมล์เอย แต่สนุกจริงๆค่ะอยากให้ลอง จองกันก่อนผ่านไลน์ที่เค้าให้ในเว็บเลยค่ะ http://maricar.com/th/shibuya.html