ไปเจอบทความที่เหมาะกับคนชอบเที่ยวแนวๆ ชมธรรมชาติ ในจังหวัด saitama ครับ
ไม่ไกลจากโตเกียวด้วย
1. ภูเขาฮิวาดะ Hiwada-zan
ภูเขาฮิวาดะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮิดากะ เป็นหนึ่งในภูเขาโอคุมุซาชิ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 305 เมตร เป็นภูเขาที่ง่ายต่อการเดินป่า ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงในระยะทาง 2 กิโลเมตรก็ถึงบนยอดเขา จากบนยอดเขามองลงมาที่ท้องทุ่งคินชาคุที่มีรูปทรงเหมือนถุงที่รูดปากถุง
การเดินทางนั่งสาย Seibu จาก ikebukuro ลงที่สถานี Koma
2. ทุ่งนาคินชาคุดะ (Kinchakuda)
แม่น้ำโคมะที่ไหลผ่านเมืองฮิดากะคดเคี้ยวเป็นรูปทรงกลม ที่ดินบริเวณโดยรอบแม่น้ำใช้เป็นพื้นที่เพาะปลูกทำนาข้าว ในฤดูใบไม้ร่วงข้าวออกรวงเหลืองอร่าม เมื่อมองมาจากภูเขาฮิวาดะ (สูงจากระดับน้ำทะเล 305 เมตร) ที่อยู่ใกล้ๆ จะเห็นเป็นรูปทรงกระเป๋าหูรูด จึงเป็นที่มาของชื่อ คินชาคุ (kinchaku = กระเป๋าผ้าหูรูดใบเล็กๆ) โดยเฉพะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ความงดงามเรียกได้ว่าระดับมาสเตอร์พีซเลยทีเดียว ที่นี่อยู่ใกล้กับเขาฮิวาดะ สามารถเดินถึงกันได้
3. ทุ่งชาชาบาทาเคะ (Chabatake )
ทุ่งชาสุดกว้างใหญ่ที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศว่ามีรสชาติดีมาก ชาที่ปลูกเป็นครั้งแรกในเขตนี้คือยุคสมัยคามาคูระ วิวทุ่งชาสามารถดูได้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูร้อน มาที่นี่แล้วหัวใจสงบมาก เพราะทิวทัศน์เขียวขจีจากธรรมชาติ
การเดินทางคือนั่งสาย Seibu จาก Shinjuku มาลงที่สถานี Sayamashi
4. ทะเลสาบซายามะ (Sayama-ko, Sayama Lake )
ทะเลสาบซายามะเป็นทะเลสาบเทียมที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปีโชวะที่ 9 และถือว่าเป็นเหยือกน้ำของโตเกียว เขื่อนแห่งนี้ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 7 ปี ในบริเวณหุบเขาลึกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านโชระคุจิกับหมู่บ้านยามางุจิ สำหรับชื่ออย่างเป็นทางการคือ Yamaguchi Reservoir บริเวณโดยรอบเป็นสวนธรรมชาติซายามะ ความสวยงามของที่นี่ได้รับเลือกให้ติดใน 100 แหล่งธรรมชาติแห่งไซตามะ
ที่นี่เป็นจุดชมวิวอันแสนเพลิดเพลินที่สามารถมาชื่นชมความงดงามของธรรมชาติได้ทั้ง 4 ฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็น ซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วง ภาพภูเขาไฟฟูจิและต้นไม้สะท้อนบนผืนน้ำทะเลสาบ และการดูนก
ในวันที่สภาพอากาศดีๆ ไปปั่นจักรยานที่ริมทะเลสาบจะรู้สึกดีสุดๆ ถนนสำหรับปั่นจักรยานก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาด้วย ระวังการจราจรติดขัด ในกรณีที่แวะสักครู่ สามารถจอดรถที่ลานจอดรถแล้วออกไปเดินเล่นแถวทะเลสาบได้ แล้วจะรู้สึกสดชื่นแน่นอน
การเดินทาง นั่งสาย Seibu มาลงที่ Seibukyujo-mae station (ส่วนต่อขยายจากเส้น ikebukuro-chichibu)
5. น้ำตกฟุโด (Fudotaki)
น้ำตกฟูโดที่ลอกแบบความรุนแรงของสายน้ำตกมาจากฟุโดเมียวโอ ในช่วงปลายยุคโทคุงาวะที่นี่ใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญตนของผู้บำเพ็ญตบะ
ในวันอากาศร้อนจรู้สึกไอออนลบจากสายน้ำสาดกระเซ็นและเสียงของน้ำตก เพราะไม่ได้รู้สึกว่ามันนานเกินไปนัก ขอแนะนำให้แวะสวนฮิสึจิยามะและถ้ำโชนิวด้วย
การเดินทาง นั่งสาย Seibu จาก ikebukuro มาลงที่ seibu-chichibu
6. ภูเขาบุโก (Bukouzan)
สามารถมองเห็นเมืองจิจิบุได้จากบนยอดเขา เป็นภูเขาหินปูนซึ่งเป็นหนึ่งในเขาสองร้อยยอดชื่อดังของญี่ปุ่น ภาพภูเขาบุโกคู่กับชิบะซากุระ
(สวนฮิทสึจิยาม่า) นั้นงดงามมากๆ
การเดินทาง เหมือน ข้อ 5
7. ภูเขาเรียวคามิ (Ryoukamisan)
อยู่ทางด้านเหนือของอุทยานแห่งชาติจิจิบุทามาไค เป็นภูเขาที่มีเอกลักษณ์พิเศษ และสามารถขึ้นไปนมัสการศาลเจ้าเรียวคามิได้ โดยใช้เวลาในการปีนเขาขึ้นไปประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที
ถึงการปีนถึงยอดเขาจะมีระยะ 1000 เมตร แต่จากจุดแรกที่มีความลาดชัน เส้นทางจะค่อยๆ ดีขึ้น จากจุดนี้ขึ้นไปจนถึงยอดเขาจะมีเรือนพักที่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ ซึ่งบริเวณรอบห้องเล็กๆ แห่งนี้มีห้องน้ำที่สะอาดสะอ้านมากๆ มีม้านั่งให้นั่งพักสบายๆ ด้วย
การเดินทาง : ต่อรถบัสจาก Chichibu ไปที่ป้าย Oganomachi Yakubamae แล้วเปลี่ยนรถบัสไปลง Hinata Ooya
8.ทะเลสาบคามาคิตะ (Kamakitako)
บ่อน้ำชลประทานที่สร้างขึ้นเพื่อหยุดกระแสน้ำแม่น้ำโอยางิ ที่นี่จะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามไม่ว่าจะเป็นซากุระในฤดูใบไม้ผลิ สีเขียวสดของต้นไม้ใบหญ้าในฤดูร้อน และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ผลิ
การเดินทาง มาสถานี Moro station ด้วยสาย JR แล้วเดินเท้า 1 ชั่วโมง
9. ภูเขาโฮโดะ (Hodosan)
ไปที่มุมของศาลเจ้าโฮโดะซัง จะได้รับการประทับตราสีแดง แล้วนั่ง ropeway ขึ้นไป บอกเลยว่างานดีมาก แม้จะมีคนจำนวนมากมาที่ศาลเจ้าโฮโดะซังที่อยู่ด้านล่าง แต่แทบจะไม่มีคนขึ้นมาด้านบนเลย หลังจากลงจาก ropeway ก็เดินไปไม่มากเท่าไหร่ แสงที่ส่องผ่านระหว่างต้นไม้สูงส่องไปกระทบที่ศาลเจ้าให้ความรู้สึกขลัง บรรยากาศเย็นเยียบ
การเดินทาง นั่งสาย seibu-tetsudo ไปลง nagatoro
10. น้ำตกคุโรยาม่าซัง (Kuroyamaasan)
น้ำตกคุโรยาม่าซังไหลลงมาจากแม่น้ำมิทากิและแควน้ำอปเปกลายเป็น 3 ชั้นน้ำตก คือ โอดากิ 12 เมตร, เมดากิ 5 เมตร และ เทงงุทากิ 20 เมตร ความเขียวชอุ่มในฤดูใบไม้ผลิ ความเย็นสบายในฤดูร้อน และใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วง ทำให้น้ำตกแห่งนี้ติด 100 อันดับแหล่งท่องเที่ยววิวสวยของญี่ปุ่น
การเดินทาง นั่ง JR สาย Tobu-ogose ลงสถานี ogose แล้วต่อรถบัสลง หน้าศาลเจ้า Kuroyamakumano
เครดิต : ent.smt.docomo
ผมเพิ่มการเดินทางให้จาก เพจต้นทาง หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นๆ นะครับ
เพราะจริงๆ ผมหาข้อมูลไว้ แต่คงไม่ได้ไปครบทุกที่
เที่ยวธรรมชาติแห่งไซตามะ ที่ไม่อยากให้คุณพลาด
ไม่ไกลจากโตเกียวด้วย
1. ภูเขาฮิวาดะ Hiwada-zan
ภูเขาฮิวาดะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮิดากะ เป็นหนึ่งในภูเขาโอคุมุซาชิ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 305 เมตร เป็นภูเขาที่ง่ายต่อการเดินป่า ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงในระยะทาง 2 กิโลเมตรก็ถึงบนยอดเขา จากบนยอดเขามองลงมาที่ท้องทุ่งคินชาคุที่มีรูปทรงเหมือนถุงที่รูดปากถุง
การเดินทางนั่งสาย Seibu จาก ikebukuro ลงที่สถานี Koma
2. ทุ่งนาคินชาคุดะ (Kinchakuda)
แม่น้ำโคมะที่ไหลผ่านเมืองฮิดากะคดเคี้ยวเป็นรูปทรงกลม ที่ดินบริเวณโดยรอบแม่น้ำใช้เป็นพื้นที่เพาะปลูกทำนาข้าว ในฤดูใบไม้ร่วงข้าวออกรวงเหลืองอร่าม เมื่อมองมาจากภูเขาฮิวาดะ (สูงจากระดับน้ำทะเล 305 เมตร) ที่อยู่ใกล้ๆ จะเห็นเป็นรูปทรงกระเป๋าหูรูด จึงเป็นที่มาของชื่อ คินชาคุ (kinchaku = กระเป๋าผ้าหูรูดใบเล็กๆ) โดยเฉพะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ความงดงามเรียกได้ว่าระดับมาสเตอร์พีซเลยทีเดียว ที่นี่อยู่ใกล้กับเขาฮิวาดะ สามารถเดินถึงกันได้
3. ทุ่งชาชาบาทาเคะ (Chabatake )
ทุ่งชาสุดกว้างใหญ่ที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศว่ามีรสชาติดีมาก ชาที่ปลูกเป็นครั้งแรกในเขตนี้คือยุคสมัยคามาคูระ วิวทุ่งชาสามารถดูได้ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูร้อน มาที่นี่แล้วหัวใจสงบมาก เพราะทิวทัศน์เขียวขจีจากธรรมชาติ
การเดินทางคือนั่งสาย Seibu จาก Shinjuku มาลงที่สถานี Sayamashi
4. ทะเลสาบซายามะ (Sayama-ko, Sayama Lake )
ทะเลสาบซายามะเป็นทะเลสาบเทียมที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปีโชวะที่ 9 และถือว่าเป็นเหยือกน้ำของโตเกียว เขื่อนแห่งนี้ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 7 ปี ในบริเวณหุบเขาลึกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านโชระคุจิกับหมู่บ้านยามางุจิ สำหรับชื่ออย่างเป็นทางการคือ Yamaguchi Reservoir บริเวณโดยรอบเป็นสวนธรรมชาติซายามะ ความสวยงามของที่นี่ได้รับเลือกให้ติดใน 100 แหล่งธรรมชาติแห่งไซตามะ
ที่นี่เป็นจุดชมวิวอันแสนเพลิดเพลินที่สามารถมาชื่นชมความงดงามของธรรมชาติได้ทั้ง 4 ฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็น ซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วง ภาพภูเขาไฟฟูจิและต้นไม้สะท้อนบนผืนน้ำทะเลสาบ และการดูนก
ในวันที่สภาพอากาศดีๆ ไปปั่นจักรยานที่ริมทะเลสาบจะรู้สึกดีสุดๆ ถนนสำหรับปั่นจักรยานก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาด้วย ระวังการจราจรติดขัด ในกรณีที่แวะสักครู่ สามารถจอดรถที่ลานจอดรถแล้วออกไปเดินเล่นแถวทะเลสาบได้ แล้วจะรู้สึกสดชื่นแน่นอน
การเดินทาง นั่งสาย Seibu มาลงที่ Seibukyujo-mae station (ส่วนต่อขยายจากเส้น ikebukuro-chichibu)
5. น้ำตกฟุโด (Fudotaki)
น้ำตกฟูโดที่ลอกแบบความรุนแรงของสายน้ำตกมาจากฟุโดเมียวโอ ในช่วงปลายยุคโทคุงาวะที่นี่ใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญตนของผู้บำเพ็ญตบะ
ในวันอากาศร้อนจรู้สึกไอออนลบจากสายน้ำสาดกระเซ็นและเสียงของน้ำตก เพราะไม่ได้รู้สึกว่ามันนานเกินไปนัก ขอแนะนำให้แวะสวนฮิสึจิยามะและถ้ำโชนิวด้วย
การเดินทาง นั่งสาย Seibu จาก ikebukuro มาลงที่ seibu-chichibu
6. ภูเขาบุโก (Bukouzan)
สามารถมองเห็นเมืองจิจิบุได้จากบนยอดเขา เป็นภูเขาหินปูนซึ่งเป็นหนึ่งในเขาสองร้อยยอดชื่อดังของญี่ปุ่น ภาพภูเขาบุโกคู่กับชิบะซากุระ
(สวนฮิทสึจิยาม่า) นั้นงดงามมากๆ
การเดินทาง เหมือน ข้อ 5
7. ภูเขาเรียวคามิ (Ryoukamisan)
อยู่ทางด้านเหนือของอุทยานแห่งชาติจิจิบุทามาไค เป็นภูเขาที่มีเอกลักษณ์พิเศษ และสามารถขึ้นไปนมัสการศาลเจ้าเรียวคามิได้ โดยใช้เวลาในการปีนเขาขึ้นไปประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที
ถึงการปีนถึงยอดเขาจะมีระยะ 1000 เมตร แต่จากจุดแรกที่มีความลาดชัน เส้นทางจะค่อยๆ ดีขึ้น จากจุดนี้ขึ้นไปจนถึงยอดเขาจะมีเรือนพักที่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ ซึ่งบริเวณรอบห้องเล็กๆ แห่งนี้มีห้องน้ำที่สะอาดสะอ้านมากๆ มีม้านั่งให้นั่งพักสบายๆ ด้วย
การเดินทาง : ต่อรถบัสจาก Chichibu ไปที่ป้าย Oganomachi Yakubamae แล้วเปลี่ยนรถบัสไปลง Hinata Ooya
8.ทะเลสาบคามาคิตะ (Kamakitako)
บ่อน้ำชลประทานที่สร้างขึ้นเพื่อหยุดกระแสน้ำแม่น้ำโอยางิ ที่นี่จะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามไม่ว่าจะเป็นซากุระในฤดูใบไม้ผลิ สีเขียวสดของต้นไม้ใบหญ้าในฤดูร้อน และใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ผลิ
การเดินทาง มาสถานี Moro station ด้วยสาย JR แล้วเดินเท้า 1 ชั่วโมง
9. ภูเขาโฮโดะ (Hodosan)
ไปที่มุมของศาลเจ้าโฮโดะซัง จะได้รับการประทับตราสีแดง แล้วนั่ง ropeway ขึ้นไป บอกเลยว่างานดีมาก แม้จะมีคนจำนวนมากมาที่ศาลเจ้าโฮโดะซังที่อยู่ด้านล่าง แต่แทบจะไม่มีคนขึ้นมาด้านบนเลย หลังจากลงจาก ropeway ก็เดินไปไม่มากเท่าไหร่ แสงที่ส่องผ่านระหว่างต้นไม้สูงส่องไปกระทบที่ศาลเจ้าให้ความรู้สึกขลัง บรรยากาศเย็นเยียบ
การเดินทาง นั่งสาย seibu-tetsudo ไปลง nagatoro
10. น้ำตกคุโรยาม่าซัง (Kuroyamaasan)
น้ำตกคุโรยาม่าซังไหลลงมาจากแม่น้ำมิทากิและแควน้ำอปเปกลายเป็น 3 ชั้นน้ำตก คือ โอดากิ 12 เมตร, เมดากิ 5 เมตร และ เทงงุทากิ 20 เมตร ความเขียวชอุ่มในฤดูใบไม้ผลิ ความเย็นสบายในฤดูร้อน และใบไม้แดงในฤดูใบไม้ร่วง ทำให้น้ำตกแห่งนี้ติด 100 อันดับแหล่งท่องเที่ยววิวสวยของญี่ปุ่น
การเดินทาง นั่ง JR สาย Tobu-ogose ลงสถานี ogose แล้วต่อรถบัสลง หน้าศาลเจ้า Kuroyamakumano
เครดิต : ent.smt.docomo
ผมเพิ่มการเดินทางให้จาก เพจต้นทาง หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นๆ นะครับ
เพราะจริงๆ ผมหาข้อมูลไว้ แต่คงไม่ได้ไปครบทุกที่