อันนี้เรามาเขียนแบ่งปันมุมมองของเรานะคะ ^^
ความรู้สึกเป็นเรื่องซับซ้อน แต่บางครั้งหลิวว่า
เราก็ควรเชื่อมัน
ถ้าคุณรู้สึกว่าใช่ มันก็คือใช่
ลองถามตัวเองว่า รู้สึกกับคนตรงหน้าแบบนั้นมั้ย
กรณีที่ 1 อีกฝ่ายไม่ได้คิดแบบคุณ
มันก็จะเกิดภาวะที่เรียกว่า "นก"
ซึ่งก็ไม่ต้องเสียใจ เสียเซลฟ์ มันเรื่องปกติ
เพลงที่อธิบายภาวะที่อาจจะนก แต่ก็น่ารักคือ
เพลง คุกกี้เสี่ยงทาย ของ BNK48
( น้ำตาไหลออกมาก็อย่าไปซีเรียสนัก...ท่อนนี้)
เมื่อนก ก็จงทำใจ ส่วนจะสู้ต่อหรือจะยอมแพ้แล้วแต่
กรณีที่ 2 ทั้งคู่ต่างเป็นคนที่ใช่ของกันและกัน
นั่นล่ะ!! สิ่งที่ใครๆ มองหา
รักษามันไว้ค่ะ
และระหว่างความสัมพันธ์ของคุณทั้งสอง
มันอาจมีกระทบกระทั่งกันบ้าง
มีความไม่เข้าใจกัน หากสิ่งนั้นเกิดขึ้น
อย่าหันหลังให้กัน หรือให้ถามตัวเองว่า
"เขายังเป็นคนที่ใช่สำหรับเราอยู่มั้ย"
และ
"เรายังเป็นคนที่ใช่สำหรับเขาหรือเปล่า"
หากคำตอบคือใช่
เราก็แค่ปรับความเข้าใจกันค่ะ เมื่อเขาคือคนที่ใช่ อย่าปล่อยมือกัน ผ่านอุปสรรคไปด้วยกัน
อย่าลืมว่า คนที่ใช่และใจตรงกันไม่ได้หาง่ายๆ
ตราบใดที่คำตอบยังเป็น เราทั้งคู่ต่างยังใช่สำหรับกันและกันอยู่ ก็ก้าวต่อไป
แต่แน่นอนถ้า มันเป็นคำว่าใช่ของฝ่ายเดียว ไม่ใช่ทั้งคู่อีกแล้ว
มันก็คงจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเจ็บปวด
กรณีที่ 3 คนที่ใช่ในเวลาที่ผิด
อันนี้ต้องแยก
ปล. ประเด็นนี้หลิวจะไม่เอาความเลว ความดี ศีลธรรมหรือนิยามเหล่านี้มาวัดมานะคะ จะมองแบบความเป็นจริง
3.1 มีแฟนอยู่แล้ว แต่ดันไปรู้สึกดีกับคนอื่น
(แต่คนอื่นนั้นไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรา)
คุณต้องไปถามตัวเองว่า
เพราะแฟนคุณกลายเป็นคนที่ไม่ใช่ไปแล้วหรือเปล่า
เพราะคุณแค่เหงา หรือเพราะกิเลสตัณหา
ถ้าคุณเป็นผู้ใหญ่และมีวุฒิภาวะพอ หลิวว่าหลายคนจะแยกแยะสิ่งเหล่านี้ออก
ความสัมพันธ์แบบนี้อาจทำให้เราไขว้เขวชั่วคราว
แต่มันไม่ถึงกลับทำลายความสัมพันธ์ เพราะอีกฝ่ายไม่คิดอะไรด้วย อีกฝ่ายไม่เล่นด้วย
เว้นแต่ใจของคุณเอง ถ้าคุณไปสนใจอีกคนมากกว่าจริงๆ ยอมรับกับตัวเองตรงๆ
แล้วเลือกว่าจะจบความสัมพันธ์ หรือรักษาความสัมพันธ์ หลิวขอไม่แนะนำว่าควรเลือกแบบไหนนะ
แต่จริงๆ แล้ว หากเรารักใครสักคนจริงๆ เราคงไม่มีทางไปรู้สึกดีกับคนอื่นจริงมั้ย ?
3.2 มือที่สาม คบซ้อน
คือมีแฟนแล้ว แต่ยังไปรักคนอื่น
สุดท้าย คบซ้อนเลย
จะไม่พูดว่าดีหรือเลวนะ
แต่ให้คุณถามตัวเองแค่คำเดียว
คุณสามารถมีความสัมพันธ์ในแบบที่ต้องแบ่งใจให้คนอื่นได้เหรอ
ถ้าคุณรับได้ มันก็รับได้ คุณแค่อาจจะรักตัวเองมากกว่าคนอื่น แค่นั้น ถ้าคุณประคับประคองความสัมพันธ์แบบนั้นได้ ไม่สร้างทุกข์ให้ตัวเองและคนอื่น มันก็คือเส้นทางที่คุณเลือก
แต่ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์แบบนี้ มันมีคนต้องเจ็บอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะทนกับมัน หรือปล่อยมันไป
ในฐานะผู้ถูกกระทำ รับได้หรือเปล่า ที่ต้องมีคนรักที่แบ่งใจให้คนอื่น ถ้ารับได้ก็อยู่ รับไม่ได้ก็ไป
แต่ถ้าในฐานะคนที่กระทำเอง
กลับไปหาเหตุผลจากกรณีที่ 2 ค่ะ
ทำไมทำแบบนี้
ถ้าเพราะกิเลศตัณหา ถามตัวเองว่าหยุดได้มั้ย เพื่อใครสักคน ถ้าไม่ได้ ปล่อยให้อีกคนได้ไปเจอคนที่ดีกว่าเราดีกว่า อย่าเห็นแก่ตัวเลย
ถ้าเพราะ ดันไปรู้สึกใช่กับอีกคนจริงๆ กลับไปที่กรณีที่ 2 เลย แล้วหาคำตอบเองค่ะ
ความรู้สึก ไม่มีผิดถูก แต่ต้องวางอยู่บนสติ เห็นแก่ตัวให้น้อยที่สุด และทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะความรู้สึกของเราน้อยที่สุด
นิยามความรัก : คนที่ใช่คือแบบไหน ?
ความรู้สึกเป็นเรื่องซับซ้อน แต่บางครั้งหลิวว่า
เราก็ควรเชื่อมัน
ถ้าคุณรู้สึกว่าใช่ มันก็คือใช่
ลองถามตัวเองว่า รู้สึกกับคนตรงหน้าแบบนั้นมั้ย
กรณีที่ 1 อีกฝ่ายไม่ได้คิดแบบคุณ
มันก็จะเกิดภาวะที่เรียกว่า "นก"
ซึ่งก็ไม่ต้องเสียใจ เสียเซลฟ์ มันเรื่องปกติ
เพลงที่อธิบายภาวะที่อาจจะนก แต่ก็น่ารักคือ
เพลง คุกกี้เสี่ยงทาย ของ BNK48
( น้ำตาไหลออกมาก็อย่าไปซีเรียสนัก...ท่อนนี้)
เมื่อนก ก็จงทำใจ ส่วนจะสู้ต่อหรือจะยอมแพ้แล้วแต่
กรณีที่ 2 ทั้งคู่ต่างเป็นคนที่ใช่ของกันและกัน
นั่นล่ะ!! สิ่งที่ใครๆ มองหา
รักษามันไว้ค่ะ
และระหว่างความสัมพันธ์ของคุณทั้งสอง
มันอาจมีกระทบกระทั่งกันบ้าง
มีความไม่เข้าใจกัน หากสิ่งนั้นเกิดขึ้น
อย่าหันหลังให้กัน หรือให้ถามตัวเองว่า
"เขายังเป็นคนที่ใช่สำหรับเราอยู่มั้ย"
และ
"เรายังเป็นคนที่ใช่สำหรับเขาหรือเปล่า"
หากคำตอบคือใช่
เราก็แค่ปรับความเข้าใจกันค่ะ เมื่อเขาคือคนที่ใช่ อย่าปล่อยมือกัน ผ่านอุปสรรคไปด้วยกัน
อย่าลืมว่า คนที่ใช่และใจตรงกันไม่ได้หาง่ายๆ
ตราบใดที่คำตอบยังเป็น เราทั้งคู่ต่างยังใช่สำหรับกันและกันอยู่ ก็ก้าวต่อไป
แต่แน่นอนถ้า มันเป็นคำว่าใช่ของฝ่ายเดียว ไม่ใช่ทั้งคู่อีกแล้ว
มันก็คงจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเจ็บปวด
กรณีที่ 3 คนที่ใช่ในเวลาที่ผิด
อันนี้ต้องแยก
ปล. ประเด็นนี้หลิวจะไม่เอาความเลว ความดี ศีลธรรมหรือนิยามเหล่านี้มาวัดมานะคะ จะมองแบบความเป็นจริง
3.1 มีแฟนอยู่แล้ว แต่ดันไปรู้สึกดีกับคนอื่น
(แต่คนอื่นนั้นไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรา)
คุณต้องไปถามตัวเองว่า
เพราะแฟนคุณกลายเป็นคนที่ไม่ใช่ไปแล้วหรือเปล่า
เพราะคุณแค่เหงา หรือเพราะกิเลสตัณหา
ถ้าคุณเป็นผู้ใหญ่และมีวุฒิภาวะพอ หลิวว่าหลายคนจะแยกแยะสิ่งเหล่านี้ออก
ความสัมพันธ์แบบนี้อาจทำให้เราไขว้เขวชั่วคราว
แต่มันไม่ถึงกลับทำลายความสัมพันธ์ เพราะอีกฝ่ายไม่คิดอะไรด้วย อีกฝ่ายไม่เล่นด้วย
เว้นแต่ใจของคุณเอง ถ้าคุณไปสนใจอีกคนมากกว่าจริงๆ ยอมรับกับตัวเองตรงๆ
แล้วเลือกว่าจะจบความสัมพันธ์ หรือรักษาความสัมพันธ์ หลิวขอไม่แนะนำว่าควรเลือกแบบไหนนะ
แต่จริงๆ แล้ว หากเรารักใครสักคนจริงๆ เราคงไม่มีทางไปรู้สึกดีกับคนอื่นจริงมั้ย ?
3.2 มือที่สาม คบซ้อน
คือมีแฟนแล้ว แต่ยังไปรักคนอื่น
สุดท้าย คบซ้อนเลย
จะไม่พูดว่าดีหรือเลวนะ
แต่ให้คุณถามตัวเองแค่คำเดียว
คุณสามารถมีความสัมพันธ์ในแบบที่ต้องแบ่งใจให้คนอื่นได้เหรอ
ถ้าคุณรับได้ มันก็รับได้ คุณแค่อาจจะรักตัวเองมากกว่าคนอื่น แค่นั้น ถ้าคุณประคับประคองความสัมพันธ์แบบนั้นได้ ไม่สร้างทุกข์ให้ตัวเองและคนอื่น มันก็คือเส้นทางที่คุณเลือก
แต่ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์แบบนี้ มันมีคนต้องเจ็บอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะทนกับมัน หรือปล่อยมันไป
ในฐานะผู้ถูกกระทำ รับได้หรือเปล่า ที่ต้องมีคนรักที่แบ่งใจให้คนอื่น ถ้ารับได้ก็อยู่ รับไม่ได้ก็ไป
แต่ถ้าในฐานะคนที่กระทำเอง
กลับไปหาเหตุผลจากกรณีที่ 2 ค่ะ
ทำไมทำแบบนี้
ถ้าเพราะกิเลศตัณหา ถามตัวเองว่าหยุดได้มั้ย เพื่อใครสักคน ถ้าไม่ได้ ปล่อยให้อีกคนได้ไปเจอคนที่ดีกว่าเราดีกว่า อย่าเห็นแก่ตัวเลย
ถ้าเพราะ ดันไปรู้สึกใช่กับอีกคนจริงๆ กลับไปที่กรณีที่ 2 เลย แล้วหาคำตอบเองค่ะ
ความรู้สึก ไม่มีผิดถูก แต่ต้องวางอยู่บนสติ เห็นแก่ตัวให้น้อยที่สุด และทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะความรู้สึกของเราน้อยที่สุด