พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง -- บันทึกชีวิตยุ่ง ๆ ของลุงเต็ง ที่พยุงด้วยความรัก --

เรื่องเล่าของ หนุ่มโสดวัยสามสิบ แต่ได้เป็นลุงชั่วข้ามคืน
และในเวลานั้นก็เจอคนที่ใช่กับเส้นทางที่คู่ขนานกันไป
ชีวิตหนุ่มโสดที่มีความรักกับการเป็นลุงหลานอ่อนก็ได้เริ่มต้นขึ้น
นิยายเรื่องนี้ ผู้เขียนได้นำชีวิตตอนที่เลี้ยงลูกมาเป็นแรงบันดาลใจในเรื่อง
และทำออกมาในรูปแบบบันทึก ที่ไม่ได้บันทึกแค่ชีวิตของเต็ง
แต่เป็นการบันทึกชีวิตของคนรอบข้าง และสังคมในยุคที่ตัวละครเกิดขึ้น

ชีวิตยุ่ง ๆ ของเต็งมีมากมายตั้งแต่ได้รับบทลุงจำเป็น
ภาระที่มากขึ้น การเลี้ยงดูตัวเองและลูกน้องก็ว่าเหนื่อยแล้ว
การได้เลี้ยงเด็กอีกคนยิ่งทำให้ชีวิตยุ่งขึ้น แต่มันกลับมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น
การไปขอคำปรึกษาในการเลี้ยงเด็กจากสถานเลี้ยงเด็กแถวบ้าน ทำให้เขาได้เจอชิดดาว
เจ้าหน้าที่ที่ความเชี่ยวชาญในการเลี้ยงดูเด็ก คอยให้คำปรึกษาเรื่องหลานของเขา
และเธอคือคนที่ใช่สำหรับเขา และเริ่มสานสัมพันธ์กับเธอ ยิ่งทำให้ยุ่งเข้าไปอีก
เพราะการที่เขาจะรักชิดดาว มันจะทำอะไรได้หลายอย่างขนาดนี้
การที่เต็งเจอดาวทำให้เขารู้ว่าเธอคือคู่ชีวิต โดยที่ไม่รู้ว่าเธอคนนั้นปรารถนาชีวิตคู่ที่สมบูรณ์
แม้ในสายคนอื่นหรือคนดูจะเห็นเขาเหมือนคนไม่เต็มเต็ง ทำตัวโอเวอร์
แต่เต็งก็เป็นคนทั่วไปที่มีมุมตลก และมุมเหงาที่ต้องการใครสักคนเป็น คู่ชีวิต
ความต้องการของเต็ง การอยากมีใครสักคนมาเคียงข้างกัน มานั่งอยู่ด้วยกัน
มานั่งขำแห้ง ๆ กับมุกแป๊ก ๆ คงพอแล้วสำหรับส่วนเติมเต็มให้ชีวิตยุ่ง มันยังสนุกได้
แต่ชิดดาว อาจไม่ได้หาคู่ชีวิตเหมือนที่เต็งหา แต่ดาวอยากจะรักษา ชีวิตคู่
พื้นฐานชิดดาวเป็นคนที่โดดเดี่ยว อยู่ตัวคนเดียว เพราะพี่สาวมีครอบครัวไปแล้ว
การอยู่คนเดียว ความเหงาและความไม่มีใคร มองเห็นคนนั้นคนนี้เดินกับคนรัก
มันก็เป็นมุมสะท้อนเรื่องในใจของดาว ทำให้ดาวอยากมีคู่และรักษามันเอาไว้และไม่อยากผิดหวัง
ซึ่งดาวไม่เคยได้รับจากแฟนที่ชื่อ โต้ เขาเหมือนกิ่งไม้กิ่งเดียวที่เธอจะคว้าได้ก่อนที่จะจมน้ำ
ผู้ชายที่คบผู้หญิงเพื่อเป็นบันไดไปสู่ความโด่งดัง การมีชีวิตที่ควบคุมดาวคือสิ่งที่โต้ทำ
เธออดทนกับมันเพื่อจะรักษาชีวิตคู่กันไปได้ แม้สุดท้ายมันก็พังทลายลง
การมีใครอีกคนที่เดินเข้ามาในชีวิตที่ดูจะไปด้วยกันได้ แต่เธอก็เริ่มกับมันยากขึ้นเพราะความกลัวเจ็บ
ชิดดาวเลยกลายเป็นคน ไม่อยากเลิก ไม่อยากเริ่ม จนไม่อยากรัก เพราะกลัวจะรักษาชีวิตคู่ไม่ได้
ทางออกที่เธอทำคือ ขอไปตั้งหลักไกล ๆ หรือพูดโดยทั่วไปคือเธอหนีปัญหา

ชีวิตรักก็ไม่ง่าย หลานจอมยุ่งก็โตขึ้นเรื่อย ๆ การงานก็ไม่เป็นใจ
งานที่รักก็ถูกผูกด้วยหลักการตลาด ถ้าไม่มีโฆษณาก็อยู่ไม่ได้
แม้จะรายการนี้จะยังอยู่ได้ ด้วยตากล้องที่เป็นลูกเจ้าของทัวร์ที่คอยหนุนมาตลอด
ตอนนี้เขามีครอบครัวก็อยากมีความฝันเป็นของตัวเองเหมือนกัน
รวมทั้งการแทรกแซงจากปัจจัยภายนอกทำให้งานที่เขารักมันเริ่มถึงทางตัน
หลานตัวน้อยโตขึ้นมาพร้อมความสับสนที่จะมองลุงว่าลุงหรือพ่อดี
และถ้าวันหนึ่งเขารู้ว่า ลุงเขากำลังจะมีความรัก เขาอาจจะไม่ใช่คนที่ลุงรักที่สุดแล้วก็ได้
ความวุ่นวายจากเด็กวายป่วงก็จะเข้ามาอีก ยิ่งทำให้ชีวิตเต็งยุ่งไปอีก
มันคงไม่ง่ายเหมือนสโลแกน คุณแค่ทำได้ง่ายนิดเดียว happylife เพราะชีวิตลุงเต็งดูจะไม่ happy ซะแล้ว

บันทึกเล่มนี้ยังเล่าถึงวิถีชีวิตของคนรอบข้างเต็งที่เราอาจพบจริง ๆ ในสังคม
- ยุคที่คนเริ่มอยากทำอะไรตามความฝัน บางคนมีกิจการให้ทำก็ไม่อยากสานต่อ
เหมือนครอบครัว เต็ง โต๊ด เวนิส และเดินตามความฝันว่าชีวิตจริงมันไม่ง่าย
เมื่อมาอยู่วงจรธุรกิจ มันก็หนีไม่พ้นรายได้และโฆษณา และสิ่งที่คิดว่าไม่ใช่อาจเป็นสิ่งที่ใช่ได้ในกรณีเวนิส
- ชีวิตคู่ที่คบกันแค่สองคน พอมีอะไรที่มันเกิดขึ้นที่ไม่สามารถตัดสินด้วยคนสองคน ถึงเริ่มคิดถึงคนอื่น
แก้ปัญหาด้วยการสร้างปัญหาเอาไว้ แทนที่จะบอกพ่อแม่กลับปกปิดครอบครัว และรับบทลุงจำยอมแบบที่ทำ
ส่วนน้องชายขอไปเรียนต่อเพื่อที่เอาปัญญากลับมาเลี้ยงลูก แต่ก็เหมือนไปตั้งหลักไกลแถมลอยตัวไปได้อีกพัก
รวมทั้งความไม่สนิทกันระหว่างครอบครัว ก็เกิดความระแวงเหมือนที่แฟนโต๊ดอดห่วงลูกไม่ได้เมื่ออยู่กับเต็ง
- นางร้ายในโลกความจริง ไม่ได้ทาปากแดง ใส่กระโปรงสั้น บางครั้งอาจจะมาในรูปของสาวห้าว กางเกงยีนส์
อย่างทอยที่มีใจเกินลูกน้อง นายจ้างกับเต็ง และคอยขัดขวางทำให้ทุกคนไม่มีความสุข
รวมถึงเรื่องจิปาถะมากมายที่ได้ถูกบันทึกไว้ มันเลยมากกว่านิยายที่บันทึกการเลี้ยงเด็ก
แต่การบันทึกชีวิตจริง ๆ ที่มันยุ่ง ๆ แต่ก็ยังอยู่ได้ด้วยความรักแบบฉบับของลุงเต็ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่