สวัสดีค้า สำหรับเรื่องปัญหาผมแตกปลาย ผมแห้งเสีย ผมชี้ฟูต่างๆ จขกท. เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเคยสัมผัสมาบ้าง โดยเฉพาะสาวๆที่ชอบทำผมกันอยู่บ่อยๆ ต้องบอกเลย ใครยังอยากให้ผมตัวเองอยู่กับเราไปนานๆ ควรเริ่มดูแลกันได้แล้วน้า ไม่งั้นผมหมดหัวก่อนจิแย่เอาเน้อ วันนี้เลยเอาตัวช่วยบำรุงผมมารีวิวให้ได้ดูประสิทธิภาพกันค้า จะได้ไม่ต้องไปเข้าร้านทำผมแพงๆ ผมเราก็สวยสุขภาพดีได้ด้วยตัวเอง เดี๋ยวเราไปดูกันเลยดีกว่าเนอะ
สำหรับนางเอกของเราในวันนี้ก็คือนี่เลย
Coretex Hair Repair หลอดสีส้ม มาคู่กับ
Keratin Silky Shine หลอดสีชมพู จากแบรนด์
Profezzor หลายๆคนอาจเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาบ้างแล้วเนอะ
Coretex Hair Repair หลอดสีส้ม ปริมาณ 50 มล. ตัวนี้ทางแบรนด์เคลมมาว่า “มี Sunflower Seed Extract ที่จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ปกป้องผมจากมลภาวะและสารเคมี, Almond Oil เติมความชุ่มชื้นเร่งฟื้นผมที่แห้งเสีย, Aloe Vera Extract เสริมแกร่งหนังศีรษะ กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น, Jojoba Oil เสริมแกร่งรากผมและหนังศีรษะลดการขาดหลุดร่วง และ Vitamins เข้มข้นคืนความชุ่มชื้นขับสารพิษมลภาวะร่วมกับส่วนผสมชั้นเลิศอีกนานาชนิด พลิกผมพังให้สวยปัง แข็งแรงถาวร ขีดสุดของการรักษา ผสานพลังกู้ผมเสีย สู่ผมสุขภาพดี ” มาพร้อมเลขที่จดแจ้ง 10-1-6010026175
ตัวต่อมาคือ
Keratin Silky Shine หลอดสีชมพู ปริมาณ 15 มล. ตัวนี้ทางแบรนด์เคลมมาว่า “ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นเงางามเป็นประกาย ด้วย Propylene Glycol , ขับสิ่งสกปรก เผยผมสะอาด สุขภาพดีขั้นสุด ด้วย Cetrimonium Chloride , มี Aloe Vera Extract เพิ่มความเงางาม เสริมแกร่งรากผม ช่วยให้ผมยาวเร็วยิ่งขึ้น , Polyquaternium-7 ซ่อมแซมผมเสียจากการโดนทำร้าย เป่าไดร์ ทำสี ดัดลอน และช่วยบำรุงผมให้นุ่มลื่น จัดทรงง่าย ป้องกันความชื้นจากภายนอก” เลขที่จดแจ้ง 10-1-6014749
สำหรับวิธิใช้ให้ผมสวยสุขภาพดี เพียง 4 สเต็ป
1. ชโลม Coretex Hair Repair (หอลดสีส้ม) ลงบนเส้นผมทีละช่อให้ทั่วแล้วใช้ Keratin Silky Shine (หลอดสีชมพู) ชโลมปลายผมเป็นช่อๆ เน้นย้ำส่วนที่แห้งเสียเป็นพิเศษ
2. สาง ด้วยหวี่ซี่เล็ก ค่อยๆหวีจนผมอิ่มเนื้อเซรั่ม หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที หรือจนเส้นผมจะดูดซึมเนื้อเซรั่มจนหมด
3. ล้าง ออกด้วยน้ำสะอาด
4. สระ ผมตามปกติ เท่านี้คุณก็จะมีผมสลวยดั่งใจ มัดใจใครหลายๆคนแล้วค่า
ผลลัพธ์หลังใช้
จะเห็นได้ว่าก่อนทดลองใช้ ผมจะชี้ฟู ดูไร้น้ำหนัก ถ้าดูใกล้ๆจะเห็นผมแตกปลายเยอะมากกกก หลังใช้ ผมดูมีน้ำหนัก นิ่มขึ้น สางง่ายไม่พันกัน ที่สำคัญผมแตกปลายดูลดน้อยลงด้วยจ้า อันนี้คือชอบบรู้สึกว่ามันเห็นผลดี เพราะ จขกท.เคยกัดผมมาและปลายผมก็จะแตกๆ เมื่อก่อนชอบมือบอลเอากรรไกรมาตัดเล่นบ่อยๆ แต่ก็ยังเหมือนเดิม 5555
เป็นยังไงบ้างค่ะ สำหรับ
Coretex Hair Repair และ Keratin Silky Shine หวังว่าจะถูกใจเพื่อนๆบ้างน้า เจ้าตัวนี้เวลาเราเอามามักที่ผมเราสามารถทิ้งไว้ได้ทั้งวันเลยนะ มันเหมือนอาหารผมสะมากกว่า ยิ่งทิ้งไว้นานผมก็จะได้รับสารอาหารเต็มๆ กลิ่นหอมไม่เหนียวแบบครีมมักผมทั่วไป นั่งดูหนังนั่งทำงานเพลินๆไปได้เลย ตัวนี้ถือว่าโดนใจ จขกท. เลยเพราะรู้สึกว่ามันได้ผลจริงๆ พวกปัญหาผมแตกปลายก็ดูน้อยลงเยอะมาก อีกอย่างคือราคา จขกท.ว่าไม่ได้แพงเลยนะ ถ้าเทียบกับเราต้องไปเข้าร้านทำผม คงอารมณ์เดียวกับนั่งย้อมผมเองกับไปให้ร้านย้อมให้ ราคาก็จะต่างกัน แต่คุณภาพคือเท่ากัน เป็นเพื่อนๆจะเลือกแบบไหนดีในยุคที่ควรจะประหยัดแบบนี้ ? ยังไงวันนี้ จขกท. ก็ขอตัวไปก่อนเจอกันใหม่ครั้งหน้า บะบายค้า
[SR] Review : Coretex Hair Repair & Keratin Silky Shine ตัวช่วยบำรุงผม
Coretex Hair Repair หลอดสีส้ม ปริมาณ 50 มล. ตัวนี้ทางแบรนด์เคลมมาว่า “มี Sunflower Seed Extract ที่จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ปกป้องผมจากมลภาวะและสารเคมี, Almond Oil เติมความชุ่มชื้นเร่งฟื้นผมที่แห้งเสีย, Aloe Vera Extract เสริมแกร่งหนังศีรษะ กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น, Jojoba Oil เสริมแกร่งรากผมและหนังศีรษะลดการขาดหลุดร่วง และ Vitamins เข้มข้นคืนความชุ่มชื้นขับสารพิษมลภาวะร่วมกับส่วนผสมชั้นเลิศอีกนานาชนิด พลิกผมพังให้สวยปัง แข็งแรงถาวร ขีดสุดของการรักษา ผสานพลังกู้ผมเสีย สู่ผมสุขภาพดี ” มาพร้อมเลขที่จดแจ้ง 10-1-6010026175
ตัวต่อมาคือ Keratin Silky Shine หลอดสีชมพู ปริมาณ 15 มล. ตัวนี้ทางแบรนด์เคลมมาว่า “ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นเงางามเป็นประกาย ด้วย Propylene Glycol , ขับสิ่งสกปรก เผยผมสะอาด สุขภาพดีขั้นสุด ด้วย Cetrimonium Chloride , มี Aloe Vera Extract เพิ่มความเงางาม เสริมแกร่งรากผม ช่วยให้ผมยาวเร็วยิ่งขึ้น , Polyquaternium-7 ซ่อมแซมผมเสียจากการโดนทำร้าย เป่าไดร์ ทำสี ดัดลอน และช่วยบำรุงผมให้นุ่มลื่น จัดทรงง่าย ป้องกันความชื้นจากภายนอก” เลขที่จดแจ้ง 10-1-6014749
สำหรับวิธิใช้ให้ผมสวยสุขภาพดี เพียง 4 สเต็ป
1. ชโลม Coretex Hair Repair (หอลดสีส้ม) ลงบนเส้นผมทีละช่อให้ทั่วแล้วใช้ Keratin Silky Shine (หลอดสีชมพู) ชโลมปลายผมเป็นช่อๆ เน้นย้ำส่วนที่แห้งเสียเป็นพิเศษ
2. สาง ด้วยหวี่ซี่เล็ก ค่อยๆหวีจนผมอิ่มเนื้อเซรั่ม หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที หรือจนเส้นผมจะดูดซึมเนื้อเซรั่มจนหมด
3. ล้าง ออกด้วยน้ำสะอาด
4. สระ ผมตามปกติ เท่านี้คุณก็จะมีผมสลวยดั่งใจ มัดใจใครหลายๆคนแล้วค่า
ผลลัพธ์หลังใช้
เป็นยังไงบ้างค่ะ สำหรับ Coretex Hair Repair และ Keratin Silky Shine หวังว่าจะถูกใจเพื่อนๆบ้างน้า เจ้าตัวนี้เวลาเราเอามามักที่ผมเราสามารถทิ้งไว้ได้ทั้งวันเลยนะ มันเหมือนอาหารผมสะมากกว่า ยิ่งทิ้งไว้นานผมก็จะได้รับสารอาหารเต็มๆ กลิ่นหอมไม่เหนียวแบบครีมมักผมทั่วไป นั่งดูหนังนั่งทำงานเพลินๆไปได้เลย ตัวนี้ถือว่าโดนใจ จขกท. เลยเพราะรู้สึกว่ามันได้ผลจริงๆ พวกปัญหาผมแตกปลายก็ดูน้อยลงเยอะมาก อีกอย่างคือราคา จขกท.ว่าไม่ได้แพงเลยนะ ถ้าเทียบกับเราต้องไปเข้าร้านทำผม คงอารมณ์เดียวกับนั่งย้อมผมเองกับไปให้ร้านย้อมให้ ราคาก็จะต่างกัน แต่คุณภาพคือเท่ากัน เป็นเพื่อนๆจะเลือกแบบไหนดีในยุคที่ควรจะประหยัดแบบนี้ ? ยังไงวันนี้ จขกท. ก็ขอตัวไปก่อนเจอกันใหม่ครั้งหน้า บะบายค้า