ถ้าตรงนั้นมีความสุข
หลายคนคงเคยสัมผัสกับคำว่ารักที่ไม่ได้ครอบครอง และความรักของฉันก็เป็นแบบนั้น เชื่อได้เถอะว่าว่าฉันยังรักเขาแต่ไม่ต้องการเขาแล้ว ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมฉันถึงไม่ต้องการเขาแล้ว
สวัสดีค่ะทุกคนที่ผ่านเข้ามาอ่าน...
#เรื่องนี้เป็นเร๋องจริงทั้งหมดไม่มีการมโนใดๆทั้งสิ้นนะคะ
เข้าเรื่อเลยแล้วกันเนาะ
การที่เราย่างก้าวเข้ามาม.ปลายแรกๆเราก็มักจะได้พบกับคำว่าเพื่อนใหม่ ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายเลยแม้แต่คนเดียวและเขาคนนี้แหละที่เป็นเพื่อนสนิทของฉันคนแรก ฉันเองไม่รู้และก็ยังงงๆเหมือนกันว่าทำไม่เป็นเพื่อนกับเขาได้ยังไงกัน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าหลายๆอย่างเราเข้ากันได้ละมั่ง555 ก่อนที่เราจะสนิทกันมีเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นเหตุการณ์เริ่มต้น วันนั้นเป็นวิชาคอมฯและฉันก็เป็นคนที่ถนัดด้านนี้ด้วยสิฉันก็เลยอาสาส่งงานให้เขาโดยส่งไปทางเฟสบุค(เอ๊ะ!อะไรยังไงว่ะทั้งที่มันเป็นงานส่งในคอมฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเฟสบุ๊คเลย)มันเป็นแผนที่เม็มใส่สมองอันโง่เง่าไว้แล้ว ฉันได้ส่งงานไปให้เขามางเฟสบุ๊คจากนั้นก็ชวนเขาคุยเรื่องงาน คุยกันเรื่อยๆแบบไม่มีสถานะ(ตอนนี้จะว่าไปเราขี้เหร่เลย...ฟันเหยินอ้วนดำเตี้ย...แม่มโครตขี้เหร่เลย)
และวันหนึ่งเป็นช่วงปิดเทอมเล็ก ฉันก็ได้โพสต์ว่าไลค์ทัก และเขาก็ไลค์ให้...ฉันก็เลยต้องทักไป
เหตุการณ์มันเริ่มทำให้ฉันรู้สึกได้ว่ารักเขาเพราะเราคุยกันในแชททุกวัน ตั้งแต่ปิดเทอมมาไม่มีวันไหนที่เราไม่คุยกันเลย เราคุยกันทุกอย่าง..รู้เรื่องของกันและกันทุกเรื่องทั้งที่เรื่องไม่หน้ารู้เราแชร์ให้กันฟัง และแล้ววันนั้นก็มาถึงเมื่อเปิดเทอม..
ตอนนี้เข้าม.4เทอมสอง เขาบอกกับฉันว่ามีรุ่นน้องทักเขามาตลอด ไอ้เราก็ปากหมาแนะนำให้เขารองเปิดใจคบกันกับน้องเขาคนนั้นดู และแล้วเขาก็คบกันจริงๆ วันนั้นยอมรับน่ะว่าร้องไห้หนักมากแล้วเราก็บอกเขาว่าเราร้องไห้แต่ทว่าไม่ได้บอกว่าร้องไห้เพราะอะไร มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เขาฝากมอถือไว้กับฉันและฉันก็ดันเดารหัสปลดล็อกของเขาได้เปิดเข้ามาได้ปุ๊บเห็นแชทเขากับน้องคนนั้นมันยิ่งบาดใจเข้าไปกันใหญ่(โอ้ยรออะไรร้องไห้ทันทีเลยสิ) ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยจนกระทั่งฉันมีแฟนแต่อยู่ต่างรร.พอมีแฟนก็เริ่มรักแฟนตัวเอง ฉันกับแฟนเหมือนจะรักกันดีและแล้วเขาก็มาป่วนจนทำให้ฉันต้องเลิกรากับแฟนคนนั้นไป หลังจากที่ฉันเลิกกับคนนั้นไปสักพักใหญ่เขาก็ได้เลิกกับน้องคนนั้นเหมือนกันและดูเหมือนเขาจะเสียใจมากเลย(ตอนที่เขาเลิกกับน้องคนนั้นเข้าสู่ช่วงปิดเทอมใหญ่)
เขาก็กลับมาคุยกับฉันเหมิอนเดิมแต่ทว่าฉันไม่เหมือนเดิมแล้วเพราะฉันรู้สึกว่าฉันไม่ต้องการเขาแล้ว ก่อนหน้านี้ฉันไม่สามารถบรรยายได้เลยว่าฉันรักเขามากขนาดไหน ฉันทุ่มทำงานให้เขาทุกงานเก็บงานให้เขาตลอดเมื่อเขาเรียนไม่ทันเพื่อน(เขาเป็นนักกีฬาไม่ค่อยได้เรียนนักหรอก)
แต่กลับมาตอนนี้ฉันไม่ต้องการเขาแล้ว เขาบอกว่าเขาเหงา ฉันก็คิดนะว่าฉันคงทีค่าแค่เวลาเขาเหงา
และแล้วเราก็ขึ้นม.5 เขาก็กลับไปคบกับน้องคนนั้นอีกครั้ง เขาบอกกับฉันว่า “ตอนนั้นที่เขาอกหักเขาต้องการฉันมาก” และใครเล่าจะรู้ว่าฉันกลับเสียใจมากที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้นออกมา ฉันจึงบอกกับเขาไปว่า “ครั้งนี้ขอให้รักกันนานๆนะ” เขาเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพูดต่อ “อะไรมันก็เกิดขึ้นได้” เหมือนเราคุยกันแค่นี้แหละและแล้วเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ช่วงม.5เทอมแรกเราทำตัวเหมือนไม่รู้จักกันมันอึกอัดนะทั้งที่อยู่ห้องเดียวกันแต่ไม่พูดคุยกัน
จนกระทั่งเทอม2ของม.5 ฉันได้ถามเขาว่า “ลบแชทกูยัง” เขาตอบทันทีเหมือนไม่ได้คิดอะไรว่า “ยังไม่ลบ..แฟนกูก็เคยถามนะว่าเป็นใคร”เราได้ยินดังนั้นเราจึงเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบมันออกไป “กูลบแชทที่เล่นล่ะนะ” มันไม่ชัดเจนเลยเพราะฉันไม่ได้บอกกับเขาว่าฉันลบแชทใคร ฉันต้องการให้เขาเข้าใจแบบนั้นแหละทั้งที่ความเป็นจริงฉันไม่เคยลบอะไรออกเกี่ยวกับเขาเลย
อย่าแนะนำให้ฉันบอกรักเขานะ.ฉันเคยบอกไปแล้ว และสิ่งที่ตอบกลับมาคือเขาโกรธฉันมากเขาบอกว่า “เราเป็นเพื่อนกันแหละแล้ว” ตอนนี้ฉันบอกรักเขาตอนที่ปิดเทอมม.4ขึ้นม.5และตอนนี้เขายังคบกับน้องคนนั้นอยู่
ช่วงเวลาที่ผ่านเข้ามามันก็เหมือนเรื่องตลกดีนะ..ไม่รู้เหมอนกันว่าฉันร้องไห้ไปกับเขากี่ครั้งกี่หนแล้ว
อยากแชร์ประสบการณ์ที่อ่านแล้วออกจะงงๆแต่ฉันกลับมีความสุขทุกครั้งที่พูดหรือเล่าถึงเขา....
#รักแต่ไม่อยากครอบครองมันมีอยู่จริงๆนะ
เป็นแบบนี้มันจะดีเหรอ??
หลายคนคงเคยสัมผัสกับคำว่ารักที่ไม่ได้ครอบครอง และความรักของฉันก็เป็นแบบนั้น เชื่อได้เถอะว่าว่าฉันยังรักเขาแต่ไม่ต้องการเขาแล้ว ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมฉันถึงไม่ต้องการเขาแล้ว
สวัสดีค่ะทุกคนที่ผ่านเข้ามาอ่าน...
#เรื่องนี้เป็นเร๋องจริงทั้งหมดไม่มีการมโนใดๆทั้งสิ้นนะคะ
เข้าเรื่อเลยแล้วกันเนาะ
การที่เราย่างก้าวเข้ามาม.ปลายแรกๆเราก็มักจะได้พบกับคำว่าเพื่อนใหม่ ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายเลยแม้แต่คนเดียวและเขาคนนี้แหละที่เป็นเพื่อนสนิทของฉันคนแรก ฉันเองไม่รู้และก็ยังงงๆเหมือนกันว่าทำไม่เป็นเพื่อนกับเขาได้ยังไงกัน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าหลายๆอย่างเราเข้ากันได้ละมั่ง555 ก่อนที่เราจะสนิทกันมีเหตุการณ์หนึ่งที่เป็นเหตุการณ์เริ่มต้น วันนั้นเป็นวิชาคอมฯและฉันก็เป็นคนที่ถนัดด้านนี้ด้วยสิฉันก็เลยอาสาส่งงานให้เขาโดยส่งไปทางเฟสบุค(เอ๊ะ!อะไรยังไงว่ะทั้งที่มันเป็นงานส่งในคอมฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเฟสบุ๊คเลย)มันเป็นแผนที่เม็มใส่สมองอันโง่เง่าไว้แล้ว ฉันได้ส่งงานไปให้เขามางเฟสบุ๊คจากนั้นก็ชวนเขาคุยเรื่องงาน คุยกันเรื่อยๆแบบไม่มีสถานะ(ตอนนี้จะว่าไปเราขี้เหร่เลย...ฟันเหยินอ้วนดำเตี้ย...แม่มโครตขี้เหร่เลย)
และวันหนึ่งเป็นช่วงปิดเทอมเล็ก ฉันก็ได้โพสต์ว่าไลค์ทัก และเขาก็ไลค์ให้...ฉันก็เลยต้องทักไป
เหตุการณ์มันเริ่มทำให้ฉันรู้สึกได้ว่ารักเขาเพราะเราคุยกันในแชททุกวัน ตั้งแต่ปิดเทอมมาไม่มีวันไหนที่เราไม่คุยกันเลย เราคุยกันทุกอย่าง..รู้เรื่องของกันและกันทุกเรื่องทั้งที่เรื่องไม่หน้ารู้เราแชร์ให้กันฟัง และแล้ววันนั้นก็มาถึงเมื่อเปิดเทอม..
ตอนนี้เข้าม.4เทอมสอง เขาบอกกับฉันว่ามีรุ่นน้องทักเขามาตลอด ไอ้เราก็ปากหมาแนะนำให้เขารองเปิดใจคบกันกับน้องเขาคนนั้นดู และแล้วเขาก็คบกันจริงๆ วันนั้นยอมรับน่ะว่าร้องไห้หนักมากแล้วเราก็บอกเขาว่าเราร้องไห้แต่ทว่าไม่ได้บอกว่าร้องไห้เพราะอะไร มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เขาฝากมอถือไว้กับฉันและฉันก็ดันเดารหัสปลดล็อกของเขาได้เปิดเข้ามาได้ปุ๊บเห็นแชทเขากับน้องคนนั้นมันยิ่งบาดใจเข้าไปกันใหญ่(โอ้ยรออะไรร้องไห้ทันทีเลยสิ) ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยจนกระทั่งฉันมีแฟนแต่อยู่ต่างรร.พอมีแฟนก็เริ่มรักแฟนตัวเอง ฉันกับแฟนเหมือนจะรักกันดีและแล้วเขาก็มาป่วนจนทำให้ฉันต้องเลิกรากับแฟนคนนั้นไป หลังจากที่ฉันเลิกกับคนนั้นไปสักพักใหญ่เขาก็ได้เลิกกับน้องคนนั้นเหมือนกันและดูเหมือนเขาจะเสียใจมากเลย(ตอนที่เขาเลิกกับน้องคนนั้นเข้าสู่ช่วงปิดเทอมใหญ่)
เขาก็กลับมาคุยกับฉันเหมิอนเดิมแต่ทว่าฉันไม่เหมือนเดิมแล้วเพราะฉันรู้สึกว่าฉันไม่ต้องการเขาแล้ว ก่อนหน้านี้ฉันไม่สามารถบรรยายได้เลยว่าฉันรักเขามากขนาดไหน ฉันทุ่มทำงานให้เขาทุกงานเก็บงานให้เขาตลอดเมื่อเขาเรียนไม่ทันเพื่อน(เขาเป็นนักกีฬาไม่ค่อยได้เรียนนักหรอก)
แต่กลับมาตอนนี้ฉันไม่ต้องการเขาแล้ว เขาบอกว่าเขาเหงา ฉันก็คิดนะว่าฉันคงทีค่าแค่เวลาเขาเหงา
และแล้วเราก็ขึ้นม.5 เขาก็กลับไปคบกับน้องคนนั้นอีกครั้ง เขาบอกกับฉันว่า “ตอนนั้นที่เขาอกหักเขาต้องการฉันมาก” และใครเล่าจะรู้ว่าฉันกลับเสียใจมากที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้นออกมา ฉันจึงบอกกับเขาไปว่า “ครั้งนี้ขอให้รักกันนานๆนะ” เขาเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะพูดต่อ “อะไรมันก็เกิดขึ้นได้” เหมือนเราคุยกันแค่นี้แหละและแล้วเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ช่วงม.5เทอมแรกเราทำตัวเหมือนไม่รู้จักกันมันอึกอัดนะทั้งที่อยู่ห้องเดียวกันแต่ไม่พูดคุยกัน
จนกระทั่งเทอม2ของม.5 ฉันได้ถามเขาว่า “ลบแชทกูยัง” เขาตอบทันทีเหมือนไม่ได้คิดอะไรว่า “ยังไม่ลบ..แฟนกูก็เคยถามนะว่าเป็นใคร”เราได้ยินดังนั้นเราจึงเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบมันออกไป “กูลบแชทที่เล่นล่ะนะ” มันไม่ชัดเจนเลยเพราะฉันไม่ได้บอกกับเขาว่าฉันลบแชทใคร ฉันต้องการให้เขาเข้าใจแบบนั้นแหละทั้งที่ความเป็นจริงฉันไม่เคยลบอะไรออกเกี่ยวกับเขาเลย
อย่าแนะนำให้ฉันบอกรักเขานะ.ฉันเคยบอกไปแล้ว และสิ่งที่ตอบกลับมาคือเขาโกรธฉันมากเขาบอกว่า “เราเป็นเพื่อนกันแหละแล้ว” ตอนนี้ฉันบอกรักเขาตอนที่ปิดเทอมม.4ขึ้นม.5และตอนนี้เขายังคบกับน้องคนนั้นอยู่
ช่วงเวลาที่ผ่านเข้ามามันก็เหมือนเรื่องตลกดีนะ..ไม่รู้เหมอนกันว่าฉันร้องไห้ไปกับเขากี่ครั้งกี่หนแล้ว
อยากแชร์ประสบการณ์ที่อ่านแล้วออกจะงงๆแต่ฉันกลับมีความสุขทุกครั้งที่พูดหรือเล่าถึงเขา....
#รักแต่ไม่อยากครอบครองมันมีอยู่จริงๆนะ