ตลาดควรจะมีการเคลื่อนไหวอย่างเสรี และมีความเท่าเทียมกัน
กฏนี้ถูกตั้งขึ้นมาด้วยเหตุผลว่า เพื่อจะเตือนนักลงทุนให้มีความระมัดระวังในการซื้อขาย แต่ผมสงสัยว่า แค่ขึ้นป้ายเตือนมันก็น่าจะพอแล้วนิ!!! ซึ่งถ้า นลท.ยังอยากจะเสี่ยงก็เป็นสิทธิของเจ้าของเงินเอง ทำไมต้องถึงขนาดมาติดเบรคให้เกิดความเหลื่อมล้ำกัน ? ซึ่งการที่ กลต. ทำให้หุ้นตัวใดตัวหนึ่งเคลื่อนไหวหรือมีสิทธิไม่เท่ากับตัวอื่นๆ เพียงเพราะว่า กลต. "คิดว่า" หุ้นตัวนั้นเคลื่อนไหวเกินพื้นฐานที่ กลต. "คิดว่า" มันควรจะเป็น... มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหรอครับ ? พูดถึงราคาและปริมาณที่ กลต. "คิดว่า" หุ้นแต่ละตัวควรจะ trade ที่ราคาเท่าไร ปริมาณเท่าไร ในแต่ละวัน ... ผมสงสัยมากว่าคนที่คิดกฏนี้มาเค้าจบสาขาเศรษฐศาสตร์ หรือ พยาธิวิทยา มา ? เพราะตามหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐาน ราคาคือจุดที่ Demand และ supply มาเจอกัน ตลาดควรจะเคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติของมัน แต่ละคนย่อมมีความคิดต่างกันมันจึงเกิดด้านซื้อและด้านขาย ทำไม กลต. ถึง"คิดว่า" สูตรของตัวเองถูกอยู่คนเดียว แล้วไปบิดเบือนตลาดแบบนี้ ?
และหลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าตัวไหนจะติด cash balance ก็ไม่มีการเปิดเผยอย่างชัดเจน ... ตรงนี้ยิ่งทำให้เกิด question mark ตัวโตๆ เพราะหลาย case ที่ผ่านมา หุ้นบางตัวเคลื่อนไหวหวือหวามาก กลับไม่โดน ในขณะที่บางตัว กระดิกนิดเดียวก็ติดคุกแล้ว ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า ตัวที่ไม่ติด...เค้าจ่ายดีกว่ารึป่าว ??? (ขอโทษที่คิดในแง่ร้าย แต่กฏที่ไม่ชัดเจนเช่นนี้ก็ชวนให้คิดไปในแนวทางนั้น)
ผมว่า กลต. over regulate เกินไป เพื่อนๆนักลงทุน มีความเห็นยังไงบ้างครับ ?
กลต. ควรจะยกเลิกกฏ cash balance
กฏนี้ถูกตั้งขึ้นมาด้วยเหตุผลว่า เพื่อจะเตือนนักลงทุนให้มีความระมัดระวังในการซื้อขาย แต่ผมสงสัยว่า แค่ขึ้นป้ายเตือนมันก็น่าจะพอแล้วนิ!!! ซึ่งถ้า นลท.ยังอยากจะเสี่ยงก็เป็นสิทธิของเจ้าของเงินเอง ทำไมต้องถึงขนาดมาติดเบรคให้เกิดความเหลื่อมล้ำกัน ? ซึ่งการที่ กลต. ทำให้หุ้นตัวใดตัวหนึ่งเคลื่อนไหวหรือมีสิทธิไม่เท่ากับตัวอื่นๆ เพียงเพราะว่า กลต. "คิดว่า" หุ้นตัวนั้นเคลื่อนไหวเกินพื้นฐานที่ กลต. "คิดว่า" มันควรจะเป็น... มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหรอครับ ? พูดถึงราคาและปริมาณที่ กลต. "คิดว่า" หุ้นแต่ละตัวควรจะ trade ที่ราคาเท่าไร ปริมาณเท่าไร ในแต่ละวัน ... ผมสงสัยมากว่าคนที่คิดกฏนี้มาเค้าจบสาขาเศรษฐศาสตร์ หรือ พยาธิวิทยา มา ? เพราะตามหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐาน ราคาคือจุดที่ Demand และ supply มาเจอกัน ตลาดควรจะเคลื่อนไหวไปตามธรรมชาติของมัน แต่ละคนย่อมมีความคิดต่างกันมันจึงเกิดด้านซื้อและด้านขาย ทำไม กลต. ถึง"คิดว่า" สูตรของตัวเองถูกอยู่คนเดียว แล้วไปบิดเบือนตลาดแบบนี้ ?
และหลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าตัวไหนจะติด cash balance ก็ไม่มีการเปิดเผยอย่างชัดเจน ... ตรงนี้ยิ่งทำให้เกิด question mark ตัวโตๆ เพราะหลาย case ที่ผ่านมา หุ้นบางตัวเคลื่อนไหวหวือหวามาก กลับไม่โดน ในขณะที่บางตัว กระดิกนิดเดียวก็ติดคุกแล้ว ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า ตัวที่ไม่ติด...เค้าจ่ายดีกว่ารึป่าว ??? (ขอโทษที่คิดในแง่ร้าย แต่กฏที่ไม่ชัดเจนเช่นนี้ก็ชวนให้คิดไปในแนวทางนั้น)
ผมว่า กลต. over regulate เกินไป เพื่อนๆนักลงทุน มีความเห็นยังไงบ้างครับ ?