สำหรับกระทู้นี้...ตั้งใจไว้ว่าจะเป็นกระทู้สุดท้ายที่จะเขียน เนื่องจากเป็นที่สุดของการปั่นแล้ว เนื่องจากวัตถุประสงค์ในการเขียนกระทู้คือ อยากสร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง เพื่อพัฒนาตัวเอง ในการปั่นจักรยาน
- โดยเริ่มเขียนตั้งแต่ยังปั่นวันละ 10 กม. ด้วยรถอลูหนักๆ ที่ยังเป็นเกียร์ขี้เมา จากกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อมาเป็นแรงบันดาลใจเริ่มปั่น อุปกรณ์บ้านๆ ที่นักปั่นคนนึงจะหาได้ แบบคนไม่มีความรู้อะไรเลยเรื่องการปั่น และได้เข้าร่วมกิจกรรมกีฬาภายใน ทำให้หลงไหลในจักรยานมากขึ้น
- ขยับมาเริ่มมีเพื่อนนักปั่น เป็นแปะรุ่นใหญ่ ที่ชวนออกกำลังกายทุกเย็น จากเคยปั่นเล่นเตาะแตะวันละนิดละหน่อย ขยับมาเป็น 45-50 กม. ในระยะเวลาอันสั้น
- พอขยับเข้าสู่กีฬาระดับสูงไปอีก มีคนแนะนำให้เปลี่ยนรถที่ใช้ จึงเปลี่ยนรถก่อนไปแข่งกีฬาภายใน ตอนนั้นเกียร์ยังใช้ไม่เป็น แต่พอได้รางวัลรู้สึกหลงรักเข้าไปใหญ่
- เริ่มเรียนรู้การปั่นทางไกลด้วยการปั่น TC100 เมื่อปี 2559 ทั้งหมด 4 สนาม ก่อนเข้าสู่วงการปั่น Audax
- Audax ครั้งแรกในชีวิต เมื่อปีที่แล้ว ด้วย Audax200อัมพวา และเปิดฤดูกาล Audax เขาใหญ่ ติดกันอาทิตย์นั้นเลย จากนั้นมีคนชวนไปทุบ Boss ที่เขาโจด ตอนนั้นยังปั่นเขาไม่เป็นเลย แต่ทุบได้สำเร็จดังที่ตั้งใจ
- และมาประสบอุบัติเหตุจักรยานล้มจนไม่สามารถเดินได้เป็นเวลา 1 เดือน อยู่ในสภาวะที่จิตใจแย่ที่สุด จนหายดี
- ทำให้ได้เข้าร่วมกิจกรรม ด่านชนด่าน ของ Endromondo Thailand ทำให้กลายเป็นคนหลงใหลในการปั่นเขามาก เพิ่งเริ่มปั่นเขาเป็นในทริปนี้โดยการสอนของโค้ชพี่แต
- จากนั้นตั้งเป้าหมายในชีวิตในการพิชิต Audax สายเขา จนได้ปั่น Audax400เขาสอยดาว Audax600พัทยาตราด Audax600ไทรโยค สำเร็จตามที่ตั้งใจ
- สำหรับปีนี้ไม่ได้ตั้งเป้าหมายอื่นไว้ จบ Audax300เขาใหญ่ และ1200ตะนาวศรีจะเป็นทริปสุดท้ายที่รีวิว มีคนที่ติดตามอ่าน กระซิบบอกใจหาย แต่จริงๆไม่ได้ไปไหนคะ ยังปั่นอยู่
มีหนังสืออยู่เล่มเกี่ยวกับกีฬา ติดต่อมาอยากมีคอลัมป์ของตัวเอง จริงๆไม่ได้หยิ่งต้องกราบขอโทษมา ณ ที่นี้เลยนะคะ ส่วนตัวเป็นคนชอบเขียนแต่ว่า....ปัญหาคือ เขียนแต่เรื่องตลกๆฮาๆ ชอบเขียนสร้างแรงบันดาลใจในแบบของตัวเอง ดังนั้นจึงเลือกเขียนในนี้ เพราะไม่รู้ว่ากี่ปีผ่านไป เรื่องราวดีๆก็คงอยู่ให้หลานของตัวเองที่กำลังโตได้อ่านอีกด้วย และอยากถ่ายทอดประสบการณ์ตรงจากตัวเอง ในสิ่งที่ไปพบเจอมา จึงเป็นที่มาของกระทู้หลายๆกระทู้ในพันทิปที่เคยเขียนไว้ และที่สำคัญอยากสร้างแรงบันดาลใจให้หลายๆคนที่เริ่มปั่น “เราทำได้ คุณก็ทำได้”
Audax1200 LRM ตะนาวศรี ซึ่งนี่เป็นประเทศแรกในปฏิทิน LRM 2018 ตามคำบอกของพี่กวี เป็นหนึ่งในทริปที่ตั้งใจไว้ เนื่องมาจาก 1 ประโยคของบัดดี้ที่รู้ใจที่สุดในสามโลก พี่กวี “Audax1200 ตะนาวศรี ปานกับว่าโอลิมปิกที่จัดโดยประเทศไทย” ระยะการปีนพอกันกับที่ฟรั่งเศส แต่นี่จัดในประเทศไทย มนุษย์ทำงานรายได้น้อยอย่างพวกเรา จะเอาเวลาและทุนทรัพย์ไหนไปปั่นถึงเมืองนอกอย่างคนอื่นเขา ปั่นกันมันเมืองไทยนี่แหละ นี่แหละ......โอกาสของเรามาถึงละ หลังจากที่คุยกันแล้วว่าไปแน่ๆ ตกลงกันว่าเรามีเวลาอีกเพียง 1 เดือน เราจะต้องแข็งแรงทั้งคู่ เพื่อพร้อม ทริปนี้ เพราะจะต้องปั่นเป็นสองเท่าของสนาม600ไทรโยค สนาม600ไทรโยคเราหนักเหนื่อยแค่ไหน ต้องทำการบ้านมาให้ดีๆ แต่......มีข้อแม้ว่า ถ้าใครถามต้องบอกว่าเราไม่ไป เพราะยังไม่อยากถูกกดดัน และนี่คือสาเหตุที่เราตัดสินใจสมัครปั่นใน 1 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดรับสมัคร
ความรู้เพิ่มเติมจากพี่หมอป้อม LRM ?
ULTRA LONG DISTANCE CYCLING หรือ LES RANDONNEURS MONDIAUX #LRM
เป็นการขี่จักรยานทางไกลประเภทเดียวกับ AUDAX ที่เราขี่ระยะ 200/300/400/600/1000 กม นั่นแหล่ะ เพียงแต่พอเป็นระยะ 1,200 กมขึ้นมา มันมีความอ่อนตัวมากของกฏเกณฑ์เพิ่มขึ้นในเรื่องกรอบเวลาของการเปิดปิดจุดที่เรียกว่า CP ในประสบการณ์ของการไปร่วม LRM ของผมเองนั้นมีหลากหลายของการอ่อนตัว ทั้งการเพิ่มเวลาให้ในแต่ล่ะ CP การประทับตราให้แม้นเวลาเกินแต่ยังมีกรรมการอยู่ เป็นอันรู้กันว่า เป้าหมายของการขี่ LRM ของการจัดนั้นมุ่งให้ทุกผู้คนพยายามขี่ให้จบเส้นทาง และความอ่อนตัวนี้เองทำให้มีการวางแผนพักผ่อนดีขึ้น การท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ อาทิเช่น มีการแข่งประกวดถ่ายรูป ใน LANDMARK ที่กำหนดให้ด้วยก็มี แต่นั่นก็ไม่เสมอไปในแต่ล่ะที่ หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กฏระเบียบการที่เป็นกลางๆของ LRM ได้ในเว็บของ LRM
HTTP://WWW.RANDONNEURSMONDIAUX.ORG/12-RULES.HTML
ทีนี้มาติดตามกัน...ว่าเรื่องราวจะสนุกสนาน เฮฮา หรือ โหดร้ายอย่างไร ตลอดระยะเวลา 4 วัน และ 4 คืน บนอานจักรยานของเราและพี่กวี บัดดี้ที่เข้าใจและรู้ใจกันที่สุด
Audax1,200 LRM ตะนาวศรี (มีอยู่จริง)
- โดยเริ่มเขียนตั้งแต่ยังปั่นวันละ 10 กม. ด้วยรถอลูหนักๆ ที่ยังเป็นเกียร์ขี้เมา จากกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อมาเป็นแรงบันดาลใจเริ่มปั่น อุปกรณ์บ้านๆ ที่นักปั่นคนนึงจะหาได้ แบบคนไม่มีความรู้อะไรเลยเรื่องการปั่น และได้เข้าร่วมกิจกรรมกีฬาภายใน ทำให้หลงไหลในจักรยานมากขึ้น
- ขยับมาเริ่มมีเพื่อนนักปั่น เป็นแปะรุ่นใหญ่ ที่ชวนออกกำลังกายทุกเย็น จากเคยปั่นเล่นเตาะแตะวันละนิดละหน่อย ขยับมาเป็น 45-50 กม. ในระยะเวลาอันสั้น
- พอขยับเข้าสู่กีฬาระดับสูงไปอีก มีคนแนะนำให้เปลี่ยนรถที่ใช้ จึงเปลี่ยนรถก่อนไปแข่งกีฬาภายใน ตอนนั้นเกียร์ยังใช้ไม่เป็น แต่พอได้รางวัลรู้สึกหลงรักเข้าไปใหญ่
- เริ่มเรียนรู้การปั่นทางไกลด้วยการปั่น TC100 เมื่อปี 2559 ทั้งหมด 4 สนาม ก่อนเข้าสู่วงการปั่น Audax
- Audax ครั้งแรกในชีวิต เมื่อปีที่แล้ว ด้วย Audax200อัมพวา และเปิดฤดูกาล Audax เขาใหญ่ ติดกันอาทิตย์นั้นเลย จากนั้นมีคนชวนไปทุบ Boss ที่เขาโจด ตอนนั้นยังปั่นเขาไม่เป็นเลย แต่ทุบได้สำเร็จดังที่ตั้งใจ
- และมาประสบอุบัติเหตุจักรยานล้มจนไม่สามารถเดินได้เป็นเวลา 1 เดือน อยู่ในสภาวะที่จิตใจแย่ที่สุด จนหายดี
- ทำให้ได้เข้าร่วมกิจกรรม ด่านชนด่าน ของ Endromondo Thailand ทำให้กลายเป็นคนหลงใหลในการปั่นเขามาก เพิ่งเริ่มปั่นเขาเป็นในทริปนี้โดยการสอนของโค้ชพี่แต
- จากนั้นตั้งเป้าหมายในชีวิตในการพิชิต Audax สายเขา จนได้ปั่น Audax400เขาสอยดาว Audax600พัทยาตราด Audax600ไทรโยค สำเร็จตามที่ตั้งใจ
- สำหรับปีนี้ไม่ได้ตั้งเป้าหมายอื่นไว้ จบ Audax300เขาใหญ่ และ1200ตะนาวศรีจะเป็นทริปสุดท้ายที่รีวิว มีคนที่ติดตามอ่าน กระซิบบอกใจหาย แต่จริงๆไม่ได้ไปไหนคะ ยังปั่นอยู่
มีหนังสืออยู่เล่มเกี่ยวกับกีฬา ติดต่อมาอยากมีคอลัมป์ของตัวเอง จริงๆไม่ได้หยิ่งต้องกราบขอโทษมา ณ ที่นี้เลยนะคะ ส่วนตัวเป็นคนชอบเขียนแต่ว่า....ปัญหาคือ เขียนแต่เรื่องตลกๆฮาๆ ชอบเขียนสร้างแรงบันดาลใจในแบบของตัวเอง ดังนั้นจึงเลือกเขียนในนี้ เพราะไม่รู้ว่ากี่ปีผ่านไป เรื่องราวดีๆก็คงอยู่ให้หลานของตัวเองที่กำลังโตได้อ่านอีกด้วย และอยากถ่ายทอดประสบการณ์ตรงจากตัวเอง ในสิ่งที่ไปพบเจอมา จึงเป็นที่มาของกระทู้หลายๆกระทู้ในพันทิปที่เคยเขียนไว้ และที่สำคัญอยากสร้างแรงบันดาลใจให้หลายๆคนที่เริ่มปั่น “เราทำได้ คุณก็ทำได้”
Audax1200 LRM ตะนาวศรี ซึ่งนี่เป็นประเทศแรกในปฏิทิน LRM 2018 ตามคำบอกของพี่กวี เป็นหนึ่งในทริปที่ตั้งใจไว้ เนื่องมาจาก 1 ประโยคของบัดดี้ที่รู้ใจที่สุดในสามโลก พี่กวี “Audax1200 ตะนาวศรี ปานกับว่าโอลิมปิกที่จัดโดยประเทศไทย” ระยะการปีนพอกันกับที่ฟรั่งเศส แต่นี่จัดในประเทศไทย มนุษย์ทำงานรายได้น้อยอย่างพวกเรา จะเอาเวลาและทุนทรัพย์ไหนไปปั่นถึงเมืองนอกอย่างคนอื่นเขา ปั่นกันมันเมืองไทยนี่แหละ นี่แหละ......โอกาสของเรามาถึงละ หลังจากที่คุยกันแล้วว่าไปแน่ๆ ตกลงกันว่าเรามีเวลาอีกเพียง 1 เดือน เราจะต้องแข็งแรงทั้งคู่ เพื่อพร้อม ทริปนี้ เพราะจะต้องปั่นเป็นสองเท่าของสนาม600ไทรโยค สนาม600ไทรโยคเราหนักเหนื่อยแค่ไหน ต้องทำการบ้านมาให้ดีๆ แต่......มีข้อแม้ว่า ถ้าใครถามต้องบอกว่าเราไม่ไป เพราะยังไม่อยากถูกกดดัน และนี่คือสาเหตุที่เราตัดสินใจสมัครปั่นใน 1 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดรับสมัคร
ความรู้เพิ่มเติมจากพี่หมอป้อม LRM ?
ULTRA LONG DISTANCE CYCLING หรือ LES RANDONNEURS MONDIAUX #LRM
เป็นการขี่จักรยานทางไกลประเภทเดียวกับ AUDAX ที่เราขี่ระยะ 200/300/400/600/1000 กม นั่นแหล่ะ เพียงแต่พอเป็นระยะ 1,200 กมขึ้นมา มันมีความอ่อนตัวมากของกฏเกณฑ์เพิ่มขึ้นในเรื่องกรอบเวลาของการเปิดปิดจุดที่เรียกว่า CP ในประสบการณ์ของการไปร่วม LRM ของผมเองนั้นมีหลากหลายของการอ่อนตัว ทั้งการเพิ่มเวลาให้ในแต่ล่ะ CP การประทับตราให้แม้นเวลาเกินแต่ยังมีกรรมการอยู่ เป็นอันรู้กันว่า เป้าหมายของการขี่ LRM ของการจัดนั้นมุ่งให้ทุกผู้คนพยายามขี่ให้จบเส้นทาง และความอ่อนตัวนี้เองทำให้มีการวางแผนพักผ่อนดีขึ้น การท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ อาทิเช่น มีการแข่งประกวดถ่ายรูป ใน LANDMARK ที่กำหนดให้ด้วยก็มี แต่นั่นก็ไม่เสมอไปในแต่ล่ะที่ หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กฏระเบียบการที่เป็นกลางๆของ LRM ได้ในเว็บของ LRM
HTTP://WWW.RANDONNEURSMONDIAUX.ORG/12-RULES.HTML
ทีนี้มาติดตามกัน...ว่าเรื่องราวจะสนุกสนาน เฮฮา หรือ โหดร้ายอย่างไร ตลอดระยะเวลา 4 วัน และ 4 คืน บนอานจักรยานของเราและพี่กวี บัดดี้ที่เข้าใจและรู้ใจกันที่สุด