เรื่องมีอยู่ว่า
รถเราไปชนท้ายแท๊กซี่ เราไม่ได้เป็นคนขับ แฟนเป็นคนขับ เขามองไม่เห็น เลยชนเข้าอย่างจัง สภาพรถเราก็เสียหายเอาการอยู่
ของพี่แท๊กซี่ ก็เหมือนกัน ที่สำคัญ คือ รถเราไม่มีประกัน พอลงจากรถ แท๊กซี่ ก็เหมือนจะโกรธอยู่ แต่พอเราบอกว่า เดี่ยวเราจะจ่ายค่าเสียหายให้
เพราะ รถเราไม่มีประกัน เราก็รอตำรวจทางหลวงมา พวกเขาพาไปจอดใกล้สถานีตำรวจ เผื่อเคลียร์กันไม่ลงตัว จากนั้น ก็คุยกันว่าจะเอายังไง
ตำรวจทางหลวง บอกถ้าคุยไม่ลงตัวก็ไปโรงพัก แต่พี่แท็กซี่ เขาก็บอกโอเค เพราะ เราจะจ่ายค่าเสียหายให้ เราจะพาเขาไปศูนย์ รถโตโยต้า
เพื่อประเมินราคา แต่เขาไม่ไป เพราะเขาบอก เขาต้องทำมาหากิน เดี๋ยวเขาเอาไปซ่อมเอง จากนั้น ก็ตกลงค่าเสียหาย เพราะ รถเขาก็ไม่ได้บุบมาก
แฟนเลยถามว่า คุณจะเอาเท่าไหร่ เขาบอก สามหมื่นได้มั้ย สองคนเราเลย ถ้าเอาไปซ่อมอู่ ไม่น่าจะแพงมาก เราเลยให้ สองหมื่นห้า
แต่กรณี นี้ เขายินยอมกับราคานี้นะคะ เขาตกลง และเราก็ทำแบบร่างว่าทำการจ่ายค่าเสียหายแล้ว แบบเขียนมือ เพราะ ฉุกละหุก เราต้องรีบไปทำธุระด้วย
เขาก็เซ็นเรียบร้อยค่ะ เขาขอเบอร์โทรเราไว้ด้วย เราก็ให้

พอวันต่อมา เขาโทรมาบอกว่า ค่าซ่อมรถ ไม่พอ ประมาณ 35,000 บาท เราก็เอ๊ะ!!!!เราตกลงจ่ายค่าเสียหายไปแล้วนี่ เราก็ งง
คำถาม คือ ในกรณีที่ เราจ่ายเงินผู้เสียหายไปแล้ว แล้วเขาตกลงยินยอม กับเงินจำนวนนี้ และเซ็นเอกสารได้รับเงินแล้วเรียบร้อย
เขาสามารถ โทรมาและขอเพิ่มอีกได้หรือไม่ เพราะตอนที่คุยกัน ไม่ได้บอกว่าขาดเหลือยังไง โทรมานะ เราไม่ได้บอก แค่เขายินยอม ราคานี้แล้ว
เราเสนอ ให้เขาเอาเข้าศูนย์ แต่เขาไม่ยอมไป เพราะ เขาบอก เสียเวลา และเขาต้องทำมาหากิน

คือ อยากรู้ว่า เราจะทำยังไง ดี?
กลุ้มใจ ไม่รู้ว่า เขาจะทำแบบนี้  ตอนคุยตกลงกัน ก็แฟร์ๆกับเขานะคะ เพราะเรารู้ว่า เราเป็นคนผิด เราจะบอกเขายังไงดี?