.. ครั้งคืนค่อน นอนไพร ไม่ยอมหลับ
แม้ลองนับ แกะน้อย สักร้อยหน
แว่วเสียงเพลง บรรเลงรื่น ชื่นกมล
ดูพิกล ด้วยแถวนี้ ไม่มีใคร
.....มองหมู่เพื่อน เกลื่อนกาย สบายอยู่
จะถามดู ก็อากัป ล้วนหลับใหล
เขาบุกป่า มาทั้งวัน ฉันเกรงใจ
ควรออกไป มองหา ท่าจะดี
.....คว้าไฟฉาย สะพายปืน ไปยืนส่อง
กวาดตามอง ต้นเสียง เหมือนเลี่ยงหนี
ฟังไกลไป ไกลออกไป ในทุกที
ดั่งดนตรี ยั่วเชิญ ให้เดินตาม
.....กลิ่นกล้วยไม้ ไพรพง น่าหลงยิ่ง
คล้ายกลิ่นหญิง ชาวไพร ชวนไหวหวาม
คงประทิน กลิ่นอวล เนินนวลงาม
แม้นงราม อยากพบพี่ อย่าหนีไกล
......เดินตามไป ในดง หลงกลิ่นเสียง
ลืมร้อยเรียง เรื่องอัน ควรหวั่นไหว
พลันมือหนึ่ง ดึงรั้ง กลับหลังไป
ก็พลันให้ ตาตื่น ยืนตะลึง
.....เบื้องหน้าห่าง ย่างไป สักสามก้าว
เป็นเหวหาว ยาวลึก สุดนึกถึง
ต้องขอบใจ ในหมู่ ผู้มาดึง
ว่าหายจึง ออกค้น หาจนทัน
.....ถามว่าใคร ได้ยินเพลง บรรเลงบ้าง
ก็ล้วนอ้าง ว่ายินเสียง แต่เพียงฉัน
เออ พงไพร ไฉนเร้า เอาชีวัน
จะฆ่ากันทำไมเล่า ..ไม่เข้าใจ...(อ่านต่อ)
เพลงผีไพร (กลอนยาว)
แม้ลองนับ แกะน้อย สักร้อยหน
แว่วเสียงเพลง บรรเลงรื่น ชื่นกมล
ดูพิกล ด้วยแถวนี้ ไม่มีใคร
.....มองหมู่เพื่อน เกลื่อนกาย สบายอยู่
จะถามดู ก็อากัป ล้วนหลับใหล
เขาบุกป่า มาทั้งวัน ฉันเกรงใจ
ควรออกไป มองหา ท่าจะดี
.....คว้าไฟฉาย สะพายปืน ไปยืนส่อง
กวาดตามอง ต้นเสียง เหมือนเลี่ยงหนี
ฟังไกลไป ไกลออกไป ในทุกที
ดั่งดนตรี ยั่วเชิญ ให้เดินตาม
.....กลิ่นกล้วยไม้ ไพรพง น่าหลงยิ่ง
คล้ายกลิ่นหญิง ชาวไพร ชวนไหวหวาม
คงประทิน กลิ่นอวล เนินนวลงาม
แม้นงราม อยากพบพี่ อย่าหนีไกล
......เดินตามไป ในดง หลงกลิ่นเสียง
ลืมร้อยเรียง เรื่องอัน ควรหวั่นไหว
พลันมือหนึ่ง ดึงรั้ง กลับหลังไป
ก็พลันให้ ตาตื่น ยืนตะลึง
.....เบื้องหน้าห่าง ย่างไป สักสามก้าว
เป็นเหวหาว ยาวลึก สุดนึกถึง
ต้องขอบใจ ในหมู่ ผู้มาดึง
ว่าหายจึง ออกค้น หาจนทัน
.....ถามว่าใคร ได้ยินเพลง บรรเลงบ้าง
ก็ล้วนอ้าง ว่ายินเสียง แต่เพียงฉัน
เออ พงไพร ไฉนเร้า เอาชีวัน
จะฆ่ากันทำไมเล่า ..ไม่เข้าใจ...(อ่านต่อ)