กระทู้เหมาะสำหรับวัยรุ่นที่ยังไม่มีประสบการณ์ชีวิต เพราะปกติกระทู้พาเที่ยวจะเล่าจากคนที่มีประสบการณ์ท่องเที่ยวมาแล้ว
แต่เจ้าของเป็นลูกคนเล็กของบ้านคนจีน ทั้งชีวิตเลยไม่ได้ทำอะไร ไม่ว่าจะจองโรงแรม เช็คอิน-เช็คเอาทส์ จองรถ จองเครื่องบิน
แม้แต่สั่งอาหารเวลาไปเที่ยวก็ไม่เคยสั่ง แถมยังเป็นพวกไม่ออกจากบ้าน ยกเว้นไปดูหนัง หรือซื้อหนังสือ
เพราะฉะนั้นกระทู้นี้ คือ เรื่องเล่าของคนไปเที่ยวแบบไร้ประสบการณ์แบบสุดๆ แต่ดันไปต่างประเทศคนเดียวเพื่อทดสอบความสามารถทางภาษาของตนเอง
ผมไปญี่ปุ่นวันที่ 23-28 ตุลาคม 2560 เพื่อที่ตระหนักว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นไม่มีที่พึ่งนะ เพราะสถานทูตไทยคงไม่ว่างแน่นอน
ผมต้องเอาตัวรอดด้วยความรู้ด้านภาษาของตัวเองเท่านั้น บริการอินเตอร์เน็ตก็ไม่ซื้อไป
_______________________________________________________________________________
การเตรียมตัว
1. จองตั๋วเครื่องบิน, จองโรงแรม, ทำประกันเดินทาง ผ่านเว็บ แล้วไปซื้อ JR PASS ในงานไทยเที่ยวไทย
2. ถ่ายเอกสารทั้งพาสปอร์ต, บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน แล้วเก็บไว้ในกระเป๋าสะพายเล็กๆ พร้อมกับเอกสารประกันเดินทาง พกติดตัวเวลาไปที่ต่างๆ
3. ใช้ Hyperdia ค้นหารถไฟที่ต้องขึ้น จดใส่กระดาษ (คิดได้ตอนอยู่ญี่ปุ่นว่า "แคปหน้าจอ" เอาก็ได้)
4. ใช้ google map ค้นหาเส้นทางจากสถานีรถไฟ ไปยัง ที่หมาย แล้ว "แคปหน้าจอ" เก็บในไอแพด (แบบใส่ซิมไม่ได้ มันถูกดี)
ปล. จองโรมแรมจากเว็บของโรงแรมเองเลย เพื่อฝึกภาษาอังกฤษ จองเสร็จอย่าลืมจด "หมายเลขการจอง" เอาไว้นะครับ
_______________________________________________________________________________
ก่อนเข้าเรื่องขอสรุปสิ่งที่ยากที่สุดในการเดินทางก่อน นั้นคือ การสนทนา
เวลา "สนทนา" โดยเฉพาะภาษาที่ไม่ใช่ภาษาแม่ ต้องมีสมาธิ พยายามให้สายตามองไปยังคู่สนทนา ไม่งั้นมันจะฟังไม่รู้เรื่อง
ซึ่งสำหรับคนทั่วไปมันง่าย แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยออกจากบ้านมันยากนะ เวลาที่ต้องสนทนาจริง ผมมองนู้นมองนี้ จนฟังไม่ได้ศัพท์
แต่เอาตัวรอดจากการพิจารณาสถานการณ์ตรงหน้าเอา
วิธีทดสอบว่า เราจะมีสมาธิในเวลาสนทนาไหม ทดสอบง่ายๆด้วยการ "ลองพูดหน้าชั้นเรียนดู" ถ้าพูดได้ไหลลื่นก็ผ่าน แต่ถ้าพูดติดๆขัดๆนั้นต้องฝึกแล้ว
_______________________________________________________________________________
เริ่มการเดินทาง
23 ต.ค. 2560 สายการบิน ANA ออกเวลา 10:25 น.
ถึงที่หมายประมาณ 17:40 น. ผ่าน ต.ม., ศุลกากร อย่างรวดเร็ว จนสามารถแลก JR EAST PASS ที่ปิดแลก 18:30 น. ได้ทันสบายๆเลย
ตอนแรก "พาส" เสร็จ เจ้าหน้าที่ถามว่าไปไหน ผมตอบ "NAGANO" แต่เจ้าหน้าที่เข้าใจผิดเป็น "์NAKANO" เลยแนะนำทางไปอีกทีหนึ่ง
ซึ่งผมก็แกล้งบอกว่า "เข้าใจ" ไปก่อน แต่เริ่มรู้สึกแปลกๆแล้ว
ก่อนไปต่อแวะซื้อ Tokyo Subway Ticket ซึ่งเดินออกมาจากศุลกากรก็เห็นเลย
ส่วน ที่แลก JR EAST PASS อยู่ติดกับทางไปขึ้น Tokyo Monorail
ถึง "สถานีโตเกียว" ก็ไปแลก "ตั๋วชินคันเซ็น" ไป "NAGANO" แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่บอกให้ไปที่ชานชาลา 2 (ถ้าจำไม่ผิด)
ผมก็เอะใจ เลยเปิดที่แคปหน้าจอเอาไว้ดู
GA มันออกเสียงเป็นเสียงคล้ายทั้ง "ก" กับ "ง" ถ้าออกเสียง "ก" ก็ถูกเข้าใจผิดได้ว่าไป "NAKANO"
ต้องวิ่งกลับไปที่แลกตั๋วใหม่ แล้วเปิดที่แคปหน้าจอไว้ให้ดู ถึงได้ตั๋วมา
แต่เกือบตกรถไฟ เพราะ ไปห้องน้ำแล้วหลง แถมยังสื่อสารกับ รปภ. ไม่รู้เรื่อง เริ่มเสียความมั่นใจแล้ว ยังดีที่อ่านภาษากาย รปภ. ออกเลยเอาตัวรอดมาได้
ถึง NAGANO ตอน 3 ทุ่ม เมืองเงียบสงบมาก
แทบจะไม่เห็นคนเลย
โรงแรมที่พัก คือ Hotel Sunroute Nagano Higashiguchi มีเน็ตให้ใช้นะ ผมไว้ใช้เล่นเกม
เช็คอินเสร็จ ไปซื้อข้าวกินที่ เซเว่น ของญี่ปุ่น ก็ยังคงฟัง "พนักงานคิดเงิน" ไม่ออกอยู่ดี เริ่มจิตตกมากขึ้นแล้ว (มัวแต่มองรอบๆร้าน)
ข้าวหมูทอดที่อุ่นไมโครเวฟ มันจะอร่อยได้อย่างไร
สรุป "จิตตก" ว่าทำไมตัวเอง "กระจอก" อย่างนี้ จนนอนไม่หลับ ว่าจะหลับก็ตี 3 ตี 4
เอาสมาชิก S.O.S. มาถ่ายรูป
ภาพของห้องพักถ่ายมาให้ดู ราคาแล้วแต่ช่วงเวลา รอบนี้ คืนแรก 5,600 เยน คืนสอง 6,300 เยน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[4G WARNING] ตามรอย "ฮารุฮิ" เที่ยว NAGANO แบบไร้ประสบการณ์, ไร้เน็ต
แต่เจ้าของเป็นลูกคนเล็กของบ้านคนจีน ทั้งชีวิตเลยไม่ได้ทำอะไร ไม่ว่าจะจองโรงแรม เช็คอิน-เช็คเอาทส์ จองรถ จองเครื่องบิน
แม้แต่สั่งอาหารเวลาไปเที่ยวก็ไม่เคยสั่ง แถมยังเป็นพวกไม่ออกจากบ้าน ยกเว้นไปดูหนัง หรือซื้อหนังสือ
เพราะฉะนั้นกระทู้นี้ คือ เรื่องเล่าของคนไปเที่ยวแบบไร้ประสบการณ์แบบสุดๆ แต่ดันไปต่างประเทศคนเดียวเพื่อทดสอบความสามารถทางภาษาของตนเอง
ผมไปญี่ปุ่นวันที่ 23-28 ตุลาคม 2560 เพื่อที่ตระหนักว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นไม่มีที่พึ่งนะ เพราะสถานทูตไทยคงไม่ว่างแน่นอน
ผมต้องเอาตัวรอดด้วยความรู้ด้านภาษาของตัวเองเท่านั้น บริการอินเตอร์เน็ตก็ไม่ซื้อไป
การเตรียมตัว
1. จองตั๋วเครื่องบิน, จองโรงแรม, ทำประกันเดินทาง ผ่านเว็บ แล้วไปซื้อ JR PASS ในงานไทยเที่ยวไทย
2. ถ่ายเอกสารทั้งพาสปอร์ต, บัตรประชาชน, ทะเบียนบ้าน แล้วเก็บไว้ในกระเป๋าสะพายเล็กๆ พร้อมกับเอกสารประกันเดินทาง พกติดตัวเวลาไปที่ต่างๆ
3. ใช้ Hyperdia ค้นหารถไฟที่ต้องขึ้น จดใส่กระดาษ (คิดได้ตอนอยู่ญี่ปุ่นว่า "แคปหน้าจอ" เอาก็ได้)
4. ใช้ google map ค้นหาเส้นทางจากสถานีรถไฟ ไปยัง ที่หมาย แล้ว "แคปหน้าจอ" เก็บในไอแพด (แบบใส่ซิมไม่ได้ มันถูกดี)
ปล. จองโรมแรมจากเว็บของโรงแรมเองเลย เพื่อฝึกภาษาอังกฤษ จองเสร็จอย่าลืมจด "หมายเลขการจอง" เอาไว้นะครับ
ก่อนเข้าเรื่องขอสรุปสิ่งที่ยากที่สุดในการเดินทางก่อน นั้นคือ การสนทนา
เวลา "สนทนา" โดยเฉพาะภาษาที่ไม่ใช่ภาษาแม่ ต้องมีสมาธิ พยายามให้สายตามองไปยังคู่สนทนา ไม่งั้นมันจะฟังไม่รู้เรื่อง
ซึ่งสำหรับคนทั่วไปมันง่าย แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยออกจากบ้านมันยากนะ เวลาที่ต้องสนทนาจริง ผมมองนู้นมองนี้ จนฟังไม่ได้ศัพท์
แต่เอาตัวรอดจากการพิจารณาสถานการณ์ตรงหน้าเอา
วิธีทดสอบว่า เราจะมีสมาธิในเวลาสนทนาไหม ทดสอบง่ายๆด้วยการ "ลองพูดหน้าชั้นเรียนดู" ถ้าพูดได้ไหลลื่นก็ผ่าน แต่ถ้าพูดติดๆขัดๆนั้นต้องฝึกแล้ว
เริ่มการเดินทาง
23 ต.ค. 2560 สายการบิน ANA ออกเวลา 10:25 น.
ถึงที่หมายประมาณ 17:40 น. ผ่าน ต.ม., ศุลกากร อย่างรวดเร็ว จนสามารถแลก JR EAST PASS ที่ปิดแลก 18:30 น. ได้ทันสบายๆเลย
ตอนแรก "พาส" เสร็จ เจ้าหน้าที่ถามว่าไปไหน ผมตอบ "NAGANO" แต่เจ้าหน้าที่เข้าใจผิดเป็น "์NAKANO" เลยแนะนำทางไปอีกทีหนึ่ง
ซึ่งผมก็แกล้งบอกว่า "เข้าใจ" ไปก่อน แต่เริ่มรู้สึกแปลกๆแล้ว
ก่อนไปต่อแวะซื้อ Tokyo Subway Ticket ซึ่งเดินออกมาจากศุลกากรก็เห็นเลย
ส่วน ที่แลก JR EAST PASS อยู่ติดกับทางไปขึ้น Tokyo Monorail
ถึง "สถานีโตเกียว" ก็ไปแลก "ตั๋วชินคันเซ็น" ไป "NAGANO" แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่บอกให้ไปที่ชานชาลา 2 (ถ้าจำไม่ผิด)
ผมก็เอะใจ เลยเปิดที่แคปหน้าจอเอาไว้ดู
GA มันออกเสียงเป็นเสียงคล้ายทั้ง "ก" กับ "ง" ถ้าออกเสียง "ก" ก็ถูกเข้าใจผิดได้ว่าไป "NAKANO"
ต้องวิ่งกลับไปที่แลกตั๋วใหม่ แล้วเปิดที่แคปหน้าจอไว้ให้ดู ถึงได้ตั๋วมา
แต่เกือบตกรถไฟ เพราะ ไปห้องน้ำแล้วหลง แถมยังสื่อสารกับ รปภ. ไม่รู้เรื่อง เริ่มเสียความมั่นใจแล้ว ยังดีที่อ่านภาษากาย รปภ. ออกเลยเอาตัวรอดมาได้
ถึง NAGANO ตอน 3 ทุ่ม เมืองเงียบสงบมาก
แทบจะไม่เห็นคนเลย
โรงแรมที่พัก คือ Hotel Sunroute Nagano Higashiguchi มีเน็ตให้ใช้นะ ผมไว้ใช้เล่นเกม
เช็คอินเสร็จ ไปซื้อข้าวกินที่ เซเว่น ของญี่ปุ่น ก็ยังคงฟัง "พนักงานคิดเงิน" ไม่ออกอยู่ดี เริ่มจิตตกมากขึ้นแล้ว (มัวแต่มองรอบๆร้าน)
ข้าวหมูทอดที่อุ่นไมโครเวฟ มันจะอร่อยได้อย่างไร
สรุป "จิตตก" ว่าทำไมตัวเอง "กระจอก" อย่างนี้ จนนอนไม่หลับ ว่าจะหลับก็ตี 3 ตี 4
เอาสมาชิก S.O.S. มาถ่ายรูป
ภาพของห้องพักถ่ายมาให้ดู ราคาแล้วแต่ช่วงเวลา รอบนี้ คืนแรก 5,600 เยน คืนสอง 6,300 เยน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้