เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและเลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) เปิดเผยถึงกรณีที่นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนปฏิเสธข่าวอัยการมีมติสั่งฟ้องแกนนำ กปปส. คดีกบฏ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบเอกสาร ว่า ตนจะยื่นขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรียกความเห็นหรือคำสั่งของอัยการสูงสุดที่เกี่ยวกับคดีดูว่า ที่อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ซึ่งคณะทำงานอัยการในปี 2557 มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 51 คน แล้ว เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม2557
กระทั่งอัยการสูงสุดคนต่อๆ มา มีคำสั่งยกเลิกคณะทำงานอัยการที่ตั้งขึ้น แล้วสั่งให้คืนเรื่องไปสำนักงานอัยการคดีพิเศษอีก เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560 เพื่อดำเนินการตามหน้าที่ต่อไป ตนอยากบอกก่อนว่าหนังสือสำคัญนี้เป็นพยานหลักฐานที่มีอยู่ หน้าที่ของสำนักงานคดีพิเศษจึงต้องเร่งนำตัวผู้ต้องหา กปปส. ส่งฟ้องศาลโดยเร็ว หรือหากจะอ้างว่าจะกลับความเห็นหรือคำสั่งเดิมที่อธิบดีฯ สั่งฟ้องแล้ว ก็ต้องให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาสั่ง ทั้งนี้ ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ.2547 ข้อ 6 ก็ได้ระบุไว้
นายวิญญัติ กล่าวต่อไปว่า คณะทำงานที่ตั้งขึ้นใหม่ โดยอธิบดีอัยการฯ ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งเป็นวันที่ตนไปยื่นกล่าวโทษอัยการสูงสุดต่อ ป.ป.ช. เป็นเวลาหนึ่งเดือนหลังจากอัยการสูงสุดมีคำสั่งให้คืนสำนวนกลับสำนักงานอัยการคดีพิเศษ ซึ่งกระบวนการที่เข้าข่ายประวิงเรื่องนี้ หากพบมีบุคคลใดจะพยายามตัดบางข้อหาที่ร้ายแรงออก เพื่อเอื้อประโยชน์หรือช่วยมิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง ก็จะเข้าข่ายมีความผิดตามระเบียบและกฎหมาย ดังนั้น ที่ตนได้ยื่นหนังสือเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ให้ดำเนินการส่งฟ้องผู้ต้องหาภายใน 30 วัน บัดนี้จะครบกำหนดระยะเวลาแล้ว คดีนี้ล่าช้ามากว่า 3 ปี 6 เดือนแล้ว หรือจะต้องรอให้คดีที่ฟ้องไปแล้ว 4 ราย ที่จะเสร็จประมาณเดือน กุมภาพันธ์2561 ก่อนหรือไม่ ตนถือเป็นเรื่องที่รับไม่ได้
“ผมจึงจะไปแจ้งเตือนท่านและคณะทำงาน หากยังมีบุคคลใดจะฝ่าฝืนคำสั่งเดิมของอดีตอธิบดีอัยการคดีพิเศษที่สั่งฟ้องข้อหากบฏ – ก่อการร้าย รวม 8 ข้อหา กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณกับพวกไว้แล้ว ผมก็ขอยืนยันเช่นกันว่าจะดำเนินการทางกฎหมายและกล่าวโทษดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดด้วย จึงขอแจ้งว่าในวันอังคารที่ 12 ธันวาคม 2560 เวลา 13.30 น. ผมจะเดินทางไปยื่นหนังสือแจ้งเตือนต่ออธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก อีกครั้ง” นายวิญญัติ กล่าว
JJNY : 'วิญญัติ' ขอพบอัยการคดีพิเศษ 12 ธ.ค. จี้เร่งฟ้องคดีกบฏ กปปส. ลั่นใครตัดบางข้อหาออก จะดำเนินคดีถึงที่สุด
กระทั่งอัยการสูงสุดคนต่อๆ มา มีคำสั่งยกเลิกคณะทำงานอัยการที่ตั้งขึ้น แล้วสั่งให้คืนเรื่องไปสำนักงานอัยการคดีพิเศษอีก เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560 เพื่อดำเนินการตามหน้าที่ต่อไป ตนอยากบอกก่อนว่าหนังสือสำคัญนี้เป็นพยานหลักฐานที่มีอยู่ หน้าที่ของสำนักงานคดีพิเศษจึงต้องเร่งนำตัวผู้ต้องหา กปปส. ส่งฟ้องศาลโดยเร็ว หรือหากจะอ้างว่าจะกลับความเห็นหรือคำสั่งเดิมที่อธิบดีฯ สั่งฟ้องแล้ว ก็ต้องให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาสั่ง ทั้งนี้ ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ.2547 ข้อ 6 ก็ได้ระบุไว้
นายวิญญัติ กล่าวต่อไปว่า คณะทำงานที่ตั้งขึ้นใหม่ โดยอธิบดีอัยการฯ ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งเป็นวันที่ตนไปยื่นกล่าวโทษอัยการสูงสุดต่อ ป.ป.ช. เป็นเวลาหนึ่งเดือนหลังจากอัยการสูงสุดมีคำสั่งให้คืนสำนวนกลับสำนักงานอัยการคดีพิเศษ ซึ่งกระบวนการที่เข้าข่ายประวิงเรื่องนี้ หากพบมีบุคคลใดจะพยายามตัดบางข้อหาที่ร้ายแรงออก เพื่อเอื้อประโยชน์หรือช่วยมิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง ก็จะเข้าข่ายมีความผิดตามระเบียบและกฎหมาย ดังนั้น ที่ตนได้ยื่นหนังสือเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 ให้ดำเนินการส่งฟ้องผู้ต้องหาภายใน 30 วัน บัดนี้จะครบกำหนดระยะเวลาแล้ว คดีนี้ล่าช้ามากว่า 3 ปี 6 เดือนแล้ว หรือจะต้องรอให้คดีที่ฟ้องไปแล้ว 4 ราย ที่จะเสร็จประมาณเดือน กุมภาพันธ์2561 ก่อนหรือไม่ ตนถือเป็นเรื่องที่รับไม่ได้
“ผมจึงจะไปแจ้งเตือนท่านและคณะทำงาน หากยังมีบุคคลใดจะฝ่าฝืนคำสั่งเดิมของอดีตอธิบดีอัยการคดีพิเศษที่สั่งฟ้องข้อหากบฏ – ก่อการร้าย รวม 8 ข้อหา กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณกับพวกไว้แล้ว ผมก็ขอยืนยันเช่นกันว่าจะดำเนินการทางกฎหมายและกล่าวโทษดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดด้วย จึงขอแจ้งว่าในวันอังคารที่ 12 ธันวาคม 2560 เวลา 13.30 น. ผมจะเดินทางไปยื่นหนังสือแจ้งเตือนต่ออธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก อีกครั้ง” นายวิญญัติ กล่าว