สวัสดีค่ะ

        ดิฉันเป็นคุณแม่ลูก 3 ไม่เคยให้ลูกกินนมแม่เลย ลูก 2 คนแรกแข็งแรงดี จนกระทั่ง ลูกสาวคนสุดท้องนี้อายุ 3 เดือนกับ 19 วัน เป็นโรคมีรูรั่วที่ผนังหัวใจห้องล่าง รูไม่ใหญ่มากขนาดประมาณ 2 มิลค่ะ แต่ประเด็นคือ ดิฉันค่อนข้างซีเรียสกับการดูแลลูกมาก ดิฉันจึงให้ลูกดื่มนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด 100% จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว สามีต้องไปฝึกทหารเกณฑ์ และคุณย่าทวดจึงมาอยู่ด้วย เหมือนมาช่วยดูแลลูกด้วย แกก็จะพูดเสมอว่าให้ป้อนน้ำให้ลูกได้แล้ว ส่วนตัวดิฉันเคยปรึกษาคุณหมอ และเคยอ่านตามเพจต่างๆ เด็กที่ทานนมแม่ไม่จำเป็นต้องทานน้ำเปล่าอีกเพราะในนมแม่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลักอยู่แล้ว ดิฉันจึงไม่ยอมให้ลูกทานน้ำเลย
        แต่มาช่วงหลังๆนี้ เวลาดิฉันต้องทำธุระส่วนตัว เช่น เก็บของ เตรียมที่นอน อาบน้ำ ดิฉันก็ต้องฝากลูกไว้กับย่าทวด ดิฉันเห็นคุณย่าทวดแอบเอาช้อนชา ตักน้ำต้มสุกให้ลูกดิฉันทาน ในช่วงแรกพอดิฉันเห็น ดิฉันก็จะรีบไปอุ้มลูกคืนแล้วก็จะหาข้ออ้างตลอด บอกแกว่าหมอบอกว่ากินนมแม่ไม่ต้องกินน้ำก็ได้ นมแม่ก็มีน้ำอยู่เยอะแล้ว แต่แกก็ไม่ฟัง แกก็บอกค่ะว่าไม่ต้องไปเชื่อหมอมาก แกเลี้ยงหลานมาหลายคนแล้ว ก็ให้กินน้ำมาตั้งแต่เกิด ดิฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ เมื่อไหร่ที่เห็นแกพยายามป้อนน้ำ ดิฉันจะรีบไปอุ้มลูกกลับมาทุกครั้ง จนบางทีดิฉันก็กลัวว่าแกจะน้อยใจ ดิฉันจึงอยากถามว่าการกินน้ำของเด็กในช่วงวัยนี้มีความจำเป็นมั้ยคะ แล้วดิฉันควรรับมืออย่างไรกับปัญหานี้ดีคะ

ขอบคุณค่ะ

ปล.เป็นครั้งแรกของการตั้งกระทู้ หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ดิฉันทุกข์ใจจริงๆค่ะ ไม่รู้จะไปปรึกษาใครดี สมัครสมาชิกมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะค่ะ