เราเจอมาตลอดนะคับการที่นายทุนขนาดใหญ่ใช้วิธีต่างๆทำลายกิจการขนาดเล็กยกตัวอย่างนะ
เคสที่1 กลุ่มทุนยิวกับร้านรองเท้าเยอรมัน
เราก็รู้กันอยู่นะว่ากลุ่นทุนยิวนี้เป็นอะไรที่ขนาดยักษ์มากเพราะผูกขาดธุรกิจธนาคารมานาน พวกกลุ่นทุนยิวใหัคนยิวเปิดร้านรองเท้าแข่งกับชาวเยอรมันเจ้าของประเทศ เปิดเยอะๆแล้วดั้มราคาสุดๆเข้าขั้นขาดทุน ชนิดร้านรองเท้าเยอรมันสู้ไม่ไหว สุดท้ายก็เจ๊งไปแล้วคราวนี้กลุ่มทุนยิวก็ไล่ซื้อกิจการร้านรองเท้าทั้งหมด แล้วผูกขาด คราวนี้ขึ้นราคาคืนทุนรัวๆ (แล้วร้านพวกนี้ก็จ้างแต่ยิวด้วยนะไม่จ้างชาวเยอรมัน ชาวเยอรมันก็ตกงานกันไป)
เคสนี้จุดจบคือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ุชาวยิวในww2นะครับ
เคสที่2 ยากุซ่ากับค่ายเกมมืด
ยากุซ่าเป็นกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายที่มีอำนาจมากในญี่ปุ่น พวกนี้จริงๆก็อยากกลับมาทำธุรกิจบนดินนะ แล้วจะทำยังไง ก็เอาเงินไปยัดให้พวกสมาคมแม่บ้านออกมาประท้วงต่อต้านค่ายเกมมืดไงจนค่ายเกมมืดอยู่ไม่ได้แล้วก็เจ๊งไป แล้วกลุ่มทุนยากุซ่าก็ไล่ซื้อกิจการกัน
เคสที่3 เคส เฟรน
kemono friends เคยเป็นเกมมาก่อนแต่ยอดขายต่ำมากจนเจ๊งไป แต่คาโดคาว่าที่เป็นเจ้าพ่อธุรกิจสื่อในญี่ปุนมีลิขสิทธิอยู่ ตอนแรกกะจะทำอนิเมะแต่เกมมันเจ๊งไปก่อน แล้วมันติดสัญญาวาต้องทำเมะอยู่ เจ้าตัวไม่อยากขาดทุนฟรีๆ จึงโยนงานไปให้สตูดิโอเล็กๆแห่งหนึ่งบอกให้เอาไปทำยังไงก็ได้แต่ออกตังเองนะเฟ้ย คือกะทุบสตูนี้ให้เละด้วยเพราะทำยังไงมันก็เจ๊งแน่นอน ปรากฎว่ามันกลายเป็นอนิเมะยอดเยี่ยมแห่งปีซะงั้น(เมะต้นทุนต่ำคนทำแค่10คนนะ) ตอนนี้ก็ฟ้องร้องกันสนุกคับ เพราะคาโดคาว่าหน้าเสียมากทุบแล้วไม่ตาย
เคสที่4 เคสฝักบัวคู่ขาจากหนังเรื่องHorrible boss2
อันนี้มากจากหนังนะแต่มันก็แสบจริงๆ พวกตัวเอกไปเสนอขายสินค้าให้กับนายทุนรายใหญ่ รายทุนรายใหญ่ก็สั่งซื้อ(ด้วยสัญญาปากเปล่า)แสนชุดแต่พอครบกำหนดส่งสินค้ามันไม่ยอมจ่ายเงินดื้อๆ เพื่อหวังให้บริษัทตัวเอกเจ๊งจะได้เข้าซื้อกิจการถูกๆ ทำให้พวกตัวเอกขาดทุนจากการไปกู้เงินมาทำธุรกิจรอบนั้น สุดท้ายก็เจ๊ง
เคสที่5 EA Game กับการเข้าครอบงำค่ายเกม
เคสนี้ก็คล้ายๆกับเคสเฟรนนะคือ EAเป็นบริษัทนายทุนใหญ่ ใช้วิธีมอบงานให้กับค่ายเล็กทำด้วยเงื่อนไขต่างๆสเปคต่างๆจนเกมภาคใหม่ออกมากระแสตอบรับแย่ยอดขายแย่จน ค่ายเล็กเจ๊ง แล้วเข้าซื้อกิจการแล้วสั่งปิดสตูไป เพื่อหวังดึงคนเก่งเข้าตัวบ.แม่EA
จริงๆมันมีอีกหลายเคสนะคับ เช่นเคสว่าทำไมถึงมี7เปิดติดกัน หรือเคสพวกร้านไอครีมอย่างฮากินดาสหรือเบนแอนเจอร์รี่โดนเข้าซื้อกิจการ
แบบตัวFounderเองทำอะไรไม่ได้เลย ไม่นับพวกที่โดนซื้อกิจการผ่านหุ้นอีกนะ
อย่างเคสแรกเคสยิวนี้หลายๆประเทศเลยต้องออกมาตรการทางกฎหมายเลยที่เดียวคับให้กิจการของประเทศตกไปอยู่ในมือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างเดียว ไม่งั้นจุดจบมันจะกลายเป็นการนองเลือดแน่นอน
จริงๆก็มีหลายเคสนะแต่เอาที่ผมรู้อย่างเดียวรู้ผิดรู้ถูกก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะเราก็ไม่ใช้ผู้เชี่ยวชาญแนวนี้ แต่เราก็ไม่ชอบจริงๆเลยหละ มันเป็นความไร้มนุษยธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณในการทำธุรกิจ มันเป็นการเอาเปรียบคนทุนน้อยเกินไปแต่มันก็ชอบใช้กันอยู่จนหลายประเทศ ธุรกิจทุกอย่างอยู่แต่ในมือคนไม่กี่คนเช่นกลุ่มแชร์โปในเกาหลีเป็นต้น ประชาชนก็กลายเป็นแค่ทาศของกลุ่มนนายทุน เพราะไม่สามารถลืมตาอ้าปากหรือแข่งขันอะไรกันได้เลย
อยากรู้ว่าการทำลายธุรกิจรายเล็กของกลุ่มทุนขนาดใหญ่มีอะไรบ้างและมีวิธีจัดการยังไงบ้าง
เคสที่1 กลุ่มทุนยิวกับร้านรองเท้าเยอรมัน
เราก็รู้กันอยู่นะว่ากลุ่นทุนยิวนี้เป็นอะไรที่ขนาดยักษ์มากเพราะผูกขาดธุรกิจธนาคารมานาน พวกกลุ่นทุนยิวใหัคนยิวเปิดร้านรองเท้าแข่งกับชาวเยอรมันเจ้าของประเทศ เปิดเยอะๆแล้วดั้มราคาสุดๆเข้าขั้นขาดทุน ชนิดร้านรองเท้าเยอรมันสู้ไม่ไหว สุดท้ายก็เจ๊งไปแล้วคราวนี้กลุ่มทุนยิวก็ไล่ซื้อกิจการร้านรองเท้าทั้งหมด แล้วผูกขาด คราวนี้ขึ้นราคาคืนทุนรัวๆ (แล้วร้านพวกนี้ก็จ้างแต่ยิวด้วยนะไม่จ้างชาวเยอรมัน ชาวเยอรมันก็ตกงานกันไป)
เคสนี้จุดจบคือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ุชาวยิวในww2นะครับ
เคสที่2 ยากุซ่ากับค่ายเกมมืด
ยากุซ่าเป็นกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายที่มีอำนาจมากในญี่ปุ่น พวกนี้จริงๆก็อยากกลับมาทำธุรกิจบนดินนะ แล้วจะทำยังไง ก็เอาเงินไปยัดให้พวกสมาคมแม่บ้านออกมาประท้วงต่อต้านค่ายเกมมืดไงจนค่ายเกมมืดอยู่ไม่ได้แล้วก็เจ๊งไป แล้วกลุ่มทุนยากุซ่าก็ไล่ซื้อกิจการกัน
เคสที่3 เคส เฟรน
kemono friends เคยเป็นเกมมาก่อนแต่ยอดขายต่ำมากจนเจ๊งไป แต่คาโดคาว่าที่เป็นเจ้าพ่อธุรกิจสื่อในญี่ปุนมีลิขสิทธิอยู่ ตอนแรกกะจะทำอนิเมะแต่เกมมันเจ๊งไปก่อน แล้วมันติดสัญญาวาต้องทำเมะอยู่ เจ้าตัวไม่อยากขาดทุนฟรีๆ จึงโยนงานไปให้สตูดิโอเล็กๆแห่งหนึ่งบอกให้เอาไปทำยังไงก็ได้แต่ออกตังเองนะเฟ้ย คือกะทุบสตูนี้ให้เละด้วยเพราะทำยังไงมันก็เจ๊งแน่นอน ปรากฎว่ามันกลายเป็นอนิเมะยอดเยี่ยมแห่งปีซะงั้น(เมะต้นทุนต่ำคนทำแค่10คนนะ) ตอนนี้ก็ฟ้องร้องกันสนุกคับ เพราะคาโดคาว่าหน้าเสียมากทุบแล้วไม่ตาย
เคสที่4 เคสฝักบัวคู่ขาจากหนังเรื่องHorrible boss2
อันนี้มากจากหนังนะแต่มันก็แสบจริงๆ พวกตัวเอกไปเสนอขายสินค้าให้กับนายทุนรายใหญ่ รายทุนรายใหญ่ก็สั่งซื้อ(ด้วยสัญญาปากเปล่า)แสนชุดแต่พอครบกำหนดส่งสินค้ามันไม่ยอมจ่ายเงินดื้อๆ เพื่อหวังให้บริษัทตัวเอกเจ๊งจะได้เข้าซื้อกิจการถูกๆ ทำให้พวกตัวเอกขาดทุนจากการไปกู้เงินมาทำธุรกิจรอบนั้น สุดท้ายก็เจ๊ง
เคสที่5 EA Game กับการเข้าครอบงำค่ายเกม
เคสนี้ก็คล้ายๆกับเคสเฟรนนะคือ EAเป็นบริษัทนายทุนใหญ่ ใช้วิธีมอบงานให้กับค่ายเล็กทำด้วยเงื่อนไขต่างๆสเปคต่างๆจนเกมภาคใหม่ออกมากระแสตอบรับแย่ยอดขายแย่จน ค่ายเล็กเจ๊ง แล้วเข้าซื้อกิจการแล้วสั่งปิดสตูไป เพื่อหวังดึงคนเก่งเข้าตัวบ.แม่EA
จริงๆมันมีอีกหลายเคสนะคับ เช่นเคสว่าทำไมถึงมี7เปิดติดกัน หรือเคสพวกร้านไอครีมอย่างฮากินดาสหรือเบนแอนเจอร์รี่โดนเข้าซื้อกิจการ
แบบตัวFounderเองทำอะไรไม่ได้เลย ไม่นับพวกที่โดนซื้อกิจการผ่านหุ้นอีกนะ
อย่างเคสแรกเคสยิวนี้หลายๆประเทศเลยต้องออกมาตรการทางกฎหมายเลยที่เดียวคับให้กิจการของประเทศตกไปอยู่ในมือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งอย่างเดียว ไม่งั้นจุดจบมันจะกลายเป็นการนองเลือดแน่นอน
จริงๆก็มีหลายเคสนะแต่เอาที่ผมรู้อย่างเดียวรู้ผิดรู้ถูกก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะเราก็ไม่ใช้ผู้เชี่ยวชาญแนวนี้ แต่เราก็ไม่ชอบจริงๆเลยหละ มันเป็นความไร้มนุษยธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณในการทำธุรกิจ มันเป็นการเอาเปรียบคนทุนน้อยเกินไปแต่มันก็ชอบใช้กันอยู่จนหลายประเทศ ธุรกิจทุกอย่างอยู่แต่ในมือคนไม่กี่คนเช่นกลุ่มแชร์โปในเกาหลีเป็นต้น ประชาชนก็กลายเป็นแค่ทาศของกลุ่มนนายทุน เพราะไม่สามารถลืมตาอ้าปากหรือแข่งขันอะไรกันได้เลย