ภาคต่อจากกระทู้นี้ค่า
https://ppantip.com/topic/37146125 ก่อนอื่นเลยต้องขออภัยผู้อ่านที่ลงช้า ไม่ต่อเนื่องT/\T พอดีเจ้าของกระทู้เพิ่งสอบเสร็จค่า ไม่ให้เสียเวลา มาต่อกันเลยละกันเนาะ
*อย่างที่บอกนะคะ ส่วนมากเน้นรูปเน้อ ผิดพลาดตรงไหนก็ไม่ว่ากันน้า มือใหม่หัดรีวิวค่า
บรรยากาศบนดอยอินทนนท์ประมาณนี้ค่า อุณหภูมิตอนเราไปอยู่ที่ 11องศา
เพื่อนเรานี่แบบอารมณ์ประมาณอยู่เกาหลีเลย><
ระหว่างทางลงนะคะ ก็ได้มีโอกาสแวะพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริค่ะ
โดยพระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อ ปี พ.ศ. 2530 และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อ พ.ศ. 2535 พระมหาธาตุทั้ง 2 องค์นี้
มีโอกาสมาแล้วก็อย่าลืมไหว้พระนะคะ
ซึ่งที่นี่มีสวนดอกไม้หลากชนิดเลย สวยงามมากๆ ส่วนจุดชมวิวนะคะ มีสองฝั่ง แล้วแต่สภาพอากาศในตอนนั้นด้วยค่ะว่าฟ้าจะเปิดไหมหรือหมอกจะลงจัด ซึ่งเราเลือกมาถ่ายอีกฝั่งเลยทำให้วิวที่ได้ไม่สวยเท่าไหร่ เมฆค่อนข้างเยอะอดดูภูเขาเลยค่า ซึ่งถ้าวันไหนเมฆน้อยเราจะเห็นทะเลหมอแล้วก็ภาพภูเขาไกลสลับซับซ้อนไกลสุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ
ได้มุมถ่ายภาพสวยๆ มาเหมือนกัน
หลังจากนั้นเราก็ลงมาจากดอยแล้วตรงไปเชียงรายเลยค่า
ที่พักคืนที่สองของการเดินทางก็เหมือนคืนแรกค่ะ คือพักที่โรงแรมสมาคมYMCA เชียงรายค่ะ บรรยากาศของที่พักก็ตามภาพเลยค่า
(ภาพจากhttps://www.booking.com/hotel/th/ymca-international-chiang-rai.th.html)
เช้าวันถัดมาเราแวะไปที่วัดร่องขุ่นกันแต่เช้าค่ะ (ก่อนแปดโมง) ซึ่งปกติวัดร่องขุ่นจะเปิดตอน 8โมงเช้า
(ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) แต่ขนาดยังไม่เปิดนักท่องเที่ยวยังมารอกันเยอะเลย
ระหว่างรอเลยถือโอกาสถ่ายรูปบริเวณวัดรอบๆ ค่ะ
พอได้เวลาเปิด เราก็ได้เข้ากันแล้วค่ะ สำหรับวัดร่องขุ่น เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540
โดยท่านอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชั้นแนวหน้าของไทย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจาก3 สิ่งต่อไปนี้คือ
1. ชาติ : ด้วยความรักบ้านเมือง รักงานศิลป์ จึงหวังสร้างงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ไว้เป็นสมบัติของแผ่นดิน
2. ศาสนา : ธรรมะได้เปลี่ยนชีวิตของอาจารย์เฉลิมชัยจากจิตที่ร้อนกลายเป็นเย็น จึงขออุทิศตนให้แก่พระพุทธศาสนา
3. พระมหากษัตริย์ : จากการเข้าเฝ้าฯ ถวายงานพระองค์ท่านหลายครั้ง ทำให้อาจารย์เฉลิมชัยรักพระองค์ท่านมาก จากการพบเห็นพระอัจฉริยะภาพทางศิลปะและพระเมตตาของพระองค์ท่าน จนบังเกิดความตื้นตันและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ก่อนเข้านะคะ จะมีเจ้าหน้าที่ให้ถุงพลาสติกมาใส่รองเท้าก่อนเข้าไหว้พระ ในส่วนด้านใน งดการถ่ายภาพค่ะ
ทำให้เราไม่สามารถถ่ายได้ ถ้ามีโอกาสยังไงก็อย่าลืมแวะมานะคะ
สถานที่ต่อไปค่ะ คือดอยตุงนั่นเอง การเดินทางขึ้นดอยตุงนะคะ จะมีรถเมล์สีแดงนะ (ถ้าเราจำไม่ผิด) ทางขึ้นดอยค่อนข้างวนไปมาใครที่เมารถแนะนำให้ทานยาก่อนขึ้นนะคะ ไม่งั้นมีอ้วกแน่นอน
ที่แรกที่ดอยตุงนี่เลยค่า ''พระธาตุดอยตุง''
(จะมีในส่วนที่ผู้หญิงอย่างเราไม่สามารถเข้าไปไหว้ได้ค่ะ แต่ให้ผู้ชายเข้าไปไหว้ได้ เรากับเพื่อนอีกคนเลยไหว้ด้านนอกแทนค่ะ หลังจากไหว้เสร็จก็แวะชมวิวเล็กน้อยค่ะ อากาศค่อนข้างเย็นแต่ไม่ถึงกับหนาวค่ะ
เราไม่ได้ไปในส่วนที่เป็นที่ประทับของสมเด็จย่า เรามาชมสวนแม่ฟ้าหลวงค่ะ
การเข้าชมพระตำหนักดอยตุง
เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 07.30 – 17.30 น. ค่าธรรมเนียมเข้าชมพระตำหนัก 70 บาท ชมสวนแม่ฟ้าหลวง 80 บาท หอพระราชประวัติ 30 บาท บัตรรวมเข้าชม ทั้งสามที่ 150 บาท
(อันนี้รูปพระตำหนักนะคะ ที่มา
https://travel.mthai.com/region/north/102171.html)
สวนแม่ฟ้าหลวงตั้งอยู่ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุง มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เป็นสวนดอกไม้ประดับนานาพรรณ มีดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกชัลเวีย พิทูเนีย บีโกเนีย กุหลาบ ดอกลำโพง ไม้มงคลต่างๆ นอกจากนั้นยังมีไม้ยืนต้นและซุ้มไม้เลื้อยอีกมากมายกว่า 70 ชนิด และยังมีรูปปั้นต่อเนื่อง ฝีมือปั้นต่อเนื่อง ฝีมือของคุณมีเซียม ยิปอินซอย มีศาลาชมวิวปละร้านจำหน่ายส้นค้าของที่ระลึก โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง สวนแม่ฟ้าหลวงสร้างโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อถวายสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนี และในบริเวณใกล้กับสวนแม่ฟ้าหลวงจะมีหอพระราชประวัติซึ่งจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับ พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
สวนแม่ฟ้าหลวงดอกไม้เยอะมาก สวยงามจริงๆ
มีชิงช้าสวรรค์ด้วย (ไม่แน่ใจว่าเรียกแบบนี้ไหม)
วันนี้ขอลงเท่านี้ก่อนนะคะ ใกล้ตีสองแล้วว TT ขอปรับไฟล์รูปบางรูปที่มีขนาดเกินก่อน พรุ่งนี้ตอนมืดๆ
จะลงทีเดียวค่าไม่ปล่อยดองอีกแล้ว (ไม่รู้ว่าจะมีคนมาอ่านมั้ย) ลงผิดพลาดอะไรยังไงขออภัยล่วงหน้านะคะ มือใหม่แต่(อยาก)หัดรีวิวค่า คืนนี้ฝันดีค่ะ
ปล.มาแก้ไขไฟล์รูปสองรอบค่ะ
(รีวิว) ทริปไปภาคเหนือ 4วัน3คืน แบบอึนๆ มึนๆกันไป (2)
*อย่างที่บอกนะคะ ส่วนมากเน้นรูปเน้อ ผิดพลาดตรงไหนก็ไม่ว่ากันน้า มือใหม่หัดรีวิวค่า
บรรยากาศบนดอยอินทนนท์ประมาณนี้ค่า อุณหภูมิตอนเราไปอยู่ที่ 11องศา
เพื่อนเรานี่แบบอารมณ์ประมาณอยู่เกาหลีเลย><
ระหว่างทางลงนะคะ ก็ได้มีโอกาสแวะพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริค่ะ
โดยพระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อ ปี พ.ศ. 2530 และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อ พ.ศ. 2535 พระมหาธาตุทั้ง 2 องค์นี้
มีโอกาสมาแล้วก็อย่าลืมไหว้พระนะคะ
ซึ่งที่นี่มีสวนดอกไม้หลากชนิดเลย สวยงามมากๆ ส่วนจุดชมวิวนะคะ มีสองฝั่ง แล้วแต่สภาพอากาศในตอนนั้นด้วยค่ะว่าฟ้าจะเปิดไหมหรือหมอกจะลงจัด ซึ่งเราเลือกมาถ่ายอีกฝั่งเลยทำให้วิวที่ได้ไม่สวยเท่าไหร่ เมฆค่อนข้างเยอะอดดูภูเขาเลยค่า ซึ่งถ้าวันไหนเมฆน้อยเราจะเห็นทะเลหมอแล้วก็ภาพภูเขาไกลสลับซับซ้อนไกลสุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ
ได้มุมถ่ายภาพสวยๆ มาเหมือนกัน
หลังจากนั้นเราก็ลงมาจากดอยแล้วตรงไปเชียงรายเลยค่า
ที่พักคืนที่สองของการเดินทางก็เหมือนคืนแรกค่ะ คือพักที่โรงแรมสมาคมYMCA เชียงรายค่ะ บรรยากาศของที่พักก็ตามภาพเลยค่า
(ภาพจากhttps://www.booking.com/hotel/th/ymca-international-chiang-rai.th.html)
เช้าวันถัดมาเราแวะไปที่วัดร่องขุ่นกันแต่เช้าค่ะ (ก่อนแปดโมง) ซึ่งปกติวัดร่องขุ่นจะเปิดตอน 8โมงเช้า
(ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) แต่ขนาดยังไม่เปิดนักท่องเที่ยวยังมารอกันเยอะเลย
ระหว่างรอเลยถือโอกาสถ่ายรูปบริเวณวัดรอบๆ ค่ะ
พอได้เวลาเปิด เราก็ได้เข้ากันแล้วค่ะ สำหรับวัดร่องขุ่น เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2540
โดยท่านอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชั้นแนวหน้าของไทย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างมาจาก3 สิ่งต่อไปนี้คือ
1. ชาติ : ด้วยความรักบ้านเมือง รักงานศิลป์ จึงหวังสร้างงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่ไว้เป็นสมบัติของแผ่นดิน
2. ศาสนา : ธรรมะได้เปลี่ยนชีวิตของอาจารย์เฉลิมชัยจากจิตที่ร้อนกลายเป็นเย็น จึงขออุทิศตนให้แก่พระพุทธศาสนา
3. พระมหากษัตริย์ : จากการเข้าเฝ้าฯ ถวายงานพระองค์ท่านหลายครั้ง ทำให้อาจารย์เฉลิมชัยรักพระองค์ท่านมาก จากการพบเห็นพระอัจฉริยะภาพทางศิลปะและพระเมตตาของพระองค์ท่าน จนบังเกิดความตื้นตันและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ก่อนเข้านะคะ จะมีเจ้าหน้าที่ให้ถุงพลาสติกมาใส่รองเท้าก่อนเข้าไหว้พระ ในส่วนด้านใน งดการถ่ายภาพค่ะ
ทำให้เราไม่สามารถถ่ายได้ ถ้ามีโอกาสยังไงก็อย่าลืมแวะมานะคะ
สถานที่ต่อไปค่ะ คือดอยตุงนั่นเอง การเดินทางขึ้นดอยตุงนะคะ จะมีรถเมล์สีแดงนะ (ถ้าเราจำไม่ผิด) ทางขึ้นดอยค่อนข้างวนไปมาใครที่เมารถแนะนำให้ทานยาก่อนขึ้นนะคะ ไม่งั้นมีอ้วกแน่นอน
ที่แรกที่ดอยตุงนี่เลยค่า ''พระธาตุดอยตุง''
(จะมีในส่วนที่ผู้หญิงอย่างเราไม่สามารถเข้าไปไหว้ได้ค่ะ แต่ให้ผู้ชายเข้าไปไหว้ได้ เรากับเพื่อนอีกคนเลยไหว้ด้านนอกแทนค่ะ หลังจากไหว้เสร็จก็แวะชมวิวเล็กน้อยค่ะ อากาศค่อนข้างเย็นแต่ไม่ถึงกับหนาวค่ะ
เราไม่ได้ไปในส่วนที่เป็นที่ประทับของสมเด็จย่า เรามาชมสวนแม่ฟ้าหลวงค่ะ
การเข้าชมพระตำหนักดอยตุง
เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 07.30 – 17.30 น. ค่าธรรมเนียมเข้าชมพระตำหนัก 70 บาท ชมสวนแม่ฟ้าหลวง 80 บาท หอพระราชประวัติ 30 บาท บัตรรวมเข้าชม ทั้งสามที่ 150 บาท
(อันนี้รูปพระตำหนักนะคะ ที่มา https://travel.mthai.com/region/north/102171.html)
สวนแม่ฟ้าหลวงตั้งอยู่ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุง มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เป็นสวนดอกไม้ประดับนานาพรรณ มีดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกชัลเวีย พิทูเนีย บีโกเนีย กุหลาบ ดอกลำโพง ไม้มงคลต่างๆ นอกจากนั้นยังมีไม้ยืนต้นและซุ้มไม้เลื้อยอีกมากมายกว่า 70 ชนิด และยังมีรูปปั้นต่อเนื่อง ฝีมือปั้นต่อเนื่อง ฝีมือของคุณมีเซียม ยิปอินซอย มีศาลาชมวิวปละร้านจำหน่ายส้นค้าของที่ระลึก โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง สวนแม่ฟ้าหลวงสร้างโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อถวายสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนี และในบริเวณใกล้กับสวนแม่ฟ้าหลวงจะมีหอพระราชประวัติซึ่งจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับ พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
สวนแม่ฟ้าหลวงดอกไม้เยอะมาก สวยงามจริงๆ
มีชิงช้าสวรรค์ด้วย (ไม่แน่ใจว่าเรียกแบบนี้ไหม)
วันนี้ขอลงเท่านี้ก่อนนะคะ ใกล้ตีสองแล้วว TT ขอปรับไฟล์รูปบางรูปที่มีขนาดเกินก่อน พรุ่งนี้ตอนมืดๆ
จะลงทีเดียวค่าไม่ปล่อยดองอีกแล้ว (ไม่รู้ว่าจะมีคนมาอ่านมั้ย) ลงผิดพลาดอะไรยังไงขออภัยล่วงหน้านะคะ มือใหม่แต่(อยาก)หัดรีวิวค่า คืนนี้ฝันดีค่ะ
ปล.มาแก้ไขไฟล์รูปสองรอบค่ะ