
“ไปตั้งหลายครั้งยังไม่เคยเห็นเลย” “ตอนเราไปทำไมไม่ได้แบบนี้” “ไม่เคยเห็นสวยแบบนี้บ้างเลย” และอีกหลายคอมเมนต์แนวนี้เด้งขึ้นมาเมื่อผมโพสต์รูปทะเลหมอกที่กิ่วแม่ปาน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาลงในเฟซบุ๊ก
ใช่ครับ ผมโชคดีมากที่ได้เห็นอลังการงานสร้างแห่งกิ่วแม่ปาน แต่ก็อยากจะบอกแหละว่ากว่าจะได้แบบนี้ ผมต้องกลับมาซ่อมเป็นรอบที่สี่เชียวนะเฟ้ย (ฮา...)
ทริปนี้เกิดขึ้นเนื่องจากปลายเดือนพฤศจิกายน คนข้างกายเธอลาหยุดได้สามวันสองคืน ตีตั๋วรถทัวร์ไปเชียงใหม่ทิ้งไว้แต่ยังไม่มีจุดหมายหรอก พอดีเห็นฟีดเฟซบุ๊กเด้งบอกว่าอินทนนท์อากาศหนาวแล้วนะ เลยตกลงกันว่าขอลองวัดดวงทะเลหมอกกิ่วแม่ปานอีกสักรอบแล้วกัน หลังผิดหวังมาตลอดกับสามครั้งแรก เจอทั้งแบบฟุ้งขาวโพลนและเปิดโล่งโจ้งไม่มีแววหมอกสักนิด
เป้าหมายทริปนี้มีเพียงอย่างเดียวและที่เดียวครับ ลงรถแล้วลุยกันเลย
(1)
ขึ้นดอยอินทนนท์ครั้งไหนผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตลอด ใช้บริการรถเช่าร้านประจำ Bikky สาขาอาเขต สถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ เที่ยวนี้เลือกฮอนด้า คลิก เพราะอินทนนท์ขึ้นไม่ยาก มัดเป้มัดเต็นท์ท้ายรถแล้วยังมีที่นั่งสบายกว่ารถเกียร์ธรรมดา

คราวนี้ไม่คิดจะเที่ยวที่ไหนมาก ออกจากอาเขตก็ดิ่งไปอินทนนท์ เส้นง่ายและสั้นที่สุดคือทางหลวง 108 ผ่านอำเภอหางดง สันป่าตอง ดอยหล่อ เข้าจอมทอง เลี้ยวขวาขึ้นเขา แต่ผมมีทางแนะนำนิดหน่อยก่อนเข้าเส้น ทล. 108 คือจากเชียงใหม่ให้ไปทางอุทยานหลวงราชพฤกษ์ และแยกต้นเก๋วน เพื่อต่อเข้า ถนน ชม. 3035 เลี่ยงเมืองหางดง-สันป่าตอง จนไปบรรจบกับ ทล.108 เมื่อพ้นตัวอำเภอสันป่าตองมาแล้ว ระยะทางมากกว่าแต่ถนนโล่งเพิ่งสร้างเสร็จไม่กี่ปี วิ่งสบายย่นเวลาได้เยอะ

ขี่เรื่อยๆ พักรถกินข้าว กินกาแฟ สักสามชั่วโมงก็ถึงด่านตรวจอุทยานฯ น้ำตกแม่กลาง ก่อนขึ้นสู่อินทนนท์ เสียค่าธรรมเนียมให้เรียบร้อย ผู้ใหญ่ 50 บาท มอเตอร์ไซค์ 20 บาท

จากนั้นยิงยาวขึ้นบ้านขุนกลางหาที่กางเต็นท์ (ตอนนี้ทำถนนอยู่สองสามช่วง ระวังและใจเย็นสักนิดนะครับ) แถวนี้มีลานกางเต็นท์เยอะอยู่ ชื่อดังหน่อยก็ ดอยชัวร์ญ่า กับชลธารวิว แล้วก็ยังมีของเอกชนอื่นๆ อีกสามสี่แห่ง แต่ขาอุทยานฯ อย่างผมไม่ต้องคิดอะไรมาก นอนที่ดงสน อช.ดอยอินทนนท์ ทุกครั้งนั่นแหละ
จะนอนที่ลานกางเต็นท์ดงสน เราต้องเข้าไปติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตรงที่ทำการอุทยานฯ ก่อนนะครับ จ่ายค่าธรรมเนียมค้างแรม 30 บาท ต่อคน ต่อวัน หากจะเช่าเต็นท์และเบาะรองนอนก็ต้องติดต่อตรงนี้ด้วย จากนั้นค่อยนำบัตรค่าธรรมเนียมไปยื่นที่ลานกางเต็นท์ซึ่งอยู่ห่างออกไปสักสี่ร้อยเมตร ส่วนการเช่าหมอน ผ้าห่ม เตาถ่าน ให้มาเช่าตรงลานกางเต็นท์ได้เลย
เลือกทำเลแล้วกางโลดครับ อากาศเย็นสบาย นักท่องเที่ยวประมาณหนึ่งแต่ไม่ถือว่าแออัดอะไร


วันนี้ก็นั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่ลานกางเต็นท์นั่นแหละ จนเย็นย่ำค่อยออกไปกินอาหารประจำดอย หมูกะทะนั่นไง เลือกร้านที่อยู่ติดกับดอยชัวร์ญ่า ชุดละ 400 บาท กินสองคนพุงกางเลย


ขากลับลานกางเต็นท์แวะเก็บภาพบ้านขุนกลางสักนิด ไฟจากแปลงดอกไม้ดูสวยดีเหมือนกัน ฉากหลังเป็นภูเขาและน้ำตกสิริภูมิ

[CR] “กิ่วแม่ปาน” ต้องครั้งที่สี่ถึงได้ขึ้นสวรรค์
“ไปตั้งหลายครั้งยังไม่เคยเห็นเลย” “ตอนเราไปทำไมไม่ได้แบบนี้” “ไม่เคยเห็นสวยแบบนี้บ้างเลย” และอีกหลายคอมเมนต์แนวนี้เด้งขึ้นมาเมื่อผมโพสต์รูปทะเลหมอกที่กิ่วแม่ปาน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาลงในเฟซบุ๊ก
ใช่ครับ ผมโชคดีมากที่ได้เห็นอลังการงานสร้างแห่งกิ่วแม่ปาน แต่ก็อยากจะบอกแหละว่ากว่าจะได้แบบนี้ ผมต้องกลับมาซ่อมเป็นรอบที่สี่เชียวนะเฟ้ย (ฮา...)
ทริปนี้เกิดขึ้นเนื่องจากปลายเดือนพฤศจิกายน คนข้างกายเธอลาหยุดได้สามวันสองคืน ตีตั๋วรถทัวร์ไปเชียงใหม่ทิ้งไว้แต่ยังไม่มีจุดหมายหรอก พอดีเห็นฟีดเฟซบุ๊กเด้งบอกว่าอินทนนท์อากาศหนาวแล้วนะ เลยตกลงกันว่าขอลองวัดดวงทะเลหมอกกิ่วแม่ปานอีกสักรอบแล้วกัน หลังผิดหวังมาตลอดกับสามครั้งแรก เจอทั้งแบบฟุ้งขาวโพลนและเปิดโล่งโจ้งไม่มีแววหมอกสักนิด
เป้าหมายทริปนี้มีเพียงอย่างเดียวและที่เดียวครับ ลงรถแล้วลุยกันเลย
ขึ้นดอยอินทนนท์ครั้งไหนผมก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตลอด ใช้บริการรถเช่าร้านประจำ Bikky สาขาอาเขต สถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ เที่ยวนี้เลือกฮอนด้า คลิก เพราะอินทนนท์ขึ้นไม่ยาก มัดเป้มัดเต็นท์ท้ายรถแล้วยังมีที่นั่งสบายกว่ารถเกียร์ธรรมดา
คราวนี้ไม่คิดจะเที่ยวที่ไหนมาก ออกจากอาเขตก็ดิ่งไปอินทนนท์ เส้นง่ายและสั้นที่สุดคือทางหลวง 108 ผ่านอำเภอหางดง สันป่าตอง ดอยหล่อ เข้าจอมทอง เลี้ยวขวาขึ้นเขา แต่ผมมีทางแนะนำนิดหน่อยก่อนเข้าเส้น ทล. 108 คือจากเชียงใหม่ให้ไปทางอุทยานหลวงราชพฤกษ์ และแยกต้นเก๋วน เพื่อต่อเข้า ถนน ชม. 3035 เลี่ยงเมืองหางดง-สันป่าตอง จนไปบรรจบกับ ทล.108 เมื่อพ้นตัวอำเภอสันป่าตองมาแล้ว ระยะทางมากกว่าแต่ถนนโล่งเพิ่งสร้างเสร็จไม่กี่ปี วิ่งสบายย่นเวลาได้เยอะ
ขี่เรื่อยๆ พักรถกินข้าว กินกาแฟ สักสามชั่วโมงก็ถึงด่านตรวจอุทยานฯ น้ำตกแม่กลาง ก่อนขึ้นสู่อินทนนท์ เสียค่าธรรมเนียมให้เรียบร้อย ผู้ใหญ่ 50 บาท มอเตอร์ไซค์ 20 บาท
จากนั้นยิงยาวขึ้นบ้านขุนกลางหาที่กางเต็นท์ (ตอนนี้ทำถนนอยู่สองสามช่วง ระวังและใจเย็นสักนิดนะครับ) แถวนี้มีลานกางเต็นท์เยอะอยู่ ชื่อดังหน่อยก็ ดอยชัวร์ญ่า กับชลธารวิว แล้วก็ยังมีของเอกชนอื่นๆ อีกสามสี่แห่ง แต่ขาอุทยานฯ อย่างผมไม่ต้องคิดอะไรมาก นอนที่ดงสน อช.ดอยอินทนนท์ ทุกครั้งนั่นแหละ
จะนอนที่ลานกางเต็นท์ดงสน เราต้องเข้าไปติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตรงที่ทำการอุทยานฯ ก่อนนะครับ จ่ายค่าธรรมเนียมค้างแรม 30 บาท ต่อคน ต่อวัน หากจะเช่าเต็นท์และเบาะรองนอนก็ต้องติดต่อตรงนี้ด้วย จากนั้นค่อยนำบัตรค่าธรรมเนียมไปยื่นที่ลานกางเต็นท์ซึ่งอยู่ห่างออกไปสักสี่ร้อยเมตร ส่วนการเช่าหมอน ผ้าห่ม เตาถ่าน ให้มาเช่าตรงลานกางเต็นท์ได้เลย
เลือกทำเลแล้วกางโลดครับ อากาศเย็นสบาย นักท่องเที่ยวประมาณหนึ่งแต่ไม่ถือว่าแออัดอะไร
วันนี้ก็นั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่ลานกางเต็นท์นั่นแหละ จนเย็นย่ำค่อยออกไปกินอาหารประจำดอย หมูกะทะนั่นไง เลือกร้านที่อยู่ติดกับดอยชัวร์ญ่า ชุดละ 400 บาท กินสองคนพุงกางเลย
ขากลับลานกางเต็นท์แวะเก็บภาพบ้านขุนกลางสักนิด ไฟจากแปลงดอกไม้ดูสวยดีเหมือนกัน ฉากหลังเป็นภูเขาและน้ำตกสิริภูมิ