9 ปีที่รอคอยของทีมเจลีก ลีกที่ด้อยกว่าเคลีกเกาหลีใต้ กว่าจะกู้หน้าตัวแทนจากญี่ปุ่นได้ ว่าวแชมป์เกือบทศวรรษกับถ้วยแชมป์เอเชีย
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่ากับภาพลวงตาที่แฟนบอลไทยกำลังเชิดชูมองว่าเจลีก เป็นลีกฟุตบอลที่ดูเหมือนจะดีที่สุดในเอเชีย แต่ตัวเลขสถิติไม่เคยหลอกใครจริงๆ กับประเด็นที่ว่า เจลีก คือลีกคุณภาพที่แข็งแกร่งที่สุดจริงหรือ
ตัวชี้วัดการประสบความสำเร็จได้ดีที่สุด คือ ถ้วยแชมป์นั่นเอง ซึ่งแล้วจะเอาอะไรมาวัดหล่ะว่าลีกไหนในเอเชียเป็นลีกที่แข็งแกร่งคุณภาพคับแก้วที่สุด ก็ต้องวัดกันที่ถ้วยแชมป์เอเอฟซีแชมป์เปี้ยนลีก หรือเปรียบเสมือนกับถ้วยยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกแห่งยุโรปนั่นเอง
ซึ่งเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อว่าเมื่อมองไปถึงสถิติย้อนหลัง กลับกลายเป็นทีมตัวแทนจากสโมสรเคลีกของเกาหลีใต้ที่ได้ถ้วยแชมป์ ACL ไปมากที่สุดในเอเชีย ได้แชมป์ไปถึง 11 สมัย ซึ่งมาเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนญี่ปุ่นได้แชมป์ถ้วย ACLไปเพียง 6 สมัย
และที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่งว่า การได้แชมป์ ACL ปีนี้ของอูราวะเรดไดม่อน ตัวแทนจากทีมเจลีกญี่ปุ่นนั้น เป็นการได้แชมป์ถ้วยเอเชียในรอบ 9 ปี หยุดสถิติว่าวแชมป์เกือบทศวรรษ นับจากปี 2008 ที่กัมบะโอซาก้าได้แชมป์ครั้งสุดท้ายแทบจะเรียกได้ว่า ดิ ลาส ซามูไร กันเลยทีเดียว
ซึ่งจะเห็นได้ว่าในรอบ 9 ปีที่ผ่านมานั้น ทีมเจลีกญี่ปุ่นไม่สามารถทะลุเข้าไปถึงรอบชิงได้เลย ซึ่งต่างจากทีมเคลีกเกาหลีใต้ได้เข้าถึงรอบชิงเกือบทุกปี ซึ่งมันบ่งบอกได้ว่าลีกการตลาดยอดเยี่ยมอย่างเจลีกยังคงด้อยกว่าเคลีกเกาหลีใต้อย่างเห็นได้ชัดในเรื่องของคุณภาพของเกมและความแข็งแกร่งของทีมเคลีกที่เหนือกว่า
ซึ่งจะเห็นได้ว่าการปะทะกันแต่ละครั้งในศึก ACL เมื่อทีมเจลีกกับเคลีกมาโคจรเจอกัน ทีมเคลีกจะมีภาษีเหนือกว่า ซึ่งเจลีกเป็นทีมระบบที่เน้นแทคติคทีม แต่เมื่อเจอทีมเคลีกที่เน้นพละกำลังและระบบทีมเข้าด้วยกัน จึงทำให้ทีมเจลีกค่อนข้างโดนบดขยี้ตลอดทั้งเกม
ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าเคลีกเป็นลีกฟุตบอลที่เน้นพละกำลังวิ่งสู้ฟัดสูงมากการเพรสซิ่งตลอดทั้งเกมความฟิตของนักเตะในเคลีกต้องเกิน 90 นาที จะเห็นได้ว่าทีมเจลีกพักหลังๆ เมื่อเจอทีมจากเคลีกมักจะเริ่มใช้ลูกเล่นตุกติกยั่วยุมากขึ้น เพราะพละกำลังสู้นักเตะจากเคลีกไม่ได้ จึงยอมเล่นแบบตุกติกในเกม
ซึ่งอูราวะนัดที่ผ่านมาที่ได้เจอกับทีมเจจูยูไนเต็ดของเกาหลีใต้ จะเห็นว่าเล่นบอลสไตล์ตุกติกยั่วยุมากขึ้น ผิดแปลกไปจากสไตล์การเล่นเป็นระบบแบบฉบับแบบญี่ปุ่นอย่างเห็นได้ชัด ได้มาซึ่งการเข้ารอบลีกจนถึงรอบสุดท้ายในปีนี้ได้
จะเห็นได้ว่าทีม เจลีกยอมลดศักดิ์ศรีเล่นแทคติกบอลรองกับทีมสโมสรเกาหลีใต้ เพราะเรื่องพละกำลังสู้ทีมจากเคลีกไม่ได้นั่นเอง ซึ่งนักเตะต่างชาติที่เคยค้าแข้งในเคลีก หรือแม้แต่นักเตะไทยตำนานตลอดกาลอย่างน้าตุ๊ก ปิยะพงษ์ ยังเคยให้สัมภาษณ์เสมอว่าเคลีกเป็นลีกที่ค่อนข้างหฤโหดฝีกหนัก การเล่นในเคลีกเป็นลีกที่ใช้พละกำลังสูงมาก
จะเห็นได้ว่านักเตะตัวท็อปของเกาหลีใต้ที่ไปเล่นในพรีเมียร์ลีกอังกฤษมักจะยึดตัวจริงทีมใหญ่ได้เสมอ เช่น ซอง เฮือง มิน และ พาค จี ซอง เพราะพวกเขาเหล่านั้นมีพละกำลังสไตล์เกาหลีซึ่งปรับตัวในลีกอังกฤษไม่ยากเพราะเป็นลีกที่ใช้พละกำลังวิ่งกันแบบวัวตายควายล้มเช่นเดียวกับเคลีกนั่นเอง
การได้แชมป์เอเชียของทีม เจลีกในปีนี้แทบจะปิดประเทศฉลอง แห่ถ้วยรอบจังหวัดไซตามะกันเลยทีเดียว
9 ปีที่รอคอยของทีมเจลีก ลีกที่ด้อยกว่าเคลีกเกาหลีใต้ กว่าจะกู้หน้าตัวแทนจากญี่ปุ่นได้ ว่าวแชมป์ ACL เกือบทศวรรษ
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่ากับภาพลวงตาที่แฟนบอลไทยกำลังเชิดชูมองว่าเจลีก เป็นลีกฟุตบอลที่ดูเหมือนจะดีที่สุดในเอเชีย แต่ตัวเลขสถิติไม่เคยหลอกใครจริงๆ กับประเด็นที่ว่า เจลีก คือลีกคุณภาพที่แข็งแกร่งที่สุดจริงหรือ
ตัวชี้วัดการประสบความสำเร็จได้ดีที่สุด คือ ถ้วยแชมป์นั่นเอง ซึ่งแล้วจะเอาอะไรมาวัดหล่ะว่าลีกไหนในเอเชียเป็นลีกที่แข็งแกร่งคุณภาพคับแก้วที่สุด ก็ต้องวัดกันที่ถ้วยแชมป์เอเอฟซีแชมป์เปี้ยนลีก หรือเปรียบเสมือนกับถ้วยยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกแห่งยุโรปนั่นเอง
ซึ่งเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อว่าเมื่อมองไปถึงสถิติย้อนหลัง กลับกลายเป็นทีมตัวแทนจากสโมสรเคลีกของเกาหลีใต้ที่ได้ถ้วยแชมป์ ACL ไปมากที่สุดในเอเชีย ได้แชมป์ไปถึง 11 สมัย ซึ่งมาเป็นอันดับหนึ่ง ส่วนญี่ปุ่นได้แชมป์ถ้วย ACLไปเพียง 6 สมัย
และที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่งว่า การได้แชมป์ ACL ปีนี้ของอูราวะเรดไดม่อน ตัวแทนจากทีมเจลีกญี่ปุ่นนั้น เป็นการได้แชมป์ถ้วยเอเชียในรอบ 9 ปี หยุดสถิติว่าวแชมป์เกือบทศวรรษ นับจากปี 2008 ที่กัมบะโอซาก้าได้แชมป์ครั้งสุดท้ายแทบจะเรียกได้ว่า ดิ ลาส ซามูไร กันเลยทีเดียว
ซึ่งจะเห็นได้ว่าในรอบ 9 ปีที่ผ่านมานั้น ทีมเจลีกญี่ปุ่นไม่สามารถทะลุเข้าไปถึงรอบชิงได้เลย ซึ่งต่างจากทีมเคลีกเกาหลีใต้ได้เข้าถึงรอบชิงเกือบทุกปี ซึ่งมันบ่งบอกได้ว่าลีกการตลาดยอดเยี่ยมอย่างเจลีกยังคงด้อยกว่าเคลีกเกาหลีใต้อย่างเห็นได้ชัดในเรื่องของคุณภาพของเกมและความแข็งแกร่งของทีมเคลีกที่เหนือกว่า
ซึ่งจะเห็นได้ว่าการปะทะกันแต่ละครั้งในศึก ACL เมื่อทีมเจลีกกับเคลีกมาโคจรเจอกัน ทีมเคลีกจะมีภาษีเหนือกว่า ซึ่งเจลีกเป็นทีมระบบที่เน้นแทคติคทีม แต่เมื่อเจอทีมเคลีกที่เน้นพละกำลังและระบบทีมเข้าด้วยกัน จึงทำให้ทีมเจลีกค่อนข้างโดนบดขยี้ตลอดทั้งเกม
ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าเคลีกเป็นลีกฟุตบอลที่เน้นพละกำลังวิ่งสู้ฟัดสูงมากการเพรสซิ่งตลอดทั้งเกมความฟิตของนักเตะในเคลีกต้องเกิน 90 นาที จะเห็นได้ว่าทีมเจลีกพักหลังๆ เมื่อเจอทีมจากเคลีกมักจะเริ่มใช้ลูกเล่นตุกติกยั่วยุมากขึ้น เพราะพละกำลังสู้นักเตะจากเคลีกไม่ได้ จึงยอมเล่นแบบตุกติกในเกม
ซึ่งอูราวะนัดที่ผ่านมาที่ได้เจอกับทีมเจจูยูไนเต็ดของเกาหลีใต้ จะเห็นว่าเล่นบอลสไตล์ตุกติกยั่วยุมากขึ้น ผิดแปลกไปจากสไตล์การเล่นเป็นระบบแบบฉบับแบบญี่ปุ่นอย่างเห็นได้ชัด ได้มาซึ่งการเข้ารอบลีกจนถึงรอบสุดท้ายในปีนี้ได้
จะเห็นได้ว่าทีม เจลีกยอมลดศักดิ์ศรีเล่นแทคติกบอลรองกับทีมสโมสรเกาหลีใต้ เพราะเรื่องพละกำลังสู้ทีมจากเคลีกไม่ได้นั่นเอง ซึ่งนักเตะต่างชาติที่เคยค้าแข้งในเคลีก หรือแม้แต่นักเตะไทยตำนานตลอดกาลอย่างน้าตุ๊ก ปิยะพงษ์ ยังเคยให้สัมภาษณ์เสมอว่าเคลีกเป็นลีกที่ค่อนข้างหฤโหดฝีกหนัก การเล่นในเคลีกเป็นลีกที่ใช้พละกำลังสูงมาก
จะเห็นได้ว่านักเตะตัวท็อปของเกาหลีใต้ที่ไปเล่นในพรีเมียร์ลีกอังกฤษมักจะยึดตัวจริงทีมใหญ่ได้เสมอ เช่น ซอง เฮือง มิน และ พาค จี ซอง เพราะพวกเขาเหล่านั้นมีพละกำลังสไตล์เกาหลีซึ่งปรับตัวในลีกอังกฤษไม่ยากเพราะเป็นลีกที่ใช้พละกำลังวิ่งกันแบบวัวตายควายล้มเช่นเดียวกับเคลีกนั่นเอง
การได้แชมป์เอเชียของทีม เจลีกในปีนี้แทบจะปิดประเทศฉลอง แห่ถ้วยรอบจังหวัดไซตามะกันเลยทีเดียว