จอห์น เลเจนด์ (John Legend) เป็นนักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงแนวอาร์แอนด์บีและโซลชาวอเมริกันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการ จากผู้อยู่เบื้องหลังให้กับศิลปินเพลงป๊อปและอาร์แอนด์บีชื่อดังมากมาย จอห์น เลเจนด์ ก้าวสู่ฐานะศิลปินเดี่ยวในปี 2004 กับอัลบั้ม “Get Lifted” พร้อมเพลงดังสร้างชื่ออย่าง “Ordinary People” นับจากนั้นแฟนเพลงทั่วโลกก็ตกหลุมรักน้ำเสียงนุ่มลึกเป็นเอกลักษณ์ เสียงเปียโนพลิ้วไหว และท่วงทำนองเพลงรักวาบหวามกินใจของ จอห์น เลเจนด์ ที่ผลิตงานเพลงคุณภาพออกมาแล้วทั้งหมด 5 ชุด กวาดรางวัลแกรมมี ออสการ์และลูกโลกทองคำมาแล้วนับสิบ และยังเป็นศิลปินที่มีชื่อใน Songwriters Hall of Fall หรือหอเกียรติยศนักประพันธ์เพลงอันทรงเกียรติอีกด้วย
งานแถลงข่าวเตรียมพบกับคอนเสิร์ต JOHN LEGEND ครั้งแรกในประเทศไทย
ผลงานชุดล่าสุดของ จอห์น เลเจนด์ คือ “Darkness and Light” ที่ออกมาเมื่อปี 2016 พร้อมเพลงฮิตอย่าง “Love Me Now” และ “Penthouse Floor” และเดือนมีนาคมนี้ คอเพลงอาร์แอนด์บีและโซลจะได้สัมผัสประสบการณ์ดนตรีชั้นยอดจากศิลปินคุณภาพระดับโลกอย่าง จอห์น เลเจนด์ ที่จะมาเปิดการแสดงสดเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกในเมืองไทย พร้อมกับฝีมือการเล่นเปียโนขั้นเทพ น้ำเสียงขยี้อารมณ์และเพลงฮิตมากมายอย่าง “So High”, “P.D.A”, “Stereo”, “Save Room”, “Everybody Knows”, “Green Light”, “All of Me” และอีกมากมายอย่างใกล้ชิด
พิธีกร พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร ขึ้นมากล่าวต้อนรับทักทักทายแขกทุกท่าน
คุณรัฐรงค์ ศรีเลิศ กรรมการบริหาร/บรรณาธิการบริษัท หนีกรุง คอนเน็ค จำกัด ขึ้นมากล่าวถึงการจัดคอนเสิร์ต JOHN LEGEND Darkness and Light Tour
• จอห์น เลเจนด์ มีชื่อจริงว่า จอห์น โรเจอร์ สตีเฟนส์ เป็นชาวเมืองสปริงฟีลด์ รัฐโอไฮโอและเริ่มร้องเพลงในคณะนักร้องประสานเสียงในโบสถ์ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ปัจจุบันอายุ 38 ปี
• ในขณะที่ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย มีคนแนะนำให้เขารู้จักกับ ลอริน ฮิล ซึ่งติดต่อให้ จอห์น เล่นเปียโนให้ในเพลง “Everything Is Everything” ที่ออกมาในปี 1998
• หลังจากเรียนจบ จอห์น เริ่มทำงานเบื้องหลังให้กับศิลปินอย่าง คานเย เวสต์, เจ-ซี, อลิเชีย คีย์ส และอีกมากมายในฐานะนักเปียโนและนักร้องสมทบ
• ในปี 2004 จอห์น ออกอัลบั้มแรก “Get Lifted” ที่ทะยานขึ้นชาร์ตบิลบอร์ด 200 ที่อันดับ 7 ในอเมริกา กับซิงเกิลฮิตเปิดตัว “Ordinary People” ที่มีแค่เสียงร้องของเขาและเปียโนเท่านั้น อัลบั้มนี้ได้รับรางวัลแกรมมีปี 2006 สาขาอัลบั้มอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม ส่วน จอห์น ได้รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมและรางวัลเสียงร้องเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยมสำหรับศิลปินชาย
• อัลบั้มเปิดตัวที่ได้รับเสียงวิจารณ์ชมเชยล้นหลามส่งให้ จอห์น ก้าวขึ้นมาเป็นนักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงแถวหน้าจากอเมริกาที่มีศิลปินดังระดับโลกมากมายจ่อคิวอยากร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะเป็น เซอร์จิโอ เมนเดส, แมรี เจ ไบลจ์, เดอะ แบล็ค อายด์ พีส์, เฟอร์กี้ และอีกมากมาย และยังได้เล่นคอนเสิร์ตอุ่นเครื่องให้กับแข่งชันซูเปอร์โบลเอ็กซ์แอล 2006 และคอนเสิร์ตช่วงพักครึ่ง 2006 เอ็นบีเอ ออลสตาร์ เกม อีกด้วย
• จอห์น ได้ชื่อที่ใช้ในการแสดงจาก เจ ไอวี นักร้อง กวี และนักพูดชื่อดังที่ชื่นชอบแนวดนตรีและเสียงร้องที่ให้ความรู้สึก “โอลด์สคูล” ของ จอห์น และตั้งนามสกุลใหม่ให้ว่า เลเจนด์
• จอห์น มีอัลบั้มออกมาอีก 4 ชุดคือ “Once Again” (2006), “Evolver” (2008), “Love In The Future” (2013) พร้อมซิงเกิลดังอย่าง “All of Me” ที่ขึ้นอันดับหนึ่งชาร์ตบิลบอร์ดฮอท 100
จอห์น และภรรยา คริสซี ทีเกน นางแบบสัญชาติอเมริกันลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์
• จอห์น แต่งงานกับ คริสซี ทีเกน นางแบบสัญชาติอเมริกันลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์เมื่อปี 2013 และเพลง “All of Me” ก็เป็นเพลงที่ จอห์น แต่งให้กับภรรยา
• อัลบั้มล่าสุด “Darkness and Light” ในปี 2016 ซึ่งเป็นช่วงที่ ลูน่า ซิโมน สตีเฟนส์ ลูกสาวคนแรกของทั้งคู่เกิดขึ้น เนื้อหาในอัลบั้มนี้จึงมีเรื่องราวชีวิตแต่งงาน การได้เป็นพ่อคนครั้งแรกและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตผ่านมุมมองของเขา แต่ยังเน้นเรื่องความรัก ความหวัง และการโอบอุ้มคนรอบข้างทั้งในยามสุขและทุกข์
• จอห์น ชิมลางงานแสดงครั้งแรกในบทบาท “คีธ” ผู้นำวงดนตรีแจ๊ส ใน “La La Land” ประกบ ไรอัน กอสลิ่ง แลเอ็มม่า สโตน สองนักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดัง
• ตลอดอาชีพนักดนตรีที่ผ่านมา จอห์น ได้รับรางวัลแกรมมีทั้งหมด 10 รางวัล และได้รับรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำหนึ่งรางวัลในปี 2015 ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก “Glory” จากภาพยนตร์เรื่อง “Selma” ล่าสุดเขายังได้รับรางวัลโทนีจากละครเวทีบรอดเวย์ “Jitney” ที่เขาร่วมทีมในฐานะหนึ่งในผู้สร้าง
• ในส่วนงานเพื่อสังคม จอห์น ก่อตั้งแคมเปญ #FREEAMERICA ขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในระบบราชทัณฑ์ของอเมริกา เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับนักโทษในสถานกักกัน (
http://letsfreeamerica.com/#About)
หนึ่ง จักรวาล นักเปียโนชื่อดัง
ตู่ ภพธร กับเพลงของ John Legend
ซึ่ง คุณรัฐรงค์ ศรีเลิศ แห่ง หนีกรุง คอนเน็ค อีเว้นท์ ออกาไนเซอร์ ผู้จัดคอนเสิร์ตชื่อดังมาแล้วอย่างมากมาย ได้สร้างปรากฏการณ์ทางดนตรีครั้งสำคัญ เอาใจแฟนเพลงอาร์แอนด์บี โซลและฮิปฮอป ได้นำสุดยอดศิลปินระดับโลกอย่าง John Legend นักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงมือรางวัลชาวอเมริกัน ในคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในเมืองไทยสมการรอคอยกว่าสิบปีของแฟน ๆ ชาวไทย ในวันที่ 23 มีนาคม 2561 ที่ไบเทคบางนา เพียงรอบเดียวเท่านั้น
ตู่ ภพธร และ ปนัดดา เรืองวุฒิ กับเพลงประกอบภาพยนต์ Beauty and the Beast
สัมภาษณ์ศิลปินรับเชิญ เกี่ยวกับงานเพลงของ John Legend
โดยจัดแถลงข่าวการมาเยือนในครั้งนี้ขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน ณ Emporium Gallery ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ชั้น M โดยได้นักร้อง นักแสดง และกลุ่มนักดนตรีชั้นนำของไทย เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยในงานยังได้รับเกียรติจากนักดนตรี และนักร้องชื่อดัง อาทิ หนึ่ง จักรวาล, ตู่ ภพธร และปนัดดา เรืองวุฒิ ร่วมโชว์เพลงสุดแสนประทับใจของศิลปินอาร์แอนด์บีและโซลคนดังอีกด้วย
ถ่ายภาพที่ระลึกร่วมกัน
ซ้าย : หนึ่ง จักรวาล ขวา : ปนัดดา เรืองวุฒิ
ซ้าย : รวิวรรณ จินดา ขวา : ตุ๊ก ชนกวนันท์
คอนเสิร์ต “John Legend Dark and Light Tour” จะมีขึ้นที่ไบเทค บางนา ในวันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561 เวลาสองทุ่มตรง บัตรราคา 2,500/ 4.500 และ 8,000 บาทเปิดจำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
“หนีกรุง คอนเน็ค” เอาใจคอเพลงอาร์แอนด์บีและโซล กับคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองไทยของ “จอห์น เลเจนด์”
จอห์น เลเจนด์ (John Legend) เป็นนักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงแนวอาร์แอนด์บีและโซลชาวอเมริกันที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการ จากผู้อยู่เบื้องหลังให้กับศิลปินเพลงป๊อปและอาร์แอนด์บีชื่อดังมากมาย จอห์น เลเจนด์ ก้าวสู่ฐานะศิลปินเดี่ยวในปี 2004 กับอัลบั้ม “Get Lifted” พร้อมเพลงดังสร้างชื่ออย่าง “Ordinary People” นับจากนั้นแฟนเพลงทั่วโลกก็ตกหลุมรักน้ำเสียงนุ่มลึกเป็นเอกลักษณ์ เสียงเปียโนพลิ้วไหว และท่วงทำนองเพลงรักวาบหวามกินใจของ จอห์น เลเจนด์ ที่ผลิตงานเพลงคุณภาพออกมาแล้วทั้งหมด 5 ชุด กวาดรางวัลแกรมมี ออสการ์และลูกโลกทองคำมาแล้วนับสิบ และยังเป็นศิลปินที่มีชื่อใน Songwriters Hall of Fall หรือหอเกียรติยศนักประพันธ์เพลงอันทรงเกียรติอีกด้วย
ผลงานชุดล่าสุดของ จอห์น เลเจนด์ คือ “Darkness and Light” ที่ออกมาเมื่อปี 2016 พร้อมเพลงฮิตอย่าง “Love Me Now” และ “Penthouse Floor” และเดือนมีนาคมนี้ คอเพลงอาร์แอนด์บีและโซลจะได้สัมผัสประสบการณ์ดนตรีชั้นยอดจากศิลปินคุณภาพระดับโลกอย่าง จอห์น เลเจนด์ ที่จะมาเปิดการแสดงสดเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกในเมืองไทย พร้อมกับฝีมือการเล่นเปียโนขั้นเทพ น้ำเสียงขยี้อารมณ์และเพลงฮิตมากมายอย่าง “So High”, “P.D.A”, “Stereo”, “Save Room”, “Everybody Knows”, “Green Light”, “All of Me” และอีกมากมายอย่างใกล้ชิด
• จอห์น เลเจนด์ มีชื่อจริงว่า จอห์น โรเจอร์ สตีเฟนส์ เป็นชาวเมืองสปริงฟีลด์ รัฐโอไฮโอและเริ่มร้องเพลงในคณะนักร้องประสานเสียงในโบสถ์ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ปัจจุบันอายุ 38 ปี
• ในขณะที่ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย มีคนแนะนำให้เขารู้จักกับ ลอริน ฮิล ซึ่งติดต่อให้ จอห์น เล่นเปียโนให้ในเพลง “Everything Is Everything” ที่ออกมาในปี 1998
• หลังจากเรียนจบ จอห์น เริ่มทำงานเบื้องหลังให้กับศิลปินอย่าง คานเย เวสต์, เจ-ซี, อลิเชีย คีย์ส และอีกมากมายในฐานะนักเปียโนและนักร้องสมทบ
• ในปี 2004 จอห์น ออกอัลบั้มแรก “Get Lifted” ที่ทะยานขึ้นชาร์ตบิลบอร์ด 200 ที่อันดับ 7 ในอเมริกา กับซิงเกิลฮิตเปิดตัว “Ordinary People” ที่มีแค่เสียงร้องของเขาและเปียโนเท่านั้น อัลบั้มนี้ได้รับรางวัลแกรมมีปี 2006 สาขาอัลบั้มอาร์แอนด์บียอดเยี่ยม ส่วน จอห์น ได้รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมและรางวัลเสียงร้องเพลงอาร์แอนด์บียอดเยี่ยมสำหรับศิลปินชาย
• อัลบั้มเปิดตัวที่ได้รับเสียงวิจารณ์ชมเชยล้นหลามส่งให้ จอห์น ก้าวขึ้นมาเป็นนักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงแถวหน้าจากอเมริกาที่มีศิลปินดังระดับโลกมากมายจ่อคิวอยากร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะเป็น เซอร์จิโอ เมนเดส, แมรี เจ ไบลจ์, เดอะ แบล็ค อายด์ พีส์, เฟอร์กี้ และอีกมากมาย และยังได้เล่นคอนเสิร์ตอุ่นเครื่องให้กับแข่งชันซูเปอร์โบลเอ็กซ์แอล 2006 และคอนเสิร์ตช่วงพักครึ่ง 2006 เอ็นบีเอ ออลสตาร์ เกม อีกด้วย
• จอห์น ได้ชื่อที่ใช้ในการแสดงจาก เจ ไอวี นักร้อง กวี และนักพูดชื่อดังที่ชื่นชอบแนวดนตรีและเสียงร้องที่ให้ความรู้สึก “โอลด์สคูล” ของ จอห์น และตั้งนามสกุลใหม่ให้ว่า เลเจนด์
• จอห์น มีอัลบั้มออกมาอีก 4 ชุดคือ “Once Again” (2006), “Evolver” (2008), “Love In The Future” (2013) พร้อมซิงเกิลดังอย่าง “All of Me” ที่ขึ้นอันดับหนึ่งชาร์ตบิลบอร์ดฮอท 100
• จอห์น แต่งงานกับ คริสซี ทีเกน นางแบบสัญชาติอเมริกันลูกครึ่งไทย-นอร์เวย์เมื่อปี 2013 และเพลง “All of Me” ก็เป็นเพลงที่ จอห์น แต่งให้กับภรรยา
• อัลบั้มล่าสุด “Darkness and Light” ในปี 2016 ซึ่งเป็นช่วงที่ ลูน่า ซิโมน สตีเฟนส์ ลูกสาวคนแรกของทั้งคู่เกิดขึ้น เนื้อหาในอัลบั้มนี้จึงมีเรื่องราวชีวิตแต่งงาน การได้เป็นพ่อคนครั้งแรกและความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตผ่านมุมมองของเขา แต่ยังเน้นเรื่องความรัก ความหวัง และการโอบอุ้มคนรอบข้างทั้งในยามสุขและทุกข์
• จอห์น ชิมลางงานแสดงครั้งแรกในบทบาท “คีธ” ผู้นำวงดนตรีแจ๊ส ใน “La La Land” ประกบ ไรอัน กอสลิ่ง แลเอ็มม่า สโตน สองนักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดัง
• ตลอดอาชีพนักดนตรีที่ผ่านมา จอห์น ได้รับรางวัลแกรมมีทั้งหมด 10 รางวัล และได้รับรางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำหนึ่งรางวัลในปี 2015 ในสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก “Glory” จากภาพยนตร์เรื่อง “Selma” ล่าสุดเขายังได้รับรางวัลโทนีจากละครเวทีบรอดเวย์ “Jitney” ที่เขาร่วมทีมในฐานะหนึ่งในผู้สร้าง
• ในส่วนงานเพื่อสังคม จอห์น ก่อตั้งแคมเปญ #FREEAMERICA ขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในระบบราชทัณฑ์ของอเมริกา เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับนักโทษในสถานกักกัน (http://letsfreeamerica.com/#About)
ซึ่ง คุณรัฐรงค์ ศรีเลิศ แห่ง หนีกรุง คอนเน็ค อีเว้นท์ ออกาไนเซอร์ ผู้จัดคอนเสิร์ตชื่อดังมาแล้วอย่างมากมาย ได้สร้างปรากฏการณ์ทางดนตรีครั้งสำคัญ เอาใจแฟนเพลงอาร์แอนด์บี โซลและฮิปฮอป ได้นำสุดยอดศิลปินระดับโลกอย่าง John Legend นักร้อง นักดนตรี และนักแต่งเพลงมือรางวัลชาวอเมริกัน ในคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในเมืองไทยสมการรอคอยกว่าสิบปีของแฟน ๆ ชาวไทย ในวันที่ 23 มีนาคม 2561 ที่ไบเทคบางนา เพียงรอบเดียวเท่านั้น
โดยจัดแถลงข่าวการมาเยือนในครั้งนี้ขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน ณ Emporium Gallery ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ชั้น M โดยได้นักร้อง นักแสดง และกลุ่มนักดนตรีชั้นนำของไทย เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยในงานยังได้รับเกียรติจากนักดนตรี และนักร้องชื่อดัง อาทิ หนึ่ง จักรวาล, ตู่ ภพธร และปนัดดา เรืองวุฒิ ร่วมโชว์เพลงสุดแสนประทับใจของศิลปินอาร์แอนด์บีและโซลคนดังอีกด้วย
คอนเสิร์ต “John Legend Dark and Light Tour” จะมีขึ้นที่ไบเทค บางนา ในวันศุกร์ที่ 23 มีนาคม 2561 เวลาสองทุ่มตรง บัตรราคา 2,500/ 4.500 และ 8,000 บาทเปิดจำหน่ายที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป