คือว่า ....ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองก่อน เราเป็นพนักงานออฟฟิศรายได้ปานกลาง อายุ 33 ปี ก่อนหน้านี้สักตอน 2 ปีที่แล้วมั่นใจกับผิวหน้าตัวเองมาก เพราะเป็นคนไม่ค่อยมีปัญหาผิวอะไร ปรกติไม่ได้ทำอะไรแต่คนก็มักจะชมว่าผิวสวย เลยไม่เคยได้กินอาหารเสริมหรือลงทุนกับครีมบำรุงผิวอะไรมากมาย แต่ตอนนี้พออายุมากขึ้น รู้สึกได้ว่าริ้วเริ่มมาแบบค่อย ๆ ปรากฏ หน้าไม่สดใสชุ่มชื้นเหมือนเมื่อก่อน แถมเห็นข่าวดาราคนนึงที่ไปแต่งงานมีลูกและใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก แล้วนักข่าวเอามาลงว่าผ่านไป 5 ปีหน้าตาเปลี่ยนไปมากจนแทบจำไม่ได้ เพราะหน้าและคอเหี่ยวลงมาก เราเลยเริ่มกลัว ๆ (ก็เลยปรึกษาเพื่อนบ้าง หาข้อมูลคร่าวๆ บ้าง และอ่านจากในพันทิปด้วย)
สิ่งแรกที่นึกถึงเลยคือคอลลาเจน เลยหาข้อมูลในเน็ตอ่านเยอะมากกกกกกก
วันนี้เราเลยอยากมาเขียนแบ่งปันความรู้ที่เรากำลังศึกษาอยู่ตอนนี้ก่อนจะลืมไปจากสมอง ตั้งแต่คอลลาเจนคืออะไร อ่านไปเรื่อยจนถึงจะทำยังไงถึงจะช่วยไม่ให้เหี่ยวแบบนั้น มีคนรีวิวคอลลาเจนเยอะมาก เยอะจนงง แต่มีจากบล็อกเกอร์คนหนึ่งที่เตะตาเตะใจเพราะแบรนด์ที่เค้ารีวิวเคลมว่าคอลลาเจนสกัดเย็นของเค้าดีกว่าคอลลาเจนอื่น ๆ 250 เท่า เลยหาข้อมูลดูจากเว็บต่างประเทศ เราเลยรู้ว่าคอลลาเจนเหมือนกัน แต่ใช้กรรมวิธีในการสกัดที่แตกต่างกัน และให้ผลต่างกันด้วย เลยเอามาเล่าให้ฟัง
คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วร่างกาย และเป็นองค์ประกอบประมาณ 35% ของโปรตีนทั้งหมดซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง โดยประสานกันเป็นเส้นใยอยู่ในผิวชั้นหนังแท้ ทำหน้าที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิว จึงช่วยให้ผิวเรียบตึง กระชับ เปล่งปลั่งสดใส นอกจากนี้ คอลลาเจนยังเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลักของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายด้วย เช่น กระดูก กระดูกอ่อน ฟัน หลอดเลือด เป็นต้น
คอลลาเจนแท้ (Native Soluble Collagen ) คือ คอลลาเจนที่มีโครงสร้างโมเลกุลครบ 3 สาย (Triple Helix) ต้องใช้กระบวนการผลิตแบบพิเศษ ที่ความเย็นที่อุณหภูมิประมาณ 4-8 องศาเซลเซียส เรียกว่า "การสกัดเย็น" (Cold Extraction) เพื่อรักษาโครงสร้างของคอลลาเจนไว้ให้ได้สมบูรณ์สูงสุด เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นเซลต่างๆ
วิธีการสกัดคอลลาเจนมี 2 แบบคือ
กรรมวิธีสกัดร้อน คือการใช้ความร้อนในการสกัด การย่อยด้วยเอนไซม์ทริปซินให้กรดอะมิโนแยก ออกเป็นเปปไทด์ในหน่วยเล็ก ๆ จะได้ Denatured Collagen ซึ่งคอลลาเจนที่ได้จากกรรมวิธีนี้จะทําหน้าที่ เป็นสารอาหารให้ร่างกายเป็นหลัก
กรรมวิธีสกัดเย็น คือการสกัดโดยใช้การปั่นควบคู่กับการใช้เอนไซม์หรือภาวะกรดอ่อน ที่ต้องควบคุม อุณหภูมิให้อยู่ในสภาพเย็น 4-8 องศาเซลเซียส เพื่อคงรูปโมเลกุลคอลลาเจน 3 สาย เมื่อสกัดออกมาแล้ว จะได้ Undenatured Collagen ที่ยังคงโมเลกุล 3 สายไปจนถึงลําไส้เล็ก ลําไส้เล็กนอกจากจะทําหน้าที่ใน การดูดซึมสารอาหารแล้ว ยังมีการสุ่มเลือกสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอีกด้วย คอลลาเจนสกัดเย็นจะทํา หน้าที่เป็นสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพมากกว่าเป็นเพียงสารอาหาร คอลลาเจนสกัดเย็นมีประสิทธิภาพดีกว่าคอลลาเจนสกัดร้อนอย่างไร
ความแตกต่างระหว่างคอลลาเจนสกัดร้อน และคอลลาเจนสกัดเย็น
การบริโภคคอลลาเจนสกัดร้อนจะสามารถส่งผลต่อผิวหนังได้ หากบริโภคประมาณ 10,000 mg ต่อวัน ในขณะที่การบริโภคคอลลาเจนสกัดเย็นเพียง 40 mg ต่อวันก็สามารถให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายและ กระตุ้นให้ Fibroblast Cell แบ่งตัวเพิ่มขึ้นและเสริมสร้างเส้นใยคอลลาเจนส่งผลให้ผิวหนังแข็งแรง แลดู สดใสเปล่งปลั่ง
หลังจากที่มีข้อมูลแล้วก็หาผลิตภัณฑ์ที่จะลอง คือเราเป็นคนไม่ค่อยเชื่อโฆษณาตามดาราเท่าไหร่ เพราะเห็นดาราแต่ละคนก็สวยกันอยู่แล้วก่อนจะมาทาหรือกินตัวนั้นตัวนี้ และเท่าที่อ่านที่ศึกษามา ค่อนข้างมั่นใจว่าคอลลาเจนสกัดเย็นนั้นดีกว่าแบบผง ๆ เลยตัดสินใจว่าจะกินตัวนี้ส่องดูตาม Google ค้นคำว่า “คอลลาเจนสกัดเย็น” ในไทยก็ขึ้นมาหลายยี่ห้อเหมือนกัน
เลยดสินใจเลือกกิน Giffarine เพราะว่ารู้จักแบรนด์และดูน่าเชื่อถือ แต่ปรากฏว่าพอจะสั่งซื้อ หาไม่ได้แล้ว เหมือนเค้าเลิกผลิตไปแล้วทั้ง ๆ ที่ขายดีมาก ในเว็บบอกว่าขายได้ 10 ล้านขวด แต่หาซื้อไม่ได้ งงมากนะ
เลยเลือกแบรนด์ต่อไปคือ SEA2SKIN เพราะเห็นขายใน 7-eleven เราเคยต้องติดต่องานกับ CPALL เมื่อหลายปีก่อน แล้วรู้ว่าของที่เข้าไปขายใน 7-eleven ได้ จะต้องมีการตรวจมาตรฐานโรงงานและสินค้า มีอ.ย. และมีคุณภาพ ตอนนี้เลยเลือกกิน SEA2SKIN แต่เหมือนไม่ได้มีทุกสาขาเพราะสาขาแถวบ้านไม่มี ต้องไปซื้อแถวที่ทำงานในเมือง เลยติดต่อไปทาง facebook ของแบรนด์ นี่กินได้ 12 วันแล้วรู้สึกผิวดีขึ้นอ่ะ รู้สึกดีใจที่ทำการศึกษาและเลือกกินของจากความรู้ที่มี เลยไม่เสียเงินเปล่า
คือไม่รู้อุปทานหรือเปล่า แต่กินแล้วหน้าไม่แห้งเลยทั้ง ๆ ที่ปรกติหน้าหนาวแบบนี้จะลอกเป็นขุยเลย ผิวตัวก็นุ่มลื่นขึ้น ตั้งใจว่าจะกินไปเรื่อย ๆ เพราะมันอร่อยดี จะกินไปจนกว่าจะเจอของอื่นที่ดีกว่าและราคาสมเหตุสมผล 555
ใครมีอาหารเสริมดี ๆ อะไรแนะนำได้นะ เรามือใหม่มากเลย เพิ่งจะเข้าวงการ ขอบคุณล่วงหน้านะคะทุกคน
(รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ตนะคะ)
ฝากความหวังไว้กับคอลลาเจนสกัดเย็น
สิ่งแรกที่นึกถึงเลยคือคอลลาเจน เลยหาข้อมูลในเน็ตอ่านเยอะมากกกกกกก
วันนี้เราเลยอยากมาเขียนแบ่งปันความรู้ที่เรากำลังศึกษาอยู่ตอนนี้ก่อนจะลืมไปจากสมอง ตั้งแต่คอลลาเจนคืออะไร อ่านไปเรื่อยจนถึงจะทำยังไงถึงจะช่วยไม่ให้เหี่ยวแบบนั้น มีคนรีวิวคอลลาเจนเยอะมาก เยอะจนงง แต่มีจากบล็อกเกอร์คนหนึ่งที่เตะตาเตะใจเพราะแบรนด์ที่เค้ารีวิวเคลมว่าคอลลาเจนสกัดเย็นของเค้าดีกว่าคอลลาเจนอื่น ๆ 250 เท่า เลยหาข้อมูลดูจากเว็บต่างประเทศ เราเลยรู้ว่าคอลลาเจนเหมือนกัน แต่ใช้กรรมวิธีในการสกัดที่แตกต่างกัน และให้ผลต่างกันด้วย เลยเอามาเล่าให้ฟัง
คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วร่างกาย และเป็นองค์ประกอบประมาณ 35% ของโปรตีนทั้งหมดซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง โดยประสานกันเป็นเส้นใยอยู่ในผิวชั้นหนังแท้ ทำหน้าที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิว จึงช่วยให้ผิวเรียบตึง กระชับ เปล่งปลั่งสดใส นอกจากนี้ คอลลาเจนยังเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลักของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายด้วย เช่น กระดูก กระดูกอ่อน ฟัน หลอดเลือด เป็นต้น
คอลลาเจนแท้ (Native Soluble Collagen ) คือ คอลลาเจนที่มีโครงสร้างโมเลกุลครบ 3 สาย (Triple Helix) ต้องใช้กระบวนการผลิตแบบพิเศษ ที่ความเย็นที่อุณหภูมิประมาณ 4-8 องศาเซลเซียส เรียกว่า "การสกัดเย็น" (Cold Extraction) เพื่อรักษาโครงสร้างของคอลลาเจนไว้ให้ได้สมบูรณ์สูงสุด เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นเซลต่างๆ
วิธีการสกัดคอลลาเจนมี 2 แบบคือ
กรรมวิธีสกัดร้อน คือการใช้ความร้อนในการสกัด การย่อยด้วยเอนไซม์ทริปซินให้กรดอะมิโนแยก ออกเป็นเปปไทด์ในหน่วยเล็ก ๆ จะได้ Denatured Collagen ซึ่งคอลลาเจนที่ได้จากกรรมวิธีนี้จะทําหน้าที่ เป็นสารอาหารให้ร่างกายเป็นหลัก
กรรมวิธีสกัดเย็น คือการสกัดโดยใช้การปั่นควบคู่กับการใช้เอนไซม์หรือภาวะกรดอ่อน ที่ต้องควบคุม อุณหภูมิให้อยู่ในสภาพเย็น 4-8 องศาเซลเซียส เพื่อคงรูปโมเลกุลคอลลาเจน 3 สาย เมื่อสกัดออกมาแล้ว จะได้ Undenatured Collagen ที่ยังคงโมเลกุล 3 สายไปจนถึงลําไส้เล็ก ลําไส้เล็กนอกจากจะทําหน้าที่ใน การดูดซึมสารอาหารแล้ว ยังมีการสุ่มเลือกสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอีกด้วย คอลลาเจนสกัดเย็นจะทํา หน้าที่เป็นสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพมากกว่าเป็นเพียงสารอาหาร คอลลาเจนสกัดเย็นมีประสิทธิภาพดีกว่าคอลลาเจนสกัดร้อนอย่างไร
ความแตกต่างระหว่างคอลลาเจนสกัดร้อน และคอลลาเจนสกัดเย็น
การบริโภคคอลลาเจนสกัดร้อนจะสามารถส่งผลต่อผิวหนังได้ หากบริโภคประมาณ 10,000 mg ต่อวัน ในขณะที่การบริโภคคอลลาเจนสกัดเย็นเพียง 40 mg ต่อวันก็สามารถให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายและ กระตุ้นให้ Fibroblast Cell แบ่งตัวเพิ่มขึ้นและเสริมสร้างเส้นใยคอลลาเจนส่งผลให้ผิวหนังแข็งแรง แลดู สดใสเปล่งปลั่ง
หลังจากที่มีข้อมูลแล้วก็หาผลิตภัณฑ์ที่จะลอง คือเราเป็นคนไม่ค่อยเชื่อโฆษณาตามดาราเท่าไหร่ เพราะเห็นดาราแต่ละคนก็สวยกันอยู่แล้วก่อนจะมาทาหรือกินตัวนั้นตัวนี้ และเท่าที่อ่านที่ศึกษามา ค่อนข้างมั่นใจว่าคอลลาเจนสกัดเย็นนั้นดีกว่าแบบผง ๆ เลยตัดสินใจว่าจะกินตัวนี้ส่องดูตาม Google ค้นคำว่า “คอลลาเจนสกัดเย็น” ในไทยก็ขึ้นมาหลายยี่ห้อเหมือนกัน
เลยดสินใจเลือกกิน Giffarine เพราะว่ารู้จักแบรนด์และดูน่าเชื่อถือ แต่ปรากฏว่าพอจะสั่งซื้อ หาไม่ได้แล้ว เหมือนเค้าเลิกผลิตไปแล้วทั้ง ๆ ที่ขายดีมาก ในเว็บบอกว่าขายได้ 10 ล้านขวด แต่หาซื้อไม่ได้ งงมากนะ
เลยเลือกแบรนด์ต่อไปคือ SEA2SKIN เพราะเห็นขายใน 7-eleven เราเคยต้องติดต่องานกับ CPALL เมื่อหลายปีก่อน แล้วรู้ว่าของที่เข้าไปขายใน 7-eleven ได้ จะต้องมีการตรวจมาตรฐานโรงงานและสินค้า มีอ.ย. และมีคุณภาพ ตอนนี้เลยเลือกกิน SEA2SKIN แต่เหมือนไม่ได้มีทุกสาขาเพราะสาขาแถวบ้านไม่มี ต้องไปซื้อแถวที่ทำงานในเมือง เลยติดต่อไปทาง facebook ของแบรนด์ นี่กินได้ 12 วันแล้วรู้สึกผิวดีขึ้นอ่ะ รู้สึกดีใจที่ทำการศึกษาและเลือกกินของจากความรู้ที่มี เลยไม่เสียเงินเปล่า
คือไม่รู้อุปทานหรือเปล่า แต่กินแล้วหน้าไม่แห้งเลยทั้ง ๆ ที่ปรกติหน้าหนาวแบบนี้จะลอกเป็นขุยเลย ผิวตัวก็นุ่มลื่นขึ้น ตั้งใจว่าจะกินไปเรื่อย ๆ เพราะมันอร่อยดี จะกินไปจนกว่าจะเจอของอื่นที่ดีกว่าและราคาสมเหตุสมผล 555
ใครมีอาหารเสริมดี ๆ อะไรแนะนำได้นะ เรามือใหม่มากเลย เพิ่งจะเข้าวงการ ขอบคุณล่วงหน้านะคะทุกคน
(รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ตนะคะ)