Once upon a time in Europe - เมื่อครั้งนึง...ผมเคยไปอกหักที่ยุโรป

ตำเตือน! กระทู้มีคำหยาบ และ นี่ไม่ใช่กระทู้นำเที่ยว

คงมีหลายคนที่อกหัก ... แล้วออกเดินทาง

แต่ถ้าเป็นการออกเดินทางแล้วอกหักล่ะ?


มันจะมันส์กว่าขนาดไหน?


การเดินทางของผมมันเริ่มจาก
ความฝันที่ว่า ...

" สักวันต้องพิชิต Milestone อย่างนึงของชีวิตให้ได้ นั่นคือ การไป Backpacking คนเดียว "


       สารภาพตามตรงคือ ผมไม่ได้เป็นพวกชอบเที่ยวมาตั้งแต่แรกหรอกครับ เอาจริงเป็นพวกติดเกมส์ ภาษาห่วยแตกมาก(ก.ไก่ยาวไป 1 ปีแสง) และ ไม่เคยคิดเลยว่าการออกไปเที่ยวมันดียังไง

       จนวันนึงมาถึง...
       ในสมัยมัธยมฯ ปลาย ที่เอาแต่เรียนวิชา ฟิสิกส์ เลข และ คอมพิวเตอร์ ไม่เคยสนใจวิชาภาษาต่างประเทศเลยแม้แต่น้อย
       
       ในวิชาภาษาอังกฤษที่โคตรจะน่าเบื่อ

" คนอย่างเธอมันก็ได้แค่นี้แหละ "


ประโยคนึงจากคุณครูภาษาอังกฤษที่เป็นเหมือนแรงขับให้ผมมาถึงทุกวันนี้
ผมรู้สึกขอบคุณที่คุณครูพูดคำนี้ออกมา ไม่งั้นคงเป็นพวกไม่เอาอ่าวต่อไป

จากวันนั้นก็คิดมาตลอดว่า...

"เดี๋ยวผมจะทำให้ครูดูว่าผมเป็นได้มากกว่านี้"

จากวันนั้นผ่านมาสามปีเต็ม

วันนี้ผมทำได้แล้วครับครู


_____

ความฝัน และ เยอรมัน


Herzlich Willkommen

ประเทศเยอรมันเป็นประเทศที่ผมอยากไปมากที่สุดในชีวิตครับ ตามประสานักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ ประเทศนี้เป็นเหมือนที่สุดในด้านวิศวกรรม

แบรนด์ดังระดับโลกทางด้านยานยนต์อย่าง Mercedes-Benz, Porsche, Audi, Volkswagen และ BMW กำเนิดขึ้นที่นี่
แบรนด์กล้องถ่ายภาพชื่อดังอย่าง Leica ก็กำเนิดขึ้นที่นี่เช่นกัน
แบรนด์ที่ทำตั้งแต่ เตารีดไอน้ำ จนถึง Gas Turbine ที่ใช้ในโรงไฟฟ้าอย่าง Siemens ก็กำเนิดขึ้นที่นี่

นักวิทยาศาสตร์ระดับโลกอย่าง

Albert Einstein เจ้าของ Theory of Relativity
Werner Heisenberg เจ้าพ่อทางด้าน Quantum mechanics ที่ได้รับ Nobel prize ในปี 1932
Max Planck เจ้าพ่ออีกรายด้าน Quantum mechanics ที่ได้รับ Nobel prize ในปี 1918
นักวิทยาศาสตร์ และ นักประดิษฐ์มากมายที่ได้เปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล ... มีถิ่นกำเนิดที่เมืองเบียร์แห่งนี้

แตะรันเวย์ ... ครั้งแรก

Frankfurt am Main

Frankfurt ในประเทศ Germany มีสองแห่งครับ Frankfurt และ Frankfurt am Main (Frankfurt on the Main) ชื่อนี้มีที่มาจากการที่ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำ Main (แม่น้ำไมน์) ที่นี่เป็นเพียงทางผ่านของผม..

769 ปี ... ที่ยังคงอยู่



Köln หรือ Cologne เมืองใหญ่ที่สุดในรัฐ North Rhine-Westphalia

เมื่อมาถึงที่นี่ อย่างแรกที่คุณจะเห็นนั่นคือ Kölner Dom หรือ Cologne Cathedral ที่เมื่อเดินออกมาจากสถานีรถไฟหลัก (Hauptbahnhof) ของเมือง
ก็จะเห็นโบสถ์แห่งนี้ตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำ Rhine เอาเข้าจริงคนบาปหนาอย่างผมไม่ได้ชอบโบสถ์หรือวัดมากนักหรอกครับ เข้าไปแล้วร้อนทุกที
แต่ความเทพของ Kölner Dom ไม่ใช่เพียงขนาดของมัน แต่เป็นระยะเวลาที่สร้างด้วยครับ เพราะโบสถ์ขนาดมหึมานี้ใช้เวลาสร้างกว่า 700 ปี! (ยิ้มนานสัส)


Köln Hauptbahnhof



Weihnachtsmärkte Köln


เสน่ห์อย่างหนึ่งของ Cologne คือ ริมแม่น้ำ Rhine ที่เป็นแม่น้ำสายหลักของประเทศเยอรมันครับ
Köln เป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์ และ Art Exhibition เยอะโคตรๆ ใครเป็นนักเดินทางสายเดินชมงานศิลปะไม่ควรพลาดครับ

Rhine und Kölner Dom  


_____


แม่ครับ ... ผมรู้แล้วว่าจะฝากชีวิตไว้ที่ไหน



Heidelberg


" I lost my heart in Heidelberg "


บทเพลงที่กล่าวขานความงดงามของเมืองแห่งนี้ไว้ได้อย่างไม่เว่อร์วังอลังการมากนัก ถ้าเป็นสถานที่ที่จะขึ้นไปชมความงดงามของ Heidelberg ได้อย่างจุใจที่สุดคงเป็น Philosophenweg (Philosopher's way) ครับ มันสวยงามขนาดที่มีเรื่องเล่าขานกันว่า

"นักวิทยาศาสตร์สมัยก่อน ถ้าคิดอะไรไม่ออก เมื่อเดินขึ้นมาที่ Philosophenweg แห่งนี้ จะถึงกับต้องมนต์และจะคิดออกทันที"

โคตรคูลอะ!
เอาล่ะครับสายเนิร์ดไม่รอช้า ผมขอท้าพิสูจน์ครับว่ามันจะจริงเหรอ!?
แค่เดินขึ้นภูเขาเนี่ยนะ



ห้าสิบเมตรแรกผ่านไป หกสิบเจ็ดสิบเมตรค่อยๆ ผ่านไป หลงผิดคิดภาคภูมิใจ ก่อนเดินมาถึงบนนี้...
เมื่อเดินมาถึง Philosophenweg หลังจากเดินผ่านทางที่มีตะไคร่ลื่นๆ ที่ต้องระมัดระวังทุกการย่ำเท้าลงไปว่าจะล้มหัวทิ่มรึเปล่า..

ผมเข้าใจแล้วครับ ว่านักวิทยาศาสตร์ในสมัยก่อนคิดอะไรออก และ แก้ไขปัญหาทางวิทยาศาสตร์ยากๆ ได้อย่างไร
" ยิ้ม ไม่น่าเดินขึ้นมาเลย น่องแทบแตก นั่งคิดงานอยู่ข้างล่างก็ดีอยู่แล้ว!! "




Philosophenweg ไม่ใช่สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดครับ
สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดคือ

Student Karzer หรือ คุกนักศึกษา มีเรื่องเล่าอยู่ว่า ใครที่ทำผิดกฏบ่อยๆ จะถูกส่งเข้าคุกแห่งนี้ โดยการกักบริเวร และ มีเบียร์ เหล้า ให้ดื่มฟรี ที่นอนให้อยู่ฟรี (ชาตินี้ไม่ขอทำดีอีกแล้ว) โดยนักศึกษาพวกนี้จะมีการท้ากันว่า ใครสามารถวาดภาพบนผนังแล้วยามจับไม่ได้ ผู้นั้นจะโคตรเจ๋ง

คุกแบบนี้พี่ขออยู่ตลอดชีวิต..



อีกความประทับใจ..
ผมชอบการแก้ปัญหาเรื่องร้านเหล้าใกล้มหาวิทยาลัยของประเทศเยอรมันมากครับ
การแก้ปัญหาของเขานั้นง่ายมากครับ ก็แค่ย้ายร้านเหล้าไปไว้ในมหาวิทยาลัยซะเลย...

เมือง Heidelberg ถือเป็นเมืองแห่งการศึกษาครับ เพราะคณะต่างๆ ของมหาวิทยาลัยจะแทรกอยู่ตามตึกต่างๆ ทั่วเมือง อย่างบางอาคารที่ดูเหมือนจะเป็นโบราณสถาน แต่กลับเป็นห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ซึ่งทำให้รู้สึกว่าการศึกษานั้นไม่ได้อยู่ห่างไกลตัว และ ไม่ได้อยู่กระจุกเพียงสถานที่เดียว

โคตรคูล!
_____


บุกไปเยือน ... เสือใต้
München, Munich


Marienplatz



Bayern München



Englischer Garten



Isartor



München Residenz


ความน่าจดจำของ München ถ้าไม่นับ Marienplatz, Englischer Garten (English Garden), Oktoberfest, Allianz Arena, BMW Museum, Residenz München หรือ โรงเบียร์ชื่อดังอย่าง Hofbrauhaus ก็คงเป็น ระบบการขนส่งของประเทศเยอรมัน นี่ล่ะครับ

ICE Bahn


ระบบรถรางในเยอรมันเหมือนหวยนั่นล่ะครับ มีทั้งบนดินและใต้ดิน ตึ่งโป๊ะ!
ผมจะเล่าคร่าวๆ คือ เยอรมันมีพี่ใหญ่อย่าง Deutsche Bahn (DB) ที่ควบคุมระบบรางทั้งหมดในเยอรมัน ระบบรางในเยอรมันมีทั้งบนดิน แบ่งเป็น

Regional and Intercity trains อย่าง Regional Express, Regional Bahn และ S-Bahn
Domestic High-speed train ครับ และ ใต้ดินอย่าง U-Bahn
ซึ่งทั้งหมดนี้ต่างกันในเรื่องของความเร็ว และ อาณาเขตที่ให้บริการ

ความเป็นระบบก็ส่วนนึงครับที่ประทับใจ แต่อีกส่วนคือ

ไม่ทราบว่าคุณเคยสังเกตไหมครับ? อย่างประเทศไทยเนี่ย เวลาจะใช้บริการระบบบรถราง
เราต้องแลกเหรียญสิบ เหรียญห้า เหรียญบาทมาเป็นกำมือเพื่อกดตั๋วเอาไว้เดินผ่าน Gate

แต่!!

ในเยอรมันไม่มี Gate ครับ
นั่นแปลว่า คุณจะไม่ซื้อตั๋วเพื่อใช้บริการรถรางก็ย่อมได้ แต่ถ้าเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบของ Deutsche Bahn จับได้ คุณต้องเสียค่าปรับ 60 ยูโร ถ้าดวงดีก็ไม่โดนจับได้ ถ้าดวงซวยก็เตรียมถังแตกได้เลย ผมว่ามันเป็นการวัดความรับผิดชอบ ความซื่อสัตย์ของคนในประเทศได้เลยนะ

ข้อดีอีกข้อคือ
ไม่ต้องเข้าแถวหยอดเหรียญครับ สามารถซื้อผ่านแอพพลิเคชั่น และ จ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิต แล้วเก็บ e-ticket เอาไว้
_____


อาหารไทย ... ในเมืองเบียร์

Karlsruhe


Karlsruhe เป็นเมืองที่เพื่อนสมัยเข้าค่ายโอลิมปิกฯ มาเรียนต่อครับ และ มีโอกาสได้พบเพื่อนชาวเยอรมันอีกคน ซึ่งเป็นคนสอนคำหยาบให้ผมเป็นคนแรก Welcome to the dark side! รู้สึกว่าจำได้แม่นกว่าคำศัพท์ในการสอบวัดระดับภาษาเยอรมันอีกครับ...

เอาเข้าจริง อาหารแทบทุกอย่างในเยอรมันเหมือนตั้งใจทำเกลือหกใส่จริงๆ ยิ้มเค็มมาก อย่างเช่น ไส้กรอก (Würstchen)
จนเมื่อวันนึงมาถึง ... ผมได้ทานอาหารไทยแล้วครับ!!

และนั่นทำให้ได้รู้ว่า
อาหารไทยอย่าง ส้มตำปูปลาร้า, เนื้อย่าง, ลาบก้อย หรืออย่างเช่น ก๋วยจั๊บเยาวราช นี่คือ Holy Grail แห่งวงการอาหารที่แท้จริงครับ
_____


นอนตายเพราะปวดขาที่ Stuttgart ...
อย่างที่จั่วหัวไว้ครับ ผมแทบไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับ Stuttgart เลย นอกจากไปเดินที่ Königsstraße แล้วกลับมาที่พักแบบปวดขาสุดๆ และ ไม่ได้ไปไหนต่ออีกเลย

ถ้าคิดในแง่ดี ผมอาจจะได้มาที่นี่อีกครั้งก็ได้ครับ
อาเมน...

เอาล่ะ ที่ต่อไป อะไรดีนะ มาต่อกันอีกที่ Slovakia กันครับ!

_____

Follow me : https://www.facebook.com/xlatitude/
Instagram : https://www.instagram.com/tonn.v
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่